ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 672 ทะลวงขั้น! อินกั่วเทียน!

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 672 ทะลวงขั้น! อินกั่วเทียน!

หานเจวี๋ยคุยกับจอมเทพข่งเซวี่ยอยู่พักใหญ่ หลังจากจอมเทพข่งเซวี่ยยอมสยบภายใต้การตะล่อมของหานเจวี๋ยเขาก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังถูกเทพจักรพรรดิอัปมงคลจับตัวไป

ที่แท้เทพจักรพรรดิอัปมงคลไม่ได้มอบตัวเขาให้จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย กลับจับตัวเขาเอาไว้ต่อรองกับจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายแทน

จอมเทพข่งเซวี่ยฉวยโอกาสที่ทั้งสองดึงเชิงไม่ลงรอยกัน หนีรอดออกมาได้

จอมเทพข่งเซวี่ยยังถามด้วยว่าหานเจวี๋ยสั่งให้เทพจักรพรรดิอัปมงคลเปิดช่องให้เขาหลบหนีใช่หรือไม่ เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่เทพจักรพรรดิอัปมงคลลงมือไม่ทรงพลังเท่าก่อนหน้านี้ ราวกับได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่

สำหรับเรื่องนี้ หานเจวี๋ยเพียงยิ้มแต่ไม่ตอบ

จอมเทพข่งเซวี่ยยังคงสงสัยยิ่งว่าในเมื่อจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายและเทพจักรพรรดิอัปมงคลล้วนเป็นลูกน้องของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ แล้วเหตุใดถึงขัดแย้งกันเอง

หานเจวี๋ยย้อนถามเพียงว่า “เหตุใดสำนักเต๋าถึงแบ่งแยกเป็นสามนิกายเล่า”

จอมเทพข่งเซวี่ยจึงเงียบไป

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นับว่าหานเจวี๋ยสยบจอมเทพข่งเซวี่ยได้แล้ว เขาให้จอมเทพข่งเซวี่ยไปพักฟื้นก่อน วันหน้าจะติดต่อไปหาอีกครั้ง

การต่อสู้กับผานซินทำให้วิญญาณต้นกำเนิดของจอมเทพข่งเซวี่ยได้รับความเสียหายไม่น้อยเลย จำเป็นต้องใช้เวลาปรับฟื้นคืนสภาพ

‘ต้องเร่งทะลวงขั้นให้ได้ พอถึงเวลาจะได้จับจอมเทพข่งเซวี่ยเข้าคุกสวรรค์อนธการ กลายเป็นลูกน้องของข้าอย่างสมบูรณ์’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

หากว่าถึงเวลาหานเจวี๋ยเอาชนะจอมเทพข่งเซวี่ยได้ จอมเทพข่งเซวี่ยยอมรับนับถือด้วยใจจริง เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็ไม่ต้องใช้คุกสวรรค์อนธการอีก

ฝึกบำเพ็ญต่อดีกว่า!

หานเจวี๋ยกระตุ้นความกระฉับกระเฉง เริ่มมุมานะ!

….

หกร้อยปีต่อมา หานเจวี๋ยเริ่มทะลวงขั้น

ใช้เวลาทะลวงอยู่สามร้อยปีเต็ม

สดชื่นนัก!

ความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน!

พลังเวทเพิ่มขึ้นฉับพลัน!

วิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลง!

การทะลวงทุกครั้งคือความก้าวหน้า!

วินาทีนี้ หานเจวี๋ยรู้สึกได้ว่าคุณสมบัติของตนมิได้ดาษดื่นเช่นนั้น เขาทำให้ตบะเสถียรไปพลางเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาตรวจสอบ

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 197490/6,304,999,999,999,999,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: เทพมารอนธการ (มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต)]

[ตบะ: เบิกฟ้าเสรีระยะปลาย (อริยะสมบูรณ์แบบ)]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ (ระดับมหามรรค), วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด, มหามรรคแห่งกรรม, มหามรรคต้นกำเนิด]

….

อายุขัยไม่เพียงแต่กลับคืนมาเท่าเดิม ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวด้วย!

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าทุกครั้งที่ตนทะลวงขั้นอายุขัยที่กลับคืนมาจะค่อนข้างเกินจริงไปมากนัก สอดรับกับหนังสือแห่งความโชคร้าย อยู่ยงคงกระพัน

แต่พอคิดดูให้ดีๆ แล้วยังคงเป็นเพราะเขาทะลวงระดับได้เร็ว

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ไหนเลยจะทะลวงระดับได้เร็วขนาดนี้ ต่อให้ยกหนังสือแห่งความโชคร้ายให้คนอื่นด้วย หากใช้จนเสพติดเข้า ยังไม่ทันทะลวงระดับได้อายุขัยเพิ่ม ก็คงถูกหนังสือแห่งความโชคร้ายสูบจนแห้งตาย เสียชีวิตลงทันที

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าตนจะเอาแต่พึ่งพาหนังสือแห่งความโชคร้ายไม่ได้ ต้องลดจำนวนการใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายลง

สองร้อยปีต่อมา ตบะหานเจวี๋ยเสถียรสมบูรณ์

เขาเลือกตรวจดูจดหมายก่อน

[จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากอินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[หานทั่วบุตรชายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากอินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[ผานซินสหายของท่านรับสืบทอดมรดกจากผานกู่ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[จักรพรรดินีผืนพิภพสหายของท่านตระหนักเข้าใจฟ้าบุพกาล รู้แจ้งในวัฏจักร พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[มหาจักรพรรดิเทียนเอ้อสหายของท่านเผชิญกับคำสาปแช่งลึกลับ]

[หานทั่วบุตรชายของท่านถูกอินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านแย่งชิงสังขาร วิญญาณเผชิญกับการจองจำ]

[จอมเทพข่งเซวี่ยสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสิ่งอัปมงคล] x78902922

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเข้าสู่แดนต้องห้ามอันธการ]

….

เมื่อหานเจวี๋ยเห็นสิ่งที่หานทั่วเผชิญ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

เยี่ยมมากอินกั่วเทียน!

บังอาจทำร้ายจักรพรรดิสวรรค์กับบุตรชายข้า!

ไม่เพียงเท่านั้น ยังแย่งชิงสังขารของบุตรชายข้าอีก!

หานเจวี๋ยกังวลว่าอินกั่วเทียนจะค้นพบความลับในร่างหานทั่ว จึงหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งอินกั่วเทียน

แน่นอนว่าต้องสังหารให้ได้ในคราวเดียว

[อินกั่วเทียน: ดวงจิตมหามรรค จำแลงมาจากมหามรรคแห่งกรรม ภายหลังถูกปรมาจารย์ลัญจกรสรวงควบคุม ชิงต้นกำเนิดมหามรรคไป เกลียดชังอาฆาตมรรคาสวรรค์ เนื่องจากท่านขัดขวางแผนการทำลายมรรคาสวรรค์ จึงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 4 ดาว]

หานเจวี๋ยเรียกดูข้อมูลของอินกั่วเทียนอีกครั้ง

ไม่เพียงแต่ได้ช่วยจักรพรรดิสวรรค์และหานทั่วเท่านั้น ถือโอกาสช่วยกำจัดศัตรูตัวฉกาจให้ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงด้วย!

ห้าวันต่อมา

อายุขัยของหานเจวี๋ยเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว เขาเรียกหน้าต่างค่าสถานะของตนออกมา จับตามองอายุขัย

หนึ่งร้อยล้านปี!

หนึ่งพันล้านปี!

หนึ่งหมื่นล้านปี!

หนึ่งแสนล้านปี!

หนึ่งล้านล้านปี!

สิบล้านล้านปี!

ร้อยล้านล้านปี!

หานเจวี๋ยยังคงสาปแช่งต่อไป ตอนนี้ในสายตาของเขาอายุขัยเท่านี้ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงเลย

จู่ๆ เขาก็นึกถึงก่อนหน้านี้ที่ตัดสินใจจะใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายให้น้อยลง

ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น

ครั้งสุดท้ายแล้ว

ใช้น้อยลงไม่ได้แปลว่าจะไม่ใช้เลย

หลังจากหานเจวี๋ยปรับสภาวะอารมณ์ก็ตั้งใจสาปแช่งต่อ

….

ท่ามกลางห้วงอวกาศมืดสลัว มีตะเกียงน้ำมันใหญ่ยักษ์ดวงหนึ่ง มีดวงวิญญาณนับล้านล่องลอยอยู่ในไส้ตะเกียง พวกเขาล้วนถูกกักขังไว้ที่นี่ ไม่สามารถออกจากไส้ตะเกียงได้

หานทั่วและอี๋เทียนก็อยู่ที่นี่ด้วย

อี๋เทียนเอ่ยขึ้นมา “น้องชาย เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

หานทั่วกำลังหงุดหงิด จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว “เคยเกิดขึ้นเมื่อใดเล่า”

“ครานั้นที่ถูกจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการจับตัวไป คล้ายคลึงกับยามนี้มากมิใช่หรือ”

“…”

หานทั่วไม่เข้าใจสมองของอี๋เทียนเลย เวลานี้ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่อีก

ศัตรูในครานี้แตกต่างไปจากในอดีต แม้แต่จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายก็บาดเจ็บสาหัส ทหารสวรรค์หลายล้านนายล้วนถูกสะกดไว้ที่นี่ ทนรับความร้อนจากตะเกียง อยู่มิสู้ตาย

หานทั่วอดนึกถึงบิตาตนไม่ได้ นั่นคือความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเขา

พูดไปก็น่าละอาย เขาคิดจะพึ่งพาความสามารถของตนเติบใหญ่ขึ้นมา ไม่คิดเลยว่าจะต้องรอความช่วยเหลือจากบิดาตนอีกแล้ว

ในเวลานี้เอง

ห้วงอวกาศอันมืดมัวพลันปรากฏสายลมเยียบเย็นโหมกระโชก เปลวไฟในตะเกียงน้ำมันดวงใหญ่สั่นไหว ไฟแรงขึ้นกว่าเดิม ทำให้ทหารสวรรค์มากมายเริ่มร้องโหยหวนราวกับถูกเผาทั้งเป็น

แรงกดดันมหาศาลเข้าปกคลุม หานทั่วรู้สึกตื่นตระหนกเสมือนวิญญาณจะหลุดลอยแตกแยก

เกิดอะไรขึ้น

หานทั่วตระหนกอยู่ในใจ กวาดตามองไปทั่วสารทิศ

อี๋เทียนถามอย่างระมัดระวัง “เจ้าคนผู้นั้นจะทำอันใด”

หานทั่วมิได้ตอบเขา ตะเกียงน้ำมันใหญ่ยักษ์มีผนึกลึกลับบางอย่าง ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้กระแสจิตได้ ได้แต่อาศัยดวงตาสอดส่อง

“ฮึ่ม วังสวรรค์ช่างยอดเยี่ยมนัก ไม่นึกเลยว่าผู้ที่หนุนหลังพวกเจ้าอยู่ก็คือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ!”

น้ำเสียงเย็นชาสายหนึ่งแว่วขึ้น หานทั่วจำอีกฝ่ายได้ เป็นผู้ทรงพลังลึกลับที่กักขังพวกเขาเอาไว้

ทหารสวรรค์หลายล้านนายถูกอีกฝ่ายจับตัวมาพร้อมกัน พลังวิเศษนั้นเมื่อย้อนนึกถึงช่างราวกับฝันร้ายฉากหนึ่ง

“ในเมื่อเจ้าคิดจะช่วยพวกเขา เช่นนั้นข้าจะกลืนกินสังขารของพวกเขา!”

เสียงอินกั่วเทียนแว่วขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้น หานทั่วพลันหน้าเปลี่ยนสี เขารู้สึกได้ว่าสังขารของตนสูญสิ้นไปแล้ว

มิใช่เพียงเขา วิญญาณดวงอื่นก็สัมผัสได้เช่นกัน ความรู้สึกนี้ช่างทรมานอย่างยิ่ง ทำให้วิญญาณพวกเขาอยู่ในสภาวะไม่มั่นคงอย่างรวดเร็ว

….

[อินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านมรรคจิตสั่นคลอน เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

[อินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านมรรคจิตได้รับความเสียหาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน พลังมรรคลดฮวบ]

[อินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านกลืนกินวิญญาณหลายล้านดวง ผสานเลือดเนื้อ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

อินกั่วเทียนกินหานทั่วเช่นนั้นหรือ?

รนหาที่ตาย!

หานเจวี๋ยสาปแช่งต่อไป เขาผลาญอายุขัยไปแล้วสองพันล้านล้านปี อายุขัยกำลังลดฮวบไม่หยุด

สามพันล้านล้านปี!

[อินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านบังเกิดจิตมาร เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

สี่พันล้านล้านปี!

[อินกั่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านจิตมารอาละวาด เกิดการต่อต้านทางสายเลือด กายเนื้อแตกสลาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

ห้าพันล้านล้านปี!

เวรเอ้ย เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ

………………………………………………………………

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

Status: Ongoing
ชาติก่อนอายุสั้น ไม่ทันได้ใช้ชีวิต ชาตินี้จึงขอพากเพียรบำเพ็ญเซียน ลาภยศสตรีมีหรือจะสู้การเป็นอมตะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท