คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 148 ปู้ฉิวบอกว่า ‘เชื่อข้า’

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 148 ปู้ฉิวบอกว่า ‘เชื่อข้า’

Ink Stone_Romance

ฉินหลิวซีบอกว่ารักษาได้ แม้ว่าลุงเฉียนและคนอื่นๆ จะตื่นเต้น แต่หลังจากสงบลงแล้วก็ยังถามอย่างละเอียดว่าจะรักษาอย่างไร ต้องใช้ยาชนิดใดบ้าง ต้องตรวจดูอาการก่อนหรือไม่

เมื่อชิงหย่วนเห็นว่าฉินหลิวซีรับคนไข้แล้ว เขาจึงไปจุดธูปบอกกล่าวกับเจ้าลัทธิเต๋าด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ที่เหลือก็แค่รอ รูปปั้นทองคำจะถูกสร้างขึ้นในไม่ช้าแล้ว

ฉินหลิวซีใช้เรือนรับรองแขกเป็นห้องรักษา ไม่ให้ฉีเชียนและคนอื่นๆ อยู่รบกวน เหลือไว้เพียงคนปรนนิบัติรับใช้อย่างลุงเฉียนกับซื่อฟัง

นางหยิบหมอนรองใบเล็กขึ้นมา ให้อวี้ฉังคงยื่นมือมาแล้วเริ่มจับชีพจร หลังจากนั้นไม่นานก็ส่ายหน้า “ตับและถุงน้ำดีนั้นถูกธาตุไฟเข้าแทรกอย่างรุนแรง ส่วนหยินของตับและไตก็บกพร่อง”

อวี้ฉังคง “!”

ฉินหลิวซีให้เขาเปลี่ยนข้าง จับชีพจรแล้วเอ่ยว่า “ม้ามและกระเพาะค่อนข้างเย็น คุณชายฉังคง ท่านไม่รักตัวเองเอาเสียเลย เอาแต่ใจเสียจริง”

ลุงเฉียนรีบถาม “ท่านอาจารย์ ท่านเอ่ยเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรหรือขอรับ”

“เขาไม่ได้นอนเต็มอิ่มมานานเท่าไหร่แล้ว ตับร้อนเป็นไฟ หมอที่ตรวจดูอาการไม่ได้เขียนใบสั่งยารักษาให้ท่านหรือ ตับเป็นไฟไม่พอ แม้แต่อาหารการกินก็ไม่ตรงเวลา ปริมาณไม่เพียงพอ ไม่สมดุล ดูสีหน้าดี ร่างกายภายนอกแข็งแรง แต่ภายในอ่อนแอ”

เอ่ยอีกนัยหนึ่งก็คือข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพลง

ด้วยร่างกายเช่นนี้บวกกับอาการนอนไม่หลับเรื้อรังของเขา ที่นางบอกว่าเขาจะตายไม่ช้าก็เร็วนั้นไม่ผิดเลย

อวี้ฉังคงแทบจะอดกลั้นไม่ไหว มือของเขากำหมัดแน่น

ซื่อฟังจึงอธิบายว่า “ตั้งแต่เป็นโรคตามาและไม่ได้รักษาเป็นเวลานาน คุณชายจึงไม่ค่อยอยากอาหาร การนอนก็ไม่ค่อยดีนักขอรับ”

เมื่อบอกว่าไม่ทานก็คือไม่ทาน โดยเฉพาะช่วงสองปีแรก ผอมจนเหมือนกิ่งไม้ไผ่

บ่าวรับใช้อย่างพวกเขาทั้งเป็นกังวล แต่ก็ไม่กล้าบังคับเขา

“โรคตาของท่านเดิมมีสาเหตุมาจากผลกระทบทางอารมณ์ คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการตายของท่านพ่อและท่านแม่ของท่าน ความโกรธ ความเศร้า ความกลัว อารมณ์ทั้งเจ็ดประการพุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดแรงกดดันต่อดวงตาสูง เส้นเลือดอุดตันไม่ไหลเวียน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มองไม่ชัด แล้วท่านยังทรมานร่างกายเช่นนี้อีก น่าเวทนานัก”

ทุกคนตกใจในทันที สิ่งนี้ สิ่งนี้ก็สามารถมองเห็นได้จากการจับชีพจรด้วยหรือ

อวี้ฉังคงสีหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไร

“อา อาจารย์ นี่มัน…” ซื่อฟังเหลือบมองคุณชายของเขาด้วยท่าทางหวาดกลัว อย่าได้พูดถึงเรื่องนั้นโดยเด็ดขาด

“คุณชาย บ่าวล่วงเกินท่านแล้ว” ลุงเฉียนกัดฟัน มองไปทางฉินหลิวซีแล้วเอ่ยว่า “อาจารย์เอ่ยมาไม่ผิด นายท่านกับฮูหยินของพวกเราถูกฆ่าตายตอนคุณชายอายุได้สิบปี คุณชายเห็นกับตาตัวเองจนเป็นลมหมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็เป็นโรคตานี้แล้วขอรับ”

อวี้ฉังคงหลับตา เม้มริมฝีปากบางจนเป็นเส้นตรง ราวกับว่าเขากลับไปอยู่ในค่ำคืนนั้น เสียงร้องอย่างทรมานทะลุแก้วหู เลือดสาดกระเซ็นเข้าดวงตา พื้นเต็มไปด้วยสีแดง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โลกของเขาก็กลายเป็นเลือดสีดำ ไม่มีแสงสว่างอีกต่อไป

“ในตอนแรก ความจริงแล้วเพียงแค่ท่านปรับอารมณ์ให้สงบลง แล้วเสริมด้วยการฝังเข็มและทานยาก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ถึงขั้นต้องตาบอดมาเป็นสิบปี และไม่ต้องปล่อยให้ร่างกายดีๆ ต้องกลายเป็นเช่นนี้” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อว่า “แต่ว่าตอนนั้นท่านยังเด็ก และยังสูญเสียท่านพ่อกับท่านแม่ไป หากจะโศกเศร้าจนควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”

“เจ้าบอกว่าโรคตาของข้าสามารถรักษาให้หายได้ตั้งแต่แรกอย่างนั้นหรือ” เสียงของอวี้ฉังคงเย็นชาและแผ่วเบา

ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “ใช่แล้ว โรคต้อหินที่เกิดจากผลกระทบของอารมณ์ทั้งเจ็ด สามารถรักษาให้หายได้อย่างรวดเร็วด้วยการฝังเข็ม ทานยาและการนวด แต่อันดับแรกคือท่านเองก็ต้องให้ความร่วมมือ อย่างเช่นหากก้นบึ้งหัวใจของท่านไม่ต้องการเห็นโลกใบนี้อีกต่อไป ไม่ต้องการเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น เช่นนั้นก็ไม่มียาวิเศษใดช่วยรักษาได้”

อวี้ฉังคงตกตะลึง

ฉินหลิวซีเข้าใจชีพจรของเขาแล้ว จึงดึงมือกลับคืนมาแล้วล้างมือให้สะอาด ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับมาหาพลางยื่นมือออกไปหาเขาด้วย

อวี้ฉังคงเอนตัวไปข้างหลังตามประสาทสัมผัสของเขา ค่อนข้างตื่นตัวและระมัดระวัง

“ไม่ต้องตกใจ ข้าแค่จะตรวจดูตาของท่านเท่านั้น”

อวี้ฉังคงจึงได้นั่งตัวตรง รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้แล้วโน้มตัวลงมา ดูเหมือนว่าลมหายใจก็ใกล้เข้ามามากขึ้น กลิ่นของยาลอยเข้ามา แล้วยังมีกลิ่นหอมจางๆ แฝงอยู่ในกลิ่นของยาด้วย

อวี้ฉังคงตกใจเล็กน้อย เป็นไปได้อย่างไร

มืออันอบอุ่นคู่หนึ่งแตะลงบนเปลือกตาของเขา อวี้ฉังคงตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว

เขารู้สึกว่าเปลือกตาของเขาถูกเปิด ลมหายใจของอีกฝ่ายใกล้เข้ามามากขึ้น

“รูม่านตาขยาย ลูกตาแข็งและบวม ลืมตาไว้ไม่หลับไม่นอนจริงๆ ด้วย” ฉินหลิวซีปล่อยมือ “เดิมทีดวงตาก็ไม่ดีอยู่แล้ว ท่านยังไม่ให้มันพักผ่อนอีก ตายังบอดไม่พอหรืออย่างไร”

ลุงเฉียนกับซื่อฟังเหงื่อออกเต็มหน้าผาก อดพูดแทรกขึ้นมาไม่ได้ “อาจารย์ คุณชายนอนไม่หลับ แล้วก็นอนไม่นาน มักจะ…”

“ลุงเฉียน” อวี้ฉังคงไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอต่อหน้าผู้อื่น

“ข้าดูออก มีอาการนอนไม่หลับอย่างรุนแรง หลับยาก เมื่อหลับก็จะติดอยู่กับฝันร้าย” ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบว่า “แต่คนเราก็ต้องนอนหลับ ต่อให้เป็นคนแกร่งเหมือนเหล็กแค่ไหนก็ทนไม่ได้หากอดนอน น่าแปลกจริง พวกท่านแต่ละคนก็นอนไม่หลับกันทั้งนั้น”

พระชายาผู้เฒ่าคนหนึ่ง และก็มีเขาอีกคนหนึ่ง

อวี้ฉังคงถามว่า “ท่านอาจารย์ไม่เคยติดอยู่ในฝันร้ายหรือ”

“ฝันร้ายเกิดจากเรื่องร้ายตามมาเข้าฝัน ข้าเป็นถึงนักพรตเต๋า หากมันกล้ามาข้าก็ยอมรับในความเก่งกาจ!”

ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

อวี้ฉังคง “…”

ฝันร้าย ‘ข้าเป็นฝันร้ายที่ไม่เอาไหน พอใจหรือยัง’

ฉินหลิวซีเอ่ยเสริมว่า “โรคตาของท่านข้าจะรักษาด้วยการฝังเข็มและนวดทุกวัน จากนั้นเสริมด้วยยาลดความดันในลูกตา ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน”

“นานแค่ไหนหรือขอรับ” ลุงเฉียนเอ่ยถามทันที

“ต้องดูว่าการฟื้นตัวของเขาเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่เกินสิบวัน”

“แค่สิบวันหรือขอรับ” ลุงเฉียนอุทานด้วยความตกใจ นี่เป็นการโกหกแบบซึ่งๆ หน้า หรือว่าเขามีความสามารถจริงๆ

“หากคุณชายฉังคงให้ความร่วมมือ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงสิบวัน” ฉินหลิวซีเอ่ยเสริมว่า “ดังนั้นก่อนอื่นคุณชายฉังคงต้องให้ดวงตาของท่านได้พักผ่อน รวมถึงอวัยวะภายในทั้งห้าของท่านก็ต้องได้รับการล้างพิษ ดังนั้นข้าจะฝังเข็มและนวดตามจุดให้ท่าน ท่านหลับสักงีบดีหรือไม่”

อวี้ฉังคงเอ่ย “ท่านบอกว่าข้าหลับยากไม่ใช่หรือ”

“สำหรับข้าแล้วไม่มีปัญหาเช่นนี้แน่นอน นอนลงเถิด”

อวี้ฉังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า ซื่อฟังรีบพยุงคุณชายของเขานอนหงายบนเตียงไม้ในเรือนรับรองแขกทันที เมื่อหันกลับมาก็เห็นฉินหลิวซีเดินมาพร้อมกับเข็มเงิน

“คุณชายฉังคง ข้าจะฝังเข็มตามจุดให้ท่าน”

“ตกลง” อวี้ฉังคงหลับตา

ฉินหลิวซีเอื้อมมือไปนวดบนจุดฝังเข็มที่จุดเฟิงฉือบริเวณใต้ฐานกะโหลกศีรษะ จากนั้นก็ฝังเข็มในแนวทแยงมุมองศาปลายจมูก เมื่อเห็นอีกฝ่ายตัวสั่นจึงเอ่ยว่า “ไม่ต้องกลัว”

ขณะที่เอ่ยก็ฝังเข็มเข้าไปในจุดฝังเข็มหลายแห่งรวมถึงจุดเน่ยเจียว จุดเสินเหมิน จุดซีเหมิน และจุดซานหยินเจียวทั้งสองด้านซ้ายขวา

“การฝังเข็มของท่านอาจารย์เร็วมากขอรับ” ลุงเฉียนเฝ้าดูอยู่ข้างๆ ตลอด เขาเองก็มีวรยุทธ์ แต่กลับมองไม่เห็นเงาของเข็ม เพียงแค่พริบตาเดียวเข็มก็ถูกฝังลงไปแล้ว

“การฝังเข็มตามจุดเหล่านี้จะช่วยปรับลมและเลือดในอวัยวะภายในของท่าน ปรับสมดุลหยินหยาง บรรเทาจิตใจทำให้สงบลง” ฉินหลิวซีดึงเข็มขึ้นมาแล้วปักลงไปใหม่พลางหมุนเบาๆ เมื่อได้ที่ก็ปล่อยเข็มไว้ หันหลังกลับไปหยิบธูปหอมกล่อมนอนส่งให้ซื่อฟังเอาไปจุด

สิบห้านาทีผ่านไปนางดึงเข็มออกแล้วนวดที่จุดฝังเข็ม จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างนวดเบาๆ รอบดวงตาทั้งสองข้างที่จุดไท่หยาง จุดหยางไป๋ จุดเจี่ยวซุน ด้วยแรงหนักเบาต่างกัน ในขณะเดียวกันก็มีเสียงบทพระสูตรถูกท่องออกมาจากปากของนางราวกับมาจากฟ้า

อวี้ฉังคงรู้สึกเพียงว่าปลายจมูกของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นของยาและเครื่องหอม ข้างหูมีคนกระซิบเบาๆ อย่างนุ่มนวล เปลือกตาของเขาค่อยๆ หนักขึ้น เริ่มรู้สึกเลือนราง

ไม่ นอนไม่ได้

เขาสั่นอย่างรุนแรง เปลือกตาสั่นเทา พยายามจะลืมตา

“ไม่ต้องกลัว ในความฝันไม่มีอะไรทั้งนั้น เชื่อข้า”

ทันใดนั้นก็มีคำพูดดังเข้ามาในหูของเขา อวี้ฉังคงหมดสติและหลับใหลไปในที่สุด

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท