ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 703 จะช้าเร็วย่อมต้องกลายเป็นมารขึ้นมา / ตอนที่ 704.1 มื้อครอบครัว

ตอนที่ 703 จะช้าเร็วย่อมต้องกลายเป็นมารขึ้นมา / ตอนที่ 704.1 มื้อครอบครัว

ตอนที่ 703 จะช้าเร็วย่อมต้องกลายเป็นมารขึ้นมา

“เจ้าไม่ใช่คนในเผ่าของพวกเราจริงๆหรือ?” คนผู้นั้นจดจ้องไปที่จีเฉวียนอย่างจริงจัง แม้ว่าตอนนี้จีเฉวียนเก็บงำหมอกสีดำรอบกายของตนกลับไปแล้ว แต่เขาก็ยังดูมิได้ต่างจากพวกตนแต่อย่างไร

ที่น่าจะใช่ก็คือเป็นผู้สูงส่งในเผ่าของพวกเขา จึงได้มีแรงกดดันและสร้างบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ออกมา

จีเฉวียนไม่แม้แต่จะเงยหน้า ปลายนิ้วของเขาขยับเบาๆ ดาบสีดำอมทองเหล่านั้นก็ยิ่งแทงลึกลงไปในบ่าและหัวไหล่ของพวกมันยิ่งกว่าเดิม

คนผู้นั้นส่งเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา ก็ได้ยินจีเฉวียนเอ่ยว่า “ข้ากำลังถามพวกเจ้า ไม่ใช่ให้พวกเจ้ามาถามข้า”

บุรุษผู้นี้ ไยจึงอหังการได้ขนาดนี้!

คราวนี้ พวกมารเหล่านั้นจึงไม่กล้าถามมากความอีก พอถูกแทงลงไปอีกดาบ พวกมันก็ยอมเอ่ยปากออกมา กระแอมกระไออยู่สองคำ ก็พูดว่า “พวกเรามาจากแดนจิ่วโจว…..”

จิ่วโจว ข่าวนี้ไม่ได้โกหก ตู๋กูเจวี๋ยก็พึ่งกลับมาจากหุบเขาหมื่นปีศาจในดินแดนจิ่วโจว เขาพึ่งจะเจอกับคนกลุ่มนี้โดยบังเอิญ

จีเฉวียนมิได้เอ่ยขัดพวกมัน แต่รับฟังพวกมันพูดพล่ามต่อไป “เจ้าถามถึงเผ่าพันธุ์เดียวกัน เกรงว่ากว่าครึ่งของผู้คนในดินแดนจิ่วโจวล้วนแล้วแต่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันกับพวกข้า!”

พอพูดถึงตรงนี้ มารตนนั้นก็กระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมา

มันเลียริมฝีปาก หัวเราะอย่างลึกลับ “ขอเพียงจิตใจคนยังละโมบ เคียดแค้นชิงชังมิจางหาย พวกมันล้วนแล้วแต่เป็นเผ่าพันธุ์ของข้า….”

วาจานั้น ทำให้จีเฉวียนต้องขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้ง

สายตาที่เย็นเฉียบของเขากวาดมองไป เจ้ามารที่กำลังได้ใจเมื่อครู่ยังต้องใจสั่นขึ้นมา

เลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายของมารเหล่านี้ยังคงเป็นสีแดง เลือดสีแดง เป็นของพวกมนุษย์

“พวกเจ้าเข้ายึดครองร่างกายของเผ่ามนุษย์ ยังมิได้กลายเป็นร่างมารโดยสมบูรณ์” จีเฉวียนเอ่ยอย่างเรียบเฉย “ฟังจากคำพูดของพวกเจ้า ก็แสดงว่าในดินแดนจิ่วโจวมีพวกมนุษย์จำนวนไม่น้อยที่ถูกมารยึดครองร่างไปแล้ว จะช้าหรือเร็วก็ต้องกลายเป็นมารไปสินะ?”

คำพูดของเขา ทำเอาเหล่ามารทั้งหลายต่างก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีไป

ที่จริงพวกมันไม่ได้กล่าวอะไรมากมาย แม้แต่เรื่องที่ว่าตนเองเป็นเผ่ามารก็ยังไม่ได้ยอมรับเลยด้วยซ้ำ

แต่ว่าบุรุษผู้นี้ กลับอาศัยคำพูดที่ไม่ปะติดปะต่อกันเพียงสองสามคำ ก็สามารถคาดการณ์ได้ถึงขั้นนี้แล้ว ที่จริงแล้วเขาคือผู้ใดกันแน่?

คราวนี้ สายตาที่พวกมันมองไปยังจีเฉวียน ถึงได้มีความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างแท้จริง

บุรุษผู้นี้…….เป็นบุคคลอันตราย

จีเฉวียนกอดตู๋กูซิงหลันในอ้อมแขนให้กระชับแน่นกว่าเดิม เอ่ยถามต่อไปว่า “ที่มายังดินแดนโบราณ ก็เพราะจงใจมาก่อเรื่องสร้างปัญหา คิดจะกลายร่างเป็นมารขยายเผ่าพันธุ์ และยึดครองร่างเนื้อของผู้คนในดินแดนโบราณแห่งนี้สินะ?”

ซื่อมั่วเคยเป็นถึงหมิงอ๋อง สู้รบตบตีกับเผ่ามารมาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไหร่แล้ว

ความเข้าใจในเผ่ามารของเขานั้น ย่อมลึกล้ำกว่าผู้ใด

เจ้าพวกอ่อนแออที่ยังไม่ทันได้กลายร่างเป็นมารโดยสมบูรณ์เหล่านี้ ยังไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิด

ทันทีที่กล่าวจบ ก็เห็นสีหน้าของพวกมารเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ไปในทันที

บุรุษผู้นี้……

“ใช่แล้ว พวกมันยังบอกเลยว่าจะจับนู๋ไปปลดปล่อยจอมมาร!” ตู๋กูซิงหลันนั่งอยู่บนตักของจีเฉวียน นางย่อมจำคำพูดเมื่อครู่ของพวกมันได้ ตอนนี้จึงฟ้องจีเฉวียนอย่างน่าเอ็นดู

ถึงแม้ว่าจิตใจของนางจะอยู่ในวัยสามขวบ แต่ว่าความทรงจำนั้นดีอย่างยิ่ง!

“จอมมาร….” สองคำนั้น พอเอ่ยออกมาจากปากของจีเฉวียน ก็ยิ่งทวีความเหน็บหนาวมากขึ้นเป็นพิเศษ

“พี่ชายรู้จักเจ้าจอมมารนั่นหรือ?” ตู๋กูซิงหลันเอียงศีรษะ “เช่นนั้นเค้าจะต้องมิใช่ตัวดีอย่างแน่นอน!”

เหล่ามารทั้งหลายพอได้ฟัง ก็ขุ่นเคืองขึ้นมา คิดจะด่าสวนกลับไปว่านางสิที่มิใช่ตัวดี แต่ว่าคำพูดเหล่านั้นกลับถูกกระแสความหนาวเย็นจากร่างของจีเฉวียนสะกัดกั้นเอาไว้ จนทำให้เอ่ยอะไรไม่ออก

จีเฉวียนเพียงลูบไล้เส้นผมของนางอย่างแผ่วเบา สายตาคมกริบดุจมีดดาบจับจ้องอยู่ที่เหล่ามารกลุ่มนั้น “ในร่างกายของพวกเจ้า ไม่เพียงแต่มีไอมาร แต่ยังมีไอทิพย์จากแดนสวรรค์เจือปน….”

“บอกมาเถอะ ว่าคนผู้นั้นเป็นใครกันแน่ ถึงกับใช้ไอทิพย์ในแดนสวรรค์มาหล่อเลี้ยงพวกมาร คงคิดจะฟื้นฟูเผ่ามารขึ้นมาใหม่สินะ”

……………………

ตอนที่ 704-1 มื้อครอบครัว

ไอทิพย์ของแดนสวรรค์ เขาย่อมคุ้นเคยอย่างที่สุดอยู่แล้ว

ในร่างของมารเหล่านี้ ไม่เพียงแต่มีไอมาร ยังมีไอวิญญาณอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือไอทิพย์ที่เป็นพลังวิญญาณของแดนสวรรค์อย่างแน่นอน

ตี้เสียหรือ?

ในใจของจีเฉวียนตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด เพียงแต่เมื่อดวงตาที่เย็นชาของเขาจดจ้องไปที่เหล่ามาร ก็ทำให้พวกมันต้องใจหายวาบขึ้นมา

บุรุษผู้นี้…..ไม่เพียงแต่รู้จักเผ่ามารเป็นอย่างดี แม้แต่ชาวสวรรค์เขาก็ยังรู้จัก

“ไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่” พอถูกมองฐานะออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เหล่ามารต่างก็ใจหวาดผวาขึ้นมา

สีหน้าของพวกมันถึงกับย่ำแย่ ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านแม้แต่น้อย

จีเฉวียนคร้านจะเสียเวลาไปกับพวกมัน ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขาขยับวูบ หมอกสีดำสายหนึ่งก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง หมอกสีดำนี้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของพวกมันผ่านทางกระหม่อม

ทันใดนั้นเอง พวกมันก็ต้องกรีดร้องอย่างโหยหวนออกมา

หมอกสีดำของจีเฉวียน มิใช่สิ่งที่ผู้ใดก็สามารถรองรับเอาไว้ได้ง่ายๆ

พอหมอกดำซึมเข้าไป พวกมารก็ปวดศีรษะจนร่ำร้อง ราวกับว่ามีพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งจนถึงขนาดที่แม้แต่พวกมันก็ยังไม่อาจต่อต้านได้ กำลังทะลวงเข้าไปในกระแสความคิดของพวกมัน

กระแสความคิดคือสิ่งที่มิว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใดๆในหกภพภูมิล้วนแล้วแต่ต้องมี เป็นกระแสสำนึกอันกว้างใหญ่ดุจท้องทะเล

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Status: Ongoing

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท