สลับชะตา ชายามือสังหาร – ตอนที่ 240 พบสมบัติล้ำค่าเข้าเสียแล้ว

สลับชะตา ชายามือสังหาร

พวกซือหม่าโยวเย่ว์นั่งอยู่บนร่างของเจ้าวิหคน้อย ตรงไปยังทิศทางนั้นอย่างรีบร้อน

“จิ้งจกน้ำ จระเข้ยักษ์เขียว ม้าธารดำ…เหตุใดจึงมีสัตว์อสูรทะเลครึ่งบกครึ่งน้ำมากมายถึงเพียงนี้เล่า!”

“ทั้งยังมีสัตว์อสูรบกอีกด้วย!”

“พวกเขาได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว!”

“เจ้าวิหคน้อย เร็วหน่อยสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์ตีหลังเจ้าวิหคน้อยเบาๆ พลางเอ่ยขึ้น

“ผู้อาวุโสสิบก็อยู่ที่นี่ด้วย เขากำลังปกป้องทหารยามกลุ่มนั้นอยู่” ซือหม่าโยวหลานพูด

“เรียกสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาออกมาสิ พวกเราจะไปช่วยคนด้วยกัน!”

เจ้าวิหคน้อยมาถึงยังพื้นดินแล้วหมอบให้พวกเขาลงบนพื้น ส่วนตัวเองก็เข้าร่วมการต่อสู้ก่อนใคร

ทุกคนล้วนเรียกสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของตนออกมา หลังจากนั้นจึงวิ่งเข้าไป ช่วยเหลือคนเหล่านั้นจากรอบนอก

ซือหม่าโยวเย่ว์เรียกทั้งย่ากวงและเชียนอินออกมา รวมกับเจ้าวิหคน้อยด้วย เธอก็มีสัตว์อสูรเทพถึงสามตน เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ทำให้คนของตระกูลซือหม่าตกตะลึงไม่น้อย

สัตว์อสูรวิเศษกว่าร้อยตัวกำลังโจมตีคนของตระกูลซือหม่า ซึ่งมีสัตว์อสูรเทพเป็นจำนวนเกือบครึ่ง ยังดีที่มีสัตว์อสูรเทพระดับจ้าววิญญาณไม่มากนัก มิฉะนั้นพวกเขาคงต้องตายอยู่ที่นี่กันหมดแน่

เจ้าวิหคน้อยอยู่กลางอากาศ มีข้อได้เปรียบอันโดดเด่นเหนือใคร ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะมิได้มีพลังยุทธ์สูงที่สุด แต่กลับทำให้สัตว์อสูรทะเลเบื้องล่างหวาดหวั่นที่สุด

หางทั้งเจ็ดของเชียนอินปรากฏออกมาจนหมด เมื่อหางทุกเส้นแกว่งไกวก็ทำให้สัตว์อสูรวิเศษกระเด็นไปได้ มีเขานำหน้าอยู่ คนที่พวกเขาช่วยเหลือมาจึงเปิดทางให้กับคนที่ถูกล้อมเอาไว้ด้านในได้อย่างรวดเร็ว

“จิ้งจอกวิญญาณเจ็ดหาง!” เมื่อคนของตระกูลซือหม่าเห็นว่าจิ้งจอกวิญญาณเจ็ดหางเป็นผู้สังหารเปิดทางให้กับพวกเขา จึงร้องอุทานออกมาอย่างดีใจ

“นี่คือสัตว์อสูรวิเศษของใครหรือ” มีคนเอ่ยถาม

“เจ้าจะสนใจไปทำไมกันว่าเขาเป็นสัตว์อสูรวิเศษของใคร พวกเรารีบฝ่าวงล้อมออกไปก่อน จึงจะเป็นเรื่องสำคัญกว่า” คนที่อยู่ข้างๆ พูด

“ถูกต้อง! พวกเรารีบฝ่าออกไปเร็ว!”

อาศัยพลังของเชียนอิน นอกจากคนที่ตายไปแล้ว คนอื่นๆ ก็ฝ่าวงล้อมออกมาจนหมด หลังจากนั้นซือหม่าโยวเย่ว์จึงให้ทุกคนขึ้นไปบนหลังของเจ้าวิหคน้อย พาพวกเขาทะยานขึ้นไป

สัตว์อสูรวิเศษที่อยู่เบื้องล่างมองพวกเขาจากไปตาปริบๆ พลางร้องอย่างไม่พอใจ แต่กลับไม่มีปัญญาติดตามไป ทำได้เพียงแค่ฉีกทึ้งซากศพทั้งหลายที่ได้มาเท่านั้น

คนของตระกูลซือหม่าที่อยู่บนหลังของเจ้าวิหคน้อยเห็นสหายในวันวานของพวกตนไม่เหลือแม้แต่ซากศพแล้วแต่ละคนก็ขอบตาแดงก่ำ

เจ้าวิหคน้อยพาทุกคนมาถึงสถานที่ปลอดภัยแล้วจึงปล่อยลง พอมาถึงที่นี่แล้วทุกคนจึงค่อยวางใจลงได้อย่างแท้จริง

“พวกเจ้าไปพบกับสัตว์อสูรวิเศษมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไรน่ะ” ผู้อาวุโสใหญ่ถาม

“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกที่พวกเราไปก็มิได้มีสัตว์อสูรวิเศษมากมายถึงเพียงนั้น แต่เช้าวันนี้จู่ๆ ก็มีสัตว์อสูรวิเศษโผล่มามากมาย นอกจากนี้ยังเป็นระดับสัตว์อสูรเทพทั้งสิ้นอีกด้วย” ผู้อาวุโสสิบพูด

“เมื่อครู่ข้าได้กลิ่นดอกกระบองเพชรอัสดงที่นั่นด้วยนะ” ซือหม่าโยวหลานพูด

“หรือว่าจะเป็นดอกกระบองเพชรอัสดงที่ดึงดูดสัตว์อสูรวิเศษเหล่านั้นมา” มีคนพูด

“ไม่หรอก ดอกกระบองเพชรอัสดงมิได้มีแรงดึงดูดต่อสัตว์อสูรวิเศษเหล่านั้นมากขนาดนั้นหรอก” ซือหม่าโยวเย่ว์ส่ายหน้า “น่าจะเป็นเหตุผลอื่นมากกว่า”

“ในเมื่อมีดอกกระบองเพชรอัสดงอยู่ ที่นั่นก็น่าจะมีหญ้าจันทร์รำเพยอยู่ด้วยเช่นกัน” ซือหม่าโยวหลินพูด

ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วพูดว่า “นอกจากนี้ยังน่าจะมีผึ้งน้ำตาลอยู่ด้วย”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ แววตาเธอก็เปล่งประกายแล้วเอ่ยว่า “ข้ารู้แล้วว่าเพราะเหตุใดสัตว์อสูรวิเศษเหล่านั้นจึงต้องไปรวมตัวกันที่นั่นด้วย!”

“เจ้ารู้เหตุผลแล้วหรือ” ซือหม่าโยวหลานถามพลางมองซือหม่าโยวเย่ว์

“ถูกต้อง ถ้าหากข้าเดาไม่ผิด พวกเราอาจจะได้รับของดีอย่างหนึ่งก็เป็นได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “เชียนอิน ย่ากวง เจ้าวิหคน้อย พวกเรากลับไปยังสถานที่เมื่อครู่กันดีกว่า”

เธอพูดแล้วก็พาเชียนอินกับย่ากวงกระโดดขึ้นบนหลังเจ้าวิหคน้อย

“ข้าไปด้วย” ซือหม่าโยวหลินกระโดดตามขึ้นไปด้วย

“พวกเจ้าจะกลับไปกันจริงๆ หรือ” ผู้อาวุโสใหญ่มองพวกเขา

ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “นั่นเป็นของดีเลยทีเดียวนะ ถ้าหากไปช้าก็จะไม่มีอีกแล้ว พวกท่านรอพวกเรากลับมาอยู่ที่นี่เถิด เจ้าวิหคน้อย ไปกัน”

“ข้าไปด้วย!” ซือหม่าโยวหลานตะโกน

ซือหม่าโยวเย่ว์หันมามองนางพลางเอ่ยว่า “การไปคราวนี้อันตรายยิ่งนัก เจ้าไม่รู้จักการควบคุมพลังปราณ อยู่รอที่นี่จะดีกว่านะ”

เธอพูดพลางตบหลังเจ้าวิหคน้อย เจ้าวิหคน้อยจึงสยายปีกบินขึ้นไปในทันที

“ผู้อาวุโสใหญ่ จะให้พวกเขาไปกันแค่สองคนจริงๆ น่ะหรือ” ผู้อาวุโสสิบพูด

ผู้อาวุโสใหญ่มองเงาร่างของพวกเขาที่ห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วเอ่ยว่า “พวกเขาไปกันแล้วนี่”

ความหมายก็คือพวกเขาไปกันแล้ว หากไม่ให้พวกเขาไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

“ผู้อาวุโสใหญ่ พวกพี่ๆ จะเป็นอันตรายหรือไม่” ซือหม่าโยวหลานมองตามทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างเป็นกังวล

“คงไม่เป็นอะไรหรอก” ผู้อาวุโสใหญ่พูด “คุณชายเขาเข้าใจดีว่าการไปครั้งนี้อันตรายอย่างยิ่ง แต่กลับไปโดยปราศจากความกังวลใดๆ แม้แต่น้อย คงจะมีความเชื่อมั่นในตัวโยวเย่ว์เป็นอย่างยิ่ง”

“อื้ม… คุณชายโยวเย่ว์ผู้นั้นคงจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาแสดงออกมา” ผู้อาวุโสสิบเอ่ยขึ้นอีกคน “ลำพังแค่สัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของเขา ก็มีสัตว์อสูรเทพอยู่ถึงสามตนแล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าลูกกลมสีขาวที่มองตัวตนและพลังยุทธ์ที่แท้จริงไม่ออกอีกด้วย ความสามารถเช่นนี้ แม้กระทั่งคุณชายโยวหลินเองก็ยังสู้ไม่ได้เลย!”

ซือหม่าโยวหลานเคยเห็นความสามารถของเจ้าคำรามน้อยมาแล้ว เมื่อได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้จึงค่อยวางใจลงไประดับหนึ่ง อย่างแย่ที่สุดพวกเขาก็ยังขี่เจ้าวิหคน้อยหนีออกมาได้ อย่างน้อยก็คงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

“ตระกูลค่อยๆ ร่วงโรยลงไปทุกวัน บางทีการที่พวกเขากลับมาในคราวนี้อาจนำพาโอกาสในการพลิกฟื้นมาสู่ตระกูลเราก็ได้นะ” ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยพึมพำ

บางทีตระกูลอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงเพราะเธอเพียงคนเดียว

ซือหม่าโยวหลินนั่งอยู่ข้างกายซือหม่าโยวเย่ว์ เมื่อเห็นสองตาเธอเปล่งประกาย จึงอดเอ่ยถามมิได้ “ที่แท้แล้วคือสิ่งใดกันแน่ จึงทำให้เจ้าตื่นเต้นเช่นนี้ได้”

ซือหม่าโยวเย่ว์หัวเราะหึๆ แล้วเอ่ยว่า “มันคือสมบัติล้ำค่าที่นำออกไปแล้วจะทำให้สั่นสะเทือนไปทั่วแดนดินเชียวล่ะ!”

“สมบัติล้ำค่าอะไรหรือ”

“ข้าเคยบอกว่าบริเวณใกล้ๆ หญ้าจันทร์รำเพยจะมีดอกกระบองเพชรอัสดงอยู่ และถ้ามีดอกกระบองเพชรอัสดงก็จะมีผึ้งน้ำตาลอยู่ด้วย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

“อืม เจ้าเคยบอกแล้ว” ซือหม่าโยวหลินพยักหน้า

“นี่เป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายรู้อยู่แล้ว แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่คนไม่รู้ ก็คือหลังจากที่นางพญาผึ้งน้ำตาลวิวัฒน์ร่างแล้วจะกลายเป็นนางพญาผึ้งแดง เป็นนางพญาผึ้งที่สุดยอดที่สุด ทำให้นางพญาผึ้งทั้งหมดทำตามที่มันสั่งได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดอย่างตื่นเต้น

“แล้วเหตุใดจึงดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรวิเศษได้เล่า” ซือหม่าโยวหลินไม่เข้าใจ

“เพราะน้ำผึ้งแดงที่มาจากผึ้งแดงซึ่งกำเนิดจากนางพญาผึ้งแดง มีฤทธิ์เพิ่มพูนปราณวิญญาณในร่างกาย อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาด้วย ส่วนนางพญาผึ้งแดงนั้นถือเป็นของบำรุงสำหรับสัตว์อสูรวิเศษ พอกินแล้วก็จะเพิ่มพูนพลังยุทธ์ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

“มิน่าเล่าถึงดึงดูดสัตว์อสูรวิเศษได้มากมายถึงเพียงนั้น”

“หลังจากผึ้งน้ำตาลวิวัฒน์ร่างกลายเป็นผึ้งแดงแล้ว พลังยุทธ์ก็จะแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็ต้องเป็นสัตว์อสูรเทพ หลังจากนั้นยังวิวัฒน์ร่างกลายเป็นสัตว์อสูรเหนือเทพ หรือสูงกว่านั้นได้อีก สัตว์อสูรวิเศษทั่วไปไม่มีทางเทียบเคียงได้เลย”

“เช่นนั้นพวกเราจะไม่เป็นอันตรายอย่างยิ่งเลยหรือ” ซือหม่าโยวหลินขมวดคิ้ว

“หลังจากที่มันวิวัฒน์ร่างสำเร็จแล้วจะมีระยะเวลาช่วงหนึ่งที่อ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง พวกเราจะต้องอาศัยจังหวะนั้นในการทำพันธสัญญากับมัน มิฉะนั้นก็จะไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่กังวลใจเลย

“ถ้าต้องทำพันธสัญญา ก็ต้องมีนักฝึกสัตว์อสูร! พวกเรามากันคราวนี้ก็ต้องมีนักฝึกสัตว์อสูรมาด้วยสิ” ซือหม่าโยวหลินไม่มองในแง่ดีเลย

ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ้มโดยไม่เอ่ยวาจา ทำให้ซือหม่าโยวหลินตกตะลึงไม่น้อย

“เจ้าเป็นนักฝึกสัตว์อสูรหรือ” เขามองเธออย่างตกตะลึง “มิน่าเล่า เจ้าจึงมีสัตว์อสูรเทพได้ถึงสามตน ถ้าหากมิใช่นักฝึกสัตว์อสูรแล้วจะมีฝีไม้ลายมือถึงเพียงนี้ได้อย่างไร”

ยิ่งได้สัมผัส เธอยิ่งทำให้เขาตกตะลึง การติดตามอยู่กับเธอทำให้เขามิอาจรักษาท่าทีสงบนิ่งได้อยู่เสมอ

พวกเขามาถึงหุบเขาที่อยู่กันเมื่อครู่อีกครั้ง สัตว์อสูรวิเศษเหล่านั้นยังคงรอคอยอยู่ที่เดิม

บนต้นไม้ต้นหนึ่งในหุบเขา ภายในรังผึ้งรังหนึ่งแผ่รัศมีสีแดงออกมา รัศมีนั้นสว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ คล้ายจะผ่านทะลุท้องนภาอันขาวสว่าง

…………………………………

สลับชะตา ชายามือสังหาร

สลับชะตา ชายามือสังหาร

Status: Ongoing
เมื่อ ซือหม่าโยวเย่ว์ นักฆ่าสาวจากยุคปัจจุบันตายลง วิญญาณกลับมาเข้าร่างคุณชายห้าแห่งจวนแม่ทัพใหญ่ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น ‘คนไร้ค่า’ ผู้ชมชอบไม้ป่าเดียวกัน! เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เจ้าของร่างเดิมไหว้วานไว้นางจึงต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งของโลกใบนี้ โลกที่ตัดสินกันด้วยพลังบำเพ็ญ! ถอนพิษในร่าง ฝึกวิชา แก้แค้นและตามหาบิดามารดาของร่างนี้ ในขณะที่นางมาถึงโลกนี้บางสิ่งที่หลับใหลในร่างของนางกลับ ‘ตื่นขึ้น’ พร้อมความฝันประหลาดที่เอ่ยถึงชื่อ ซีเหมินโยวเย่ว์ ความรู้สึกนั้นช่างสมจริงจนยากจะเชื่อว่าเป็นเพียงความฝันจนนางเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่า สิ่งที่ตนเห็นนั้นเป็นเพียงอดีตหรือความทรงจำที่ถูกปิดผนึกเอาไว้กันแน่…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท