ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 602 ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า

ตอนที่ 602 ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า

ท่านเจ้าสำนักถึงแม้จะมีรูปโฉมงดงาม แต่ยามทำสีหน้าไร้อารมณ์ก็เกินพอจะทำให้คนตื่นตระหนกได้

เห็นริมฝีปากแดงของเขาขยับน้อยๆ “ศิษย์ของข้าคือผู้ที่งดงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า ไม่อนุญาตให้โต้แย้ง”

ตู๋กูซิงหลันรู้สึกอับอายจนเก้อเขินขึ้นมา เดี๋ยวก่อน นี่มันเวลาใดกัน เขาจะมาถกเถียงหาข้อสรุปในเวลานี้เพื่ออะไร?

เหล่าปีศาจทั้งหลาย “ ? ? ?”

พวกมันต่างก็เคยได้เข้าเฝ้าองค์ราชินีมาก่อน ดวงตาทุกคู่ต่างก็ถูกความงดงามขององค์ราชินีล้างสมองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เคยมีคำพูดกล่าวเอาไว้ว่าอย่างไรนะ พอได้เห็นความงามที่แท้จริงมาแล้ว เมื่อเห็นสิ่งที่ธรรมดาก็กลายเป็นอัปลักษณ์ไป

เพียงแต่ว่าสตรีชาวมนุษย์ในชุดสีแดงตรงหน้านี้ นับว่างดงามเป็นพิเศษอยู่บ้างจริงๆ

อย่างน้อยๆพวกมันก็ไม่เคยเห็นใครในเผ่ามนุษย์ที่งดงามเช่นนางมาก่อนเลย

เพียงแต่ว่าเชื่อมั่นในตนเองจนออกนอกหน้าไปหน่อย

เจ้าหน้าตางดงามก็ส่วนงดงาม ยังจะต้องให้พวกตัวผู้ในเผ่ามนุษย์มาบีบบังคับให้ผู้อื่นเอ่ยออกมาว่าเจ้างดงาม นี่มันออกจะเกินไปหน่อยละมั้ง

เห็นไหมเล่า พวกมนุษย์ล้วนเป็นตัวหน้าเหม็นที่ไร้ยางอายด้วยกันทั้งสิ้น

มิว่าจะเป็นเรื่องใดก็ชมชอบบีบบังคับผู้คน

ขณะที่ในใจของปีศาจทั้งหลายกำลังคิดเช่นนี้อยู่ ก็ได้ยินท่านเจ้าสำนักเอ่ยว่า “จงรีบพูดออกมา ศิษย์ของข้าคือโฉมงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า”

พอเขาเอ่ยประโยคนี้ออกมา แม้แต่ตู๋กูซิงหลันก็ยังอดไม่ได้ที่อยากฟาดหน้าเขาสักครั้ง

แต่ว่าพอหันไปมองเห็นดวงหน้าที่งามล้ำเกินบรรยายของท่านเจ้าสำนัก ก็ไม่อาจตัดใจลงมือ

เกิดทุบลงไปแล้วหัวปูดโนขึ้นมาก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว

ส่วนฟ่านอิงที่อยู่ด้านข้าง ก็มิได้พูดอะไรออกมา

ในใจของเขา ยายหนูน้อยย่อมงดงามอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจ มองเห็นความงามต่างกันคนละแบบ จึงไม่จำเป็นจะต้องมาบีบบังคับให้ผู้อื่นยอมรับ

เพราะท่านเจ้าสำนักเป็นเหตุ พวกปีศาจน้อยทั้งหลายจึงยิ่งเพิ่มพูนความไม่พอใจต่อมนุษย์กลุ่มนี้กว่าเดิม

พวกมันแทบอยากจะเขวี้ยงหอกยาวใส่เสียเดี๋ยวนี้ จากนั้นก็ส่งไปยังเบื้องหน้าองค์ราชินี ย่างบนไฟเสียเลย

ยังดีที่ตู๋กูซิงหลันรั้งท่านเจ้าสำนักเอาไว้ก่อน นางเผยรอยยิ้มน่าสนิทสนมและเป็นมิตรออกมา “ตัวน่ารักน้อยๆทั้งหลาย ที่ข้ามาหาซูเยาก็เพราะมีเรื่องสำคัญรีบด่วน ขอพวกเจ้าโปรดช่วยเปิดทาง ข้ารับรองว่าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้าอย่างแน่นอน”

ข้ารับรองว่าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า!

คำพูดไม่กี่คำนั้นเปรียบเสมือนมีดแหลมที่เสียบลงไปในลำคอของผู้อื่น

พวกปีศาจน้อยดูอย่างไรก็รู้สึกว่านางคือตัวมากเล่ห์แสนร้ายกาจที่คิดจะบุกเข้ามาโจมตีพวกมัน

หากว่าตกลงไปอยู่ในเงื้อมือของสตรีผู้นี้เมื่อไหร่ มีหวังพวกมันจะต้องถูกถลกหนังจับตุ๋นในหม้อใบยักษ์อย่างแน่นอนใช่หรือไม่?

เพียงแค่ลองคิดเล่นๆ ปีศาจน้อยทั้งหลายก็พากันเหงื่อท่วมตัวหมดแล้ว

ปีศาจน้อยที่เป็นตัวจ่าฝูงถึงกับโกรธเกรี้ยวเสียจนขนพองฟู มันกุมหอกยาวในมือเอาไว้ ก้าวขากระโดดขึ้น พุ่งออกมาจากเขตอาคม

มันตั้งใจจะใช้หอกยาวด้ามนี้แทงเข้าไปในทรวงอกของตู๋กูซิงหลัน

ท่านเจ้าสำนักและฟ่านอิงต่างก็เปลี่ยนเป็นหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมา

แต่ไม่รู้ว่าทำไม ทันทีที่เจ้าปีศาจน้อยโผออกมาถึงเบื้องหน้าของตู๋กูซิงหลัน มันส่งเสียงคำรามขึ้นครั้งหนึ่งก็คุกเข่าลงไปตรงหน้านาง!

และเพราะยังห่างจากตู๋กูซิงหลันอยู่อีกช่วงหนึ่ง เจ้าปีศาจน้อยคุกเข่าลงไปก็คืบคลานอยู่อีกหลายก้าวถึงได้คืบคลานมาถึงตรงหน้านางได้

ในสมองของตู๋กูซิงหลันมีแต่คำถามเต็มไปหมด

นางยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามอะไร เจ้าปีศาจน้อยก็รีบโขกศีรษะหนักๆให้นางถึงสามครั้งติดๆกัน

ตู๋กูซิงหลัน “! ! !”

“เดี๋ยวก่อน ข้าไม่ใช่บรรพชนทั้งสิบแปดรุ่นของเจ้าเสียหน่อย เจ้าตัวน้อยที่น่ารักคุกเข่าให้ข้าไปทำไมกัน?”

ปีศาจน้อยตัวนั้นก็ทำสีหน้าหดหู่เช่นกัน

หากว่ามันรู้ว่าตนเองทำไมถึงทำเช่นนี้ ก็คงจะประหลาดมากแล้ว

มันได้แต่คุกเข่าอย่างนอบน้อมอยู่ตรงเบื้องหน้าตู๋กูซิงหลัน แม้แต่ศีรษะก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นมา

ราวกับว่ามีแรงกดดันที่เหนือกว่าบางอย่างกดมันเอาไว้

ในใจของมันได้แต่คิดว่า จะต้องเป็นเพราะมนุษย์ผู้นี้เล่นลูกไม้อย่างแน่นอน!

ไม่รู้ว่านี่มันคือเวทย์มนต์หรือคาถาใดกันแน่!

พอปีศาจอื่นๆได้เห็นดังนั้น ต่างก็คิดไปว่าเจ้านั่นโดนคาถาใดเข้าแล้ว จึงพากันฮึดฮัดลุกฮือกันขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพุ่งออกมานอกเขตอาคม บุกเข้าใส่ตู๋กูซิงหลัน

แต่ว่าหอกยาวในมือยังไม่ทันได้ซัดออกไป แต่ละตัวก็เหมือนถูกภูเขาลูกใหญ่กดทับลงไปทรุดลงไปคุกเข่าบนพื้นเสียงดังตึงๆๆๆ

คุกเข่าลงไปแล้วก็ยังพากันโขกศีรษะสุดชีวิต

ในสมองของตู๋กูซิงหลันยามนี้มีแต่ไอหมอกไปหมดแล้ว…..

นางมองดูศีรษะมากมายที่มีแต่ขนฟูๆเต็มไปหมด แต่ละตัวมีหูยาวๆแหลมๆอยู่บนศีรษะ เจ้าตัวน่ารักทั้งหลายก้นกระดกทำหางกระดุ๊กกระดิ๊ก ในใจของตู๋กูซิงหลันก็ต้องคลี่ยิ้มออกมา

เจ้าพวกนี้ช่างเป็นตัวน้อยที่น่ารักจริงๆ!

“ลุกขึ้นเถอะ รีบลุกขึ้นเถอะ พวกเจ้าทำอะไรกันเนี้ย”

นางยื่นมือไปประคองปีศาจน้อยที่เป็นจ่าฝูงด้วยตนเอง

ทั้งยังถือโอกาสลูบหูผู้อื่นเล่นอีกด้วย

อืม…..สัมผัสแบบนี้ นุ่มนิ่มน่ารักจริงๆ!

ตอนนี้นางเข้าใจนิสัยของเมียเมีย สัตว์อสูรในพันธะสัญญาของจีเฉวียนแล้ว….

ตัวขนฟูๆพวกนี้มันช่างน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ

เมียเมีย….ไม่ได้พบเจ้ามานานมากแล้วเหมือนกันนะ

เจ้าปีศาจตัวน้อยที่ถูกตู๋กูซิงหลันเอาเปรียบก็แทบจะกลั้นใจตายแล้ว แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าตู๋กูซิงหลันโดยไม่มีเขตอาคมขวางกั้น มันก็เหมือนถูกพลังที่แข็งแกร่งบางอย่างกดเอาไว้

แม้แต่จะด่าออกไปก็ยังพูดอะไรไม่ออกสักคำ

ทั้งๆที่ในใจด่าทอตู๋กูซิงหลันไปพันรอบแล้ว แต่ว่าปากของมันกลับเอ่ยออกมาว่า “ข้าจะนำทางท่านไปตามหาองค์ชายน้อยเดี๋ยวนี้เลย”

ไปหากับแม่เจ้านะสิ!

“ดีเลย ดีมาก ช่างเป็นตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อฟังจริงๆ”

ตู๋กูซิงหลันชื่นชมมันจากใจ จะคนหรือผีนางก็เคยเห็นมามากมานแล้ว แต่กลับรูปสึกว่าปีศาจพวกนี้น่ารักมากๆเลย

ท่านเจ้าสำนักยืนอยู่ด้านข้าง หมอกสีดำในมือของเขาค่อยๆจางหายไป

พอศิษย์น้อยได้เห็นใบหูของเจ้าปีศาจพวกนี้ สองตาก็เปล่งประกายระยิบระยับขึ้นมา

ท่านเจ้าสำนักแอบจดจำเอาไว้ในใจอย่างเงียบๆ ศิษย์น้อยชมชอบใบหูที่มีขนฟูๆ

ดังนั้นเขาจึงคอยจับตาดูใบหูเหล่านั้น เฝ้าสังเกตว่าศิษย์น้อยมองดูใบหูแบบใดนานเป็นพิเศษ

เหล่าปีศาจน้อยพอถูกเขาจับจ้องขึ้นมา ต่างก็รู้สึกหนาวจนเสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าถูกวิญญาณแค้นจากที่ใดจับจ้องอยู่อย่างนั้น

พอตู๋กูซิงหลันพยุงจิ้งจอกน้อยที่เป็นจ่าฝูงขึ้นมา นางถึงได้รู้สึกว่านิ้วกลางในมือซ้ายอุ่นจนร้อนระอุ

พอมองตามไป จึงได้เห็นว่าเป็นแหวนที่ก่อนหน้านี้ซูเยาเคยสวมลงบนนิ้วให้กับนาง

ลวดลายจิ้งจอกนั่นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

จิ้งจอกสีแดงเพลิงตัวหนึ่งเรืองแสงจนส่องประกายอยู่บนนิ้วมือของนาง

ตู๋กูซิงหลันเกิดความเข้าใจขึ้นมาในทันที ที่ปีศาจน้อยเหล่านี้พากันคุกเข่าลงโขกศีรษะต่อหน้าคงจะมีสาเหตุมาจากแหวนวงนี้นั่นเอง

ปกติแล้วในแต่ละเผ่าพันธุ์ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมมีอำนาจสูงกว่า ได้รับความเคารพนับถือจากผู้อื่นในเผ่า

เช่นเดียวกับฮ่องเต้ที่ปรากฏองค์ต่อหน้าราษฎร์ทั้งหลาย ก็ได้รับการถวายความเคารพกราบไหว้เช่นกันมิใช่หรือ?

แหวนที่จิ้งจอกน้อยมอบให้กับนาง เกรงว่าคงจะเป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะของเชื้อพระวงศ์ เจ้าปีศาจน้อยตัวนี้จึงไม่อาจต่อต้านได้

ก่อนหน้านี้ตู๋กูซิงหลันเพียงแค่รู้สึกว่าแหวนวงนี้มีกลิ่นอายปีศาจเข้มข้น ที่สวมใส่เอาไว้เพราะว่ามันสวยงามเท่านั้น

คิดไม่ถึงว่าเจ้าจิ้งจอกน้อยจะมอบของเล่นที่หาได้ยากเช่นนี้ให้กับนาง

ตลอดทางที่ขึ้นมาบนภูเขา พวกเขาพบเจอปีศาจต่างๆอยู่ไม่น้อย

บนภูเขาลูกนี้ไม่ได้มีแต่ปีศาจขนฟูนุ่มยาวเหมือนเจ้าปีศาจน้อยแต่ยังมีพวกที่หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวอยู่เต็มไปหมดอีกด้วย

ตอนแรกที่ปีศาจพวกนั้นเห็นกลุ่มของนาง ก็พากันโกรธเกรี้ยวขึ้นมา

แต่รอจนพวกมันเข้ามาใกล้ๆตู๋กูซิงหลัน ต่างก็พากันคุกเข่าลงบนพื้นดังตึงๆตรงเบื้องหน้านาง

จนพื้นดินกลายเป็นหลุมเป็นบ่อไปหมด

ยิ่งได้พบเจอพวกปีศาจมากมายเท่าไหร่ ลวดลายจิ้งจอกบนแหวนวงนั้นก็ยิ่งเปล่งแสงสีแดงขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ

เหล่าปีศาจพากันคุกเข่าลงไปบนพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยศีรษะขึ้นมา ในใจมีแต่ความประหวั่นพรั่นพรึง

ครั้งนี้ต้องย่ำแย่แน่แล้ว ที่มาในครั้งนี้มันคือตัวอะไรกันเนี่ย พลังกดดันที่อยู่ในร่างถึงกับทำให้พวกมันไม่กล้าอาจหาญล่วงเกิน

……………………

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Status: Ongoing

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท