ฮว๋ายยู่ถูกเขาพูดคำพูดที่โหดร้ายของเขาทำเอาตะลึงจนเอ่ยอะไรไม่ออก น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย ผ่านไปอีกพักใหญ่นางถึงได้หาเสียงของตนเองเจอ
“แต่ว่าเทียนตี้ เด็กคนนี้….”
พอจะวิงวอนอีกครั้ง คำพูดยังไม่ทันจะเอ่ยออกมา ก็ถูกตี้เสียสกัดขวางในทันที “พอแล้ว!”
พระองค์ขมวดพระขนงมุ่น ในแววเนตรมีแต่ความชิงชังและโหดเหี้ยม
ฮว๋ายยู่ไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็รู้สึกว่าหน้าท้องเย็นวาบ พริบตานั้นความเจ็บปวดที่รุนแรงสายหนึ่งก็พุ่งจากหน้าท้องเข้าสู่หัวใจของนาง
นางเบิกตาโต ก้มลงไปมอง ก็เห็นฝ่าพระหัตถ์ของตี้เสียล้วงลงไปในครรภ์ของนาง!
น้ำคร่ำและเลือดผสมรวมกันไหลออกมาจากช่องท้อง เลือดเหล่านั้นเป็นสีแดงใส!
ไม่ทันจะได้กระพริบตา ก็เห็นตี้เสียทรงคว้าบางสิ่งขึ้นมาบนฝ่ามือ นั่นคือทารกในครรภ์ที่ยังไม่ทันครบกำหนดในท้องของฮว๋ายยู่!
ทารกที่ดูเหมือนจะยังอยู่ในรก ถูกลากออกมาจากในครรภ์ของฮว๋ายยู่ทั้งๆที่มีชีวิต
เมื่อมองผ่านรกที่บอบบาง ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทารกก่อตัวเป็นรูปร่างแล้ว แม้ว่าถูกลากออกมาแต่เขาก็ยังไม่ตาย เขาดูเหมือนกำลังทรมานอย่างหนักจึงพยายามดิ้นรนอย่างเหนื่อยแรง
ฮว๋ายยู่ทั้งตกตะลึงทั้งเจ็บปวด นางทรุดนั่งอยุ่กับพื้น ไม่มีแรงแม้แต่จะยืนขึ้นมา
“อย่าได้….อย่าได้….” น้ำตาไหลพรากเป็นสายฝน นางส่ายหน้าอย่างไม่คิดชีวิต หวังว่าตี้เสียจะเห็นแก่ความผูกพันในฐานะสามีภรรยาตลอดช่วงเวลาหลายปี ละเว้นทางรอดให้เด็กคนนี้สายหนึ่ง
ตี้เสียมิได้สนใจนาง ทรงฉีกรกออกด้วยพระองค์เอง จนเผยให้เห็นใบหน้าของทารก
ใบหน้ายังมิได้มีเนื้อสมบูรณ์ ผิวก็ยังย่นยู่ ดูไปเหมือนคนชราน้อย
ปลายเล็บของพระองค์สะกิดลงไปบนท่อนแขนของทารก จนได้เลือดออกมาหยดหนึ่ง
จากนั้นพระองค์ก็สูดดมเบาๆ พริบตานั้นทั่วทั้งร่างของพระองค์ก็เย็นวาบดุจแท่งน้ำแข็ง
“มิใช่สายเลือดของเรา”
ประโยคที่สั้นและแผ่วเบานั้น ทำให้ฮว๋ายยู่แทบจะตกนรกทั้งเป็น
นางล้มลงไปในกองเลือด ทั้งโศกเศร้า ผิดหวังและเคียดแค้น หากมิใช่เพราะว่าเจ้าเดรัจฉานซือเป่ยผู้นั้นวางแผนทำร้ายนาง นางก็คงไม่ต้องมาทุกข์ทรมานเช่นวันนี้!
พอยืนยันสายโลหิตของทารกได้แล้ว ตี้เสียที่มีแต่บรรยากาศน่าสะพรึงกลัวรอบกายก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
พระหัตถ์ข้างหนึ่งคีบลำคอของทารกเอาไว้ พระหัตถ์อีกข้างก็ควักลงไปบนทรวงอกของทารกเบาๆล้วงเอาหัวใจของทารกออกมา
ฮว๋ายยู่เบิกตามองดู ก็รู้สึกว่าเบื้องหน้ามีแต่ความมืดมิด นางถึงกับใกล้จะสลบลงไปทั้งอย่างนั้น
แต่ตี้เสียก็ไม่ให้โอกาสนางได้สลบไป
เขากินหัวใจของทารกลงไป ต่อหน้าต่อตาของฮว๋ายยู่!
ตั้งแต่ต้นจนจบ ทารกผู้นั้นไม่มีโอกาสได้ร้องออกมาแม้แต่คำเดียว!
กินทารกลงไปแล้ว ไอสีทองบนร่างของตี้เสียก็เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ท่ามกลางแสงสีทองก็มีไอมารปะปนอยู่มิได้ขาด
พลังของเขาเพิ่มพูนขึ้นมาอีกไม่น้อยเลย
เผ่ามารมีวิชาเวทย์ลับอยู่แขนงหนึ่ง ที่ฝึกฝนวิชาโดยอาศัยการกินคนโดยเฉพาะ
ทารกที่ยังมิได้กำเนิดออกมานี้ หากถูกควักออกมากินทั้งเป็น ไอแค้นจะเข้มข้นที่สุด พลังที่ได้จากกินทารกเป็นๆลงไปเพียงผู้เดียว แม้แต่สิบเทพเซียนก็ยังเทียบไม่ได้
อย่าว่าแต่ ทารกนี้เป็นของฮว๋ายยู่
แม้ว่าฮว๋ายยู่ในตอนนี้จะไม่มีพลังตบะใดๆแล้ว แต่ว่าในกระดูกและเลือดเนื้อของนางมีสายเลือดของจู่ฮว๋ายอยู่ แน่นอนว่าจะอย่างไรก็แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ชีวิตของฮว๋ายยู่นั้น ได้มาจากจู่ฮว๋ายนั่นเอง!
กินทารกของนางเข้าไป ก็เหมือนได้รับพลังจากจู่ฮว๋ายมาส่วนหนึ่ง
ตี้เสียย่อมไม่ปล่อยโอกาสไปอยู่แล้ว
รอจนเขากินทารกลงไปจนหมดสิ้น จึงค่อยหันกลับมามองดูฮว๋ายยู่
ก้าวเข้าไปเพียงสองสามก้าวก็ถึงเบื้องหน้าของฮว๋ายยู่แล้ว พระองค์ก็ยื่นพระหัตถ์ออกมาดึงฮว๋ายยู่ขึ้นมาจากบนพื้น พระโอษฐ์ที่เปรอะไปด้วยกลิ่นคาวเลือด พ่นคำพูดใส่หน้านาง “เจ้าทำความผิด ย่อมต้องถูกลงโทษ ไม่เช่นนั้นต่อไปก็จะไม่รู้จักจดจำ ไปสมสู่กับบุรุษอื่นอีก แล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?”
“ครั้งนี้ถือว่าเจ้าเดรัจฉานน้อยนั่นรับโทษแทนเจ้า เทียนโฮว่ จากนี้เป็นต้นไปจงอยู่อย่างว่าง่ายและเชื่อฟัง ~”
ว่าแล้ว ตี้เตียก็ยังยื่นพระหัตถ์ออกมา ทัดปอยผมของนางไว้ด้านหลังใบหู แววตาดูเหมือนจะอ่อนโยนขึ้นกว่าเดิมมากนัก
หน้าท้องของฮว๋ายยู่ยังกลวงเป็นรูใหญ่ เลือดยังไหลออกมาไม่ยอมหยุด นางเจ็บปวดจนด้านชาไปหมดแล้ว
แต่ตี้เสียที่อยู่ตรงหน้าทำให้นางต้องหวาดกลัวไปจนถึงในกระดูก
“เราต้องการให้เจ้าได้มีโอกาสได้แก้ไขตนเอง จงไปกระทำเรื่องหนึ่งให้กับเรา” ตี้เสียไม่สนใจอาการบาดเจ็บของนาง ตรัสต่อไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฮว๋ายยู่กัดฟัน สูดลมหายใจรวบรวมสติ ได้แต่ใช้พลังวิญญาณที่มีอยู่ไม่มากนักในร่างกายประคองเอาไว้
“ไปนำจู่ฮว๋ายมาอยู่ข้างกายเรา” พระหัตถ์ของตี้เสียลูบลงไปบนใบหน้าของนาง นับตาสีทองจับจ้องไปที่นาง “ตอนที่ฟ้าดินถือกำเนิด เจ้าเป็นเพียงต้นหญ้ากอหนึ่งที่อยู่ข้างกายจู่ฮว๋าย แต่เพราะได้รับเลือดเนื้อจากจู่ฮว๋ายจึงสามารถกลายร่างขึ้นมาได้ นางเห็นเจ้าเป็นดั่งน้องสาวแท้ๆมาโดยตลอด เจ้าไปเชิญนางมาด้วยความจริงใจ นางจะต้องมาอย่างแน่นอน”
แม้ว่าฮว๋ายยู่จะตกอยู่ในความทรมานเพราะความเจ็บปวด แต่พอได้ยินเขาเอ่ยถึงสตรีที่นางจงเกลียดจงชังมาตลอดชีวิต หัวใจของฮว๋ายยู่ก็พุ่งพล่านขึ้นมา นางแทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
นางกับตี้เสียเป็นสามีภรรยากันมานานหลายปี ทำเพื่อเขาไปมากมาย แต่ว่าสุดท้ายแล้ว เขาก็ยังเอาแต่คิดถึงนางแพศยานั่น!
ใช่สิ นางแพศยานั่นเกิดมาก็ได้เป็นพฤกษาศักดิ์สิทธิ์จู่ฮว๋าย ครอบครองพลังที่สามารถปกครองดวงวิญญาณในใต้หล้า นางสูงส่งเลอเลิศอย่างที่สุด แล้วฮว๋ายยู่ล่ะ ตนเองล่ะคืออะไร?
ก็แค่ต้นหญ้ากอหนึ่งที่ขึ้นอยู่ข้างกายพฤกษาศักดิ์สิทธิ์จู่ฮว๋ายเท่านั้น
ใช่แล้ว จู่ฮว๋ายมอบเลือดพิสุทธิ์ของนางเพื่อสร้างชีวิตให้กับตน แต่ว่านางรู้ทั้งรู้ว่าตนหลงรักตี้เสีย ก็ยังคิดจะมาแย่งชิงตี้เสียไปจากข้างกายตน!
นังแพศยานั่น ก็เพียงใช้การคงอยู่ของตัวนางเพื่อยกระดับคุณค่าของตนเองเท่านั้น
ตลอดหลายปี นางถูกจู่ฮว๋ายเหยียบเอาไว้ที่ใต้ฝ่าเท้า ผู้คนในใต้หล้ารู้จักแต่ว่านางคือน้องสาวของมหาเทพจู่ฮว๋าย แต่ว่ากลับไม่มีใครรู้จักชื่อของนางเลย
หากจู่ฮว๋ายไม่ตาย นางก็คงไม่มีทางได้ครอบครองตี้เสียตลอดกาล ตลอดชีวิตได้แต่ถูกแสงสว่างของจู่ฮว๋ายบดบังเอาไว้ จำต้องมีชีวิตอยู่แต่ในร่มเงาที่มืดมิดตลอดไป
นางไม่ยอม….
ดังนัั้นนางจึงต้องการให้นังแพศยานั่นตายไปเสีย!
หลังรอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดวันหนึ่งนางก็สบโอกาสทำสำเร็จ….
แต่ว่าทำไมผ่านมาก็นานหลายปีแล้ว นังแพศยานั่นก็ยังกลับมาได้อีก?
แถมตี้เสีย….ยังต้องการให้ตนเป็นคนไปรับตัวนางแพศยานั่นมาด้วยตนเอง
จากคำพูดของเขา เห็นได้ชัดว่าคนที่เขาเฝ้าครุ่นคิดถึงอยู่ตลอดเวลานั้นก็คือ จู่ฮว๋าย ….มิใช่ตัวนาง
“แม้ว่านางจะกลับมาเกิดใหม่แล้ว แต่ก็ลืมเลือนเรื่องราวในอดีตทั้งหมด แน่นอนว่าต้องจำไม่ได้ว่าข้าเป็นใคร แล้วข้าจะสามารถพานางมาได้อย่างไร”
ฮว๋ายยู่ส่ายศีรษะ จะให้นางพานังแพศยานั่นมาส่งถึงเบื้องหน้าตี้เสีย มองดูตี้เสียโปรดปรานมันตลอดเวลา นางทำไม่ได้!
ใช่ ตอนนี้ในใจนางโกรธแค้นตี้เสีย แต่ว่านางก็ยังชิงชังฮว๋ายยู่มากกว่า!
“ฮว๋ายยู่ เลือดในกายของเจ้า เป็นของจู่ฮว๋าย” ตี้เสียหัวเราะออกมาอีกครั้ง “หากใช้เลือดของเจ้าเป็นสื่อ แล้วใช้ยันต์สาปคืนวิญญาณ แน่นอนว่าย่อมสามารถทำให้นางจดจำเรื่องราวในชาติก่อนได้ นางห่วงใยน้องสาวอย่างเจ้ามาตลอด ย่อมต้องมาอย่างแน่นอน”
ตี้เสียเชยคางของนางเอาไว้ ในดวงตามีแต่ความโหดเหี้ยม
“หากเจ้าไม่ไป เจ้าก็จะต้องถูกเราชิงชังไปตลอดกาล ตำแหน่งเทียนโฮว่นี้ เจ้าก็อย่าได้เป็นอีกเลย”
เขาเห็นแก่ความผูกพันในฐานะสามีภรรยาที่มีกับสตรีผู้นี้ ถึงแม้ว่านางจะกระทำผิด แต่ก็ยังให้อภัยนาง
นางกลับไม่รู้จักรักดี กล้าปฏิเสธความต้องการของเขาหรือ?
ในใจของตี้เสียเกิดความคิดต้องการจะกินนางลงไปขึ้นมาแล้ว
ฮว๋ายยู่ถูกเขาบีบปลายคางจนแทบขาด
“เทียนตี้ มีความลับอยู่เรื่องหนึ่ง บางทีท่านอาจยังไม่รู้…” นางคว้าพระหัตถ์ของตี้เสียเอาไว้ ในดวงตามีแต่เส้นเลือดแตกเต็มไปหมด แต่แววตากลับเต็มไปด้วยการถากถางเยาะเย้ย