บทที่ 65 บ้านใหม่(รีไรท์)
บทที่ 65 บ้านใหม่(รีไรท์)
หลี่จงอี้ไม่ได้ตอบอะไรเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหยางจุน แต่กลับมองไปที่ถังซวง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หยางจุนก็อดที่จะตะลึงไม่ได้ เป็นไปได้ไหมว่าสาวน้อยที่สดใสและสละสวยที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ นี่มันแปลกเกินไป แม่ของเด็กสาวก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ? ทำไมลุงหลี่กับแม่ของเธอถึงมองไปที่เด็กสาวอย่างรอคำตอบแบบนั้นล่ะ?
ถังซวงที่เป็นคนตัดสินใจจะซื้อบ้าน ก็พูดออกไปตรง ๆ ว่า “ไปดูบ้านที่ขายกันเถอะค่ะ”
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคัดค้าน หยางจุนก็แน่ใจแล้วว่าถังซวง เด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงมองตรงไปที่ถังซวง “เอาล่ะ งั้นไปทางนี้”
เมื่อพวกเขาทั้งหมดมาถึงประตูลานบ้านหลังหนึ่ง หยางจุนก็เริ่มเคาะประตู
“พี่เฉียว… พวกเรามาดูบ้านกันน่ะ”
“เออ ๆ… มาแล้ว”
ประตูลานบ้านถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว และชายวัยกลางคนร่างสูงก็ออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า… น้องหยางนี่เอง”
“พี่เฉียว นี่คือลุงหลี่ นี่คุณเฮ่อ ส่วนเด็กสาวที่อยู่ข้างหน้าคือถังซวงครับ”
เนื่องจากถังซวงเป็นผู้ที่ตัดสินใจในเรื่องนี้ หยางจุนจึงแนะนำเธอเป็นพิเศษ
เฉียวต้าไห่รีบมองไปที่หลี่จงอี้ ผู้อาวุโสที่สุดในหมู่พวกเขา “สวัสดีครับลุงหลี่ บ้านของผมอยู่ได้สบายมากเลยครับ มันเพิ่งสร้างได้ไม่นานยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายของผมไปลงหลักปักฐานในตัวตำบลแทน เราคงไม่ขายบ้านหลังนี้ลครับ”
หลี่จงอี้มองไปที่ลานเล็ก ๆ ข้างหน้าเขาและพยักหน้า
อย่างที่เฉียวต้าไห่กล่าวไว้ ลานเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นบ้านใหม่จริง ๆ บ้านที่ทำจากอิฐนั้นแข็งแรงมาก และลานหน้าบ้านก็กว้างมาก ถ้าซื้อมันจริง ๆ ก็ยังสามารถเลี้ยงไก่ได้สองสามตัวในอนาคต ซึ่งสะดวกสบายมาก
แต่เรื่องจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับถังซวง
ในเวลานี้ ถังซวงเดินไปรอบ ๆ ลานบ้าน จากนั้นมองไปที่เฉียวต้าไห่ และถามว่า “ลุงเฉียวคะ เราขอเข้าไปดูข้างในได้ไหมคะ?”
“แน่นอนสิ”
เฉียวต้าไห่พาเธอเข้ามาอย่างกระตือรือร้น
ข้างในบ้านสว่างและสะอาด ดูสบายตามาก
ถังซวงมองไปข้างใน และพบว่าภายในบ้านได้รับการปรับปรุงใหม่แม้กระทั่งพื้นก็ปูด้วยกระเบื้องใหม่เอี่ยม ในห้องครัวไม่ใช่เตาขนาดใหญ่ แต่เป็นเตาที่แปลกตามาก เป็นเตาแก๊สด้วย
หลังจากนั้น เธอเข้าไปตรวจสอบห้องน้ำเป็นพิเศษ และพบว่าห้องน้ำมีโถส้วมที่สามารถราดชำระได้ ซึ่งทำให้ห้องน้ำทั้งห้องปราศจากกลิ่น และถัดไปมีห้องอาบน้ำที่ล้อมรอบด้วยกระจก เทียบกับห้องน้ำในโลกอนาคตแล้ว ที่นี่ก็ไม่เลวเลย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังซวงรู้สึกพอใจมาก
เฉียวต้าไห่อธิบายด้วยรอยยิ้มที่ข้าง ๆ “ลูกชายของฉันคบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่อำเภอน่ะ ในตอนนั้นเพื่อที่จะทำให้คนรักของลูกชายฉันประทับใจเมื่อเธอมาที่บ้าน ฉันใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างห้องน้ำใหม่ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันสะดวกแค่ไหน”
“ลุงเฉียวคะ คุณลุงวางแผนจะขายบ้านในราคาเท่าไหร่หรือคะ?”
เมื่อได้ยินคำถามของถังซวง เฉียวต้าไห่ก็พูดตามตรงว่า “ฉันจะบอกเธอตามตรงนะ ลานบ้านได้รับการปรับปรุงใหม่หลังจากสร้างเสร็จ และมีราคารวมพันแปดร้อยหยวน ดังนั้นฉันจะขายเธอในราคานี้ ถ้าเธอรับได้ก็โอนกรรมสิทธิ์ในวันนี้ได้เลย แต่ถ้าคิดว่าไม่ ก็ไม่เป็นไร”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ลุงเฉียวคะ เราจะซื้อค่ะ” ราคานี้ไม่แพงเลยจริง ๆ เพราะทุกมุมของบ้านล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี และค่าตกแต่งอย่างเดียวก็ไม่ถูกแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง เฉียวต้าไห่ยังไม่ตอบสนอง แต่มองไปที่หลี่จงอี้และเฮ่อหลาน
หลี่จงอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อยัยหนูซวงบอกว่าซื้อ งั้นก็ซื้อ”
ทันทีที่เฮ่อหลานได้ยินราคา เธอรู้สึกว่ามันแพงมาก เพราะเงินจากการเก็บเกี่ยวประจำปีของครอบครัวในชนบทก็มีราคาเพียงสองถึงสามร้อยหยวนเท่านั้น ต้องประหยัดแค่ไหนกว่าจะเก็บออมได้ถึง พันแปดร้อยหยวน คงไม่ได้กินหรือดื่มกันพอดี
หากแต่เฮ่อหลานก็อยากซื้อบ้านหลังนี้เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าให้เฉียวต้าไห่โดยไม่พูดอะไรและพูดว่า “ถ้าซวงเอ๋อร์บอกว่าซื้อ เราจะซื้อแน่นอนค่ะ”
หยางจุนและเฉียวต้าไห่ตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น เอาล่ะ เป็นสาวน้อยคนนี้ที่ตัดสินใจเลือกซื้อบ้านจริง ๆ สินะ
เมื่อเฉียวต้าไห่รู้ว่าถังซวงเป็นคนตัดสินใจ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่เธอแล้วถามว่า “เธอแน่ใจนะว่าต้องการซื้อในวันนี้เลย”
“ค่ะลุงเฉียว เราจะซื้อวันนี้เลย ถ้าเป็นไปได้ โอนกรรมสิทธิ์วันนี้เลยจะดีที่สุดค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันเตรียมเงินมาแล้ว”
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยเตรียมการสิ่งต่าง ๆ ไว้แล้ว เฉียวต้าไห่ก็หัวเราะและพูดว่า “ตกลง ๆ งั้นเดี๋ยวเราไปโอนกรรมสิทธิ์กันวันนี้เลย”
หลังจากที่ทุกอย่างราบรื่น ถังซวงก็จ่ายเงินและทำเรื่องโอนบ้าน
“สหายถัง ฉันเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เหลืออยู่ที่นี่ ส่วนคนอื่น ๆ ไปที่อำเภอกันแล้ว และเนื่องจากบ้านถูกโอนแล้ว ฉันจะย้ายออกในวันพรุ่งนี้นะ เธอสามารถมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้ได้เลย”
“ได้เลยค่ะลุงเฉียว”
หลังจากการซื้อบ้านเสร็จสิ้นหมดแล้ว ถังซวงก็รู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อย เธอมองไปที่หยางจุนและพูดว่า “ลุงหยางคะ นี่มันก็เริ่มสายแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันเถอะค่ะ” หยางจุนมองหน้าหลี่จงอี้ เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมตัวแทนหรือนายหน้า ถังซวงจึงรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงรีบชวนเขาไปที่ร้านอาหาร
หยางจุนโบกมืออย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำชวนนั้น และพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ๆ มีอาหารรอฉันอยู่ที่บ้านแล้วล่ะ”
หลี่จงอี้ห้ามหยางจุน และพูดว่า “เสี่ยวจุนไปกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารของรัฐกันเถอะ ฉันยังมีเรื่องจะคุยอีก”
เมื่อเห็นว่าหลี่จงอี้พูดอย่างนั้น หยางจุนก็ไม่ปฏิเสธอีกต่อไป
ทุกคนไปที่ร้านอาหารของรัฐและสั่งอาหาร ผ่านไปไม่นานทั้งแขกและเจ้าภาพก็มีช่วงเวลาที่ดีในการรับประทานอาหาร
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว หลี่จงอี้และหยางจุนก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่พูดก่อนหน้านี้
“เสี่ยวจุน ช่วยดูให้ฉันหน่อยนะว่ามีบ้านที่ไหนดี ๆ ขายในตำบลนี้อีกบ้าง ฉันก็อยากซื้อเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางจุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ลุงหลี่ คุณต้องการซื้อด้วยหรือครับ?”
“ใช่”
ถังซวงรู้สึกว่าลานบ้านเล็ก ๆ ที่เธอเพิ่งซื้อมาใหญ่เพียงพอแล้ว และไม่มีปัญหาหากหลี่จงอี้จะอาศัยอยู่ด้วยอีกสักคน แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์ของพวกเธอสามคนแม่ลูก เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ยังไงก็มีคนปากเสียอยู่ทุกที่
“ได้ครับลุงหลี่ ผมจะดูให้ และหากมีบ้านไหนที่เหมาะสม ผมจะรีบบอกทันทีเลย”
หลังจากที่หยางจุนออกไปแล้ว ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็เดินทางกลับไปที่บ้านทันที
ในวันรุ่งขึ้น พวกเขามาที่ตำบลอีกครั้ง เฉียวต้าไห่ก็ได้เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะจากไป
“ลุงหลี่ สหายถัง พวกเธอเปลี่ยนกุญแจบ้านได้เลยนะ จะได้รู้สึกสบายใจ ต่อจากนี้ไปบ้านหลังนี้จะเป็นของเธอแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ” เขาโบกมือลาและจากไป
เฮ่อหลานมองไปยังลานเล็ก ๆ ที่สวยงามและตะลึงไม่น้อย ที่นี่จะเป็นบ้านของพวกเธอจากนี้ไป ทั้งสามคนแม่ลูกมีบ้านอยู่ในตำบลจริง ๆ นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคยกล้าฝันถึงมาก่อน
“แม่คะ เรามาเริ่มทำความสะอาดกันเถอะค่ะ”
“อื้ม”
เมื่อเฮ่อหลานได้ยินคำพูดนั้น เธอก็กลับมารู้สึกตัว สามแม่ลูกพร้อมกับโม่เจ๋อหยวนก็เริ่มลงมือทำความสะอาดด้วยกัน ส่วนหลี่จงอี้ เขาไปที่ร้านเครื่องมือเพื่อทำกุญแจให้พวกเธอ
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว
“แม่คะ ตอนนี้เราจะยังไม่ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่ ไว้เราค่อยย้ายมาที่นี่หลังจากที่หนูกับเสี่ยวเซวี่ยเปิดเทอมแล้วดีไหมคะ?”