ผลอสรพิษทองคำผลนี้มิใช่ผลที่ไปแย่งชิงมาจากเทือกเขาผู่สั่วในตอนนั้น หากแต่เป็นของต้นผลอสรพิษทองคำที่ออกผลอยู่ภายในเจดีย์วิญญาณ
เจ้าไก่ฟ้ารับเอาผลอสรพิษทองคำมาแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้ว อีกสองสามวันข้าจะกลับมานะ”
พอพูดจบเขาก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ไปจากตระกูลซือหม่า
ซือหม่าโยวหรานมองเงาหลังของเจ้าไก่ฟ้าแล้วเอ่ยว่า “ทิศทางที่บินไปนั้นคงเป็นพื้นสมุทรกระมัง”
“น้องห้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาไปทำอะไรมา” ซือหม่าโยวเล่อถามอย่างใคร่รู้
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน เขามิใช่สัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของข้า จึงมิได้เล่าเรื่องของเข้าให้ข้าฟัง” ซือหม่าโยวเย่ว์โบกมือ
“ในที่สุดวันนี้เหล่าคุณชายก็ว่างกันเสียที รอให้อยู่ตัวแล้วพวกเรามาร่ำสุรากันแบบไม่เมาไม่เลิกรากันสักครั้งหนึ่งเป็นอย่างไร” เจ้าอ้วนชวีเข้ามาร่วมวงด้วย
“ขอบใจพวกเจ้ามากที่คอยดูแลน้องห้ามาตลอดหลายปีนี้” ซือหม่าโยวหมิงประสานมือคารวะพวกเขา “รอให้ท่านปู่กลับมาแล้วพวกเราจะต้องดื่มกับพวกเจ้าสักหลายจอกอย่างแน่นอน”
เกือบเที่ยงแล้วกว่าซือหม่าเลี่ยจะกลับมาแล้วเอ่ยกับทุกคนว่า “ข้าตัดสินใจจะกลับมายังบ้านเดิม ต่อจากนี้ไปพวกเราก็จะมาใช้ชีวิตกันอยู่ที่นี่แล้วนะ”
พวกซือหม่าโยวเย่ว์มิได้รู้สึกประหลาดใจกับการตัดสินใจนี้เลย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอยู่ในความคาดหมาย
ถึงแม้ว่าจะไม่พึงพอใจกับตระกูลเป็นอย่างมาก แต่การอยู่ที่นี่ต่อไปย่อมดีสำหรับพวกเขามากกว่าอยู่แล้วโดยเฉพาะเมื่อเขานึกถึงพวกซือหม่าโยวหมิง การมีครอบครัวเช่นนี้ย่อมทำให้พวกเขาเดินไปได้ไกลกว่าในอนาคต
ในเมื่อซือหม่าโยวเย่ว์ต้องการอยู่ต่อ พวกเว่ยจือฉีจึงคิดจะลงหลักปักฐานที่นี่ ก่อนที่จะหาบ้านได้ก็อยู่ที่โรงเตี๊ยมไปก่อน
เดิมทีซือหม่าโยวเย่ว์คิดจะให้พวกเขาอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลซือหม่าสักระยะหนึ่งก่อน แต่เมื่อคิดดูแล้วตนก็ยังไม่คุ้นเคยกับตระกูลนี้ จึงได้ล้มเลิกความคิดนี้ไป
ในยามค่ำ ซือหม่าโยวฉิงและซือหม่าโยวหยางมาหาซือหม่าโยวเย่ว์ ก็พบพวกเขาที่กำลังดื่มสุรากันอยู่พอดี จึงนั่งลงดื่มด้วยกันอย่างไม่เกรงใจ
เมื่อได้ยินว่าพวกเว่ยจือฉีวางแผนจะลงหลักปักฐานที่เมืองอันหยาง
ซือหม่าโยวหยางจึงตบอกรับประกัน บอกว่ายกเรื่องนี้ให้เขาจัดการ จะต้องหาที่พักที่เหมาะสมให้พวกเขาได้อย่างแน่นอน
วันรุ่งขึ้นเขาก็มาหาคนเหล่านี้ บอกว่าหาเรือนให้ได้แล้ว พร้อมกันนั้นก็ได้นำข่าวของงานประมูลเมื่อคืนมาด้วย บอกว่าในท้ายที่สุดแล้วมีผู้คนมากมายแย่งชิงไขกระดูกมังกรดินกัน จากราคาเดิมสองแสน ถูกเรียกไปจนถึงห้าล้านกว่า
“โชคดีที่พวกเราไม่ต้องการมันแล้ว มิฉะนั้นพวกเราคงต้องใช้จ่ายเงินก้อนโตอย่างแน่นอน” ซือหม่าโยวหยางรำพึงออกมา
“หาบ้านได้เรียบร้อยแล้วหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“หาได้แล้ว เป็นเรือนของสหายคนหนึ่งของข้า เมื่อได้ยินว่าข้าต้องการบ้าน จึงได้ยกให้กับข้า” ซือหม่าโยวหยางพูด
