การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 15 พบกันใหม่(รีไรท์)

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 15 พบกันใหม่(รีไรท์)

บทที่ 15 พบกันใหม่(รีไรท์)

เมื่อเห็นท่าทีที่พึงพอใจของถังซวง เฉินกวงหยางก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ฉันไม่รู้ว่าเธอมาจากที่ไหน แต่ในอนาคตเราจะทำธุระกิจร่วมกันอีกได้ไหม?”

ถังซวงไม่ตอบคำถามนี้เมื่อเธอได้ยิน และเพียงพูดเบา ๆ ว่า “ในอนาคต ฉันจะมาหาเองถ้าฉันต้องการ ฉันยังมีอะไรต้องทำอีก เพราะงั้นฉันขอตัวก่อนนะ” เมื่อเธอรับเงินกับคูปอง เธอก็ออกจากตลาดมืดทันที แต่ไม่นานหลังจากที่เธอออกมาก็มีใครบางคนตามมา

“เฮ้อ… เงินมันหาไม่ง่ายเลยจริง ๆ”

หลังจากที่ถังซวงสังเกตเห็นใครบางคน เธอก็เดินเร็วขึ้นและเร็วขึ้น และหายไปในพริบตา

“หายไปไหนแล้ว?”

เมื่อเห็นว่าถังซวงหายตัวไป คนสองคนที่ติดตามเธออยู่ก็หัวเสียมาก ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปก่อน

เมื่อเฉินกวงหยางเห็นคนสองคนที่กลับมา เขาก็ยิ้มและพูดว่า “พวกนายทำเธอคลาดสายตาเหรอ?”

“พี่เฉิน พูดถูกจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เธอรู้ตัวว่าเราตามอยู่แล้วเธอก็หายไปในทันที เราค้นหาสถานที่ใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่พบเลย”

เฉินกวงหยางชำเลืองมองทั้งสองเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้นและพูดว่า “ฉันพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่จำเป็นต้องตามใกล้เกินไป แต่นายไม่ฟัง เฮ้อ มันเป็นความผิดของฉันเองแหละ ฉันอยากรู้ว่าเธอมาจากที่ไหนเพื่อที่ฉันจะได้ติดต่อเธอได้ในอนาคต ลืมมันไปซะเถอะ ตอนนี้เราทำได้เพียงรอให้เธอมาหาเราอย่างเดียวแล้วล่ะ”

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ถังซวงสลัดคนออกไป เธอรีบไปหลบในมุมหลืบ เปลี่ยนชุดกลับไปเป็นเหมือนเดิม และเปลี่ยนจากหญิงวัยกลางคนกลับไปเป็นหญิงสาวผอมแห้งเหมือนเดิม “เอาล่ะ ตอนนี้ก็ไปที่สหกรณ์และตลาดเพื่อซื้อของ”

แม้ว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างในพื้นที่มิติ แต่มันก็ไม่มีสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันที่เหมาะกับยุคนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องซื้อใหม่ แต่ถังซวงเพิ่งหมุนตัวเท่านั้น เธอก็ได้ยินใครบางคนเรียกชื่อของเธอ

“ถังซวง…”

เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มรูปงามไม่มีใครเทียบได้ตรงหน้า ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น “นายเองเหรอ โม่เจ๋อหยวน” รูปร่างหน้าตาของชายคนนี้ยากที่จะลืมเลือนในเวลาอันสั้น ดังนั้นถังซวงจึงจำชื่อของเขาได้ แต่วันนี้โม่เจ๋อหยวนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำ รูปลักษณ์ที่สง่างามและหล่อเหลาของเขาก็น่ามองมากยิ่งขึ้น

เมื่อโม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงเรียกชื่อเขา ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ดูเหมือนว่าเธอยังจำฉันได้นะ ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเธอที่ช่วยชีวิตฉันในตอนนั้นเลย”

ถังซวงโบกมือเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และพูดว่า “คนสองคนนั้นต้องการหาเรื่องฉัน ฉันเลยจัดการ ไม่ใช่เพื่อช่วยนาย ดังนั้นอย่าพูดถึงบุญคุณเลย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนก็หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ยังไงก็ต้องขอบคุณ หรือไม่ก็…”

ก่อนที่โม่เจ๋อหยวนจะพูดจบ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เข้ามา “เจ๋อหยวน นายมาทำอะไรที่นี่?”

โม่เจ๋อหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่กำลังมา “คุณลุง ทำไมคุณลุงมาอยู่ที่นี่ละ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินหมิงซู่ก็ตอบออกไปตามตรง “ฉันมาทำธุรกิจ และบังเอิญเจอนายน่ะ” จากนั้นเขาก็มองไปที่ถังซวงอย่างอยากรู้อยากเห็น

“เจ๋อหยวน นี่คือใครน่ะ?”

“คุณลุง ที่ผมเล่าให้ฟังไงว่ามีคนช่วยชีวิตผมไว้ เป็นเด็กผู้หญิงคนนี้แหละ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหลินหมิงซู่ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เธอนี่เอง ถังซวงคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้” เขากล่าวและขอบคุณถังซวงอย่างรีบร้อน

ถังซวงพูดอีกครั้งว่า “ไม่เป็นไรจริง ๆ ฉันทำเพื่อตัวเองด้วย”

หลินหมิงซู่ยิ้มและพูดว่า “ไม่ว่ายังไง เธอก็ช่วยเจ๋อหยวนไว้ ตอนนี้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว คุณถังไปกินข้าวที่ร้านอาหารของรัฐด้วยกันเถอะ ถือเป็นคำขอบคุณของเรา”

ถังซวงกำลังจะปฏิเสธ แต่ท้องของเธอร้องต่อต้านเธอ เธอจึงต้องตอบเพียงว่า “ตกลงค่ะ ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วคราวหน้าอย่าพูดถึงมันอีกนะ”

“ได้ ๆ”

เมื่อเห็นความใจดีและความตรงไปตรงมาของถังซวง ความประทับใจของหลินหมิงซู่ที่มีต่อเธอก็มากยิ่งขึ้น

เมื่อทั้งสามคนมาถึงร้านอาหารของรัฐ พวกเขาพบว่าอาหารวันนี้ไม่แย่เลย มีทั้งหมูตุ๋น หมูผัดกระเทียม ตุ๋นสามรส ปลากะพงนึ่ง และผัดผัก หลินหมิงซู่สั่งส่วนหนึ่งของอาหารทั้งหมด

“ถังซวง ไม่ต้องเกรงใจ กินเยอะ ๆ เลย”

“ค่ะ”

อาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่ดีที่สุดที่ถังซวงเคยกินตั้งแต่เธอมาที่นี่ ดังนั้นเธอจึงไม่เกรงใจและกินมันทันที

โม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงกำลังกินอยู่ก็กินบ้าง

ในตอนแรก หลินหมิงซู่กังวลว่าจะมีอาหารมากเกินไป สำหรับเขาแค่ชามเดียวก็เต็มอิ่มแล้ว แต่สุดท้ายเมื่อเขาเห็นว่าถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนกินข้าวหมดชามแล้วและต้องการกินต่อชามที่สอง เขาก็เร่งการเคลื่อนไหวมือของตัวเองอย่างรวดเร็วเช่นกัน สาวน้อยถังซวงดูผอมและตัวเล็ก แต่ไม่คิดว่าจะกินเก่งพอ ๆ กับเจ๋อหยวนเลย

ในที่สุดทั้งสามก็กินข้าวจนหมด

“ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ ฉันต้องขอตัวก่อน”

ถังซวงอิ่มและพร้อมที่จะไปซื้อของแล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนรีบยืนขึ้นและพูดว่า “ฉันรู้จักตำบลนี้เป็นอย่างดี เธอต้องการให้ฉันไปด้วยไหม?”

ถังซวงส่ายหัวของเธอโดยตรงและพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ฉันแค่ไปที่สหกรณ์กับตลาดเพื่อซื้อของบางอย่างน่ะ เพราะงั้นฉันจะออกไปก่อนนะ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ถังซวงพูด โม่เจ๋อหยวนก็ไม่ยืนกรานอีกต่อไป เขารีบหยิบปากกาและกระดาษออกมาจากกระเป๋า เขียนที่อยู่และส่งให้กับถังซวง “นี่คือที่อยู่ของลุงฉันและฉันในตำบลนี้ ถ้าเธอต้องการอะไร มาหาเราได้เลยนะ”

ถังซวงคิดอยู่ครู่หนึ่งและรับที่อยู่จากโม่เจ๋อหยวน

“ตกลง”

เมื่อมองไปยังด้านหลังของถังซวงที่จากไป หลินหมิงซู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “อนาคตของเด็กสาวคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ เธอดูไม่เหมือนเด็กสาวจากหมู่บ้านเลยสักนิด” จากนั้นเขาก็ถามอีกครั้ง “นายเคยบอกว่าเธอแข็งแกร่งมาก งั้นเธอก็เก่งกว่านายด้วยเหรอ?”

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้ายืนยัน

“ครับ เก่งกว่าผมอีก”

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ขาดความโหดเหี้ยม แต่การเคลื่อนไหวของถังซวงสามารถฆ่าคนได้ หากทั้งสองต่อสู้กัน เขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออย่างแน่นอน

หลินหมิงซู่พูดด้วยความเหลือเชื่อ “มันเหลือเชื่อจริง ๆ สาวน้อยคนนี้แข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว”

เมื่อเขานึกถึงปัญหาที่หลานชายของเขาพบครั้งก่อน ใบหน้าของหลินหมิงซู่ดูไม่ค่อยดีนัก “สองคนนั้นสารภาพแล้วว่าโดนจ้างวานมาจากคนตระกูลหลู อืม…ผู้คนในตำบลต่างคิดว่ากระแสลมในตำบลแปลกไป ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ประโยชน์จากมัน ก่อนที่ตระกูลโมของนายจะกลับไป เราต้องโจมตีก่อน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ความมืดก็ครอบงำนัยน์ตาของโม่เจ๋อหยวน

“คุณลุง คราวที่แล้วผมก็ประมาทไปเหมือนกัน ผมไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในเงามืดอีกหลังจากที่ผมจัดการพวกนั้นไปแล้ว ตระกูลหลูต้องชดใช้สำหรับเรื่องนี้”

“ตกลง”

ในทางกลับกัน หลังจากที่ถังซวงมาถึงสหกรณ์และตลาด เธอก็ซื้อกระติกน้ำร้อน อ่างล้างหน้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ และของใช้บนโต๊ะอาหาร และหม้อเหล็กด้วยคูปอง ซื้อตะกร้าแบกหลังขนาดใหญ่เพื่อเก็บสิ่งของต่าง ๆ ด้วย และสิ่งเหล่านี้มีราคารวมเจ็ดสิบแปดหยวน กับอีกห้าสิบเหมา

หลังจากซื้อของแล้ว ถังซวงก็ตรงกลับไปที่หมู่บ้านเถาฮวา

เมื่อเธอกำลังจะกลับถึงบ้าน เธอหยิบข้าวยี่สิบจิน แป้งยี่สิบจิน บะหมี่สิบจิน และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ออกจากพื้นที่มิติ ทั้งยังเอาน้ำมันปรุงอาหารและน้ำตาลออกมาด้วย ในเมื่อมีของกินมากมาย เธอก็ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว ไม่ต้องพูดถึงว่าสามแม่ลูกขาดสารอาหารในระยะยาวขนาดไหน หากไม่รีบบำรุง ร่างกายของพวกเขาจะขาดสารอาหารถาวรอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ถังซวงยังหยิบผ้านวมบาง ๆ สามผืนและเสื่อสามผืนจากพื้นที่มิติออกมาด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่น่าสงสัย แม้ว่าคนอื่น ๆ จะเห็น พวกเขาก็จะไม่คิดอะไรมาก

นี่ต้องขอบคุณพื้นที่มิติขนาดใหญ่ของเธอจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงเก็บทุกอย่างที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ไว้ได้ และตอนนี้เธอสามารถมีทุกอย่างที่เธอต้องการได้แล้ว

“แม่ เสี่ยวเซวี่ย ฉันกลับมาแล้ว”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท