ตอนที่ 158 ข้าคือลูกเนรคุณที่สวรรค์ลิขิต
Ink Stone_Romance
วัตถุดิบจากร้านยาตำหนักอายุวัฒนะส่งมาถูกขนเข้ามาทางประตูด้านข้างทีละรถ ส่งตรงมายังเรือนของฉินหลิวซี
ฉินหมิงเย่ว์และซ่งอวี่ฉิงเดินผ่านมาแถวนี้พอดี ยืนมองเฉินผีและคนงานในชุดยาวสีขาวทั้งสองขนย้ายสมุนไพรไปทางฉินหลิวซี
“นี่ นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่พี่หญิงใหญ่ต้องการพักในเรือนด้านข้างหรอกหรือ” ฉินหมิงเย่ว์เอ่ยขึ้นพร้อมนิ่งอึ้งไป
ความจริงก็คือง่ายต่อการเข้าออกของนาง ง่ายต่อการเข้าออกของคนอื่น
ซ่งอวี่ฉิงเอ่ยเสียงเบา “นี่เป็นเพียงงานอดิเรกของพี่หลิวซีเท่านั้น”
ฉินหมิงเย่ว์ปรายตามองนาง แสร้งทำเป็นเศร้าใจ “นับตั้งแต่พี่หญิงใหญ่มอบผ้ามันให้กับเจ้า เจ้าก็เข้าข้างนางแล้ว ไม่สนิทสนมกับข้าอีกแล้ว”
“ที่ใดกันเล่า”
ซ่งอวี่ฉิงก้มหน้าลง นึกไปถึงผ้ามันผืนนั้น เจ้าแบ่งมันไปแล้วมิใช่หรือ
ฉินหมิงเย่ว์รู้สึกน่าเบื่อขึ้นมา มองคนเหล่านั้นที่ในที่สุดก็ขนย้ายเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะจูงมือของนาง “ไป พวกเราไปคุยกับพี่หญิงใหญ่กัน”
ซ่งอวี่ฉิงขืนตัวเอาไว้เล็กน้อย ดูสถานการณ์ตอนนี้ ฉินหลิวซีคงจะกำลังยุ่ง ไม่ไปรบกวนจะดีกว่า ทว่ากลับไม่อาจต้านกำลังของอีกฝ่ายได้ ถูกลากเข้าไป
เมื่อทั้งสองเดินมาถึงประตูเรือน ก็ถูกฉีหวงขวางเอาไว้
“พวกเรามาคุยกับพี่หญิงใหญ่” ฉินหมิงเย่ว์เลิกคิ้วสวยขึ้น
ฉีหวงเอ่ย “คุณหนูใหญ่มีธุระเจ้าค่ะ เกรงว่าคงไม่อาจรับรองทั้งสองท่านได้ เชิญกลับไปเถิดเจ้าค่ะ”
ฉินหมิงเย่ว์รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ฉินหลิวซีก็ช่างเถิด สาวใช้ของนางยังไม่เกรงใจเพียงนี้ อาศัยบารมีเจ้านายข่มเหงคนอื่นเสียจริง
ซ่งอวี่ฉิงรีบเอ่ย “ในเมื่อพี่หลิวซีไม่ว่าง หมิงเย่ว์ พวกเราไปกันเถิด”
นางพยายามดึงฉินหมิงเย่ว์ ออกแรงสุดกำลังมากกว่าฉินหมิงเย่ว์ที่กำลังดึงนางเอาไว้ พาอีกฝ่ายออกมาจากตรงนั้น
ฉีหวงเห็นเช่นนั้นจึงส่ายศีรษะ เสียงประตูเรือนถูกปิดลงดังปัง พวกนางไม่มีเวลาว่างไปคุยเล่นตามประสาหญิงสาว
ฉินหลิวซีตรวจสอบยาที่ถูกส่งมาจากร้านยาตำหนักอายุวัฒนะทีละอย่าง ในมือยังถือพู่กันและกระดาษเอาไว้ ขีดๆ เขียนๆ ลงบนกระดาษ
ฉีหวงบอกเล่าถึงการมาของฉินหมิงเย่ว์ ฉินหลิวซีไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ เพียงตอบรับ อืม เบาๆ
เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจ
ฉีหวงเห็นเช่นนั้นก็ไม่เอ่ยสิ่งใดอีก มองดูสมุนไพรที่เบียดอัดเต็มเรือน เอ่ย “สมุนไพรมากมายเพียงนี้ เกรงว่าคงต้องจัดเก็บอีกเจ้าค่ะ””
“ใช่แล้ว น่าเศร้าทีเดียว” ฉินหลิวซีท่าทางหดหู่ แหงนหน้าขึ้นมองฟ้า “เจ้าไม่รู้ เคยมีโอกาสที่ไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินมากองอยู่ตรงหน้าข้า ข้ากลับไม่คว้าเอาไว้ หากมีโอกาสอีกครั้ง ข้า…”
ครื้นนน
เสียงฟ้าร้องเหนือศีรษะดังขึ้น
ฉินหลิวซีกัดฟัน “…ข้าก็ยังคงไม่อาจคว้าเอาไว้ได้”
เฉินผีที่นั่งยองๆ อยู่ข้างกองสมุนไพรหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
ฉีหวงเองก็หัวเราะ เอ่ย “ท่านตั้งใจทำไปเถิดเจ้าค่ะ ไม่ต้องไปคิดถึงสิ่งที่ไม่มีแล้วเลย หากมีเรื่องที่ดีแบบนั้นจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องดี ห้าโทษสามวิบัติ[1]นี้ไม่แต่ว่าอย่างหนึ่งอย่างใดอาจกำลังรอท่านอยู่ก็เป็นได้ เกิดพิการขึ้นมาเล่า”
ฉินหลิวซีมองไปที่นางช้าๆ “ชีวิตข้าช่างขมขื่น”
“กินลูกกวาดถั่วสักหน่อย จะได้หวานขึ้นเจ้าค่ะ” ฉีหวงควักขวดออกมาจากถุงเล็กๆ ที่เหน็บไว้บนเอว หยิบออกมาหนึ่งเม็ดยัดเข้าไปในปากของนาง
นี่ก็เป็นลูกกวาดถั่วที่ฉินหลิวซีทำขึ้นมาเอง ทำมาจากน้ำผึ้งดอกเบญจมาศเสฉวนบวกกับลูกแพร์และยาสมุนไพรให้ความชุ่มคอ ใช้กินในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อความชุ่มคอ
ฉินหลิวซีถอนหายใจ ออกคำสั่งกับเฉินผี “ไปเอากระดาษสีเหลืองในกล่องแดงบนชั้นในห้องของข้ามา เอาที่ตัดมาด้วย”
“ขอรับ”
เฉินผีลุกขึ้นยืน วิ่งเข้าไปในห้อง ไม่นานก็ได้กระดาษสีเหลืองพร้อมทั้งที่ตัดยื่นส่งให้นาง
ฉินหลิวซีนั่งลงบนพื้น ตัดกระดาษเป็นรูปคนชิ้นเล็กๆ ออกมาอย่างชำนาญ จัดเรียงเอาไว้ จากนั้นใช้นิ้ววาด ปากร่ายคาถาไปยังกระดาษคนเล็กๆ ตุ๊กตากระดาษร่างคนราวกับมีชีวิตขึ้นมา ลุกขึ้นยืนแล้วคำนับให้กับฉินหลิวซี
ฉินหลิวซีเอ่ย “ฉีหวง เจ้าพาตุ๊กตากระดาษพวกนี้ไปจัดการกับสมุนไพรเถิด แบ่งไปตามน้ำหนัก แบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้ให้ข้าทดลองปรุงยาด้วย”
นางยื่นส่งกระดาษที่ถูกเขียนเอาไว้เมื่อครู่ไปให้
การต้มยาต้องใช้ในปริมาณที่แม่นยำ โดยเฉพาะยาจีน มากหรือน้อยแม้เพียงเฉียนเดียว ประสิทธิภาพจะลดลงอย่างมาก หนักกว่านั้นอาจมีผลถึงการบาดเจ็บล้มตาย
ดังนั้นจึงต้องเข้มงวดกับเรื่องเหล่านี้ ตัวฉินหลิวซีให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ ชีวิตคนเป็นเรื่องใหญ่ นางไม่กล้ารับผลลัพธ์ที่จะตามมาได้
ฉีหวงเองก็เข้าใจ ชั่งน้ำหนักสมุนไพรไม่นานก็ได้ออกมาหนึ่งชุด ส่งเข้าไปในห้องเก็บยา
ยามนี้ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดลง แต่ในห้องเก็บยากลับยังคงสว่างไสว ผนังที่ถูกปกคลุมไปด้วยหินเรืองแสง แม้แต่ยามค่ำคืนก็ยังมีแสงสว่างในตนเอง นอกจากนี้ยังมีไข่มุกราตรี ล้วนเป็นสิ่งที่ให้ความสว่างได้ ส่วนไฟน่ะหรือ
สิ่งที่ต้องจุดไฟปกติแล้วกลัวเกิดไฟไหม้จึงไม่จุดไฟ มีเพียงยามที่ต้องใช้ไฟจึงใช้หินเหล็กไฟ ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือนั่นมีเตาไฟอยู่หนึ่งเตา ด้านข้างมีถ่านหินที่ถูกเรียงซ้อนกันเอาไว้พร้อมทั้งแผ่นไม้ไผ่ที่เอาไว้จุดไฟ
ในห้องเก็บสมุนไพร ตรงกลางยังมีห้องเล็กๆ หลายห้อง หนึ่งในนั้นยังสามารถปรุงยาสมุนไพรอีกด้วยแม้แต่เตาด้านนอก ส่วนด้านข้างในนั้น ยังมีอันหนึ่งทำมาจากกระจกใส นี่คือสิ่งที่ฉินหลิวซีให้เจ้าของร้านยาตำหนักอายุวัฒนะจัดทำขึ้นมาจากต่างเมืองตามรูปแบบที่ร่างเอาไว้แล้วส่งกลับมา
อีกด้านเป็นอุปกรณ์ปรุงยาตามแบบฉบับโบราณ มีหม้อต้มยา ค้อนทุบยาเป็นต้น
นี่คือห้องปรุงยา
กำแพงห้องปรุงยาคือห้องเก็บวัตถุดิบยา ฉินหลิวซีลงอาคมสะกดรวมวิญญาณไว้ ดังนั้นสมุนไพรที่ถูกส่งเข้ามาด้านในจะมีฤทธิ์มากกว่าสมุนไพรทั่วไป มีสมุนไพรหลายชนิดที่ถูกฉินหลิวซีเก็บเอาไว้บนชั้นสูง หนึ่งในนั้น ก็คือดอกเฟิงหลิงที่เพิ่งได้มา ต่างก็ถูกจัดเก็บอยู่ด้านใน เพียงมีคนไปสัมผัสนางก็จะรับรู้ในทันใด
และห้องเล็กลงไปอีกห้องก็ลงอาคมสะกดรวมวิญญาณเช่นกัน วางชั้นเป็นแถวเป็นแนว ด้านบนคือยาบางส่วนที่ถูกปรุงเสร็จแล้ว แยกชนิดและประเภทอย่างชัดเจน ราคามีสูงมีต่ำ แต่ขวดยาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นยาง่ายๆ อย่างยาจินชวง ก็ยังใช้ได้ดีกว่ายาจินชวงที่อยู่ตามท้องตลาดทั่วไปมาก
ยาบนชั้น หากปล่อยขายตามตลาดง่ายๆ ก็ยังถูกจัดอยู่ในราคาสูง เพียงแค่ฉินหลิวซีนำออกไปขาย ก็ไม่ต้องลำบากลำบนเพราะความจนแล้ว
แต่นางทำใจไม่ได้นี่นา ยาเหล่านี้ ถูกทำขึ้นมาทีละนิดด้วยความสนอกสนใจของนางตลอดสิบปีที่ผ่านมา เก็บเอาไว้ใช้ในยามแก่ชรา รอนางขายออกไปแล้ว เพียงขาย เฮ้ย ก็มีเงินใช้ยามแก่เฒ่าแล้วมิใช่หรือ
อีกทั้ง บางครั้งหากนางพบเจอคนป่วย ก็จะหยิบยาเหล่านี้ออกไป ครั้งละเล็กละน้อย ก็มีประโยชน์ไม่น้อย ดังนั้นนางจึงไม่ขาย
ฉินหลิวซียืนอยู่หน้าประตูห้องปรุงยา จ้องมองขวดแก้วใสเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย
“คุณหนู ท่านมายืนอยู่ที่นี่ทำไมหรือเจ้าคะ” ฉีหวงถือสมุนไพรเดินเข้ามา มองเห็นฉินหลิวซีกำลังเหม่อลอย อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าว่าไยข้าจึงทำสิ่งเหล่านี้ได้”
นางหมายถึงเครื่องมือต่างๆ ด้านใน
นับตั้งแต่ตอนที่ข้ามเวลามา นอกจากรู้ว่าตนเองชื่อฉินหลิวซี รู้สิ่งต่างๆ มากมาย หลายสิ่งหลายอย่างเพียงเรียนก็รู้ทันใด แล้วนางเป็นใครกันแน่
ไม่รอฉีหวงตอบ นางก็ชื่นชมตนเองขึ้นมา “ข้ารู้แล้ว ข้าเกิดมามีพรสวรรค์ ลูกเนรคุณที่สวรรค์ลิขิต ดังนั้นข้าจึงทำได้ทุกอย่าง จากนั้น หากไม่ทำอะไรเลยก็จะถูกลงโทษข้าในทางเลวร้าย ต้องวิ่งต่อไปเรื่อยๆ อย่างนี้”
ฉีหวง “…”
กฏแห่งสวรรค์ ลูกเนรคุณ ทำงานต่อไปเถิด
[1]5 โทษ คือ1. ชายเป็นโสดหรือเป็นหม้ายเพราะภรรยาเสียชีวิต 2. หญิงเป็นโสดหรือเป็นหม้ายเพราะสามีเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 3. กำพร้าโดดเดี่ยวไร้ญาติมิตร 4. ไร้ที่พึ่งเพราะไม่มีลูกหลานสืบสกุล 5. พิการหรือบกพร่องด้านใดด้านหนึ่ง 3 วิบัติคือ 1. ไร้ทรัพย์สิน ยากจน 2. ไร้อำนาจ ไร้บริวาร 3. อายุสั้น มีโรคภัย