“แล้วจะไม่เป็นไรหรือ” เว่ยจือฉีถาม
“ไม่เป็นไรหรอก เขามีบ้านตั้งมากมาย แค่หลังสองหลังเขาไม่สนใจหรอก ถ้าหากพวกเจ้ามีเวลาว่าง วันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าไปดู ถ้าหากไม่ชอบค่อยหาหลังอื่นก็ได้”
“ได้ พวกพี่ๆ เขากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องการกลับเข้าตระกูล ข้าไม่มีธุระอะไร พวกเราไปดูกันดีกว่า”
พวกเขาไปรับเสี่ยวถูที่หอเซวียนหยวนก่อน หลังจากนั้นจึงพาเขาไปดูบ้านด้วยกัน เรือนที่ซือหม่าโยวหยางหาให้นั้นอยู่ห่างจากตระกูลซือหม่าไม่ไกล อยู่ใกล้ทิวเขาของตระกูลซือหม่า ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ให้คนอาศัยหลักสิบจนถึงร้อยคนนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย
เรือนอยู่ห่างจากใจกลางเมือง สงบเงียบ เหมาะสมกับการฝึกยุทธ์
“ใช้ได้เลย” หลังจากซือหม่าโยวเย่ว์ดูรอบๆ แล้วก็พึงพอใจกับสภาพแวดล้อมของที่นี่เป็นอย่างยิ่ง “พวกเจ้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ไม่เลวเลยล่ะ” เว่ยจือฉีพูด
“ข้าชอบนะ” เจ้าอ้วนชวีพูด
ซือหม่าโยวหยางเห็นทุกคนชอบกันหมดจึงเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ถ้าหากชอบกันทุกคนก็ตกลงเป็นที่นี่เลยแล้วกัน!”
“ดี ที่นี่แหละ” เป่ยกงถังก็รู้สึกว่าใช้ได้เช่นกัน
“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้” ซือหม่าโยวหยางพูด “อีกประเดี๋ยวข้าจะให้สาวใช้มาปัดกวาดให้พวกเจ้าสักรอบหนึ่ง ไม่มีคนอาศัยมานานแล้ว ฝุ่นเกาะหนาทึบไปทั่วบ้านเลย”
“เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าด้วยนะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“เป็นคนบ้านเดียวกันหมดแล้ว ยังต้องมาเกรงใจอะไรกันอีกเล่า” ซือหม่าโยวหยางท้าวข้อศอกบนไหล่ของเธอแล้วเอ่ยว่า “ตอนพบกันที่เมืองหลินชวนก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพวกเราจะกลายเป็นคนครอบครัวเดียวกันได้!”
เมื่อเลือกบ้านได้แล้ว ชีวิตของพวกเว่ยจือฉีก็มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น พวกเขาประสบพบเจอเรื่องราวมาไม่น้อยตลอดสามปีนี้ ไม่ต้องนึกถึงการออกไปหาประสบการณ์เลย แต่ตอนนี้สามารถฝึกยุทธ์ให้ดีๆ ได้แล้ว
ทุกคนต่างเชื่อว่า ในภายภาคหน้า พื้นฐานของทุกคนจะต้องพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
“ผู้คนที่อยากดึงตัวพวกเจ้าไปก่อนหน้านี้จะต้องมาหาพวกเจ้าอีกเป็นแน่ ถ้าหากพวกเจ้าต้องการก็ไปร่วมกับขุมอำนาจสักแห่งหนึ่งได้นะ” ซือหม่าโยวหยางพูด
“พวกเราไม่มีความสนใจที่จะไปเข้าร่วมขุมอำนาจเหล่านั้น หากไม่อยากเข้าร่วมควรจะทำเช่นไรดี” เจ้าอ้วนชวีถาม
“เช่นนั้นให้ข้ากลับไปปรึกษากับท่านปู่ของข้าก่อน ให้ประกาศออกสู่ภายนอกไปว่าพวกเจ้าเข้าร่วมกับตระกูลซือหม่าของเราแล้ว ถ้าหากพวกเรามิได้มอบหมายให้พวกเจ้า พวกเจ้าก็ไม่ต้องทำอะไรให้พวกเราเลย” ซือหม่าโยวหยางพูด
“วิธีนี้ไม่เลวเลยนะ” เจ้าอ้วนชวีพูด “ขอบคุณพี่โยวหยางมาก”
“ได้เลย เช่นนั้นข้ากับโยวเย่ว์กลับก่อนล่ะ หากว่างแล้วจะมาใหม่”
จากนั้นซือหม่าโยวเย่ว์และซือหม่าโยวหยางจึงจากไป ส่วนคนอื่นๆ ยังคงอยู่ที่เดิม
เพียงไม่นานสาวใช้หลายคนก็เข้ามา บอกว่าซือหม่าโยวหยางส่งพวกนางมาให้คอยปรนนิบัติดูแลพวกเขาต่อจากนี้ไป
เดิมทีพวกเป่ยกงถังไม่ต้องการ แต่เมื่อนึกถึงว่าเสี่ยวถูจำเป็นต้องกินข้าวทุกวัน และทั่วทั้งเรือนยังต้องการคนปัดกวาด จึงให้พวกนางอยู่ต่อ
พอพวกซือหม่าโยวหยางกลับไปถึงตระกูลซือหม่าก็ตรงไปพบซือหม่าหลิน จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องของพวกเว่ยจือฉีให้ฟัง
สำหรับความต้องการของซือหม่าโยวหยางนั้น ซือหม่าหลินตอบรับอย่างเต็มใจยิ่ง เขาให้คนแพร่ข่าวออกไปว่าพวกเว่ยจือฉีเข้าร่วมตระกูลซือหม่าเรียบร้อยแล้ว
พอข่าวนี้ถูกปล่อยออกไป ขุมอำนาจที่ต้องการดึงตัวพวกเขาไปต่างก็นิ่งงัน ต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ถูกตระกูลซือหม่าหว่านแหไปหมดเสียแล้ว
แต่เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับซือหม่าโยวเย่ว์แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ รำพึงว่าคราวนี้ตระกูลซือหม่าได้กำไรก้อนโตเสียแล้ว
“ขอบคุณท่านประมุขตระกูลมาก” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ยขอบคุณ
“เจ้าไม่ต้องขอบคุณพวกเราหรอก การปล่อยข่าวเช่นนี้ออกไปก็เป็นประโยชน์กับพวกเราด้วยเช่นกัน” ซือหม่าหลินพูด “เช่นนี้ขุมอำนาจอื่นๆ ก็จะมิอาจดึงตัวพวกเขาไปได้”
เมื่อนึกถึงความขัดแย้งทั้งซึ่งหน้าและลับหลังระหว่างขุมอำนาจแล้วเธอก็เข้าใจ
“โยวเย่ว์ เพราะคำขอของท่านปู่เจ้า จะไม่มีการเขียนชื่อเจ้าลงในลำดับวงศ์ตระกูล แต่เจ้าก็ยังคงเป็นคนในตระกูลเราตลอดไปนะ” ซือหม่าหลินพูด
“ท่านปู่เคยบอกเรื่องนี้กับข้าแล้ว ขอเพียงแค่พวกท่านดีกับพวกท่านปู่ก็พอแล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
เธอไม่รู้สึกอะไรกับการเขียนชื่อลงในลำดับวงศ์ตระกูลเลย ถึงอย่างไรเธอกับพวกซือหม่าเลี่ยได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็เพียงพอแล้ว
“ก่อนหน้านี้พวกเราผิดต่อพวกเขา ต่อจากนี้ไปตระกูลก็ต้องชดเชยให้กับพวกเขา” ซือหม่าหลินพูด
“ขอบคุณท่านประมุขตระกูลมาก” ในเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต่อไปนับจากนี้ และเธอก็ไม่อยากจะไปไล่ตามเรื่องราวในอดีต ถึงอย่างไรผู้ที่ทำร้ายพวกซือหม่าเลี่ยก็ถูกสังหารไปกันหมดแล้ว
ซือหม่าหลินเองก็มองท่าทีของซือหม่าโยวเย่ว์ออก จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจพลางเอ่ยว่า “เจ้ารักษาท่านปู่เล็กให้หายได้ วิชาแพทย์คงต้องยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว พวกเรามีเรื่องอยากขอให้เจ้าช่วยเหลือหน่อย”
“เรื่องอะไรหรือ”
ซือหม่าหลินมองซือหม่าโยวหยางปราดหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “หยางเอ๋อร์ เจ้าถอยออกไปก่อน”
ซือหม่าโยวหยางถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง ซือหม่าหลินมาถึงยังห้องลับแล้วแตะครั้งหนึ่ง ทางเดินลับสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซือหม่าโยวเย่ว์
……………………………………..