ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 713 ก่อเรื่อง (ปลาย)

ตอนที่ 713 ก่อเรื่อง (ปลาย)

เรื่อง​นี้​แพร่กระจาย​ไป​ถึง​หู​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างรวดเร็ว

เขา​แอบ​แปลกใจ

ถึงแม้​บุตรชาย​ยัง​เด็ก​แต่​ก็​เคย​ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​ ​คนธรรมดา​สามสี​่​คน​ไม่มีทาง​เข้าใกล้​ตัว​เขา​ได้​ง่ายๆ​ ​เหตุใด​ถึง​ถูก​พวก​อันธพาล​ต่อย​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​พวก​อันธพาล​พวก​นั้น​ไม่ได้​โง่​ ​เห็น​เสื้อผ้า​ของ​เขา​ไม่ธรรมดา​ ​แล้วยัง​มี​องครักษ์​คอย​ติดตาม​ ​พวกเขา​จะ​กล้า​ก่อเรื่อง​ได้​เช่นไร​ ​หรือว่า​จิ​่น​เกอ​ทำตัว​เย่อหยิ่ง​แล้ว​เอาเรื่อง​นี้​มา​อ้าง​?

เขา​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​เติงฮ​วา​ ​“​พ่อ​ลูก​สอง​คน​นั้น​เข้ามา​ใน​จวน​เมื่อไร​”

เติงฮ​วา​พูด​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​หลังจากที่​คุณชาย​น้อย​หก​และ​คุณชาย​น้อย​สอง​เจอกัน​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​ออก​ไป​อีกครั้ง​ ​แล้วก็​พาส​อง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​กลับมา​ขอรับ​!​”

“​คุณชาย​น้อย​สอง​?​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลกใจ

“​ใช่​ขอรับ​!​”​ ​เติงฮ​วา​พูด​ ​“​ได้ยิน​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​ขอร้อง​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​ช่วย​หา​ที่อยู่​ให้​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​ไม่รู้​ว่า​จะ​ให้​พวกเขา​ไป​อยู่​ที่ไหน​จึง​พา​พวกเขา​กลับมา​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​เติงฮ​วา​ ​“​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​อยู่​ที่ไหน​ ​พาตัว​มา​ให้​ข้า​ดู​!​”

เติงฮ​วา​ไป​เรียก​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​มา​

คน​เป็น​บิดา​อายุ​แค่​สามสิบ​กว่า​ปี​ ​หน้าตา​หล่อเหลา​ ​ถึงแม้​ผิว​จะ​เหลือง​ ​รูปร่าง​ผอมบาง​ ​แต่​บน​ใบหน้า​มี​ความทะนง​ตน​เล็กน้อย​ ​ฤดูหนาว​เช่นนี้​ ​เขา​กลับ​สวม​ชุด​คลุม​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​แบก​พิณ​ไว้​ข้างหลัง​ ​ยืน​ตัวตรง​อยู่​ตรงนั้น​ ​ไม่​เหมือน​คน​ทำการ​แสดง​ข้าง​ถนน​แต่กลับ​เหมือน​นักปราชญ์​มากกว่า​ ​ส่วน​บุตรสาว​อายุ​ประมาณ​สิบสอง​สิบ​สาม​ปี​ ​เดินตาม​หลัง​บิดา​ตัวเอง​มาติด​ๆ​ ​นาง​ก้มหน้า​ ​เนื้อตัว​สั่นเทา​ ​ท่าที​หวาดกลัว

“​เงยหน้า​ขึ้น​พูด​เถิด​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ราวกับ​เสียง​ฟ้าร้อง​ ​ทำเอา​บุตรสาว​คน​นั้น​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก

สอง​พ่อ​ลูก​หน้าตา​คล้าย​กัน​ ​บุตรสาว​สีหน้า​ซีดเซียว​ ​ดวงตา​สดใส​ราวกับ​สายน้ำ​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​นาง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่​น่าสงสาร​ ​หน้าตา​สะสวย​อยู่​ไม่น้อย

“​เจ้า​ชื่อ​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​อย่าง​เฉยเมย

“​ตกอับ​เช่นนี้​ทำให้​บรรพบุรุษ​อับอายขายหน้า​ ​ไม่กล้า​เอ่ย​ชื่อ​แซ่​ขอรับ​”​ ​คน​เป็น​บิดา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สั่นเทา​ ​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความหวาดกลัว​ของ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ฟัง​น้ำเสียง​ของ​เจ้า​แล้ว​ ​เจ้า​เคย​เรียนหนังสือ​ใช่​หรือไม่​”

เขา​ไม่​พูด​อะไร​ ​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ท่าที​รู้สึก​ผิด

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​อีกครั้ง​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​พวก​เจ้า​เป็น​คน​เจียง​หนาน​ ​เหตุใด​ถึง​มา​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​แล้ว​ทำไม​ถึง​ไป​ทะเลาะ​กับ​คนอื่น​”

“​ไม่มี​ญาติพี่น้อง​ ​ไม่มี​ที่อยู่​ ​จึง​ต้อง​ทำการ​แสดง​เลี้ยงชีพ​ขอรับ​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​หน้าแดง​ ​“​พวก​อันธพาล​พวก​นั้น​อยาก​ให้​บุตรสาว​ของ​ข้า​ร้องเพลง​ ​แต่​บุตรสาว​ของ​ข้า​ร้อง​ไม่​เป็น​ ​ก็​ยัง​จะ​ให้​บุตรสาว​ของ​ข้า​ไป​ดื่ม​สุรา​กับ​พวกเขา​ ​อย่างน้อย​ข้า​ก็​เคย​เรียนหนังสือ​ ​ให้​บุตรสาว​ตัวเอง​ออกมา​ทำงาน​แบบนี้​เพราะ​ไม่มีทาง​เลือก​ ​จะ​ให้​บุตรสาว​ไป​ดื่ม​สุรา​กับ​พวกเขา​ได้​อย่างไร​”​ ​พูด​จบ​ ​สายตา​ของ​เขา​ก็​มี​ความ​ฉุนเฉียว​ ​บุตรสาว​เอง​ก็​สะอื้น​ไห้​ ​“​จึง​เกิด​การทะเลาะ​กัน​…​”

“​ไท่ฮู​หยิน​มอบ​เงิน​ให้​พวก​เจ้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ถาม​อะไร​อีก​ ​“​เจ้า​ไปรั​บกับ​เติงฮ​วา​ ​แล้ว​พาบุ​ตร​สาวก​ลับ​บ้านเกิด​เถิด​!​”

คน​เป็น​บิดา​ตกอกตกใจ

“​ท่าน​พ่อ​ ​เช่นนั้น​เรา​กลับบ้าน​ได้​หรือยัง​เจ้า​คะ​”​ ​บุตรสาว​ถาม​บิดา​ด้วย​ความตื่นเต้น

คน​เป็น​บิดา​ดีใจ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​ ​เขา​พยักหน้า​ให้​บุตรสาว​ตัวเอง​ ​“​เรา​กลับบ้าน​ได้​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​โค้ง​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ขอบพระคุณ​ขอรับ​”

เขา​มีท​่า​ที​รัก​ใน​ศักดิ์ศรี​ของ​ตัวเอง​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ

สอง​พ่อ​ลูก​ออก​ไป​กับ​เติงฮ​วา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เรียก​พ่อบ้าน​ไป๋​เข้ามา​ ​“​ไป​สืบมา​ว่า​คนที​่​ต่อย​ตี​กับ​จิ​่น​เกอ​คือ​ใคร​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ขานรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

จากนั้น​ก็​มารา​ยงาน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยาม​บ่าย

“​คือ​เฉิน​จี๋​ ​บุตรชาย​ของ​เฉินปั​๋​วจือ​ ​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​ขอรับ​”​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​พูด​ ​“​เขา​มี​ความดี​ความชอบ​ ​ฝ่า​บาท​จึง​แต่งตั้ง​บุตรชาย​ของ​เขา​ขึ้น​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​รักษาการณ์​ ​เฉิน​จี๋​เข้ามา​เมืองหลวง​ตาม​พระราช​โองการ​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​ศาล​ว่าการ​ว่า​เช่นไร​”

“​ตอน​พวกเขา​ไป​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​ต่อย​ตี​กับ​พวกเขา​เสร็จ​แล้ว​”​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​พูด​ ​“​พวกเขา​จึง​ไม่เห็น​อะไร​เลย​ขอรับ​!​”​ ​เขา​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ส่วน​คน​ของกอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​บอกว่า​พวกเขา​ไป​ถึง​ช้า​กว่า​คน​ของ​ศาล​ว่าการ​เสียอีก​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ออกมา​ ​เขา​สะบัด​มือ​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​!​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ไม่ได้​ออก​ไป​ทันที​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​แต่​สีหน้า​ของ​เขา​มี​ความลังเล

“​มีเรื่อง​อัน​ใด​อีก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม

พ่อบ้าน​ไป๋​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ควร​ไป​ทักทาย​คน​ของ​ศาล​ว่าการ​หรือไม่​…​ถึงแม้​คุณชาย​น้อย​หก​จะ​บุ่มบ่าม​ ​แต่​ไม่ว่า​ใคร​เห็น​เหตุการณ์​เช่นนี้​ก็​คง​โมโห​…​อย่างน้อย​เขา​ก็​ทำ​เรื่อง​ดี.​..​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​อะไร​ ​แต่​จู่ๆ​ ​กลับ​พูดว่า​ ​“​หลังจาก​ขึ้นปีใหม่​ ​เถ้าแก่​ใหญ่​ที่​ซาน​ซีก​็​อายุ​หกสิบ​สาม​แล้ว​ ​ปีนี​้​เขา​คงจะ​พูด​เรื่อง​กลับบ้าน​เกิด​อีก​ ​ข้า​คิด​ว่า​จะ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ปรึกษา​กับ​จุน​เกอ​ ​เลือก​คน​มา​ให้​ข้า​ดู​ ​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​ก็​เลือก​คนที​่​จะ​ไป​แทนที่​เถ้าแก่​ใหญ่​ที่​ซาน​ซี​เถิด​”

พ่อบ้าน​ไป๋​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​บอกว่า​ไม่​ให้​เขา​สนใจ​เรื่อง​นี้​ ​เขา​เลย​รีบ​ตอบกลับ​ ​“​บ่าว​จะ​ไป​บอก​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​ปรึกษา​กับ​คุณชาย​น้อย​สี่​ประเดี๋ยวนี้​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​อะไร

หลังจากที่​พ่อบ้าน​ไป๋​ออก​ไป​ก็​ยืน​เอา​มือ​ไขว้หลัง​มอง​นอก​หน้าต่าง​อยู่นาน​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​หลัก​

“​จิ​่น​เกอ​เล่า​”​ ​ทันทีที่​นั่งลง​เขา​ก็​ถามหา​บุตรชาย​ตัวเอง​

สือ​อี​เหนียง​รับ​ถ้วย​ชาร้อน​จาก​สาวใช้​มา​วาง​ไว้​ข้าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​บอกว่า​กลัว​มี​คน​มาหา​เรื่อง​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​เลย​จะ​ไป​ส่ง​พวกเขา​ออก​ไป​จาก​เมืองหลวง​ด้วยตัวเอง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​เดิน​ไป​นั่ง​ข้างๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ทำไม​ข้า​ถึง​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ ​ช่วย​พวกเขา​ไว้​ก็​คง​แค่​มอบ​เงิน​ให้​แล้ว​ให้​บ่าว​รับใช้​เป็น​คน​ไป​จัดการ​ ​แต่​ครั้งนี้​กลับ​พาส​อง​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​เข้ามา​ใน​จวน​”​ ​นาง​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​มัน​ไม่​เหมือน​พฤติกรรม​ของ​เขา​ ​แล้วยัง​มี​อวี​้​เกอ​ ​เขา​ทำ​อะไร​หนักแน่น​มาต​ลอด​ ​กลับมา​วัน​แรก​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จัดงาน​เลี้ยง​ต้อนรับ​เขา​กลับมา​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่​กลับ​จวน​ทั้งคืน​เพียง​เพราะ​สหาย​ตัวเอง​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่​มี​ความกังวล​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​มี​ลับลมคมใน​อะไร​หรือไม่​”

“​ปีใหม่​แบบนี้​ ​เด็ก​ๆ​ ​กลับ​จวน​ได้​อยู่​พร้อมหน้าพร้อมตา​กัน​ ​เจ้า​อย่า​เอา​แค่​คิด​เรื่อง​นี้​เลย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​รีบ​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้วไป​ทานอาหาร​ที่​เรือน​ของ​ท่าน​แม่​กัน​เถิด​”

หรือว่า​ตน​คิดมาก​เกินไป​?

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

นอกจาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​ทุกคน​ล้วน​มากั​นครบ​แล้ว

“​เด็ก​สอง​คน​นี้​ ​บอก​ให้​เขา​กลับมา​เร็ว​ๆ​ ​เหตุใด​ป่านนี้​แล้วยัง​ไม่​กลับมา​อีก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​บ่น​ขึ้น​มา

“​ท่าน​ย่า​ขอรับ​ ​น้อง​หก​กลัว​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​ไม่ยอม​จบ​ง่ายๆ​”​ ​ไม่มีใคร​พูด​อะไร​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​ปกติ​ไม่​ค่อย​พูด​อะไร​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทำ​อะไร​ต้อง​มี​จุดเริ่มต้น​และ​จุดจบ​ ​น้อง​หก​ก็​แค่​ทำความ​ดี​ให้​ถึงที่สุด​ ​สำหรับ​พี่​สอง​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ปีใหม่​แล้ว​ ​สหาย​ของ​เขา​ยัง​เดินทางไกล​มาหา​เขา​ ​คงมี​เรื่อง​ขอร้อง​เขา​กระมัง​ ​พี่​สอง​จะ​ไม่สน​ใจ​ก็​คง​ไม่ได้​”

สายตา​ของ​ทุกคน​จ้องมอง​ไป​ยัง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​พูด​มีเหตุผล​!​”

อิง​เหนียง​เห็น​สายตา​ที่​เฉียบแหลม​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

หัวใจ​ของ​นาง​เต้น​แรง

พ่อ​สามี​สังเกตเห็น​อะไร​เช่นนั้น​หรือ

“​ท่าน​ย่า​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​เดิน​เข้าไป​หา​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ครั้งก่อน​ท่าน​บอกว่า​จะ​ปัก​กระเป๋า​แว่นตา​ ​ข้าว​่า​จะ​ทำ​ลวดลาย​ดอกไม้​สีเขียว​และ​ดอกไม้​สีแดง​ ​ท่าน​ชอบ​สีเขียว​หรือ​สีแดง​เจ้า​คะ​”

“​ชอบ​หมด​เลย​ ​ชอบ​หมด​เลย​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ระบาย​ยิ้ม​ ​“​แต่​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​ปัก​ลาย​ดอก​สีฟ้า​ขอบ​สีทอง​ให้​ข้า​แล้ว​ ​สวย​ยิ่งนัก​”​ ​พูด​จบ​ก็​ให้​สาวใช้​ไป​หยิบ​มา​ ​ยื่น​ให้​อิง​เหนียง​ดูด​้วย​ความภาคภูมิใจ​ ​“​ดู​สิ​ ​สวย​หรือไม่​!​”

อิง​เหนียง​กำลังจะ​พูด​ชื่นชม​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​จิ​่น​เกอ​ก็​เดิน​เข้ามา​พร้อมกัน​พอดี

ไท่ฮู​หยิน​ลืม​เรื่อง​กระเป๋า​แว่นตา​ไป​ทันที​ ​นาง​รีบ​เรียก​พวกเขา​สอง​คน​เข้าไป​ ​จับมือ​จิ​่น​เกอ​ ​“​ส่ง​พวกเขา​ออก​ไป​แล้ว​หรือยัง​ ​หนาว​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​ธุระ​ของ​เจ้า​จัดการ​เรียบร้อย​แล้ว​หรือยัง​!​”

พวกเขา​สอง​คนพูด​พร้อมกัน​ ​คน​หนึ่ง​ตอบ​ ​“​ส่ง​ไป​แล้ว​ขอรับ​”​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ตอบ​ ​“​เรียบร้อย​แล้ว​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืน​ขึ้น​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ทานข้าว​กัน​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน

ทุกคน​เดิน​ไป​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก

สวี​ซื่อ​จุน​ดึง​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​ถาม​เบา​ๆ​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ทำไม​เจ้า​ต้อง​ช่วย​พูด​ให้​พี่​สอง​กับ​น้อง​หก​ด้วย​”

“​ประเดี๋ยว​ค่อย​เล่า​ให้ท่าน​ฟัง​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตอบกลับ​อย่างรวดเร็ว

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่​ถาม​อะไร​อีก​ ​หลัง​ทานข้าว​เสร็จ​ ​ทุกคน​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดิน​อยู่​ข้างหลัง​ด้วยกัน

“​ตอนนี้​ข้า​ยัง​เล่า​ให้​พี่​สี่​ฟัง​ไม่ได้​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​เสียง​เบา​ ​“​ข้า​ต้อง​ถาม​พี่​สอง​กับ​น้อง​หก​ก่อน​ ​หาก​พวกเขา​เห็นด้วย​ ​ข้า​ถึง​จะ​เล่า​ให้ท่าน​ฟัง​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่เคย​นินทา​คนอื่น​ลับหลัง​ ​เขา​จริงใจ​ต่อ​ทุกคน​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ชื่นชม​จุด​นี้​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

“​ได้​!​”​ ​เขา​ไม่​ถาม​อีก​ ​เมื่อ​ทุกคน​กำลัง​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​ฉลอง​ปีใหม่​ปีนี​้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​สังเกต​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​จิ​่น​เกอ​ตลอด

เวลา​ผ่าน​ไป​ครึ่ง​ถ้วย​ชา​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ลุกขึ้น​ไป​ห้อง​ชำระ​ ​ผ่าน​ไป​อีกไม่นาน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็ตาม​ออก​ไป

“​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​รอ​จิ​่น​เกอ​อยู่​ตรง​มุม​ข้าง​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ ​“​ท่าน​อา​ห้าว​่า​อย่างไร​”

“​ท่าน​อา​ห้า​หัวเราะเยาะ​ข้า​ขอรับ​”​ ​จิ​่น​เกอ​ทำ​หน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​บอกว่า​ไม่ต้อง​ยุ่งยาก​ขนาด​นี้​ก็ได้​ ​คน​ของ​ศาล​ว่าการ​ไม่รู้​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​ ​แต่​หาก​พวกเขา​รู้​ ​เรา​ไม่ได้​ทำร้าย​ผู้บริสุทธิ์​ ​พวกเขา​ทำให้​ทั้งสอง​สกุล​ไม่พอใจ​ไม่ได้​ ​จึง​ต้อง​แสร้งทำ​เป็น​หูหนวก​ตาบอด​ ​เรา​ไม่จำเป็น​ต้อง​ไปหา​ใคร​ขอรับ​ ​ไม่เพียงแต่​เป็นการ​แหวก​หญ้า​ให้​งู​ตื่น​ ​แล้วยัง​ทำให้​เรา​ดู​ไม่มี​อำนาจ​ ​บอก​ให้​เรา​ไม่ต้อง​สนใจ​ ​ควร​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​ ​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ก็​ค่อย​ว่า​กัน​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เกา​หัว​ตัวเอง​ ​“​ทำ​เช่นนี้​ไม่​ประมาท​เกินไป​หรือ​ ​ตอนนี้​เรา​อยู่​ใน​ที่​มืด​แต่​พวกเขา​อยู่​ใน​ที่​สว่าง​ ​เรา​กำลัง​ได้เปรียบ​จะ​ให้​พวกเขา​ฉวยโอกาส​ไม่ได้​”

“​ข้า​ก็​คิด​เช่นนี้​เหมือนกัน​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ปรึกษา​สวี​ซื่อ​อวี​้​เบา​ๆ​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ให้​คน​ไป​บอก​ขันที​น้อย​คน​นั้น​ ​บอก​ให้​องค์​หญิง​ใหญ่​เรียก​ข้า​เข้า​พระราชวัง​ ​ช่วงนี้​ข้า​คอย​ช่วยเหลือ​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​คง​ต้อง​เข้าไป​รายงาน​องค์​หญิง​ใหญ่​แล้ว​”

“​ไม่เลว​ ​ไม่เลว​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูดว่า​ ​“​เจ้า​บอกว่า​เพราะ​ถูก​เฉิน​จี๋​ต่อย​เลย​มี​แผล​บน​ใบหน้า​ ​ถึงแม้​เจ้า​จะ​หาเหตุ​ผล​จะ​จัดการ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​แต่​เกรง​ว่า​ต่อไป​คงจะ​ออก​จวน​ทำตาม​อำเภอใจ​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ​องค์​หญิง​ใหญ่​ต้อง​ถาม​แน่นอน​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​เจ้า​ก็​เล่า​ความจริง​ให้​องค์​หญิง​ใหญ่​ฟัง​เถิด​”​ ​เขา​พูด​ต่อไป​ ​“​วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​เล่าเรื่อง​หลานชาย​ของ​รอง​เจ้ากรม​พิธีกรรม​ให้​ยง​อ๋อง​ฟัง​ ​ให้​ยง​อ๋อง​เข้ามา​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ ​ดีกว่า​เจ้า​ก่อเรื่อง​เช่นนี้​อีก​”

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า

เห็น​ว่า​จิ​่น​เกอ​ไม่​ยืนกราน​ที่จะ​ช่วย​องค์​หญิง​ใหญ่​ต่อ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

จิ​่น​เกอ​ถาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​พ่อ​ลูกคู่​นั้น​คงจะ​ไม่​ถูกจับ​ได้​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​”

“​ไม่มีทาง​!​ ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้นกับ​พวกเขา​คือ​เรื่องจริง​ ​แต่​คนที​่​ช่วย​พวกเขา​เปลี่ยน​จาก​ฟัง​จี้​มา​เป็น​เจ้า​ก็​เท่านั้น​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​!​”

เห็น​ว่า​จัดการ​เรื่อง​นี้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​สีหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​

“​พี่​สอง​รีบ​กลับ​เข้าไป​เถิด​ ​หายกัน​ไป​สอง​คน​ ​ประเดี๋ยว​พวกเขา​จะ​สงสัย​!​”

“​ได้​ ​เจ้า​ก็​รีบ​กลับ​เข้าไป​ข้างใน​ ​ข้างนอก​นั้น​อากาศ​หนาว​”

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​ยืน​รอ​อยู่​ข้างนอก​เป็นเวลา​ครึ่ง​ถ้วย​ชา​ ​จากนั้น​ก็​เข้าไป​ข้างใน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท