บทที่ 41 การบำรุงรักษา(รีไรท์)
บทที่ 41 การบำรุงรักษา(รีไรท์)
ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง แต่พวกเขาไม่ได้จริงจังเมื่อพบว่าเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กำลังพูดอยู่
“สาวน้อย อย่าพูดเรื่องไร้สาระถ้าเธอไม่เข้าใจ แม้แต่สหายผู้นี้จากโรงงานผลิตเครื่องจักรก็ยังไม่รู้วิธี แล้วเป็นไปด้วยหรือที่เธอจะรู้วิธีซ่อม?”
“ใช่ ๆ ตอนนี้เรารออยู่ที่นี่ดีกว่า เฮ้อ…ไม่รู้ว่าจะมีใครมาเมื่อไหร่”
“วันนี้โชคไม่ดีจริง ๆ เจอรถเสีย ฉันสายแล้ว”
คนรอบข้างก็ถกกันทั้งบ่นทั้งด่า พูดง่าย ๆ ว่าสีหน้าไม่ดีกันทุกคน
ถังซวงไม่สนใจฝูงชน แต่ก้าวไปข้างหน้า พร้อมที่จะแก้ปัญหาของทั้งสองจุดเพื่อให้รถสามารถขับต่อไปได้
“ปล่อยฉัน ฉันจัดการได้”
เมื่อเห็นว่าเป็นถังซวงอีกครั้ง คนขับที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วก็ยิ่งโมโห “สาวน้อย แม้แต่สหายเหลียงก็ยังจัดการไม่ได้ อย่าสร้างปัญหาดีกว่า รออยู่เฉย ๆ เถอะ”
เหลียงจุนเฟิงมองไปที่ถังซวงอีกครั้งแล้วถามว่า “เธอจัดการได้จริงหรือ?”
ตอนนี้ถังซวงเริ่มหมดความอดทนแล้ว ถ้าไม่ได้ไปที่อำเภอก็ต้องกลับไปในตำบลให้เร็วที่สุด เธอยังต้องกลับไปที่หมู่บ้านอีก เธอจึงไม่สนใจอะไรอีกต่อไป “มันซ่อมได้”
ในเวลานี้ คนอื่น ๆ มองไปที่ถังซวงอย่างสงสัยแล้วถามว่า “สาวน้อย เธอซ่อมได้จริง ๆ หรือ?”
ถังซวงไม่ต้องการตอบคำถามเดิมอีก เธอยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ
เหลียงจุนเฟิงเห็นใบหน้าที่สงบและดื้อดึงของถังซวงก็พูดขึ้นทันทีว่า “สาวน้อย งั้นมาซ่อมเลย”
“สหายเหลียง…”
คนขับมองไปที่เหลียงจุนเฟิงด้วยใบหน้าที่จริงจังก่อนจะพูดว่า “ถ้าซ่อมแล้วพังฉันจะต้องเป็นคนรับผิดชอบนะ ฉันไม่เห็นด้วย เด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้อายุเท่านี้เอง จะซ่อมรถได้อย่างไร?”
เหลียงจุนเฟิงเอ่ยอย่างมั่นใจจากด้านข้าง “ผมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในท้ายที่สุดเอง ผมดูอยู่ ไม่ต้องกังวลหรอก”
เมื่อเห็นเหลียงจุนเฟิงพูดอย่างนั้น ผู้โดยสารทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ก็พูดว่า “ทำไมคุณถึงลังเลขึ้นมาล่ะ ให้สาวน้อยซ่อมเร็ว ๆ เข้าเถอะ ถึงจะมีปัญหาก็ไม่เข้าตัวคุณหรอก”
“ใช่ สาวน้อยคนนี้อาจจะแมวตาบอดเจอหนูตาย*[1] ก็ได้ เธออาจจะทำได้ก็ได้”
“ถูกต้อง ยังไงก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ให้สาวน้อยคนนี้ลองดูสักตั้งเถอะ”
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดก็จะมีคนรับผิดชอบ พวกผู้โดยสารจึงไม่มีเหตุผลที่จะลังเล พวกเขาพยายามเกลี้ยกล่อมคนขับต่อไป
คนขับเห็นว่าเหลียงจุนเฟิงเต็มใจที่จะรับประกันและผู้โดยสารที่อยู่รอบตัวเอาแต่โน้มน้าว ในที่สุดเขาก็ตกลง “สาวน้อย ถ้าอย่างนั้นเธอก็ลองดู แต่เธอต้องระวังนะ รถคันนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ถึงจะซ่อมไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรเสียหายไปมากกว่านี้”
ถังซวงไม่พูดอะไร เธอหยิบเครื่องมือง่าย ๆ ที่คนขับเตรียมไว้ในตอนแรกขึ้นมา จากนั้นก็ใช้เวลาไม่นานในการจัดการกับสองจุดที่เป็นปัญหา “เอาล่ะ เราออกเดินทางได้แล้ว”
คนขับพูดอย่างสงสัย “ซ่อมเสร็จแล้วจริงหรือ? ไม่ได้ซ่อมอะไรเยอะเลยนี่นา”
ถังซวงเอ่ยเสียงเบา “ขับดูก็รู้เองแหละค่ะ”
คนอื่น ๆ ก็แสดงปฏิกิริยาเช่นกัน “ใช่แล้ว ไม่รู้หรอกถ้าไม่ได้ลองขับ ไปเร็ว รีบขึ้นรถเร็วเข้า”
หลังจากที่ทุกคนกลับเข้าไปในรถแล้ว คนขับก็พยายามสตาร์ตรถ เขาก็ไม่คิดว่ามันจะได้ผลจริง ๆ
“ติดแล้ว”
ขณะที่พูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังซวงแล้วพูดว่า “สาวน้อย เธอช่างน่าทึ่งจริง ๆ เธอซ่อมรถได้ด้วย มีความสามารถอะไรอย่างนี้”
ทุกวันนี้มีน้อยคนนักที่สามารถซ่อมรถได้ สาวน้อยคนนี้น่าทึ่งมาก
แม้แต่เหลียงจุนเฟิงยังยกนิ้วให้ถังซวง
“สาวน้อย เก่งมากนะเนี่ย ซ่อมรถได้จริง ๆ ด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณช่วยยืนยันให้ฉัน ยังคิดว่าฉันเป็นคนโกหกอยู่ไหม? ถ้าไม่งั้นคุณก็กล้าเกินไปแล้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ไม่ ไม่ ฉันยังคงเชื่อในตัวเธอ แต่ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะเก่งขนาดนี้ แถมยังสามารถซ่อมมันได้ในพริบตาด้วย” ในตอนท้าย เหลียงจุนเฟิงกำลังจะเอ่ยพูดต่อ แต่ในขณะนี้มีคนอยู่รอบ ๆ มากเกินไป เขาจึงกลืนคำพูดและไม่ได้พูดอะไรอีก
สายตาของผู้โดยสารคนอื่น ๆ ในรถที่มองถังซวงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ จะรู้วิธีซ่อมรถได้อย่างไร? เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ดังนั้นแม้ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้าที่มีรอยปะก็ไม่มีใครกล้าดูถูกเธออีกต่อไป
เมื่อรถมาถึงยังตัวอำเภอ ถังซวงก็ลงจากรถทันที
คนขับรถและผู้โดยสารคนอื่น ๆ ขอบคุณถังซวงอีกครั้ง
“การรับใช้ประชาชนคือสิ่งที่ฉันควรทำ”
เมื่อเห็นว่าถังซวงไม่ได้ต้องการหน้าในเรื่องนี้ อีกทั้งยังใจกว้างมาก คนขับรถกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ ก็ประทับใจในตัวเธอมากขึ้น
“สาวน้อย เธอจะกลับวันนี้ไหม? รถเราจะกลับเข้าตำบลตอนบ่ายสอง ถ้ากลับก็รอที่นี่ได้เลยนะ ไม่เสียค่ารถแน่นอน ฮ่า ๆ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่คนขับพูด ถังซวงก็พยักหน้าและพูดว่า “ฉันกลับวันนี้ค่ะ ฉันจะรอที่นี่นะคะ”
“อื้ม ได้เลย”
เหลียงจุนเฟิงลงจากรถพร้อมกับถังซวง หลังจากที่รถขับออกไปเหลียงจุนเฟิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังซวงแล้วพูดว่า “สาวน้อย ฉันยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย”
ถังซวงมองไปที่เหลียงจุนเฟิงก่อนจะถามว่า “มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า?”
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มองมาที่เขาอย่างระวัง เหลียงจุนเฟิงรีบโบกมือแล้วพูดว่า “อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างอื่น ฉันแค่อยากจะถามว่าเธอ… ซ่อมรถก่อสร้างได้ไหม?”
“รถก่อสร้าง?”
“ใช่ ก่อนหน้านี้โรงงานของเราประสบปัญหาน่ะ รถก่อสร้างสองคันที่เราส่งไปขาดชิ้นส่วนบางอย่าง คนส่งบอกว่ารถก่อสร้างไม่สามารถใช้งานได้เพราะไม่มีชิ้นส่วน เราเลยใช้รถก่อสร้างไม่ได้ แต่เราพอผลิตชิ้นส่วนที่อีกฝ่ายกล่าวถึง รถก่อสร้างก็ยังใช้ไม่ได้ ฉันเลยอยากถามเธอ เธอช่วยตรวจสอบได้ไหม บางทีรถก่อสร้างอาจมีปัญหาที่อื่นก็ได้”
ถังซวงคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าชายคนนี้จะหยุดเธอและพูดแบบนี้
“คุณมาจากโรงงานเครื่องจักรในอำเภอเหรอ?”
“ใช่”
เหลียงจุนเฟิงพยักหน้าหลังได้ยินคำถาม
“ตกลง งั้นฉันจะไปดูกับคุณ แต่ปัญหาคืออะไรและซ่อมได้หรือไม่ จะรู้ได้หลังจากดูเท่านั้นนะ”
เหลียงจุนเฟิงรีบพูดทันที “ฉันรู้ ฉันรู้ ถ้าเธอช่วยดูหน่อยคงดีมากเลย”
เมื่อเห็นว่าท่าทีของอีกฝ่ายไม่เลว ถังซวงจึงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
เมื่อทั้งสองมาถึงโรงงานเครื่องจักร เหลียงจุนเฟิงก็รอถังซวงตรงไปยังสถานที่ซึ่งรถก่อสร้างจอดอยู่ “สาวน้อย นี่คือรถก่อสร้างสองคันนั้น”
ถังซวงไม่ได้ตรวจสอบทันที แต่มองไปที่เหลียงจุนเฟิงแล้วถามว่า “ให้ฉันดูชิ้นส่วนที่คุณทำขึ้นเป็นพิเศษหน่อยสิ”
“อื้ม ได้เลย”
เหลียงจุนเฟิงรีบไปเอาของมาทันที
ก่อนอื่น ถังซวงดูที่ชิ้นส่วนอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเริ่มตรวจสอบรถก่อสร้างทั้งสองคัน หลังจากมองไปรอบ ๆ เธอก็พบปัญหา “แม้ว่าจะเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านี้แล้ว รถก่อสร้างก็ยังขับไม่ได้หรอก เพราะยังมีปัญหาอื่นอีก”
“มีปัญหาอื่นจริง ๆ หรือเนี่ย?”
ตามที่คาดไว้ เหลียงจุนเฟิงมองไปที่ถังซวงด้วยนัยน์ตาที่สดใสก่อนจะถามว่า “ถ้าอย่างนั้น…เธอช่วยซ่อมมันได้ไหม?”
[1] แมวตาบอดเจอหนูตาย แปลว่า ตัวเองไม่มั่นใจ แต่โชคดีหรือบังเอิญจึงประสบความสำเร็จ