สลับชะตา ชายามือสังหาร – ตอนที่ 274 เห็นเธอเป็นสัตว์ประหลาดเสียแล้ว

สลับชะตา ชายามือสังหาร

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​เห็น​ห​ลี่​มู่จากไป​แล้ว​ดวงตา​ก็​เปล่งประกาย​ แต่กลับ​มิได้​พูด​อะไร​

ตอนที่​พวกเขา​กาง​กระโจม​เสร็จ​ฟ้าก็​มืด​แล้ว​ ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​เดิน​วนรอบ​บริเวณ​กระโจม​อยู่​หลาย​รอบ​ พร้อมกับ​โยน​ก้อนกรวด​หลาย​ก้อน​ลง​ไป​เป็นครั้งคราว​ หลังจากนั้น​จึงกลับมา​ที่​หน้า​กองไฟ​แล้ว​โยน​ก้อนกรวด​สีแดง​ก้อน​หนึ่ง​ลง​ไป​ ก่อน​จะใส่ปราณ​วิญญาณ​จำนวน​หนึ่ง​เข้าไป​ภายใน​นั้น​ ทันใดนั้น​ลำแสง​สีขาว​ก็​เคลื่อนตัว​แล้ว​วาด​เป็น​โครงร่าง​วงกลม​สีขาว​และ​ดาว​ห้า​แฉก​

“ค่าย​กล​ป้องกัน​!” เหยียน​ลู่​มองดู​ประกาย​สว่าง​วาบ​แล้ว​ซึมลง​สู่พื้นดิน​ ก่อน​จะอุทาน​ออกมา​แล้ว​มอง​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พลาง​ถามว่า​ “เจ้าเป็น​ปรมาจารย์​ค่าย​กล​หรือ​”

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​มิได้​ปฏิเสธ​ หลังจาก​แน่ใจ​ว่า​ค่าย​กล​ไม่มีปัญหา​แล้วจึง​เอ่ย​ว่า​ “เช่นนี้​ก็​ไม่มีปัญหา​แล้ว​”

ซือ​หม่า​โย​ว​หลิน​มองดู​ค่าย​กล​ที่​เธอ​ติดตั้ง​แล้ว​แอบ​ชมใน​ใจว่า​สอง​ปี​มานี้​ทักษะ​ทาง​ด้าน​ค่าย​กล​ของ​เจ้าคน​ผู้​นี้​พัฒนา​ขึ้น​ไม่น้อย​เลย​

เขา​ก็​เป็น​ปรมาจารย์​ค่าย​กล​เช่นกัน​จึงมีความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​ค่าย​กล​ดี​ เมื่อ​เห็น​ลำแสง​ตอนที่​ติด​ตั้งค่าย​กล​ก็​รู้​ถึงระดับ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ค่าย​กล​แล้ว​

ถึงแม้ว่า​เหยียน​ลู่​จะมิใช่ปรมาจารย์​ค่าย​กล​ แต่​ก็​มีความเข้าใจ​ใน​ข้อเท็จจริง​นี้​เช่นกัน​ เมื่อ​เห็น​ลำแสง​ที่​แทบจะ​ทิ่มแทง​ดวงตา​เมื่อครู่นี้​ก็​รู้​ว่า​ค่าย​กล​ของ​เธอ​แข็งแกร่ง​เป็น​อย่างยิ่ง​

“คิดไม่ถึง​เลย​จริงๆ​ ว่า​เจ้าจะยัง​เป็น​ปรมาจารย์​ค่าย​กล​ด้วย​!” เหยียน​ลู่​เห็น​คำพูด​และ​การ​วางตัว​ของ​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ดู​ถ่อมตัว​ ไม่มีความ​หยิ่งยโส​ของ​ปรมาจารย์​ค่าย​กล​อยู่เลย​แม้แต่น้อย​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ยิ้ม​

“โย​วเย่ว์​ ใน​ทะเลสาบ​นี้​น่าจะ​มีปลา​อยู่​กระมัง​ พวกเรา​จับ​ขึ้น​มาทำปลา​ย่าง​กัน​หน่อย​ดี​ไหม​เล่า​” เจ้าอ้วน​ชวี​พูด​

“ดี​เลย​! ถึงอย่างไร​อยู่​ที่นี่​ก็​ไม่มีอะไร​ให้​ทำ​อยู่แล้ว​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​

จากนั้น​พวกเขา​จึงเริ่มต้น​ตกปลา​กันที่​ริม​ทะเลสาบ​ ทั้ง​หัวเราะ​ทั้ง​ด่าทอ​กัน​ไปมา​ ไม่มีความกังวล​หรือ​หวาดหวั่น​เลย​แม้แต่น้อย​ เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​เหยียน​ลู่​ก็​จน​คำพูด​ไป​

“ลู่​ลู่​ มาสิ พวกเรา​มาตกปลา​ด้วยกัน​ดีกว่า​!” ซือ​หม่า​โย​วฉิง​เข้ามา​ดึง​ตัวนาง​ นาง​สะดุ้ง​ครา​หนึ่ง​จากนั้น​จึงตาม​ไป​

“ข้า​ขอ​บอก​เจ้าไว้​เลย​นะ​ว่า​โย​วเย่ว์​กับ​เจ้าอ้วน​ทำอาหาร​ได้​อร่อย​มาก​ ข้า​เคย​กิน​ปลา​ย่าง​ที่​พวกเขา​ทำ​ครั้งหนึ่ง​ รสชาติ​นั้น​ทำเอา​ข้า​อยาก​จะกลืน​ก้างปลา​ลง​ไป​ด้วย​เลย​ทีเดียว​ล่ะ​!” ซือ​หม่า​โย​วฉิง​พูด​พลาง​ยื่น​เบ็ด​ตกปลา​ส่งให้​เหยียน​ลู่​

หลังจาก​ได้​อยู่​ร่วมกับ​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​แล้ว​ พวกเขา​ก็​เคยชิน​กับ​การ​พก​ของกิน​เล่น​ต่างๆ​ นานา​เอาไว้​ใกล้​ตัว​เสียแล้ว​

“ปกติ​พวก​เจ้ากิน​ของ​เหล่านี้​กัน​ด้วย​หรือ​” เหยียน​ลู่​พูด​อย่าง​ตกใจ​

“กิน​สิ ทำไม​จะไม่กิน​เล่า​!” ซือ​หม่า​โย​ว​หลาน​เข้ามา​ร่วมวง​ด้วย​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ “เหมือนกับ​ที่​เจ้าอ้วน​พูด​นั่นแหละ​ ยาม​ปกติ​น่าเบื่อ​ออกจะตาย​ไป​ ถ้าหาก​ไม่ทำ​ของกิน​อร่อย​ๆ มาให้รางวัล​ตัวเอง​อีก​ ชีวิต​ก็​คง​น่าเศร้า​เกินไป​แล้ว​ ปกติ​เจ้าไม่กิน​ของ​พวก​นี้​หรือ​”

เหยียน​ลู่​ส่ายหน้า​ “ปกติ​ถ้าพวกเรา​จะกิน​ ก็​กิน​เพียงแค่​ผลไม้​ทิพย์​อะไร​นิดหน่อย​เท่านั้น​ กิน​ของ​พวก​นี้​น้อย​มาก​เลย​”

“เช่นนั้น​พวก​เจ้าก็​พลาด​ความสุข​อัน​ยิ่งใหญ่​ใน​ชีวิต​มนุษย์​ไป​แล้ว​ล่ะ​” ซือ​หม่า​โย​ว​หลาน​พูด​ “ก่อนหน้านี้​พวกเรา​ก็​มิได้​ชอบ​กินกัน​เช่นนี้​หรอก​ แต่​ถูก​เจ้าพวก​นั้น​แพร่เชื้อ​ใส่น่ะ​สิ”

นาง​พูด​พลาง​พยักพเยิด​ไป​ทาง​พวก​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​และ​เจ้าอ้วน​ชวี​

“เขา​เป็น​คน​ประหลาด​จริงๆ​” เมื่อ​เห็น​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ตกปลา​พร้อมกับ​หัวร่อต่อกระซิก​กับ​ทุกคน​ แล้ว​นึก​ถึงว่า​เธอ​ยัง​เยาว์วัย​เช่นนี้​ก็​ติด​ตั้งค่าย​กล​ที่​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​ได้​แล้ว​ จึงเอ่ย​ชมขึ้น​

“อืม​ ไม่เพียงแต่​เป็น​คน​ประหลาด​เท่านั้น​นะ​ แต่​ยัง​ชวน​ให้​คน​โกรธ​อีกด้วย​!” ซือ​หม่า​โย​วฉิง​พูด​

“ชวน​ให้​คน​โกรธ​หรือ​” เหยียน​ลู่​มอง​นาง​อย่าง​ไม่เข้าใจ​

ซือ​หม่า​โย​ว​หลาน​หัวเราะ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ถูกต้อง​ เจ้าคน​ผู้​นี้​เกิด​มาเพื่อ​โจมตี​ผู้อื่น​ เรื่อง​ไหน​ก็​มิอาจ​เปรียบกับ​เขา​ได้​ทั้งนั้น​ พอ​เห็น​เขา​แล้วก็​พาล​โกรธ​ตัวเอง​แทบตาย​”

“เขา​ร้ายกาจ​มาก​เลย​หรือ​” เหยียน​ลู่​ถาม

“สำหรับ​เขา​แล้ว​ เจ้ามิอาจ​ใช้สายตา​ของ​คน​ปกติ​มอง​ได้​หรอก​นะ​” ซือ​หม่า​โย​วฉิง​พูด​ “มอง​เป็น​สัตว์ประหลาด​จะดีกว่า​!”

“เออ​…” เหยียน​ลู่​มอง​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​อย่าง​สนใจ​ใคร่รู้​ ถูก​คนใน​ครอบครัว​ตัวเอง​เรียก​ว่า​เป็น​สัตว์ประหลาด​ ที่แท้​แล้ว​เธอ​จะเหนือ​มนุษย์​สัก​เพียง​ไหน​กัน​!

“ไอ้​ห​ยา​ ปลา​ติด​เบ็ด​แล้ว​ๆ!” ขณะนี้​เอง​เจ้าอ้วน​ชวี​ก็​ตะโกน​เสียงดัง​ขึ้น​มา ทุกคน​จึงไป​ช่วย​เขา​ดึง​เบ็ด​ตกปลา​

“ไอ้​ห​ยา​ ของ​ข้า​ก็​ติด​เบ็ด​แล้ว​เหมือนกัน​ เป็น​ปลา​ตัว​ใหญ่​เสีย​ด้วย​” ซือ​หม่า​โย​ว​เล่อ​ก็​ตะโกน​ขึ้น​มาพร้อมกัน​

“น้อง​สี่ ข้า​ช่วย​เจ้าเอง​!”

“ไอ้​ห​ยา​ ของ​ข้า​ก็​ขึ้น​มาแล้ว​ ให้​คน​เอา​ตาข่าย​มาช่วย​ข้า​จับ​ปลา​เร็ว​เข้า​”

“เจ้ารอ​ก่อน​ พวกเขา​เอา​ตาข่าย​จับ​ปลา​ไป​แล้ว​”

“ใช้ตาข่าย​จับ​ปลา​อะไร​กัน​เล่า​ แค่​ดึง​ขึ้น​มาเฉย​ๆ ก็​พอแล้ว​!”

“ไอ้​ห​ยา​ ปลา​ที่​ติด​เบ็ด​ข้า​มัน​หนี​ไป​เสียแล้ว​!”

ซือ​หม่า​โย​วฉิง​ก็​วิ่ง​เข้าไป​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “พวก​เจ้าจับ​ปลา​ได้​อย่างไร​กัน​น่ะ​ เหตุใด​พวกเรา​จึงไม่มีเลย​”

เหยียน​ลู่​เห็น​พวกเขา​เล่น​กัน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ไม่มีเด็ก​กว่า​โต​กว่า​ ไม่มีใคร​เหนือกว่า​หรือ​ด้อย​กว่า​ใคร​ ใน​ใจก็​รู้สึก​อิจฉา​ไม่น้อย​ ใน​สมาคม​ของ​พวก​นาง​ แต่ไหนแต่ไร​ก็​ไม่เคย​มีภาพ​เช่นนี้​ปรากฏ​มาก่อน​เลย​ ทุกคน​อยู่​ด้วยกัน​ก็​มีแต่​การ​แก่งแย่ง​ชิงดีชิงเด่น​ทั้งนั้น​ น้อย​นัก​ที่จะ​มีคน​จริงใจ​

ปลา​ที่​ตก​ได้​ใน​ตอนหลัง​มีเป็น​จำนวนมาก​ จึงแบ่ง​คน​ส่วนหนึ่ง​มาจัดการ​กับ​ปลา​เหล่านั้น​ จากนั้น​จึงให้​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​และ​เจ้าอ้วน​ชวี​เป็น​คน​ย่าง​

ทุกคน​กิน​ดื่ม​กัน​อย่าง​อิ่มหนำสำราญ​จน​ดึกดื่น​ แม้กระทั่ง​เหยียน​ลู่​ที่​ไม่ค่อย​กิน​อาหาร​มาโดยตลอด​ก็​ยัง​กิน​ปลา​ไป​หนึ่ง​ตัว​เต็มๆ​

“โอ๊ย​ อิ่ม​เหลือเกิน​ หนัง​ท้อง​ตึง​หนังตา​หย่อน​ ทุกคน​ไป​นอน​กัน​ดีกว่า​นะ​” ซือ​หม่า​โย​ว​หยาง​ตะโกน​

จากนั้น​ทุกคน​จึงแยกย้าย​กัน​กลับ​ไป​ยัง​กระโจม​ของ​ตน​ เหยียน​ลู่​ถามว่า​ “ไม่เหลือ​คน​ไว้​เฝ้ายาม​หน่อย​หรือ​”

“ไม่ต้อง​หรอก​ โย​วเย่ว์​โปรย​ผง​ยา​เอาไว้​ ทั้ง​ยัง​จัดวาง​ค่าย​กล​เอาไว้​แล้ว​ หาก​ใคร​มาหาเรื่อง​พวกเรา​โดย​ไม่ดูตาม้าตาเรือ​ ก็​คง​ได้​ฟุบ​ไป​ก่อนที่​พวกเรา​จะมาถึงแล้ว​ล่ะ​” ซือ​หม่า​โย​วฉิง​พูด​

เหยียน​ลู่​นึกถึง​ค่าย​กล​ที่​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​จัดวาง​เอาไว้​ขึ้น​มา นึก​ไป​นึก​มาก็​จริงอยู่​ ค่าย​กล​เช่นนั้น​คอย​คุ้มกัน​ทะเลสาบ​เล็ก​ๆ เช่นนี้​อยู่​ ย่อม​ไม่มีปัญหา​แน่นอน​อยู่แล้ว​ จากนั้น​จึงกลับ​ไป​พักผ่อน​ยัง​กระโจม​ของ​ตน​

เช้าวัน​ต่อมา​ ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ที่นั่ง​บำเพ็ญ​อยู่​บน​เตียง​ลืมตา​ขึ้น​ เธอ​คิด​ใคร่ครวญ​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ลง​จาก​เตียง​ออกมา​ข้างนอก​

“เหตุใด​เจ้าจึงออกมา​แต่​เช้าตรู่​เช่นนี้​เล่า​” เมื่อ​เห็น​คน​ที่​ยืน​อยู่​ริม​ทะเลสาบ​ เธอ​จึงเดิน​เข้าไป​ถาม

“เจ้าก็​ตื่น​เช้าขนาด​นี้​เหมือนกัน​มิใช่หรือ​” เหยียน​ลู่​เห็น​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​จึงพูด​ขึ้น​

“ข้า​ได้ยิน​ว่า​มีคน​ตื่น​แล้ว​ ก็​เลย​ตื่น​ตาม​น่ะ​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​ “หรือว่า​คนเมือง​วิเศษ​อย่าง​พวก​เจ้าจะตื่น​เช้าเช่นนี้​กัน​หมด​”

เหยียน​ลู่​ส่ายหน้า​โดย​ไม่เอ่ย​วาจา​

“ข้า​เห็น​แววตา​เจ้าดู​เป็นกังวล​ กำลัง​เป็นห่วง​ใคร​อยู่​หรือ​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ถาม

เหยียน​ลู่​คิดไม่ถึง​ว่า​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​จะมีสัมผัส​ไว​เช่นนี้​ จึงพยักหน้า​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​กำลัง​เป็นห่วง​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่ข้า​อยู่​น่ะ​ ก่อนหน้านี้​ที่​เคย​เจอ​เรื่อง​เหล่านี้​ พวกเรา​ก็​อยู่​ด้วยกัน​ตลอด​ จึงเป็นกังวล​ว่า​พวก​ท่าน​จะเป็น​อะไร​หรือไม่​”

“เจ้ามิได้​บอ​กว่า​เมือง​วิเศษ​จะเปิด​ค่าย​กล​ใหญ่​ป้องกัน​เมือง​ทุกครั้ง​หรอก​หรือ​ ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​ยังมี​อะไร​ให้​กังวล​อีก​เล่า​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​ “ถ้าหาก​จะกังวล​ ควรจะเป็น​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่เจ้าเป็นห่วง​เจ้าที่อยู่​ข้างนอก​นี่​มากกว่า​นะ​!”

“จะว่า​ไป​ก็​ใช่” เหยียน​ลู่​พูด​ “กลัว​แต่ว่า​พวกเขา​เห็น​ข้า​กับ​พวก​ศิษย์​พี่​ยัง​ไม่กลับ​ไป​เสียที​ แล้ว​ออก​มาตามหา​นี่​สิ”

“เจ้าไม่ใช่เด็ก​อีกต่อไป​แล้ว​นะ​ ถึงจะรู้​ว่า​เทือกเขา​หมื่น​อสูร​ไม่ปลอดภัย​ แต่​เมือง​วิเศษ​ปิด​สนิท​อยู่​ แล้ว​จะเข้าไป​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​ “ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่เจ้าต้อง​คิด​เช่นนี้​แน่​”

“อืม​ หวัง​ว่า​จะเป็น​เช่นนั้น​นะ​” เหยียน​ลู่​พูด​

“ใช่แล้ว​ ข้า​ได้ยิน​ว่า​ศิษย์​พี่​ผู้​นั้น​ของ​เจ้าบอ​กว่า​ตำหนัก​ผู้วิเศษ​เกิดเรื่อง​ ให้​ศิษย์​พี่​หา​น​อะไร​ผู้​นั้น​ของ​เจ้าเข้าไป​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​เป็นเรื่อง​อะไร​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ถาม

เหยียน​ลู่​ส่ายหน้า​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ออกจาก​เมือง​วิเศษ​มาเกือบ​ครึ่ง​ปี​แล้วจึง​ไม่ค่อย​รู้เรื่อง​ตำหนัก​ผู้วิเศษ​มาก​นัก​ เจ้าอยาก​รู้เรื่อง​ของ​ที่นั่น​หรือ​ ข้า​กับ​นารี​ทิพย์​ผู้​นั้น​ค่อนข้าง​สนิทสนม​กัน​อยู่​ ถ้าหาก​เจ้าอยากรู้​อะไร​ พอ​ข้า​กลับ​ไป​แล้ว​จะช่วย​ถามมาให้​เจ้าก็ได้​นะ​”

“ไม่ต้อง​หรอก​ๆ” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​รีบ​โบกมือ​ “แค่​ก่อนหน้านี้​ข้า​ไม่เคย​สัมผัส​ตำหนัก​ผู้วิเศษ​มาก่อน​ ก็​เลย​อยากรู้อยากเห็น​บ้าง​เท่านั้น​”

แน่นอน​ว่า​อู​ห​ลิ​งอ​วี่​ผู้​ที่​ภายนอก​ดู​น่าเลื่อมใส​ แต่​ภายใน​ชั่วร้าย​ผู้​นั้น​ถูก​เธอ​ละเลย​ไป​เสียแล้ว​

แต่​ขณะนี้​ผู้​ที่​ถูก​เธอ​ละเลย​นั้น​กลับ​กำลัง​คิดถึง​เธอ​จับใจ​อยู่​ใน​เมือง​วิเศษ​ อยาก​จะรีบ​สลัด​คน​ที่นี่​ทิ้ง​แล้ว​ออก​ไป​ตามหา​เธอ​เต็มที​แล้ว​

สลับชะตา ชายามือสังหาร

สลับชะตา ชายามือสังหาร

Status: Ongoing
เมื่อ ซือหม่าโยวเย่ว์ นักฆ่าสาวจากยุคปัจจุบันตายลง วิญญาณกลับมาเข้าร่างคุณชายห้าแห่งจวนแม่ทัพใหญ่ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น ‘คนไร้ค่า’ ผู้ชมชอบไม้ป่าเดียวกัน! เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เจ้าของร่างเดิมไหว้วานไว้นางจึงต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งของโลกใบนี้ โลกที่ตัดสินกันด้วยพลังบำเพ็ญ! ถอนพิษในร่าง ฝึกวิชา แก้แค้นและตามหาบิดามารดาของร่างนี้ ในขณะที่นางมาถึงโลกนี้บางสิ่งที่หลับใหลในร่างของนางกลับ ‘ตื่นขึ้น’ พร้อมความฝันประหลาดที่เอ่ยถึงชื่อ ซีเหมินโยวเย่ว์ ความรู้สึกนั้นช่างสมจริงจนยากจะเชื่อว่าเป็นเพียงความฝันจนนางเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่า สิ่งที่ตนเห็นนั้นเป็นเพียงอดีตหรือความทรงจำที่ถูกปิดผนึกเอาไว้กันแน่…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท