ตอนที่ 702 การถ่ายทำวีดีโอประกอบเพลง
เมื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้โต้วโต้วเสร็จ หลินม่ายก็จำได้ว่าพ่อไป๋บอกว่าเสื้อโค้ทผ้าฝ้ายและกางเกงบนตัวของเถียนเถียนตัวเล็กไปหน่อย ดังนั้นเธอจึงซื้อเสื้อผ้ากันหนาวให้เถียนเถียนสองชุด
หลังจากซื้อเสื้อผ้าแล้ว ทั้งสองครอบครัวก็แยกย้ายกันที่หน้าห้าง
หลินม่ายมอบเสื้อผ้าและกางเกงบุผ้าฝ้ายตัวใหม่ที่เธอซื้อให้เถียนเถียนให้กับไป๋ลู่ และขอให้หล่อนส่งมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับไป๋เหยียน
อากาศหนาวขึ้นทุกวัน หลินม่ายกลัวว่าเถียนเถียนจะหนาวจนไม่สบายในชุดเก่าของหล่อน
หลินม่ายต้องการส่งเสื้อผ้าและกางเกงบุนวมผ้าฝ้ายตัวใหม่ที่เธอซื้อไปให้พี่สาวโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เถียนเถียนใส่ได้เร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน
นับแต่ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอจะอยู่ในมหาวิทยาลัยอีกหนึ่งสัปดาห์ และจะไม่มีเวลาส่งไปให้พี่สาว ดังนั้นเธอจึงขอให้ไป๋ลู่ช่วยเอาไปให้
พ่อไป๋ขอให้หลินม่ายมอบเสื้อผ้ากันหนาวที่เธอซื้อให้เถียนเถียนแก่พี่สาวหรือพี่เขยของเธอด้วยตัวเอง
หลินม่ายเข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร
หากเธอมอบเสื้อผ้าที่ซื้อให้เถียนเถียนให้พี่สาวหรือพี่เขยเป็นการส่วนตัว พี่สาวและพี่เขยจะต้องประทับใจมาก
ดังนั้นการนำไปให้ด้วยตัวเองย่อมดีกว่าการให้ไป๋ลู่นำไปมอบให้
พ่อไป๋วางแผนให้เธออย่างสุดใจ หลินม่ายจึงทำตามและหาเวลาในการส่งเสื้อผ้ากันหนาวที่ซื้อให้เถียนเถียนไปให้พี่สาวคนโตและพี่เขย
เธอนัดกับผู้อำนวยการอิ่นเมื่อวานนี้ว่าบ่ายวันนี้จะเข้าไปคุยรายละเอียดเกี่ยวกับวีดีโอประกอบเพลงที่จะใช้ในโฆษณาโปรโมตเมื่อการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วเริ่มออกอากาศ
หลังจากส่งคุณปู่ คุณย่า และโต้วโต้วกลับบ้านแล้ว ฟางจั๋วหรานก็ขับรถพาหลินม่ายไปยังสถานี CCTV ซึ่งผู้อำนวยการอิ่นรออยู่ที่สำนักงานแล้ว
หลินม่ายคุยเรื่องงานทันทีที่นั่งลง
การโฆษณาของเธอคือการใช้เวลาของเพลงเพื่อแสดงเรื่องราวสั้น ๆ ของเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีความฝันอยากเป็นนางแบบ เธอฝึกฝนอย่างหนักและผ่านความลำบากมามากมาย ในที่สุดก็ได้กลายเป็นผีเสื้อโบยบินตามความฝันสำเร็จ
การเขียนโฆษณาของหลินม่ายเข้ากับเพลงของการแข่งขัน ‘ฉันล้มลงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังยืนขึ้นอย่างมุ่งมั่นทุกครั้ง หักปีกของฉัน และพยายามบินไปสู่ท้องฟ้าสีคราม…’
และเรื่องราวเล็กน้อยนี้เหมาะกับเนื้อหาการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง
ผู้กำกับอิ่นตัดสินใจทำตามการเขียนใช้รูปแบบโฆษณาของหลินม่ายในการถ่ายทำวีดีโอประกอบเพลง
หลินม่ายบอกว่าจะมองหานักแสดงหน้าใหม่มารับบทนางเอก
ผู้อำนวยการอิ่นโบกมือ “คุณจะต้องมองหาใครอีก? ตัวคุณน่ะทำเองได้ คุณหลินแห่งห้องเสื้อจิ่นซิ่วกำกับ แสดง และร้องเอง ก็นับว่าเป็นลูกเล่นที่น่าชื่นชมและยอดเยี่ยมไม่ใช่เหรอ”
หลินม่ายไม่เคยคิดถ่อมตัว และคิดว่าคำพูดของผู้อำนวยการหยิ่นนั้นเป็นไปได้
ลูกเล่นหลายอย่างสามารถเพิ่มความน่าสนใจได้เล็กน้อย
ปัญหาคือเธอสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรเท่านั้น
แต่ความต้องการความสูงของนางแบบในยุคนี้จะอยู่ที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตรขึ้นไปเท่านั้น
ยังมีช่องว่างระหว่างความสูงของเธอกับข้อกำหนดความสูงขั้นต่ำสำหรับนางแบบ และเป็นการยากที่จะเข้าถึงความรู้สึกของนางแบบได้
ผู้อำนวยการอิ่นถามอย่างไม่ได้จริงจัง “คุณเคยดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง ‘ยอดหญิงชิงโอลิมปิค’ ไหม?
หลินม่ายพยักหน้าอย่างจริงใจ “เคยค่ะ ทำไมเหรอคะ?”
“เล่นวอลเล่ย์บอลต้องสูงใช่ไหม?”
หลินม่ายพยักหน้าอีกครั้ง
เธอจำได้ว่าในชีวิตที่แล้ว ทีมวอลเลย์บอลหญิงของจีน ดึงผู้เล่นแบบสุ่ม ซึ่งทุกคนสูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร
ผู้อำนวยการอิ่นกล่าว “คุณเห็นว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงต้องสูง แต่ใน ‘ยอดหญิงชิงโอลิมปิค’ ตั้งแต่ตัวนำไปจนถึงตัวประกอบ ผู้หญิงทุกคนสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร แต่เมื่อคุณดูในทีวี คุณคิดว่าพวกเธอเตี้ยไหม?”
หลินม่ายคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายศีรษะ “ไม่ค่ะ”
ผู้อำนวยการอิ่นยิ้ม “ผู้หญิงขาสั้นพวกนั้นสามารถเล่นวอลเลย์บอลได้ แต่คุณสูงถึงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ไม่สามารถเป็นนางแบบได้เหรอเลยเหรอ? ตราบใดที่เลือกมุมได้ดี ขาที่เคยสั้นก็จะยาวขึ้น”
คำพูดของผู้กำกับอิ่นทำให้หลินม่ายมีความมั่นใจอย่างมาก และเธอก็พยักหน้าตกลงที่จะถ่ายทำวีดีโอประกอบเพลง
มันเป็นเพียงวิดีโอสั้น ๆ ไม่ถึงห้านาที ทีมงานทุกคนเป็นมืออาชีพ ดังนั้นการดำเนินการจึงรวดเร็วมาก
ผู้เขียนบทเขียนบทเสร็จสิ้นตามการเขียนโฆษณาของหลินม่ายภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ผู้กำกับใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อสรุปการแสดงของกลุ่ม จากนั้นจึงเริ่มถ่ายทำ
สิ่งที่ผู้กำกับกังวลที่สุดคือ หลินม่ายไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพและไม่มีประสบการณ์ในการแสดงเลย ทำให้การถ่ายทำดำเนินไปได้ยาก
แต่ไม่นานเธอก็แสดงได้ดีและตีบทแตกในทุกฉาก
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง วีดีโอประกอบเพลงก็ถูกถ่ายทำและเข้าสู่ขั้นตอนการตัดต่อ
หลินม่ายไม่ได้ออกไปดูเจ้าหน้าที่ตัดต่อ
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง การตัดต่อก็เสร็จสิ้น และเพลงก็สมบูรณ์แบบ
ขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มและได้เวลาอาหารเย็นแล้ว
ผู้อำนวยการอิ่นจะโทรไปยังโรงอาหารเพื่อขอให้พวกเขาจัดส่งอาหารแบบกล่อง และเชิญหลินม่ายให้ร่วมกันรับประทานอาหารอย่างอบอุ่น
แต่หลินม่ายโบกมือและเชิญทุกคนไปรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีเกียรติ
ฝูงชนต่างโห่ร้อง
ใครบ้างจะไม่มีความสุขที่จะได้กินอาหารเย็นที่ร้านอาหารชั้นดี
คนกลุ่มหนึ่งออกจากสถานีโทรทัศน์อย่างทุลักทุเล
เมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่ายยังคงจอดอยู่กับที่
หลินม่ายวิ่งเหยาะ ๆ ไปที่ด้านหน้ารถเมอร์เซเดส-เบนซ์ทันที และบอกฟางจั๋วหรานที่กำลังรอเธออยู่
เธอขอให้เขาไปยังร้านหงหลายซ่วนเพื่อจองโต๊ะก่อน ส่วนเธอและผู้อำนวยการอิ่นจะตามไปในภายหลัง
ฟางจั๋วหรานยื่นมือออกไปจัดระเบียบผ้าพันคอรอบคอของเธอก่อนจะขับรถออกไป
ผู้อำนวยการอิ่นรู้ว่าหลินม่ายร่ำรวย แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะร่ำรวยถึงขนาดขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้
เจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ทำได้เพียงตกตะลึง
คนกลุ่มหนึ่งเดินไปที่ร้านอาหารหงหลายซ่วนและบริกรก็นำพวกเขาไปยังห้องส่วนตัวที่ฟางจั๋วหรานจองไว้
หลินม่ายแนะนำฟางจั๋วหรานให้ทุกคนรู้จัก
ทุกคนมีความรู้สึกที่หลากหลายจนบอกไม่ถูก
นี่คือความแตกต่างระหว่างเธอและพวกเขา
เหล่าหญิงสาวคิดทันทีว่าหากได้เห็นชายที่โดดเด่นเช่นนี้เมื่อใด พวกเธอจะคว้าไว้และแต่งงานกับเขาทันที ไม่ปล่อยให้จากไปไหน
แต่ในบรรดาหญิงสาวเหล่านั้นจะมีสักกี่คนที่ทำเช่นนั้นได้?
แม้หลินม่ายและฟางจั๋วหรานจะทักทายทุกคนที่โต๊ะอาหารอย่างอบอุ่น แต่บรรยากาศค่อนข้างกร่อยเพราะสองสามีภรรยาแทบจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์
สิ่งนี้ทำให้หลินม่ายนึกถึงเสี่ยวหม่าน ผู้หญิงคนนั้นดื่มได้เยอะมาก
หากมีหล่อนอยู่ที่โต๊ะอาหารมื้อนี้ บรรยากาศคงจะสนุกสนานไม่น้อย
เมื่อทุกคนรับประทานอาหารจนอิ่มหน่ำก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว
หลังจากส่งผู้อำนวยการอิ่นและคนอื่น ๆ ที่ทางเข้าร้านอาหารแล้ว ฟางจั๋วหรานและหลินม่ายก็ขับรถกลับบ้าน
โต้วโต้วหลับไปแล้ว แต่คุณปู่ฟางและภรรยาของเขายังคงดูทีวีรอพวกเขาอยู่
คุณย่าฟางถามถึงสาเหตุที่พวกเขากลับบ้านดึกก่อนจะหันไปดูทีวีต่อ
เดิมทีบ้านของหลินม่ายเป็นที่ประทับของเจ้าชายองค์หนึ่งในสมัยราชวงศ์ชิง และมีมังกรดิน(1)มากมาย
ในฤดูหนาว มังกรดินจะมีไอร้อนเคลื่อนผ่านอยู่ตลอด ทำให้บ้านอบอุ่นมาก
แต่ห้องสุขาและห้องอาบน้ำในบ้านได้รับการต่อเติมโดยหลินม่ายในภายหลัง ดังนั้นจึงไม่มีมังกรดินอยู่
ดังนั้นภายในห้องน้ำจึงเย็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อยามอาบน้ำในตอนกลางคืน
เมื่ออยู่ในจุดที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ จึงต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำ
ในที่สุดหลินม่ายก็เข้าใจว่าคนในเมืองทางตอนเหนือบางแห่งอาบน้ำในฤดูหนาวเพียงยามเช้าเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะอากาศหนาวเกินไป
แม้จะเทน้ำร้อนเดือดจัดลงในอ่าง มันก็จะเย็นอย่างรวดเร็ว
การอาบน้ำในฤดูหนาวถือเป็นเรื่องทุกข์ทรมานอย่างมาก หากผู้ที่มีสุขภาพไม่ดีอาบน้ำในฤดูนี้ก็อาจป่วยหนักได้
หลินม่ายมาจากเจียงเฉิงและคุ้นเคยกับการอาบน้ำทุกวัน แม้จะเป็นวันที่อากาศหนาวเย็น เพราะการนอนโดยไม่อาบน้ำก็เป็นเรื่องที่น่าอึดอัด
เช่นเดียวกับที่หลู่ซวิ่นเกลียดพายุทรายในเมืองหลวง แต่เขายังสามารถอาศัยอยู่ในเมืองหลวงได้ตลอดเวลา
ฟางจั๋วหรานไม่ต้องการให้เธอนอนหลับไปด้วยความอึดอัด แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เธออาบน้ำอย่างทรมาน
ดังนั้นเขาจึงจุดเตาขนาดใหญ่ในห้องน้ำ และเมื่ออุณหภูมิภายในสูงขึ้นจึงเรียกหลินม่ายไปอาบน้ำ
แต่หลังจากหลินม่ายเข้าไปกว่าครึ่งชั่วโมง เธอก็ยังไม่ออก
ฟางจั๋วหรานรู้สึกใจไม่ดี เธอได้รับแก๊สพิษจนหมดสติไปแล้วหรือ?
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็วิ่งไปที่ห้องน้ำแล้วเคาะประตู
จากนั้นเขาจึงเห็นหลินม่ายเพิ่งลุกออกมาจากอ่างอาบน้ำ เปลือยกายเหมือนดอกลิลลี่ที่เปียกฝน สดชื่นและสวยงาม
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ฟางจั๋วหรานก็อดไม่ได้ที่จะมีเลือดกำเดาไหล
เขาเดินเข้าไปกอดหลินม่าย“คุณกำลังยั่วยวนผม”
ค่ำคืนแห่งนี้ ห้องนอนของเราช่างน่านอนยิ่งนัก
………………………………………………………………………………………………………………………….
地龙 ในที่นี้หมายถึงนวัตกรรมอุ่นบ้านในฤดูหนาวของจีน ลักษณะเป็นท่อนำความร้อนฝังอยู่ใต้ดินของตัวบ้าน ปลายด้านหนึ่งต่อไปยังเตาไฟ เมื่อมีการจุดเตา ไอร้อนจากเตาก็จะเคลื่อนไปตามท่อเหล่านี้ ทำให้ภายในบ้านอบอุ่นอยู่ตลอด
สารจากผู้แปล
ม่ายจื่อเป็นทุกอย่างแล้วจริงๆ ล่าสุดเป็นนางเอกเอ็มวีแล้ว
นี่คือแผนของพี่หมอในการกินม่ายจื่อหรือเปล่าคะ
ไหหม่า(海馬)