คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 113 ตอนที่ 114 เทพอัสนีอยู่ไหน ฟาดนางเสีย!

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 113 นางต้องทรยศอาจารย์ออกจากสำนักแล้ว / ตอนที่ 114 เทพอัสนีอยู่ไหน ฟาดนางเสีย!

Ink Stone_Romance

ตอนที่ 113 นางต้องทรยศอาจารย์ออกจากสำนักแล้ว

ตอนที่นางกลับมาถึงอารามชิงผิงก็เป็นวันที่สิบสี่ของเดือนแปดแล้ว ใบไม้บนเขาที่ตั้งอารามชิงผิงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีสันหลากหลายงดงามยิ่งนัก

ฉินหลิวซีลงจากรถม้า ยิ้มให้หั่วหลางพลางเอ่ย “ต้องขอบคุณพวกท่านที่คอยคุ้มกันมาตลอดทางนี้ พวกท่านยังต้องเหน็ดเหนื่อยเดินทางกลับไปให้ทันเทศกาลอีก”

ฉินหลิวซีเอ่ย “จริงสิ สหายของท่านที่ชื่อหู่จื่อ ให้เขารีบขี่ม้าเร็วกลับบ้าน คาดว่าจะได้พบหน้าบิดาอีกสักครั้ง”

หั่วหลางตกตะลึง

นี่ นี่มันหมายความว่าบิดาของหู่จื่อจะตายอย่างนั้นหรือ

หั่วหลางประสานมือ “ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าน้อยพึงกระทำ ปรมาจารย์ไม่ต้องเก็บไปคิด อีกอย่างระหว่างทางนี้ก็ไม่มีอันใดผิดปกติ งานของข้าก็ถือว่าราบรื่นเรียบร้อยมากแล้ว”

“ปรมาจารย์ พอจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า…”

ขณะที่เขาพูดก็ถูไม้ถูมือไปพลางเหมือนอยากจะเอ่ยอะไรแต่ก็ลังเล

ฉินหลิวซีส่ายหน้า “ดับสิ้นตามอายุขัย ไปเถิด”

ฉินหลิวซีเห็นท่าทางเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาทันที นางหยิบกล่องเล็กยาวใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้วส่งให้เขา “ระหว่างทางนี้ ข้าเตรียมของขวัญเอาไว้ชิ้นหนึ่งสำหรับพระชายาผู้เฒ่า เป็นปิ่นไม้ที่ทำจากไม้ฟ้าผ่า ขอให้ท่านช่วยนำส่งให้พระชายาผู้เฒ่าด้วย บอกว่าเป็นของขวัญตอบแทนจากข้า”

หั่วหลางในยามนี้ก็ไม่อยากเอ่ยอะไรมากอีก เขาคารวะแล้วรีบเร่งจากไป ต้องให้หู่จื่อเร่งม้าเร็วกลับบ้าน

ฉินหลิวซีเห็นว่าพวกเขาจากไปแล้วก็เข้าไปในอาราม ตรงไปที่เรือนของชื่อหยวนทันที นางมีลางสังหรณ์ไม่ดีนัก

ในเรือนของนักพรตชรามีเพียงนักพรตน้อยที่กำลังสับประหงกง่วงงุนอยู่คนหนึ่ง ฉินหลิวซีกระแอมไป เด็กน้อยจึงตกใจตื่น เมื่อเห็นนางเขาก็รีบเด้งตัวขึ้นมาทันที “อาจารย์อากลับมาแล้วหรือ”

ไม้ฟ้าผ่าล้ำค่ามาก ตอนนั้นหั่วหลางติดตามฉินหลิวซีไปนำมันลงมา ย่อมรู้ว่ามันมีความวิเศษเช่นไร เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาจึงใช้สองมือรับมาด้วยท่าทางเคารพนบนอบทันที แล้วเก็บในอกเสื้อ ก่อนจะคารวะอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง “ข้าน้อยขอบคุณแทนพระชายาผู้เฒ่าและนายท่านด้วยนะขอรับ”

“นักพรตเฒ่าเล่า”

ฉินหลิวซีหยิบยันต์คุ้มครองจำนวนหนึ่งออกมาส่งให้ “ข้าเป็นนักพรต ไม่สามารถที่จะตอบแทนด้วยเงินได้ ลำบากพวกท่านมาส่งครั้งนี้ จึงขอมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เป็นการตอบแทน ไปแบ่งกับพวกพี่น้องของท่านเถิด”

นักพรตน้อยเอ่ย “อาจารย์ปู่บอกว่า หากอาจารย์อากลับมาให้บอกว่า ท่านออกไปกอบกู้โลกมนุษย์แล้ว”

เปลือกตาของฉินหลิวซีกระตุกทันที “…”

ทั้งหมดห้าชิ้น แม้แต่คนขับรถม้าก็ได้ด้วย หนึ่งคนหนึ่งชิ้น

เวลานั้นนักพรตคนหนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเขาเห็นฉินหลิวซีก็ยิ้มออกมาเช่นกัน “ศิษย์พี่กลับมาแล้ว เจ้าอาวาสวัดตอบรับคำเชิญของเจ้าอาวาสอารามชิงหลานไปถกธรรมกันแล้วขอรับ”

หั่วหลางตื่นเต้นมากจนทำตัวไม่ถูก เขารับมาแล้วคารวะขอบคุณด้วยท่าทางจริงจัง “ปรมาจารย์ปู้ฉิว ที่บ้านของข้ายังมีบิดามารดา ไม่ทราบว่าจะขอเพิ่มอีกสักสองชิ้นได้หรือไม่ ข้ายินดีจ่าย”

“ไม่ใช่ว่ามีวิญญาณชั่วร้ายปรากฏตัวในอำเภอชิงหรือ” ฉินหลิวซีเอ่ยถูกเผงในประโยคเดียว

เขาถอดถุงเงินออก แล้วหยิบตั๋วเงินและเศษเงินออกมาจำนวนหนึ่ง

นักพรตที่มีอายุมากกว่านางทำได้เพียงยิ้มอย่างจนใจ “ไม่ว่าเรื่องไหนก็ปิดบังท่านไม่ได้จริงๆ เจ้าอาวาสบอกว่าจะไปตรวจสอบที่อำเภอชิงดูสักหน่อย ไม่กี่วันก็จะกลับ ให้ศิษย์พี่มาดูแลที่นี่เป็นครั้งคราว”

ฉินหลิวซีรับไปแค่สองตำลึงเงินเท่านั้น แล้วจึงส่งยันต์คุ้มครองให้เขาอีกสองชิ้น “พอแล้วล่ะ”

“เขาก็แค่แอบออกไปตอนที่ข้าไม่อยู่น่ะสิ สุขภาพร่างกายนั่น…เฮอะ!” ฉินหลิวซีหน้างอง้ำไม่พอใจ “เรื่องในอารามให้เจ้าชิงหย่วนดูแล หากมีเรื่องใดให้ส่งคนไปตามข้าในเมือง”

“ขอบคุณขอรับๆ”

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่ เจ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าคนตระกูลฉินมาอยู่ที่นี่แล้ว ข้าไม่สามารถมาที่อารามบ่อยๆ ได้”

“เอาเถิด” ชิงหย่วนแจ้งข่าวอีกเรื่องที่ทำให้ฉินหลิวซีโกรธจนแทบระเบิด “คือว่า เจ้าอาวาสเอายันต์คุ้มครองยันต์คุ้มกายต่างๆ ในอารามไปหมดแล้ว แล้วก็เอาเงินที่มีอยู่ในอารามไปหมดด้วย แม้แต่เงินทำบุญในช่วงนี้ก็ไม่เว้น ใกล้จะหมดฤดูใบไม้ร่วงเข้าหน้าหนาวแล้ว อาหารก็เหลือไม่มาก…”

ฉินหลิวซีโกรธจนหน้ามืด “!”

ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

ไม่มีทางอยู่ต่อไปได้แล้ว ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทรยศอาจารย์ออกจากสำนักแล้ว!

ตอนที่ 114 เทพอัสนีอยู่ไหน ฟาดนางเสีย!

เมื่อคำนึงถึงความจริงที่ว่าวิธีการหลอกลวงลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ขาดความรับผิดชอบและไร้ยางอายนั้นโหดร้ายเกินไปจริงๆ ฉินหลิวซีจำต้องวาดยันต์คุ้มครองคุ้มกายต่างๆ นานาจำนวนมาก เพื่อให้อารามได้เก็บไว้ใช้

นอกจากนั้น คราวนี้นางยังเอาเงินค่ารักษาหมื่นตำลึงเงินที่ได้มาให้ไว้ถึงสองในสามส่วน

หากเป็นไปตามที่เคยปฏิบัติมา นางให้ครึ่งหนึ่งก็ได้แล้ว แต่ชิงหย่วนชี้ไปที่สีผนังและสัตว์คุ้มกันที่หลุดลอกของโถงด้านข้างพลางบ่นเบาๆ

“ข้าได้ยินคนที่มาทำบุญที่อารามเอ่ยว่า อารามชิงหลานได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งภายในและภายนอก ดูยิ่งใหญ่มาก พวกเขายังบอกด้วยว่าอารามชิงผิงของเราดูโทรมมาก เทียบกันไม่ได้เลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะชุบทองให้อาจารย์ปู่เหลืองอร่ามไปทั้งตัว ดูมีบารมาก เฮ้อ ก็ใช่ เขาของสัตว์คุ้มกันถูกฟ้าผ่าไม่ได้ซ่อมนานแล้ว สีนี่ก็เหมือนกัน…”

“ไม่ต้องพูดแล้ว!” ดวงตาของฉินหลิวซีเต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางกัดฟันหยิบเงินอีกสองพันตำลึงออกมา “ซ่อม คนอื่นมีได้ พวกเราอารามชิงผิงก็ต้องมีเหมือนกัน”

ชิงหย่วนยื่นมือออกมาในขณะที่รู้สึกละอายใจ “ไม่ดีหรอกกระมัง นานๆ ทีกว่าท่านจะออกไปรักษาคนสักครั้ง ความจริงแล้วหากเจ้าอาวาสไม่เอาเงินทำบุญไปหมด ท่านก็ไม่ต้องเอาเงินมาช่วยโปะอย่างนี้”

ปลิ้นปล้อนเสียจริง!

ฉินหลิวซีบีบตั๋วเงินอย่างอาลัยอาวรณ์ ตอนที่ชิงหย่วนเกือบจะดึงมันขาด นางก็ปล่อยมือในที่สุด เมื่อเห็นมันหล่นลงในแขนเสื้อของชิงหย่วน นางก็หลับตาลงทันที

เงินที่นางหามา!

ชิงหย่วนได้เงินไปแล้วก็ประสานมือคำนับ “เช่นนั้นศิษย์น้องไม่รบกวนศิษย์พี่ฝึกตนแล้ว ข้าจะไปจัดการหาคนมาซ่อมและตุนสิ่งของไว้สำหรับหน้าหนาว จริงสิ เจ้าอาวาสให้เตือนท่านว่าอย่าลืมไปจุดธูปไหว้อาจารย์ปู่ด้วย”

เมื่อเขาเห็นว่าสีหน้าของฉินหลิวซีเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ ชิงหย่วนก็ไม่หาเรื่องใส่ตัวแล้วหนีไปอย่างรวดเร็ว

ฉินหลิวซีไปที่โถงใหญ่ด้วยท่าทางสิ้นหวัง นางหยิบธูปมาจุด ยกมือขึ้นแนบหน้าอกและทำความเคารพสามครั้ง ถือธูปไว้ในมือขวา มือซ่ายปักธูปก้านหนึ่งลงไปตรงกลางก่อน ปากก็พึมพำอะไรบางอย่าง

มีนักพรตน้อยยกแตงและผลไม้เข้ามา เมื่อเห็นท่าทางของนางเช่นนั้น เขาก็คิดว่านางกำลังอธิษฐาน แต่พอเข้าใกล้ เขาจึงได้รู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกันเลย

“…เอาเงินหมุนเวียนในอารามไปก็ช่างเถิด แม้แต่เงินทำบุญก็ไม่เว้น ตอนที่นักพรตเฒ่ายื่นมือออกไป อาจารย์ปู่ท่านไม่อยู่บ้านหรือ หรือว่าท่านไปดื่มกับเซียนหญิงองค์ไหน ไม่เช่นนั้นก็ฟาดนักพรตเฒ่าไร้มโนธรรมคนนี้ไปเสียเถิด แล้วให้ข้าเป็นเจ้าอาวาสแทน”

นักกพรตน้อยมือสั่นเล็กน้อยทันที นี่เขาได้ยินอะไรเข้าน่ะ เขาจะไม่ถูกอาจารย์อาฆ่าปิดปากใช่หรือไม่

ฉินหลิวซีเห็นเขายกแตงและผลไม้เข้ามาก็ยื่นมือไปหยิบผลแอปเปิลมาลูกหนึ่งแล้วกัดไปหนึ่งคำ

นักพรตน้อยแทบจะคุกเข่าลงไปแล้ว

คนอื่นต่างก็พูดกันว่าอาจารย์อาปู้ฉิวดื้อรั้นและไร้วินัย แต่นึกไม่ถึงว่านางจะกล้าแย่งเครื่องบูชาของอาจารย์ปู่ด้วย

อาจารย์ปู่ : เทพอัสนีอยู่ไหน ฟาดนางเสีย!

ฉินหลิวซีเงยหน้า เมื่อเห็นว่าคิ้วของอาจารย์ปู่ยิ่งตรงกว่าเดิม นางก็ยิ้ม “ไม่ต้องกังวล อารามชิงหลานมี ท่านก็ต้องมีด้วย ไม่นานข้าจะหาคนมาชุบร่างของท่านใหม่ เราจะทำให้ดีที่สุด”

คิ้วที่ขมวดของอาจารย์ปู่คลายลง ดูเหมือนจะพอใจ : ช่างเถิด ศิษย์ทรยศของตัวเอง ชินเสียแล้ว

เวลานั้น ณ อารามชิงหลาน

นักพรตเฒ่าชื่อหยวนที่ตอนนี้พักอยู่ในเรือนพักแรมของอารามชิงหลานจามออกมาสองครั้ง “ลูกศิษย์ของข้าต้องกำลังด่าข้าแน่ๆ”

เจ้าอาวาสอารามชิงหลานเอ่ยอย่างหมดคำพูด “ท่านเองก็ไม่น่าจะเอาเงินในอารามมาหมดนี่”

“ท่านไม่รู้อันใด นางเกียจคร้านมาก หากไม่เอามาให้หมด นางก็จะอยู่เฉยๆ ไม่ทำสิ่งใดด้วยอาศัยว่ายังมีเสบียงอยู่ในมือ ท่านเองก็รู้ ดวงชะตาของนาง…” นักพรตชื่อหยวนถอนหายใจ “ทำบุญกุศลเท่าไรก็ไม่พอราวกับหลุมที่ไร้ก้นกระนั้น”

เจ้าอาวาสอารามชิงหลานเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “หลายปีมานี้ท่านก็ได้ทำบุญกุศลในชื่อของนางก็ถือว่าช่วยนางบำเพ็ญไม่น้อยแล้ว”

“ก็ยังไม่พอ หากวันนั้นมาถึง แล้ว…” ชื่อหยวนหยุดไปเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “ช่างเถิด ไม่เอ่ยเรื่องนี้แล้ว เราไปดูศพแห้งที่อำเภอชิงกันดีหรือไม่”

“อืม”

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท