บทที่ 677 ภาพร่างหลี่จิ่วเต้าปรากฏ มวยไทเก๊กกำราบทุกสิ่ง!
ผู้คุมนักโทษยืนตระหง่านอยู่บนนภา วังวนอันน่าพรั่นพรึงเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง มันมีสีหน้าเย็นชา มิใช่เผ่ามนุษย์ และมิใช่สัตว์อสูร แต่เป็นต่างเผ่าที่แตกต่าง
ตัวมันสูงหลายสิบจั้ง เนื้อกายเป็นสีเงินยวง เปล่งประกายระยิบระยับคล้ายเป็นโลหะ บนหลังมีแปดปีก นัยน์ตาปราศจากอารมณ์ความรู้สึก จนชวนให้หวั่นใจโดยไม่รู้ตัว
เสียงดัง ‘ฟึ่บ!’ เมื่อมันยกมือเรียกคทาด้ามหนึ่งซึ่งมีหินผลึกสีฟ้าเม็ดหนึ่งฝังไว้ออกมา แล้วลงมือกำราบ
หน้าที่ของมันคือพิทักษ์ดินแดนนี้ มันไม่มีทางปล่อยให้เส้นทางโบราณทะลวงหายไปง่าย ๆ
หินผลึกสีฟ้าบนคทาด้ามนั้นเปล่งแสง กฎระเบียบพิเศษบางอย่างโลดแล่น สร้างการเชื่อมต่อกับดินแดนนี้ พลังทั้งหมดในซากปริภูมิเวลาเดือดพล่านขึ้นมา!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
พลังมหาศาลถล่มลงมาราวกับทำนบบนนภาแตก พลังที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายผนึกกำลังโจมตีเส้นทางโบราณดูเล็กน้อยดั่งน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเมื่อเทียบกับพลังเหล่านี้ มันจึงไม่ควรค่าแก่การพูดถึงสักนิด
ตราประทับปะทุ พลังหลั่งไหลออกมากลายเป็นลำแสง น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก ลำแสงทะลวงผ่านพลังมหาศาลนั้นแล้วปราดไปหาผู้คุมนักโทษ
ผู้คุมนักโทษหาใช่พวกดาษดื่น ปฏิภาณไหวพริบดีเยี่ยม เคลื่อนร่างอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีจากลำแสงนี้
ทว่ามันก็ยังได้รับแรงกระเทือน ถูกสะบั้นไปครึ่งร่าง ของเหลวคล้ายโลหะสีเงินหลั่งไหลออกมา
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในซากปริภูมิเวลาต่างสูดปาก ขนลุกขนชัน หัวใจสะท้าน อักษรภาพนั้นน่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง?
หากมิใช่ว่าไหวพริบดี หลบหลีกได้ทันท่วงที น่ากลัวว่าผู้คุมนักโทษซึ่งเปรียบเสมือนผู้บงการในซากปริภูมิเวลานี้คงถูกลำแสงสายนั้นสังหารไปแล้วในชั่วอึดใจ!
ผู้คุมนักโทษเองก็ตกตะลึง หน้าตาหวาดผวา คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอกับสถานการณ์ตึงมือเช่นนี้ มันยังสามารถกำราบไหวอยู่หรือ?
มันไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย!
บาดแผลบนร่างกายของมันมีกฎระเบียบสยดสยองว่ายเวียน มันไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ เพราะพลังกฎระเบียบนี้ขวางกั้นพลังของมันทั้งหมด
สถานการณ์ย่ำแย่มาก เส้นทางโบราณมิใช่สิ่งที่มันกำราบไหว
แต่มันไม่มีทางยอมแพ้เท่านี้ เส้นทางโบราณจะจากไปง่าย ๆ เช่นนี้มิได้!
ปริภูมิเวลาเป็นสมบัติจำเพาะของพวกมัน มีเพียงพวกมันเท่านั้นที่สามารถทะลุทะลวงฝ่าปริภูมิเวลาได้ตามใจชอบ สิ่งมีชีวิตตนอื่นไม่มีสิทธิ์นั้น หากมีสิ่งมีชีวิตตนอื่นหาญกล้าผ่านทะลวงในปริภูมิเวลา ย่อมต้องถูกพวกมันลงทัณฑ์!
สิ่งมีชีวิตในซากแห่งนี้ล้วนถูกพวกมันจับมาที่นี่เพราะเดินทางข้ามปริภูมิเวลา จึงถูกขังเอาไว้
พวกมันไม่มีทางอนุญาตให้สิ่งมีชีวิตตนอื่นก้าวก่ายปริภูมิเวลา ปริภูมิเวลาเป็นของพวกมันเพียงฝ่ายเดียว!
“จงตื่น!”
มันคำรามลั่น โยนไม้คทาขึ้นฟ้า จากนั้นพลันมีพลังหลั่งไหลออกมาจากหินผลึกสีฟ้าบนไม้คทา คลื่นพลังพิเศษบางอย่างซัดสาดออกไปอย่างรวดเร็ว แทรกซึมเข้าไปในปริภูมิเวลาต่าง ๆ เพื่อส่งข้อมูล
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ลมหายใจต่อมา เสียงระเบิดสยดสยองดังอยู่ทั่วทั้งซากปริภูมิ สมาชิกที่นิทราอยู่ในที่แห่งนี้ตื่นขึ้นทั้งหมด ที่นี่มิได้มีผู้คุมนักโทษดูแลอยู่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ที่นี่มีสมาชิกนับร้อย บัดนี้ก้าวออกมากันถ้วนหน้า จ้าวแห่งเรือนจำก็ตื่นขึ้นในทันใด และมายังที่นี่
ทว่ายังไม่จบเพียงเท่านี้ บนนภาเหนือซากปริภูมิเวลา มีสายธารแห่งปริภูมิเวลาไหลหลากปรากฏขึ้นสายแล้วสายเล่า สิ่งมีชีวิตต่างเผ่านับพันนับหมื่นกระโจนออกจากสายธารแห่งปริภูมิเวลา
พลังปราณของพวกมันทุกตนล้วนสยดสยองน่ากลัว แข็งแกร่งกว่าผู้คุมนักโทษกันทั้งสิ้น พวกมันสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่ระเบิดออกมาจากไม้คทา จึงฝ่าเข้ามาจากปริภูมิเวลาต่าง ๆ เพื่อเป็นกองหนุน
และท่ามกลางสิ่งมีชีวิตทุกตน ภาพร่างมโหฬารภาพหนึ่งลอยออกมา เป็นราชันแห่งปริภูมิเวลาจุติลงมาเป็นกองหนุนที่นี่ด้วยตนเอง
ลำแสงนับล้านเปล่งจากตัวมัน ขอบเขตพลังสูงถึงขั้นเกินหยั่ง สถานะของมันสูงส่ง กำลังรบไร้ขีดจำกัด!
การที่คทาปะทุบ่งบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ สิ่งมีชีวิตทุกตนที่สัมผัสได้ล้วนต้องเดินทางมาช่วยเหลือ นี่คือกฎของพวกมัน
ราชันตนหนึ่งมาด้วยตนเอง!
รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของผู้คุมนักโทษ คราวนี้ไม่มีอันใดต้องเป็นห่วงแล้ว ไม่มีทางเกิดเรื่องไม่คาดคิดอื่นใดอีก เส้นทางโบราณต้องถูกกำราบลง
“ราชันเย่!”
บรรดาสมาชิกอย่างผู้คุมนักโทษคุกเข่าคำนับราชันผู้นี้ทันที ฐานะราชันสูงส่งกว่าพวกมันมากนัก
ราชันเย่พยักหน้าเบาเป็นการตอบรับ
มันน่าสะพรึงมากจริง ๆ ขณะที่กะพริบตา ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่แวบพาดผ่านดวงตาของมันไปอย่างรวดเร็ว
เพียงครู่เดียว มันก็รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นในที่แห่งนี้
เสียงดังตู้ม มือใหญ่ของมันกดทับลงบนเส้นทางโบราณ กฎแห่งปริภูมิเวลาเคลื่อนทะยาน พลังน่ากลัวมากมายกระหน่ำออกมา หยุดยั้งเส้นทางโบราณที่แผ่ขยายอยู่
แสงสว่างทะลักออกจากเส้นทางโบราณ ทว่าไม่นานก็ถูกกำราบ
“ฆ่า!”
จ้าวแห่งเรือนจำตะโกนลั่น บุกเข้าไปทันที สมาชิกนับพันนับหมื่นตามหลังมันไป ยกทัพบุกเข้าไปถ้วนหน้า!
สถานการณ์นี้ทำเอาสิ่งมีชีวิตในซากปริภูมิเวลาตกตะลึงกันหมด พวกมันเคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ที่ไหน?
ต่อให้พวกมันมาจากจักรวาลอันอัศจรรย์ ก็มิเคยพบเห็นภาพการณ์น่าประหวั่นพรั่นพรึงเช่นนี้มาก่อน ในบรรดาสมาชิกที่บุกสังหารไปยังเส้นทางโบราณ แม้แต่สมาชิกระดับต่ำที่สุดยังพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินในจักรวาลโกลาหลที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ ยากจะมีสิ่งมีชีวิตตนใดสกัดไว้
จ้าวแห่งเรือนจำยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ เป็นตัวตนระดับผู้บงการได้แน่นอน หากได้เดินทางไปยังจักรวาลโกลาหลที่พวกเขาอยู่ ย่อมกำราบได้ทุกสิ่ง
ส่วนราชันเย่ผู้นั้นเกินจะจินตนาการได้ เขาอยู่ในขอบเขตไหนกัน พวกเขาจับสัมผัสไม่ได้เลย บางทีคงเหนือกว่าระดับความเข้าใจของพวกเขาไปไกลแล้วกระมัง
ยามนี้ พวกเขาต่างหวาดผวา เบื้องหลังพวกราชันเย่ต้องเป็นกองกำลังเช่นไรกัน พวกเขารู้สึกว่าราชันเย่มิใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุด เบื้องหลังของเขาต้องมีกำลังรบน่ากลัวยิ่งกว่านี้อยู่เป็นแน่
บนเส้นทางโบราณ อาจารย์ของจักรพรรดินีร่างสั่นเทิ้มไปทั้งตัว แม้ว่าในเส้นทางโบราณจะมีม่านพลังขวางกั้นคลื่นพลังปราณที่หลั่งไหลอยู่ด้านนอก พวกนางที่อยู่ภายในไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่ยามนางได้เห็นภาพเช่นนี้ ก็ยังอดกลัวมิได้ นี่คือความกลัวซึ่งถือกำเนิดจากส่วนลึกของดวงวิญญาณ มิได้เกี่ยวข้องกับแรงกดดันอันใด
“ท่านอาจารย์ ไม่ต้องกลัว เราจะไม่เป็นไร”
จักรพรรดินีเดินเข้าไปอยู่ข้างกายอาจารย์ของนาง จับมืออาจารย์ของนางไว้ พร้อมเอ่ยเสียงจริงจัง “เราต้องรอดกลับไปได้แน่!”
หลังจากจักรพรรดินีจับมือของนางไว้ ร่างที่สั่นเทิ้มของอาจารย์จักรพรรดินีก็หยุดลง
นางมองจักรพรรดินี เอ่ยเสียงอ่อนนุ่ม “ข้าไม่กลัวแล้ว!”
จ้าวแห่งเรือนจำนำทัพสมาชิกนับพันนับหมื่นบุกเข้ามา ต้องเป็นภาพการณ์น่าพรั่นพรึงระดับใดกัน การโจมตีอันน่ากลัวท่วมท้นนภา ทว่าในแววตาจักรพรรดินีกับหยวนอีต่างปราศจากความกลัว
ไม่มีอันใดต้องกลัว พวกนางต่างมั่นใจในตัวคุณชาย คุณชายไม่มีต้องให้ร้ายพวกนางแน่!
และอาจารย์ของจักรพรรดินีก็มิได้กลัวอีกต่อไป นางจับมือจักรพรรดินี มองการโจมตีท่วมท้นนภาที่กระหน่ำลงมาใส่พวกนางด้วยสีหน้าราบเรียบ
ฟึ่บ!
เวลานั้นเอง แสงสว่างแยงตายิ่งกว่าพวยพุ่งออกจากตราประทับ ข้ามผ่านเส้นทางโบราณ ทะยานขึ้นนภา
จากนั้นกฎระเบียบสูงส่งเคลื่อนไปตามแสงสว่าง กฎระเบียบระดับนี้แม้กระทั่งราชันเย่ยังต้องตาค้าง!
ท่ามกลางแสงสว่างอันเจิดจ้า ภาพร่างหนึ่งค่อย ๆ หลอมรวมขึ้น เป็นภาพร่างวัยเยาว์ รูปร่างพร่าเลือน พอจะมองเห็นได้อยู่บ้างว่ามีรูปโฉมอย่างไร
“คุณชาย!”
จักรพรรดินีกับหยวนอีตาลุกวาวกันในบัดดล แม้ว่าภาพร่างนี้ดูวัยเยาว์ กระนั้นพวกนางยังจำได้ในพริบตาว่านั่นคือร่างของคุณชาย!
ภาพร่างคุณชายปรากฏ ณ ที่แห่งนี้ พวกนางยิ่งไม่เหลือสิ่งใดให้กังวล วางใจได้สนิท
ช่วยไม่ได้ พวกนางมั่นใจในตัวคุณชายเต็มร้อย!
“แกล้งหลอกผีอยู่ได้ ข้าขอดูทีเถิดว่าเจ้าเป็นใคร!”
ราชันเย่ตวาดเสียงเย็น นัยน์ตาส่องประกาย กฎแห่งปริภูมิเวลาอันน่ากลัวโลดแล่นอยู่ในนั้น มันจ้องมองภาพร่างของหลี่จิ่วเต้า หมายจะไล่ย้อนกลับไปยังแก่นกำเนิด
เสียงดังตึง จู่ ๆ ร่างมันก็สั่นไหวอย่างหนักจนเกือบล้มหัวคะมำ เกิดอุบัติเหตุกับมันยามไล่ย้อนแก่นกำเนิดของหลี่จิ่วเต้า จนเกือบต้องสิ้นชีพ!
ยังดีที่มันมีไหวพริบดีพอ เมื่อรับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากล ก็ถอนกำลังกลับอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงพลังกลับทั้งหมด
มันตกใจแทบแย่ ความกลัวอันไร้ขอบเขตปรากฏในใจ ด้วยพลังระดับมัน การไล่ย้อนไปถึงแก่นกำเนิดควรเป็นเรื่องง่ายดาย มันสามารถปรับห้วงเวลาได้ตามต้องการ
ทว่ามันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ยังไม่ทันได้ไล่ย้อนอย่างเป็นทางการ ก็มีอันตรายถึงชีวิต สร้างความตื่นตระหนกแก่มันอย่างมาก!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าของภาพร่างนี้เก่งกาจจนไม่อาจวัดได้!
มันมิได้ลังเล คิดจะเรียกยอดฝีมือผู้ทรงพลังยิ่งกว่าเข้ามาช่วย มันรู้สึกว่าตัวมันคงมิใช่คู่ต่อสู้ของภาพร่างนั้น กลัวจะเกิดเรื่อง!
“ถูกผนึกไว้หมดแล้ว!”
สีหน้าของมันมืดมน ย่ำแย่ถึงขีดสุด
พื้นที่แห่งนี้ถูกผนึกไว้จนสิ้น ไม่ว่าพลังใดล้วนมิอาจส่งออกไปได้ รวมถึงปริภูมิเวลาก็ด้วย มันไม่สามารถเรียกกำลังเสริมจากภายนอกมาได้
อีกด้าน ภาพร่างนั้นขยับ
เขาหายตัวออกจากที่แห่งนี้ เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง ก็มาอยู่ท่ามกลางเหล่าสมาชิกอย่างจ้าวแห่งเรือนจำ คล้ายว่ากำลังรำกระบวนท่ามวย เชื่องช้าอย่างยิ่งยวด อีกทั้งยังดูจะมีช่องโหว่มากมาย ไร้ซึ่งพละกำลัง
ทว่าทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นภายนอกเท่านั้น ความจริงมิใช่เช่นนั้นเลย!
ชั่วขณะที่เขาต่อยมวย สิ่งมีชีวิตถูกซัดกระเด็นออกไปมหาศาล กระอักเลือดออกจากปากไม่หยุด ร่วงหล่นลงไปกันถ้วนหน้า ไม่เหลือพลังจะต่อสู้ได้อีก
จ้าวแห่งเรือนจำบุกเข้ามา แข็งแกร่งกว่าสมาชิกตนอื่นตั้งไม่รู้เท่าใด ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าภาพร่างนี้ จ้าวแห่งเรือนจำอ่อนปวกเปียกไม่อาจต้านได้แม้แต่การโจมตีเดียว!
พรวด!
เลือดเนื้อสาดกระจาย หมัดที่ดูนุ่มนวลไร้กำลังแรง แต่เมื่อซัดกระทบตัวจ้าวแห่งเรือนจำ กลับน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอสนีบาต ร่างของจ้าวแห่งเรือนจำแหลกสลายในบัดดล ไม่มีกำลังจะตอบโต้แม้แต่น้อย!
เมื่อราชันเย่ได้เห็นภาพนี้ ก็สั่นไปทั้งขา ตัวมันมีขอบเขตพลังสูงส่ง มองเห็นหลายอย่างจากหมัดที่ร่างนั้นซัดออกมา
นี่…วิชามวยอันใดกัน?
มันตั้งสมาธิต่อสู้ไม่ได้เลย น่ากลัวเกินไป ไม่สงสัยเลยว่าต่อให้เป็นมันที่บุกเข้าไปก็ไม่อาจต้านทานหมัดนี้ได้
ทว่าเรื่องนี้มันมิอาจเป็นฝ่ายกำหนด
กระบวนท่ามวยถูกสำแดงออกมา พลังแปลกประหลาดบางอย่างดึงมันเข้ามา มันจำต้องรับศึก
“อ๊ากกกก!”
มันคำรามเสียงต่ำ เปล่งประกายเจิดจ้าทะลุนภา แผลงฤทธิ์เดชทุกอย่าง มิกล้ากักเก็บพลังเลยสักนิด
แต่ก็ยังไร้ประโยชน์
มันถูกกระเทือนจนกระเด็นออกไป เลือดเนื้อระเบิดออก สูญเสียพลังจะต่อสู้ได้อีก!
เวลานี้ ภาพร่างของหลี่จิ่วเต้าเก็บหมัด ย่างกลับไปยังเส้นทางโบราณในก้าวเดียว
จากนั้นเขาก็กระทืบเท้าเบา ๆ
ชั่วพริบตาเดียว พลังมหาศาลปะทุออกมาจากเส้นทางโบราณ ทะลวงซากปริภูมิเวลาแห่งนี้ออกไป ก่อร่างเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับยุคปัจจุบัน!
“ไป!”
พวกจักรพรรดินีรุดหน้าไปตามเส้นทางโบราณ ร่างของพวกนางค่อย ๆ หายลับจากที่แห่งนี้
เส้นทางโบราณก็ค่อย ๆ หายลับตาไป
ทว่าขณะที่เส้นทางโบราณกำลังจะหายจากซากปริภูมิเวลา เงาร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามารั้งท้ายเส้นทางโบราณ จนออกไปจากซากปริภูมิเวลาได้
“สำเร็จ!”
เขาพึมพำกับตัวเองเสียงเบา ความตื่นเต้นในน้ำเสียงปิดไว้ไม่มิด