การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 195 ทุกคนมาถึง

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 195 ทุกคนมาถึง

บทที่ 195 ทุกคนมาถึง

หลังเฮ่อจื่อกุยได้ยินอย่างนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะมองจิงเจ้อหรงแล้วตอบกลับว่า “ฉันกับเจียรุ่ยพาอาหลานและเด็ก ๆ กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยได้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนนาย”

จิงเจ้อหรงพลันยกยิ้มอ่อนก่อนจะตอบกลับ “พี่ใหญ่ ทั้งพี่และเจียรุ่ยเหนื่อยมากแล้วในช่วงนี้ ให้ผมกับเสี่ยวโม่พาอาหลานกับเด็ก ๆ กลับบ้านเถอะครับ ถ้ามีโอกาสในอนาคตผมจะเป็นคนพาอาหลานและเด็ก ๆ ไปเยี่ยมคุณลุงกับคุณป้าด้วยตัวเอง”

“ใครเป็นลุงของคุณ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของจิงเจ้อหรงแล้ว เฮ่อจื่อกุยยิ่งขุ่นเคือง เขารู้สึกว่าน้องสาวของตนกำลังถูกหลอก เวลานี้เขายิ่งอึดอัดใจมากขึ้น แต่เขาก็รู้ว่าจิงเจ้อหรงคือชายที่เฮ่อหลานรัก ตอนนี้เขายังสามารถพูดได้ในฐานะพี่ชาย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังหันมองเฮ่อหลาน ถังซวง ถังเซวี่ยอย่างขอความเห็น

ถังซวงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นเลยที่จะให้เฮ่อจื่อกุยและลูกชายของเขามาเหนื่อยเช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณลุงคะ ลุงจิงและพี่โม่อยู่นี่แล้ว คุณลุงไม่ต้องห่วงเราเลยค่ะ คุณลุงรีบกลับไปดูแลคุณปู่ให้กินยาตรงเวลาน่าจะดีกว่านะคะ แล้วอีกสองเดือนฉันจะไปเยี่ยมค่ะ”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อจื่อกุยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจพลางตอบกลับด้วยความรีบร้อน “ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล ฉันจะดูแลคุณพ่อให้กินยาตรงเวลาแน่นอน และคราวหน้าฉันจะมารับนะ”

“ค่ะคุณลุง”

หลังจากนั้น เฮ่อหลานก็เอ่ยขึ้นจากด้านข้าง “พี่ใหญ่คะ หลังจากพี่กับเจียรุ่ยกลับถึงบ้านแล้ว อย่าลืมบอกพวกเราด้วยนะคะ”

เฮ่อจื่อกุยได้ยินถังซวงและคนอื่น ๆ พูดอย่างนั้นแล้ว เขาก็พยักหน้ารับแล้วตอบกลับว่า “อืม อย่างนั้นเดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะ” ก่อนจะหันมองจิงเจ้อหรง “ฉันไว้วางใจให้พวกนายดูแลอาหลานและเด็ก ๆ หวังว่านายกับเสี่ยวโม่จะพาพวกเธอกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย”

“พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจัดการเรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พวกเธอจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแน่ครับ”

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าอย่างหนักแน่นเช่นกัน “ลุงเฮ่อไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะดูแลทั้งสามให้ดี ไม่ให้พวกเธอต้องอยู่ในอันตรายแน่นอนครับ”

“ตกลง แล้วฉันจะรีบติดต่อกลับไปนะ”

เฮ่อจื่อกุยกล่าวลาเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ อย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ยังบอกกล่าวให้พวกเขากลับมาเที่ยวที่เมืองก่างเฉิงบ่อย ๆ และเดินทางกลับโดยปลอดภัยด้วย

ด้านเฮ่อเจียรุ่ยดึงถังเซวี่ยเข้ามาใกล้พลางเอ่ยกระซิบ “เสี่ยวเซวี่ย ในอนาคตถ้ามีอะไรที่สงสัยโทรหาฉันได้ทันทีเลยนะ แล้วอย่าลืมสิ่งที่ฉันบอกล่ะ”

“ขอบคุณค่ะพี่เจียรุ่ย ฉันจะทำงานที่พี่บอกให้เสร็จแน่นอนค่ะ”

เฮ่อเจียรุ่ยลูบศีรษะของถังเซวี่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวลาเฮ่อหลานกับถังซวง “คุณป้าครับ ซวงเอ๋อร์ มาเยี่ยมพวกเราที่เมืองก่างเฉิงบ้างนะครับ แล้วถ้ามีเวลาว่างพวกเราจะไปเยี่ยม”

“ตกลงค่ะ”

หลังจากถังซวงและคนอื่น ๆ กล่าวอำลาเฮ่อจื่อกุยและลูกชายของเขาแล้ว ทั้งสองก็ปล่อยทั้งสามไว้กับจิงเจ้อหรงและโม่เจ๋อหยวน

การดูแลของจิงเจ้อหรงนับว่ายอดเยี่ยมมาก ถังซวงและคนอื่น ๆ ไม่รู้สึกเหนื่อยในการเดินทางเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งหมดมาถึงเมืองเวิงซาน ร่างกายของพวกเขายังคงสบายดี ไร้อาการเมื่อยล้า

“อาหลาน วันนี้ก็ดึกมาแล้ว พวกเราพักในเมืองเวิงซานกันก่อนเถอะครับ”

เฮ่อหลานพลันพยักหน้าตอบรับเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ได้ค่ะ” เพราะลูกสาวคนโตบอกกับเธอก่อนหน้านี้แล้วว่า มีเรื่องต้องจัดการในเมืองเวิงซาน ดังนั้นจึงต้องอยู่ที่นี่ก่อน

เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานพยักหน้ารับ จิงเจ้อหรงพลันยกยิ้มกว้างขึ้นทันที เขาเดินนำหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “ผมจองห้องให้แล้วนะครับ เดี๋ยวผมจะพาไป”

เมื่อทั้งหมดมาถึงโรงแรมแล้ว เฮ่อหลานและคนอื่น ๆ ก็ขึ้นห้องเพื่อเก็บข้าวของ จากนั้นจิงเจ้อหรงพาพวกเขาไปรับประทานอาหารเย็น “อาหลาน ดูเหมือนว่าคุณจะชอบกินปลานะครับ อย่างนั้นคืนนี้เราไปร้านที่มีเชื่อเสียงในเรื่องปลากันดีไหมครับ?”

“ดีค่ะ ฉันก็คิดถึงรสชาติอาหารพื้นเมืองของเราเหมือนกัน”

หลังจากรับประทานอาหารกวางตุ้งในเมืองก่างเฉิงอยู่นาน เธอก็รู้สึกคิดถึงรสชาติของเมืองเวิงซานจริง ๆ

หลังจากเห็นว่าจิงเจ้อหรงใส่ใจแม่ของตนมาก ถังซวงจึงลอบคิดในใจว่าเขาคงจดจำสิ่งที่แม่ชอบทุกอย่างได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และเมื่อเธอหันไปมองแม่ของตนเองอีกครั้งจึงเห็นว่าแม่มีความสุขและอ่อนโยนมากเมื่อมองไปยังจิงเจ้อหรง

แต่ถังเซวี่ยไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แค่เธอได้ยินว่ามื้อค่ำจะได้ออกไปกินปลา ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุขแล้ว

“ฉันก็ชอบกินปลาเหมือนกันค่ะ งั้นพวกเราไปกันเถอะ”

หลังได้ยินคำพูดของถังเซวี่ยแล้ว จิงเจ้อหรงกับเฮ่อหลานจึงหลุดจากภวังค์ของคนทั้งสองในที่สุด

พอรู้สึกตัวเฮ่อหลานก็ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย ส่วนจิงเจ้อหรงเห็นอย่างนี้พลันยิ้มกว้างทันที เขาสัมผัสถึงแววตาอบอุ่นของเฮ่อหลานก่อนหน้านี้ได้ และมันทำให้เขามีความสุขมาก ทั้งหมดคือสิ่งที่เขาโหยหามาโดยตลอด แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดจะเมินเฉยต่อถังเซวี่ยจึงตอบกลับไปว่า “เอาล่ะ งั้นพวกเราไปกันเถอะ”

หลังเห็นจิงเจ้อหรงกับเฮ่อหลานเดินไปด้วยกัน แววตาโม่เจ๋อหยวนก็เกิดความอิจฉาขึ้นมา เขาคาดหวังว่าตนเองจะทำแบบนั้นกับถังซวงได้บ้าง แต่มันยังไม่ถึงเวลานั้น

เมื่อทั้งหมดมาถึงร้านอาหาร จิงเจ้อหรงสั่งแต่อาหารจานหลักของทางร้าน แล้วก็ยังสั่งอาหารอื่น ๆ ที่พวกเขาชื่นชอบเพิ่มเติมด้วย

“โอ้โห… ลุงจิง ลุงรู้ว่าฉันชอบกินเกี๊ยวทอดด้วยหรือคะ ดีจังเลย”

ถังซวงยังอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เพราะพวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสรับประทานอาหารกับจิงเจ้อหรงบ่อยนัก แต่เขากลับจดจำสิ่งที่พวกเธอชอบและไม่ชอบได้ทั้งหมด มันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจจริง ๆ “ลุงจิงคะ อย่าเอาแต่สั่งอาหารของพวกเราสิคะ คุณลุงก็ต้องสั่งอาหารที่ตัวเองชอบด้วยสิ”

จิงเจ้อหรงจำสิ่งที่พวกเธอชื่นชอบได้ แต่กลับเป็นพวกเธอที่ไม่รู้เลยว่าจิงเจ้อหรงชอบกินอะไร

ขณะนั้นเองเฮ่อหลานเอ่ยกระซิบจากด้านข้าง “อาเจ้อ… ฉันจำได้ว่าคุณชอบกินปลาผัดพริกเกลือ สั่งจานนี้มาด้วยสิคะ”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้วแววตาของจิงเจ้อหรงพลันเปล่งประกายขึ้นมา มุมปากยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ครับ”

เมื่อเห็นจิงเจ้อหรงอย่างนี้แล้ว ถังซวงก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ดูเหมือนว่าจิงเจ้อหรงจะชอบกินปลาผัดพริกเกลือมาก แต่ไม่รู้ว่าแม่ของเธอรู้สิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร การที่ทั้งคู่ใส่ใจกันย่อมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี การที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันได้มันจะต้องมีศีลที่เสมอกัน ไม่อย่าง

นั้นคงอยู่ได้ไม่นาน

เมื่อเห็นท่าทีของจิงเจ้อหรงแล้ว โม่เจ๋อหยวนก็อดยิ้มตามไม่ได้ ความจริงแล้วเขาก็รู้อยู่ว่าถังซวงและคนอื่น ๆ ชอบกินอะไร แต่วันนี้จิงเจ้อหรงเป็นเจ้าภาพ แน่นอนว่าเขาจะไม่ตัดหน้าของอีกฝ่ายแน่

หลังอาหารถูกยกมาวางบนโต๊ะ แม้แต่ถังซวงยังอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเมื่อมองพวกมัน

“ลุงจิงคะ ปลาที่นี่อร่อยมากเลยค่ะ โอกาสหน้าฉันจะต้องมาอีกให้ได้”

“ถ้าเธอชอบ เราก็มาที่นี่ได้เสมอเลย”

ทั้งหมดรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะกลับไปยังที่พัก

“อาหลาน นอนหลับให้สบายนะครับคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าผมจะพาไปกินมื้อเช้าอร่อย ๆ”

แต่เฮ่อหลานส่ายศีรษะก่อนจะตอบกลับ “อาเจ้อ คุณไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ด้วยซ้ำ เดี๋ยวพวกเราหาอาหารเช้ากินกันเองดีกว่าค่ะ”

“อาหลาน ผมไม่ได้อยู่ไกล มันไม่เป็นการรบกวนอะไรเลยครับ”

หลังจิงเจ้อหรงพูดอย่างนั้น เฮ่อหลานก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เป็นจิงเจ้อหรงที่เอ่ยขึ้นอีกว่า “อาหลาน พรุ่งนี้ผมมีงานเลี้ยงอาหารค่ำกับเพื่อนร่วมงาน… เอ่อ คุณ…คุณไปกับผมได้ไหมครับ?”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท