บทที่ 177 อย่างง่ายดาย
บทที่ 177 อย่างง่ายดาย
หลังได้ยินอย่างนี้แล้ว ผู้เฒ่าเฮ่อตอบกลับอย่างยินดี “ขอบคุณครับ”
เมื่อเห็นใบหน้ามีความสุขของผู้เฒ่าเฮ่อ ทุกคนจึงรู้ทันทีว่าตระกูลเฮ่อให้ความสำคัญกับทั้งสามแม่ลูกมาก เวลานี้จึงมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาทักทายทั้งสามไม่หยุดหย่อน
หญิงชราและพานลี่ฮวายืนเคียงข้างเฮ่อหลานตลอดเวลา เมื่อมีใครเข้ามา พวกเขาจะแนะนำให้รู้จักกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว ซึ่งรายละเอียดนั้นมีมาก พานลี่ฮวากลัวว่าเฮ่อหลานและคนอื่นจะไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์วุ่นวายอย่างนี้ ดังนั้นเธอจึงเป็นคนแนะนำภรรยา ลูกชาย และลูกสาวของบางครอบครัวแทน
เฮ่อหลานและถังเซวี่ยตกตะลึง
“แล้ว… คนเราสามารถมีภรรยาได้มากขนาดนี้เลยหรือ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฮ่อหลานแล้ว พานลี่ฮวาหัวเราะทันที “ใช่ แต่กฎหมายเพิ่งบังคับให้มีคู่สามีภรรยาเดียวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากนี้การแต่งงานกับภรรยาคนที่สองกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายแล้ว”
ยังไงซะ แม้ว่าคนรวยจะไม่สามารถแต่งงานรับภรรยาอีกคนเข้าบ้านได้ แต่พวกเขาก็ยังเลี้ยงดูผู้หญิงพวกนั้นนอกบ้านได้อยู่ดี ซึ่งมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไร
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้แล้ว พานลี่ฮวาก็รู้สึกว่าเธอเลือกสามีได้ถูกคน เฮ่อจื่อกุยไม่มีผู้หญิงอื่นนอกจากเธอ ไม่รู้ว่ามีภรรยาของครอบครัวอื่นอีกกี่คนที่อิจฉาเธอในเรื่องนี้
เฮ่อหลานรู้สึกว่าตนเองได้เปิดหูเปิดตามาก เวลานี้เธอก็เข้าใจในเจตนาของคุณยายและพี่สะใภ้ด้วย เธอจึงเริ่มจริงจังกับการจดจำผู้คนทั้งหมด
ในเวลานี้ เหล่าภรรยาที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับพานลี่ฮวาตรงเข้ามาหา
“ลี่ฮวา ไม่เจอกันเสียนาน ทำไมเธอดูเด็กจังเลยล่ะ? หน้าตาเปล่งปลั่ง ดูดีขึ้นมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว พานลี่ฮวาสัมผัสใบหน้าของตนอย่างมีความสุขก่อนจะถามกลับว่า “จริงหรือ?”
“ใช่น่ะสิ ผิวของเธอดีขึ้นมาก แอบมีของดีไม่บอกพวกฉันรึเปล่า?”
พานลี่ฮวาหัวเราะ ก่อนจะดึงถังซวงเข้ามาแล้วพูดว่า “ก็… ฉันหยุดใช้เครื่องสำอางทั้งหมดเลย และใช้ยาบำรุงผิวที่หลานสาวฉันทำน่ะ ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่พวกเธอเห็น”
“อะไรนะ… จริงหรือ?”
ผู้หญิงเหล่านั้นแทบจะไม่เชื่อถือคำที่ได้ยิน
พานลี่ฮวาชี้ไปที่เฮ่อหลานแล้วพูดว่า “ลองเดาดูสิ ว่าน้องสะใภ้ฉันอายุเท่าไหร่?”
“อืม…”
เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาอายุของเฮ่อหลานที่ดูอ่อนเยาว์จริง ๆ แต่ลูกสาวอย่างถังซวงและถังเซวี่ยก็เป็นสาวกันแล้ว เฮ่อหลานต้องอายุไม่น้อยแน่
แต่คุณถังที่ดูสนิทกับพานลี่ฮวาที่สุด เธอจึงเดาว่า “คุณเฮ่อน่าจะอายุสักสามสิบต้น ๆ” ทุกวันนี้ผู้หญิงหลายคนแต่งงานเร็ว ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดสินที่อายุของลูกได้ บางทีพวกเขาอาจจะยังเด็กจริง ๆ ก็ได้
“การคาดเดาของคุณถังยังห่างไกลมากค่ะ แต่ฉันจะบอกตรง ๆ เลยนะว่าอาหลานจะมีอายุครบสี่สิบปีหลังพ้นวันปีใหม่นี้ไปแล้ว”
“อะไรนะ…”
ขณะนี้ เหล่าภรรยาทั้งหมดถึงกับตกตะลึงและมองเฮ่อหลานอย่างพิจารณา ทุกคนรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมาก “คุณเฮ่อ คุณดูแลตัวเองดีมากเลยค่ะ ไม่เหมือนคนในวัยนี้เลย ถ้าบอกว่าอายุยี่สิบ ฉันก็เชื่อ”
คุณถังตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอหันมองพานลี่ฮวาแล้วถามว่า “ที่เธอบอกให้พวกเราเดาอายุของคุณเฮ่อ เพราะเธอก็ใช้ยานั้นเหมือนกันหรือ?”
พานลี่ฮวายิ้มแล้วตอบว่า “ใช่ ยาที่ซวงเอ๋อร์ทำดีจริง ๆ ฉันใช้มันแค่ไม่กี่วันก็ยังรู้สึกได้ว่าผิวของฉันดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เฮ่อหลานใช้มันทุกวันเลยนะ”
เมื่อมองเฮ่อหลานและพานลี่ฮวาตรงหน้า ทุกคนกลายเป็นตื่นเต้นก่อนจะหันไปหาถังซวงแล้วถามว่า “สาวน้อย เธอยังมียานั้นอีกไหมจ๊ะ?”
ถังซวงส่ายศีรษะพร้อมยกยิ้ม “หมดแล้วค่ะ แต่ฉันจะเริ่มทำแบรนด์เครื่องสำอางกับคุณป้าเร็ว ๆ นี้ แล้วเดี๋ยวฉันจะทำเพิ่มสักสองสามชุดให้กับคุณผู้หญิงทุกคนนะคะ หลังจากผลิตภัณฑ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ฉันหวังว่าคุณผู้หญิงทุกคนจะสนับสนุนมันต่อไปค่ะ”
“ตกลง ๆ ถ้ามันได้ผลดีจริง เราจะใช้ยาของเธอเพียงอย่างเดียวเลย”
คุณถังจับมือถังซวงด้วยความอ่อนโยนก่อนจะพูดว่า “สาวน้อย ถ้าอย่างนั้นรบกวนให้เธอผลิตมันให้พวกเราก่อนได้ไหม ที่เรามาเจอกันวันนี้คงถูกลิขิตให้เป็นโชคชะตา บรรพบุรุษของพวกเราสกุลถัง บางทีเราอาจเคยเป็นครอบครัวเดียวกันเมื่อห้าร้อยปีก่อนก็ได้นะจ๊ะ”
หลังได้ยินแล้ว ถังซวงยิ้มแล้วตอบกลับว่า “ค่ะคุณถัง ถ้าหลังจากผลิตเสร็จแล้ว ฉันจะแจ้งให้คุณทราบก่อนทันทีเลยค่ะ”
“ตกลง ดีจริง ๆ”
คุณถังยิ้มอย่างมีความสุข
จากนั้นคนอื่น ๆ ก็เริ่มดึงถังซวงไปคุยด้วย
จูเหลียนที่เห็นว่าถังซวงมีผู้คนรายล้อม ใบหน้าของเธอยิ่งน่าเกลียด เด็กสาวจากชนบทกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในพริบตา เธอไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายมีอะไรดี ทำไมทุกคนถึงต้องไปรุมล้อมคนเช่นนั้น
จูรุ่ยเองก็มองถังซวงด้วยความอิจฉาเช่นกัน
หญิงสาวหน้าตาสะสวย นอกจากรูปร่างหน้าตาที่ไม่ธรรมดาแล้ว แต่ความมั่นใจที่เฉิดฉายออกมายิ่งทำให้อีกฝ่ายดูมีเสน่ห์มาก เมื่อไหร่กันที่เธอจะสามารถเป็นแบบนั้นได้? เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
อีกด้าน หลังจากดูแลเหล่าคุณหญิงผู้ร่ำรวยทั้งหลายเสร็จแล้ว ถังซวงก็ได้พบกับความสงบอีกครั้ง
พานลี่ฮวายกนิ้วให้ถังซวงจากด้านข้าง
“ซวงเอ๋อร์สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย ตอนแรกฉันกังวลว่าเธอจะรับมือไม่ได้ แต่ก็ผ่านพ้นด้วยดี เก่งมากเลย”
เวลานี้ ผู้เฒ่าเฮ่อเดินเข้ามา เขาได้ยินคำพูดพวกนี้เหมือนกันจึงยกยิ้มชื่นชม “ซวงเอ๋อร์กับอาเหยียนเหมือนกันมาก ตอนที่เธอยังเด็ก ต่างก็มีความมั่นใจ สวยงามและจิตใจดี”
แววตาของผู้เฒ่าเฮ่อแดงก่ำเมื่อหวนนึกถึงความทรงจำ
ถังซวงเห็นว่าผู้เฒ่าเฮ่อเศร้าอีกแล้ว เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “คุณตาคะ ฉันวางแผนว่าจะเปิดบริษัทเครื่องสำอางกับคุณป้า แต่ไม่รู้ว่ามันจะราบรื่นดีไหม…”
หลังได้ยินแล้ว ผู้เฒ่าเฮ่อตอบกลับ “โอ้ ถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรบอกได้เลย”
พานลี่ฮวาพูดอย่างขบขันจากด้านข้าง “ฉันอยากจะมีส่วนร่วมกับซวงเอ๋อร์ด้วย หากมีปัญหาในอนาคต จะมาคุยกับคุณพ่อแน่นอนค่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ได้สิ ถ้าพวกเธอต้องการ ฉันเต็มใจช่วยอยู่แล้ว”
ผู้เฒ่าเฮ่อหัวเราะ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกมั่นใจในตัวของถังซวงมากขึ้น
จากการที่ถังซวงฝังเข็มให้กับตน ร่างกายของเขาก็ดีขึ้นมาก เขาจึงเชื่อมั่นในเครื่องสำอางของถังซวงไปด้วย และพวกเขาอาจจะต้องขอให้ถังซวงช่วยเหลืออยู่ “ถ้าพวกเธอตัดสินใจแล้ว เรามาพูดคุยกันจริงจังดีกว่านะ”
ถังเซวี่ยมองถังซวงอย่างอิจฉา เธอรู้เพียงว่าพี่สาวของเธอนั้นเก่งกาจ แม้เธอจะพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้ตนเองประหม่ากับคนจำนวนมาก แต่เธอก็ยังไม่สามารถพูดคุยและหัวเราะได้อย่างสบายใจได้เหมือนพี่
พี่เป็นคนจิตใจดีมาตลอด และในอนาคตเธอก็จะทำแบบเดียวกันกับพี่สาวของตน
เมื่อนึกได้อย่างนี้แล้ว ถังเซวี่ยตรงไปยังพื้นที่รับประทานอาหารเพื่อหาอะไรกินอย่างอารมณ์ดี
“อ๊ะ… ขอโทษนะคะ คุณเป็นอะไรไหม?”
ถังเซวี่ยเอาเค้กสองชิ้นใส่จานก่อนจะหันมาชนกับใครบางคน เมื่อมองหญิงสาวผู้อ่อนโยนตรงหน้าที่เอาแต่พูดว่าขอโทษ เธอรีบตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันไม่เป็นไร”