ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 273 บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 273 บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

‘เขายกย่องข้าเป็นจักรพรรดิเซียนวัฏจักร ยามนี้เป็นฝ่ายส่งสมบัติ หากข้าปฏิเสธ เขาจะอับอายจนพาลโกรธและกลายเป็นศัตรูของข้าหรือไม่

แต่หากข้ายอมรับ นั่นจะไม่เป็นการล่วงเกินจักรพรรดิเซียนวัฏจักรหรือ’

หานเจวี๋ยลูบปลายคาง จมสู่ห้วงภวังค์ความคิด

จะรับหรือไม่นั้น นี่เป็นปัญหาที่ควรค่าแก่การไตร่ตรองอย่างหนึ่ง

เมื่อเห็นว่าคนในชุดกันฝนไม่ยอมจากไป หานเจวี๋ยก็ถอนหายใจออกมา ได้แต่มุ่งหน้าไปด้วยตนเองเท่านั้น

จิตดั้งเดิมของเขากระโจนเข้าสู่ยมโลกทันที ร่ายสำแดงเมฆตีลังกา กระโจนมุ่งสู่เกาะสำนักซ่อนเร้นในทันใด

เมื่อเห็นจิตดั้งเดิมของหานเจวี๋ยปรากฏ คนในชุดกันฝนก็รู้สึกยินดีเป็นล้นพ้น รีบโค้งกายคำนับเป็นพัลวัน

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “เจ้ารออีกหน่อยก็ได้ จนกว่าข้าจะเป็นผ่ายไปหาเจ้าเอง”

คนในชุดกันฝนกล่าวทอดถอนใจ “ท่านหายไปตั้งหลายปีเพียงนี้ ข้าเกรงว่าหากรอต่อไปจะไม่สามารถรอท่านได้แล้ว”

หานเจวี๋ยรู้สึกสงสัย เหตุใดท่าทีของเจ้าหมอนี่ถึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือเช่นนี้

ก่อนหน้านี้ยังมีท่าทีไม่เกรงใจอย่างมาก คำก็เจ้าสองคำก็เจ้า

ตอนนี้จากเจ้ากลายเป็นท่านเสียแล้ว

หรือว่าหลายปีมานี้ เจ้าหมอนี่จะประสบกับเรื่องอะไรเข้าให้แล้ว?

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “เหตุใดถึงพูดเช่นนั้น”

คนในชุดกันฝนก็ไม่ได้ปิดบัง เอ่ยว่า “ข้าถูกพญายมสยบกำราบ ถูกทุบตีเข้าไปในแรงกรรมไร้ขอบเขต หลังจากมหาเคราะห์เริ่มต้นขึ้น ข้าก็ธาตุไฟเข้าแทรกตกเข้าสู่แรงกรรมของโลกลอยล่อง ไม่อาจพลิกตัวตลอดกาลจนกว่าจะร่างดับมรรคสาบสูญ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา คนในชุดกันฝนก็ถอนหายใจอีกครั้งอย่างอดไม่ได้

อนาถถึงเพียงนี้เชียว?

หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว

พญายมเก่งกาจขนาดนั้นเลยหรือ?

มิน่าเล่าก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเดินผ่านเมืองยมบาล ถึงได้รู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่เนืองๆ

ไม่สามารถเอาพญายมในไซอิ๋วมาแทนพญายมของที่นี่ได้

“สิ่งที่ท่านต้องการข้าสามารถนำมาให้ท่านได้ในทันที แต่หลังจากข้าตายไปแล้ว ขอเพียงท่านทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับข้าในตอนแรก!” คนในชุดกันฝนกล่าวเสียงขรึม

เขายกมือขวาขึ้น ที่กลางฝ่ามือปรากฏดอกบัวสีดำขึ้นมาดอกหนึ่ง

ดอกบัวสีดำนี้แปลกพิสดารอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มีกลีบบัวสามสิบหกกลีบ ทั่วทั้งดอกมีสีดำสนิท แผ่ซ่านกลิ่นอายอัปมงคลและแปลกพิศวงออกมา

หานเจวี๋ยใช้พลังจิตเจาะเข้าไปในบัวสีดำดอกนี้ ชั่วเวลาไม่นาน พลังอันน่ากลัวหอบหนึ่งก็ได้กลืนกินพลังจิตของเขาในทันที ทำให้เขาตกใจจนรีบตัดขาดพลังจิตอย่างรวดเร็ว

‘นี่คือของอะไรกัน!’

หานเจวี๋ยตกใจ เวลาเพียงชั่วครู่นั้นเขาสัมผัสได้ว่าจิตดั้งเดิมของตนจะถูกบัวดำดอกนี้กลืนกินเข้าไปเสียแล้ว

“บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เพื่อให้ได้ของสิ่งนี้มา ข้าสละกายเนื้อของตน สละความเป็นไปได้ในการกลับชาติมาเกิด เพื่อแลกมันจากบรรพชนมาร”

เขาในตอนนี้เป็นเพียงแค่ภูตผีที่แข็งแกร่งตนหนึ่งก็เท่านั้น

แข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังเป็นผีอยู่ดี

หานเจวี๋ยเอ่ยถามว่า “แลกมา? บรรพชนมารมีสมบัติที่แข็งแกร่งเพียงนี้ เหตุใดถึงกวาดล้างแดนเซียนเล่า”

เขารู้ถึงความมักใหญ่ใฝ่สูงของเผ่ามาร

“ท่านกำลังกล่าววาจาล้อเล่น เขาพ่ายแพ้ยับเยินในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต ถูกมรรคาสวรรค์ขับไล่ เขาไม่สามารถกลับไปยังแดนเซียนได้อีก ทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับเผ่ามาร ที่ข้ามอบกายเนื้อให้กับเผ่ามารก็เพื่อให้เผ่ามารมีร่างของจักรพรรดิเซียนอยู่ในแดนเซียน”

วาจาของคนในชุดกันฝนทำเอาหานเจวี๋ยต้องขมวดคิ้ว

‘เผ่ามารนี่ช่างคิดชั่วไม่เลิกจริงๆ เข้าแทรกแซงไปหมดทุกที่!’

มีสำนักมารอยู่ในโลกมนุษย์ สำนักพุทธในแดนเซียนก็มีจิตมาร แม้กระทั่งยังต้องซื้อใจจักรพรรดิเซียนอีกด้วย

หานเจวี๋ยสงสัยว่าในวันใดวันหนึ่ง เผ่ามารจะกวาดล้างปวงสวรรค์หมื่นโลกาอีกครั้ง

ไม่ว่าจะมองอย่างไร บรรพชนมารก็ดูเหมือนเป็นวายร้ายขั้นสุด!

คนในชุดกันฝนยกมือขึ้นผลักคราหนึ่งง บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรก็ลอยมาทางหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยขัดขืนโดยสัญชาตญาณ ผลปรากฏว่าบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรพลันเร่งความเร็วและชนเข้ากับจิตดั้งเดิมของเขาในทันที

หานเจวี๋ยตกใจเป็นอย่างมาก อยากขับไล่บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรออกไป แต่บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรกลับหายไปเสียแล้ว

จบกัน!

หานเจวี๋ยกระวนกระวายขึ้นมาแล้ว

คนในชุดกันฝนกล่าวยิ้มๆ ว่า “ในเมื่อท่านยอมรับแล้ว เช่นนั้นข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับข้าได้สำเร็จอย่างแน่นอน!”

กล่าวจบ คนในชุดกันฝนก็หันหลังเดินจากไป

[นักพรตเต๋าอวี้จือเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

หานเจวี๋ยมองอักขระแถวหนึ่งที่ปรากฏขึ้นข้างหน้า อดจนในคำพูดไม่ได้

ทอดมองเงาหลังของนักพรตเต๋าอวี้จือแล้ว เขาตั้งท่าที่จะพูดแต่ก็หยุดไป

‘เจ้ายังไม่ได้พูดคำสัญญาเลย!’

หานเจวี๋ยกลัวว่าจะเผลอหลุดปากออกไป ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ปล่อยมันไป

ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาก็ได้

หานเจวี๋ยกระโจนออกมาจากยมโลกในทันที จิตดั้งเดิมกลับคืนร่าง

เขารีบตรวจสอบกายเนื้อในทันใด ด้วยกลัวว่าตนเองจะถูกบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรทำร้ายจนตัวตาย

แต่เขาหาอยู่นานก็ไม่พบ

เขาไม่เชื่อในความชั่วร้าย ยังคงค้นหาต่อไป

หลังจากผ่านไปหลายชั่วยาม ในที่สุดหานเจวี๋ยก็หาพบแล้ว

คิดไม่ถึงว่าจะถูกซ่อนอยู่ในโลกอนธการ ตั้งอยู่ในส่วนลึกภายในดวงดาวแห่งหนึ่ง

หานเจวี๋ยไม่สามารถบังคับขับไล่มันออกมาได้ แต่เขาพบว่าบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรไม่ได้ทำอันตรายเขาเลย

ปราณแห่งอนธการกำลังชะล้างบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร แม้ว่าผลลัพธ์จะเล็กน้อยมาก แต่หากยังคงทำต่อไป บางทีสักวันหนึ่งบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรจะสามารถแปลงร่างเป็นของวิเศษที่เป็นของเขาได้อย่างสมบูรณ์

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ไม่มีอันตรายก็ดี

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยปากขึ้นว่า “อู้เต้าเจี้ยน ออกไปก่อน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อู้เต้าเจี้ยนที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ก็หยัดกายลุกขึ้นจากไปในทันที

หลังจากที่นางจากไปแล้ว หานเจวี๋ยก็เปิดปากเรียกหาจักรพรรดิสวรรค์

คราวนี้จักรพรรดิตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “มีเรื่องใดหรือ”

“ท่านรู้จักบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรหรือไม่”

“เจ้ารู้จักของสิ่งนี้จากที่ใด”

เสียงของจักรพรรดิสวรรค์นั้นเคร่งขรึมอย่างที่สุด ทำให้หานเจวี๋ยตระหนักได้ว่าเจ้าของพรรค์นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

หานเจวี๋ยตอบในทันทีว่า “ข้าพบกับคนผู้หนึ่ง เขาคิดว่าข้าเป็นจักรพรรดิเซียนวัฏจักร และยังนำบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรออกมา บอกว่าจะมอบให้กับข้า แต่ของพรรค์นั้นมีกลิ่นอายน่ากลัวเกินไป ข้าตกใจจนหนีออมาในทันที”

“หืม? จักรพรรดิเซียนวัฏจักรกำลังตามหาบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรอยู่หรือ”

จักรพรรดิสวรรค์ที่อยู่ห่างไกลในแดนเซียนอดขมวดคิ้วไม่ได้

ในเวลานี้ จักรพรรดิสวรรค์กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งสีทองโอ่อ่าที่มีมังกรเก้าตัวพันเกี่ยว ปรายตามองดูเทพเซียนเจ้าสังหารเผ่าปีศาจ

เขาจิตใจว้าวุ่น ลอบคิดกับตัวเองในใจว่า “จักรพรรดิเซียนวัฏจักรคิดจะทำสิ่งใด หรือว่าการดำรงอยู่ลึกลับที่ถือครองหนังสือสาปแช่งก็คือจักรพรรดิเซียนวัฏจักร? เจ้าหมอนี่ไม่รู้ว่าเทือกเถาเหล่ากอมาจากที่ใด และก็ไม่รู้จุดประสงค์ของเขาว่าคืออะไร เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่ลึกลับที่สุดในหมื่นโลก”

“เขาต้องจับตาดูหานเจวี๋ยอยู่อย่างแน่นอน!”

หานเจวี๋ยเป็นถึงสมบัติของจักรพรรดิสวรรค์ มีหรือจะปล่อยให้จักรพรรดิเซียนวัฏจักรแตะต้องได้?

จักรพรรดิสวรรค์ถ่ายทอดเสียงไปให้หานเจวี๋ยทันที กล่าวว่า “เจ้าพบคนผู้นั้นที่ไหน”

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ยมโลก”

“หลังจากนี้ไปยมโลกให้น้อยลง วังสวรรค์ควบคุมยมโลกไม่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองยมบาลและวังสวรรค์คือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น”

“ข้าเข้าใจ ท่านช่วยบอกที่มาของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรข้าให้ฟังได้หรือไม่”

จักรพรรดิสวรรค์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังเล่าที่มาของสมบัติชิ้นนี้ออกไป

ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อโลกาสวรรค์เปิดขึ้นครั้งแรก บัวสี่ดอกได้ถือกำเนิดขึ้นระหว่างฟ้าดิน ซึ่งบรรจุกฎสูงสุดสี่อย่างที่แตกต่างกัน หากได้ครองหนึ่งในนั้น จะสามารถหยั่งถึงมหามรรคได้

หลังจากผ่านมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตทั้งสี่บัวดอกหนึ่งในนั้นก็เปลี่ยนเป็นบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรบรรจุแรงกรรมอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเอาไว้ ก่อนที่มรรคาสวรรค์จะถึงยุคมหาเคราะห์ สามารถเปิดมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตได้ทันที!

ดอกบัวสีดำนี้ได้สะสมแรงกรรมของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตทั้งสี่เอาไว้ น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยเตือนว่า “ดอกบัวสีดำนี้เดิมทีควรถูกปราบในสถานที่มืดมิดภายใต้วัฏจักรพร้อมกับบรรพชนมาร การที่บรรพชนมารปล่อยมันออกมา ย่อมไม่มีเจตนาดีอย่างแน่นอน ของสิ่งนี้แม้แต่เราเองก็ขยาดกลัวหาที่เปรียบไม่ได้ เจ้าอย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับมันเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเราเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้”

หานเจวี๋ยอึกอัก ‘ข้ายุ่งเกี่ยวไปแล้ว สลัดก็สลัดไม่หลุด’

สีหน้าของเขาจริงจังเป็นอย่างมาก กล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่แตะต้องของพรรค์นั้นเด็ดขาด!”

………………………………………………………..

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

Status: Ongoing
ชาติก่อนอายุสั้น ไม่ทันได้ใช้ชีวิต ชาตินี้จึงขอพากเพียรบำเพ็ญเซียน ลาภยศสตรีมีหรือจะสู้การเป็นอมตะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท