บทที่ 101 ยิ่งใหญ่(รีไรท์)
บทที่ 101 ยิ่งใหญ่(รีไรท์)
หลังจบมื้ออาหาร ซุนหงและถังซวงกล่าวลากัน
“สาวน้อยถังซวง ฉันจะไปหาเมื่อฉันเสร็จธุระแล้วนะ ช่วงนี้ฉันงานยุ่งอยู่ ถ้าเธอไปที่เมืองหลวงเมื่อไหร่ ฉันจะพาชมรอบๆ เอง”
เมื่อถังซวงได้ยินสิ่งนี้ เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ตกลงค่ะ ลุงซุน ฉันจะไปที่เมืองหลวงเมื่อมีโอกาสนะคะ และฉันจะไปหาคุณแน่นอนค่ะ”
“ได้เลย ถ้าอย่างนั้นเราก็ตกลงกันแล้วนะ”
หลังจากนั้นซุนหงมองไปที่โม่เจ๋อหยวนอีกครั้งและพูดว่า “เสี่ยวโม่ ทำงานหนักต่อไปนะ” ในที่สุดซุนหงก็ลังเลที่จะพูด แต่ในที่สุดก็พูดว่า “ฉันเชื่อว่าคุณปู่ของเธอและคนอื่น ๆ จะสามารถกลับไปเมืองหลวงได้เร็ว ๆ นี้แน่ แล้วเจอกันที่เมืองหลวงนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของโม่เจ๋อหยวนเป็นประกาย จากนั้นเขาก็มองไปที่ซุนหง และพูดว่า “ครับลุงซุน แล้วเจอกันครับ”
เมื่อเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนไม่แปลกใจเลย ซุนหงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ได้ แล้วเจอกัน”
ตระกูลโม่นั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง แต่พวกเขาก็ยังสามารถรู้สถานการณ์ทุกอย่างที่นั่นได้ และโม่เจ๋อหยวนหลานชายคนโตของตระกูลโม่ก็เป็นผู้นำในหมู่คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ความสำเร็จของเขาทำให้ทุกคนได้เห็นความยอดเยี่ยมของตระกูลโม่
หลังจากบอกลาซุนหงแล้ว ฮั่วไห่เหล่ยก็พาถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับไปที่บ้านพัก
“พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับกันแล้ว คืนนี้พวกเธอเข้านอนกันเร็วเถอะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังซวง และพูดว่า “อาจารย์ฮั่วครับ ซวงเอ๋อร์กับผมต้องการไปซื้อของที่ถนนในวันพรุ่งนี้ก่อน เรากลับกันวันอื่นได้ไหมครับ?”
ฮั่วไห่เหล่ยหยุดชั่วขณะ แล้วพยักหน้าและพูดว่า “ได้สิ กลับวันมะรืนแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อของด้วย” โอกาสที่จะมามณฑลทั้งทีมันหายากจะตาย ดังนั้นต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า ครั้งล่าสุดที่เขามาที่นี่คือเมื่อสิบปีก่อน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย
หลังจากตกลงกันได้ ทั้งสามคนก็แยกกันพักผ่อน
ในตอนเช้าของวันถัดไป ฮั่วไห่เหล่ยพาถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนไปที่ถนนหลังรับประทานอาหารเช้า
“เธอจะซื้ออะไร?”
ถังซวงคิดแล้วว่าจะซื้ออะไรดี เธอจึงพูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะซื้อปากกาให้น้องสาว แล้วก็ของขวัญให้ปู่กับแม่ด้วย”
“เอาล่ะ งั้นเราไปดูที่ห้างสรรพสินค้ากันเลยดีกว่า”
ห้างสรรพสินค้าในมณฑลนั้นแตกต่างออกไป
ถังซวงมองสิ่งของมากมายหลายอย่างด้วยตาที่เป็นประกาย เธอมองไปโน่นไปนี่ และซื้อเสื้อผ้าดูดีที่เธอเห็น
โม่เจ๋อหยวนก็อยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลา และช่วยถังซวงถือของเมื่อเธอไปซื้อของ
ฮั่วไห่เหล่ยรู้ว่านักเรียนสองคนนี้น่าจะมีคูปองและเงินจำนวนมากอยู่ในมือ เพราะพวกเขาชนะที่หนึ่งและได้รับรางวัลมากมาย แต่เมื่อเห็นการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยของถังซวง เขาก็อดไม่ได้แต่ทักท้วง “ถังซวง เธอซื้อของหลายอย่างเลย คุณแม่ไม่ได้บอกให้เธอประหยัดหรือ เงินรางวัลของเธอเยอะก็จริง แต่…เก็บไว้บ้างแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
“อาจารย์คะ มันหายากนะคะ โอกาสที่จะมามณฑล ดังนั้นมาแล้วก็ต้องซื้อของสิ ไม่อย่างนั้นในอนาคตเราจะมีโอกาสซื้อตอนไหนอีก? แล้วแม่ของฉันจะไม่บอกให้ฉันประหยัดค่ะ” นอกจากคูปองที่ได้จากการชนะแล้ว เธอยังมีคูปองอื่น ๆ ที่เธอได้รับมาตอนทำธุรกิจกับเฉินกวงหยาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้เธอมีเงินด้วย ดังนั้นเธอจึงต้องการซื้อเพิ่มเป็นธรรมดา
เมื่อได้ยินที่ถังซวงพูด ฮั่วไห่เหล่ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อเห็นว่าฮั่วไห่เหล่ยยังไม่ได้ซื้ออะไร โม่เจ๋อหยวนจึงอดไม่ได้ที่จะแนะนำว่า “อาจารย์ครับ ทำไมเราไม่ซื้อของแยกกันล่ะ? แล้วเจอกันอีกทีที่ประตูห้างตอนเที่ยง”
“ให้ฉันอยู่กับพวกเธอไม่ดีกว่าหรือ? แล้วฉันจะไปซื้อของตัวเองหลังจากพวกเธอซื้อเสร็จก็ได้”
ฮั่วไห่เหล่ยกังวลเล็กน้อย เพราะยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่นักเรียนสองคนนี้มาที่มณฑล แน่นอน เขาผู้เป็นอาจารย์ต้องดูแลทั้งสองคนให้ดี ถ้าพวกเขาหลงทางขึ้นมาจะทำยังไง
โม่เจ๋อหยวนยิ้มและพูดว่า “อาจารย์ครับ ผมเคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นผมจึงคุ้นเคยกับที่นี่มาก อาจารย์ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเราหรอก”
ฮั่วไห่เหล่ยมองไปที่โม่เจ๋อหยวนด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “เธอเคยมาที่นี่มาก่อนหรือ?”
“ครับ ผมเคยอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่ง ดังนั้นผมจึงคุ้นเคยกับที่นี่ดี อาจารย์ฮั่วไม่ต้องห่วงพวกเราจริง ๆ ครับ”
ถังซวงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มและพูดว่า “ใช่ค่ะ อาจารย์รีบไปซื้อสิ่งที่ต้องการเถอะ และไม่ต้องรอเราหรอก”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาพบกันที่ประตูตอนเที่ยงนะ” ในที่สุด ฮั่วไห่เหล่ยก็ตกลงเมื่อเห็นทั้งคู่พูดเช่นนั้น
หลังจากที่ฮั่วไห่เหล่ยไปซื้อของบางอย่าง โม่เจ๋อหยวนก็พาถังซวงไปเที่ยวรอบ ๆ อีกครั้ง “ฉันจำได้ว่ามีร้านนาฬิกาขายอยู่ชั้นบน ไปดูกันเถอะ”
“พี่อยากซื้อนาฬิกาหรือ?”
ถังซวงมองไปที่โม่เจ๋อหยวนอย่างสงสัย จากนั้นมองไปที่นาฬิกาบนข้อมือของเขา เห็นได้ชัดว่าเขามีนาฬิกาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะซื้อทำไมอีก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนยิ้มและไม่พูดอะไร แต่พาถังซวงขึ้นไปชั้นบน และเมื่อเขาไปถึงเคาน์เตอร์นาฬิกา เขาขอให้พนักงานขายนำนาฬิกาผู้หญิงสามเรือนออกมา “ซวงเอ๋อร์ ลองดูสิ”
“พี่จะซื้อให้ฉันหรือ?”
“ใช่ ครั้งนี้ฉันชนะที่หนึ่งอีกแล้ว ฉันพอมีเงินอยู่ ว่าจะซื้อให้ป้าหลานและถังเซวี่ยด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงส่ายหัวทันทีและพูดว่า “ไม่จำเป็นหรอก นาฬิการาคาแพงจะตาย แถมพี่ต้องซื้อตั้งสามเรือนอีก มันต้องแพงมากแน่”
“ไม่เป็นไร ฉันอยากตอบแทนป้าหลานที่คอยดูแลฉันน่ะ” โม่เจ๋อหยวนได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงหยิบนาฬิกาขึ้นมาและชี้ไปที่ข้อมือของถังซวง ในที่สุดเขาก็เลือกนาฬิกาที่ใหญ่กว่าข้อมือของเธอเล็กน้อย และพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ฉันคิดว่าเรือนนี้เหมาะกับเธอนะ ส่วนอีกสองอันน่าจะเหมาะกับคุณป้าหลานและเสี่ยวเซวี่ยมากแน่” พูดจบเขาก็หยิบเงินออกมาเพื่อจ่าย
“พี่โม่…”
เมื่อเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว ถังซวงก็มองเขาอย่างหมดหนทาง
“ซวงเอ๋อร์ ไปดูปากกากันต่อเถอะ”
นาฬิกาอยู่ในมือของเธอแล้ว ถังซวงพูดอะไรไม่ออก และในที่สุดก็เดินตามโม่เจ๋อหยวนไปที่เคาน์เตอร์ขายปากกา นอกจากซื้อให้เสี่ยวเซวี่ยแล้ว เธอซื้อให้ตัวเองและโม่เจ๋อหยวนด้วย
“ซวงเอ๋อร์ ขอบคุณนะ”
เมื่อเห็นถังซวงซื้อปากกาสีน้ำเงินเข้มให้ มุมปากของโม่เจ๋อหยวนยกขึ้นเล็กน้อย และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
“พี่โม่ ไปดูอย่างอื่นกันต่อดีกว่า”
หลังจากนั้นทั้งสองไปที่อื่นและซื้อของมากมาย สำหรับตัวเองและสมาชิกในครอบครัว เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายกับฮั่วไห่เหล่ย พวกเขาก็ไปที่ประตู และเห็นว่าฮั่วไห่เหล่ยรออยู่ตรงนั้นนานแล้ว และเมื่อเขาเห็นถังซวงกับโม่เจ๋อหยวน ก็โบกมืออย่างรวดเร็วและพูดว่า “พวกเธอซื้อของกันเสร็จหรือยัง?”
“ค่ะอาจารย์ พวกเราซื้อมาครบแล้ว”
ฮั่วไห่เหล่ยพยักหน้าเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น และพูดว่า “ดี ๆ ฉันซื้อเสร็จแล้วเหมือนกัน ไปกินข้าวกลางวันกันก่อนเถอะ”
หลังจากทั้งสามคนรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกเขาก็ไปเก็บของที่ซื้อมาที่บ้านพัก หลังจากนั้นฮั่วไห่เหล่ยก็พาทั้งสองคนไปเดินเล่นละแวกนั้น และกลับโฮวซานวันรุ่งขึ้น
คราวนี้ข่าวที่ว่าถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับมณฑลได้แพร่กระจายออกไปแล้ว และทั้งตำบลโฮวซานก็ตื่นตระหนก
แม้แต่ฉินหย่งเหลียง อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมประจำตำบลก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่านักเรียนจากโรงเรียนของเขาจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไปได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะได้รับรางวัล นับประสาอะไรกับการเป็นที่หนึ่ง “ดูเหมือนว่านักเรียนสองคนนั้นจะไม่ธรรมดาจริง ๆ”
ขนาดอาจารย์ใหญ่ฉินยังตกใจมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจียงโจวเหอ อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมประจำตำบล ในขณะนี้เขาสั่งให้ทุกคนแขวนป้ายสีแดงขนาดใหญ่ที่ประตูโรงเรียนเพื่อให้ทุกคนได้เห็นคำอวยพร
“ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนของเรา โม่เจ๋อหยวนและถังซวง ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับมณฑลด้วย”
เมื่อถังซวงและโม่เจ๋อหยวนมาที่โรงเรียน พวกเขาก็เห็นป้ายนี้ก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกัน แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปข้างใน ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นที่ประตูโรงเรียน
ปัง… ปัง… ปัง…!
เสียงประทัดดังกึกก้องไปทั่วโรงเรียน เจียงโจวเหอออกมาพร้อมกับอาจารย์และนักเรียนจำนวนหนึ่ง “นักเรียนโม่ นักเรียนถัง ขอแสดงความยินดีกับรางวัลที่พวกเธอได้รับด้วยนะ”