ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 683 ไอสังหาร ความหนาวเย็น ที่ซ่านเข้าไปในแก่นกระดูกและหัวใจ / ตอนที่ 684-1 ตู๋กูซิงหลันขอแต่งงาน

ตอนที่ 683 ไอสังหาร ความหนาวเย็น ที่ซ่านเข้าไปในแก่นกระดูกและหัวใจ / ตอนที่ 684-1 ตู๋กูซิงหลันขอแต่งงาน

ตอนที่ 683 ไอสังหาร ความหนาวเย็น ที่ซ่านเข้าไปในแก่นกระดูกและหัวใจ

ท่ามกลางหมอกสีดำ จีเฉวียนยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ปลายนิ้วที่เรียวยาววางอยู่บนพิณอย่างแผ่วเบา ทันใดนั้นสายพิณก็ถูกดีดขึ้นมา

“ติ้ง….” เสียงพิณสะท้อนออกไป หมอกสีดำที่กระจายครอบคลุมแผ่นฟ้าด้านหลังของเขาพลันกลายเป็นแท่งน้ำแข็งสีดำอีกครั้ง

น้ำแข็งแต่ละแท่งทั้งหนาและใหญ่ขนาดเสารอบนอกของพระที่นั่งหลิงเซียวเป่าเตี้ยน

ปลายแหลมบนขอบน้ำแข็ง เรืองประกายแสงที่หนาวเย็นออกมา

และพุ่งออกไปด้วยความเร็วและน้ำหนักที่มหาศาล

ตี้เสียลอยกระเด็นออกไปไกลหลายร้อยเมตร พระองค์ยังมิทันจะประทับยืนได้อย่างมั่นคง ก็ทรงเห็นแท่งน้ำแข็งเหล่านั้นพุ่งเข้ามาหา

สีพระพักตร์ของพระองค์ต้องเปลี่ยนไป ทรงขับพลังวิญญาณในร่างออกมา ขณะเดียวกันก็กระชับดาบอาทิตย์เทพในพระหัตถ์ คิดจะตัดแท่งน้ำแข็งสีดำเหล่านั้นให้หมดสิ้น

เสาน้ำแข็งเหล่านั้น ยังใหญ่โตกว่าเงาดาบเทพของพระองค์หลายต่อหลายเท่า ไอหนาวเย็นกำจายออกมา ยามที่พุ่งผ่านอากาศแม้แต่ประกายไฟที่มันวิ่งผ่านก็ถูกดับจนหมดสิ้น ความว่างเปล่าที่ฉีกขาดก็ถูกควบแน่นจนกลายเป็นหมอกสีดำ

ภาพที่ได้เห็นจึงทำให้ผู้คนตื่นตระหนกขึ้นมา

ตี้เสียสะบัดดาบออกไป ได้ยินเสียงกึกก้องดังขึ้นมา คมดาบฟันใส่เสาน้ำแข็งแท่งนั้น จนเกิดการกระทบกันของระหว่างเปลวไฟและน้ำแข็ง

แต่ว่าครั้งนี้ เรื่องราวกลับอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพระองค์ไปแล้ว

เสาน้ำแข็งสีดำแท่งนั้น แม้แต่ดาบอาทิตย์เทพของพระองค์ก็ไม่อาจหลอมละลายได้หรือนี่?

คมดาบที่สะบัดออกไป เพียงผ่าเสาน้ำแข็งออกไปเป็นสองส่วน แท่งน้ำแข็งที่คมกริบแท่งนั้นมีได้ถูกหยุดไว้ หากแต่ยังคงพุ่งเข้าใส่พระองค์ดังเดิม

ปลายแหลมเฉียดผ่านพระฉวีของพระองค์ไป ผิวชั้นนอกที่สัมผัสโดนเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ตี้เสียยกดาบขึ้นมา เฉือนเนื้อหนังส่วนที่โดนสัมผัสทิ้งไปทั้งทีโดยไม่แม้แต่จะทรงหยุดคิด

เสาน้ำแข็งอื่นๆที่ลอยเกลื่อนทั่วท้องฟ้าก็มิได้หยุดนิ่งเช่นกัน ทั้งหมดยังคงพุ่งลงมายังเบื้องล่างราวกับโปรยทานลงไป

ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าพวกมันพุ่งออกมาจากเบื้องหลังของจีเฉวียน แต่ว่าตอนนี้มันกลับร่วงลงมาราวกับพลังจากภายนอกที่ถล่มใส่แดนสวรรค์

ในบรรดาเสาน้ำแข็งเหล่านั้นมีอยู่สองแท่งที่พุ่งข้ามไป พวกมันพุ่งเข้าใส่เจดีย์กำราบเทพมาร ทะลวงจนเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่สองโพรง

เจ้านกยักษ์อยากจะร้องไห้ออกมา สัตว์อสูรตัวอื่นๆต่างก็หลบหนีกันไปหมดแล้ว พวกมันพากันถอยออกไปจากศูนย์กลางของสนามรบนี้จนไกลพ้น ….แต่ว่ามันกลับหนีไปไหนไม่ได้

เพราะกรงเล็บของมันติดอยู่ในซอกตรงนี้….

แท่งน้ำแข็งขนาดมหึมานั่น แม้แต่เจดีย์กำราบเทพมารยังทะลุเป็นรูโบ๋ ร่างกายของมันแม้จะแข็งแกร่งเพียงไหนก็มีหวังกลายเป็นรูได้เหมือนกัน

ดวงตาที่โตปานระฆังทองแดงของมันมีน้ำตาคลอ มันหันกลับไปมองดูทิศทางที่จีเฉวียนอยู่แวบหนึ่ง

พอกวาดตามองไป วิญญาณก็แทบจะหลุดออกจากร่าง

นัยตาที่มีประกายสีม่วงเข้มนั่น ……

ทำให้มันต้องตัวสั่นสะท้าน!

มันนึกย้อนกลับไปถึงบุรุษผู้นั้น…. บุรุษที่แสนจะน่าสะพรึงกลัวของยุคบรรพกาล บุรุษที่ภูติผีเห็นภูติผีผวา สัตว์อสูรเห็นก็ต้องร่ำไห้ออกมา…..

เขา…เขาสาปสูญอย่างตลอดกาลไปแล้วมิใช่หรือ?

……………..

ในอ้อมอกของจีเฉวียน ตู๋กูซิงหลันลืมตาขึ้นมา นางมองผ่านแถบผ้าถูกผมสีม่วงออกมา ผ้าผูกผมเส้นนี้เป็นผ้าโปร่งสีม่วง ย่อมสามารถมองเห็นภายนอกได้

นางไม่เชื่อฟังเขา แอบหรี่ตามองดูจีเฉวียนแวบหนึ่ง

ทันทีที่มองไป แม้ว่าจะมีผ้าถูกผมขวางไว้ นางก็ยังสามารถมองเห็นลวดลายสีดำบนข้างแก้มของเขาได้อยู่ ทั้งยังเห็นนัยตาที่ทั้งงดงามโหดเหี้ยมคู่นั้น เส้มผมยาวสลวยของเขาพลิ้วไหว บรรยากาศที่น่าอันตรายแผ่ขยายออกมา

นี่คือจีเฉวียนที่นางไม่เคยได้เห็นมาก่อน

ดวงหน้ายังคงเป็นดวงหน้านั้น แต่ว่าบรรยายกาศรอบกายกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ไอสังหาร ที่เย็นยะเยือก แผ่ซ่านออกมาจนแทรกซึมเข้าไปในกระดูกและหัวใจ

ปลายนิ้วของเขาเคลื่อนไหว เกิดเป็นเสียงของเพลงพิณที่มีอานุภาพทำลายล้างพิภพ

ยามนี้ตู๋กูซิงหลันถึงได้พึ่งจะเข้าใจ ว่าความอบอุ่นอ่อนโยนและความรักที่เขามี ทั้งหมดนั้นทุมเทให้กับนางเพียงผู้เดียว

เกือบจะครบปีแล้ว ตลอดชั่วเวลาหนึ่งปีที่ผ่าน เขาต้องผ่านประสบการณ์เช่นใดมาบ้าง….

ตู๋กูซิงหลันปวดใจด้วยความสงสาร

ยิ่งปวดใจก็ยิ่งกอดเขาให้แน่นกว่าเดิม จนกลายเป็นปลาหมึกยักษ์ที่แกะไม่ออกไปแล้ว

พอรู้สึกถึงปฏิกริยาของนาง จีเฉวียนที่เมื่อครู่ยังลงมือโหดเหี้ยมอยู่ ก็หันมากอดนางเอาไว้ในทันที

ความเย็นชาเปลี่ยนเป็นอบอุ่นอ่อนหวานในชั่วพริบตา “อย่ากลัว ข้าอยู่นี่ อีกเดี๋ยวก็จะพาเจ้ากลับบ้านแล้ว”

…………………………..

ตอนที่ 684-1 ตู๋กูซิงหลันขอแต่งงาน

ขณะที่เอ่ยประโยคนั้นออกมา แขนเสื้อของเขาก็เลื่อนมาบังใบหน้าของนางเอาไว้

เขาไม่ต้องการให้นางเห็นตนเองในสภาพเช่นนี้ ไม่ต้องการให้นางเห็นตนเองเปิดฉากฆ่าฟันสังหารใหญ่โต

กลัว….จะทำให้นางตกใจ

แต่ตู๋กูซิงหลันกลับมิได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ศีรษะเล็กๆซุกเข้าไปในอ้อมอกของเขาพลางหัวเราะฮิฮะออกมา

“ข้าเก็บเอาสมบัติล้ำค่ามาได้จริงๆนะเนี่ย…”

แม้ว่าจะมีแขนเสื้อปิดอยู่ ก็ยังรู้สึกได้ว่านางกำลังหัวเราะจนตัวสั่น

โอ้ ดูท่าทางที่ทำเป็นโหดเหี้ยมจนถมึงทึงนั่นสิ ช่างน่ารักแทบตายแล้วง่ะ!

แล้วยังลวดลายสีดำบนข้างแก้มนั่นอีก….จุ๊ๆๆ นี่มันจะเรียกว่าอย่างไรดี เท่แบบโหดๆ ร้ายสุดๆ!

นัยตาคู่นั้น ต่อให้เป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลกหล้า ก็ยังไม่อาจเปรียบเทียบกับดวงตาของเขาได้เลย….

ตู๋กูซิงหลันหัวเราะอย่างเริงร่าอยู่ในใจ ใบหน้าประดับรอยยิ้มดุจดอกเก็กฮวย

พอคิดๆดูแล้ว นางก็ซุกศีรษะเข้าไปอีกนิด แนบใบหน้ากับแขนเสื้อของเขา ป้องคำพูดใส่ริมใบหูของเขาไปว่า “กลับบ้านแล้ว เจ้าก็แต่งงานกับข้าเถอะนะ”

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Status: Ongoing

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท