สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 99 ตัวร้ายตัวน้อย แม่จะใช้ความรักเปลี่ยนเจ้า

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 99 ตัวร้ายตัวน้อย แม่จะใช้ความรักเปลี่ยนเจ้า

บทที่ 99 ตัวร้ายตัวน้อย แม่จะใช้ความรักเปลี่ยนเจ้า

มู่ซืออวี่มองดวงตาฉายแววครุ่นคิดของลู่ฉาวอวี่แล้วลูบอกเบา ๆ

คำพูดที่ว่า ‘รีบกำจัด’ เกือบทำให้นางเป็นลม

ดูเหมือนว่าหากเล่าเรื่องราวที่มีพลังด้านบวกให้มากเข้าไว้ในอนาคต ไม่แน่ว่าอาจทำให้ตัวร้ายตัวน้อยค่อย ๆ มีมุมมองต่อชีวิตที่ถูกที่ควรขึ้นมา

นางไม่หวังให้เขากลายมาเป็นคนดีเลิศ แต่อย่างน้อยก็อย่าได้เจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วกลัวจริง ๆ ว่าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาจะพบว่าตนไม่มีหัวแล้ว

“ท่านพ่อ…” ลู่จื่ออวิ๋นร้องไปที่หน้าต่าง เขาลุกขึ้นจากพื้นวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

ลู่อี้รออยู่หน้าประตู คว้าตัวลู่จื่ออวิ๋นเอาไว้

“วันนี้ท่านกลับมาเร็ว!” ลู่จื่ออวิ๋นกอดคอของลู่อี้

ลู่อี้มองลูกสาวที่แสนน่ารักตรงหน้า แววตาเปี่ยมไปด้วยความรัก

นับวันลูกสาวตัวน้อยยิ่งน่ามองมากยิ่งขึ้น ราวกับเทพธิดาน้อยงามลออ สิ่งสำคัญที่สุดคือดวงตาสว่างไสวบริสุทธิ์ราวกับแสงแดดของนางมองมายังเขาอย่างพึ่งพาและไว้เนื้อใจเชื่อใจ ไม่เคยพบความหวาดกลัว

“วันนี้ไม่มีเรื่องอะไร” คำพูดของลู่อี้ดูผิวเผินเป็นคำตอบของลู่จื่ออวิ๋น แต่ความจริงกลับพูดกับมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่ส่งยิ้มให้เขา “ข้าจะไปเตรียมอาหารเย็น”

“ไม่รีบร้อน” ลู่อี้กล่าว “ยังไม่เย็น”

ลู่อี้เปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาก่อน จากนั้นเดินไปรอบ ๆ บ้าน พบว่าในตุ่มเหลือน้ำอีกไม่มากแล้วจึงหยิบถังเดินออกไปข้างนอก

“ลู่อี้ ตอนนี้เจ้าทำงานอยู่ที่ฝ่ายราชทัณฑ์รึ?”

“อืม”

“ลู่อี้ ได้ยินว่าตอนนี้เจ้าทำงานอยู่ที่ฝ่ายราชทัณฑ์สินะ?”

“อืม”

“ลู่อี้ เจ้าสอบสวนนักโทษอยู่ที่ศาลาว่าการจริงรึ? เช่นนั้นได้จับคนชั่วมากมายเลยใช่หรือไม่?”

“พอได้”

“ลู่อี้…”

ในตอนที่ถือถังน้ำกลับมา เจอชาวบ้านไม่แปดก็สิบคน ทั้งหมดมาเพื่อยืนยันว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริงหรือไม่

“ลู่ฉาวอวี่…” ข้างนอกมีคนร้องเรียกลู่ฉาวอวี่

ลู่ฉาวอวี่เดินออกไปถาม “มีอะไร?”

“วันนี้พวกเราจับกุ้งได้มากกว่าเดิมอยู่หน่อย บ้านพวกเจ้าจะเอาหรือไม่?” เถี่ยโถวถาม

ก่อนที่ลู่ฉาวอวี่จะได้ตอบ มู่ซืออวี่ก็ตะโกนมาจากข้างใน “เอา เอาทั้งหมดนั่นแหละ เถี่ยโถว ไปบอกสหายของเจ้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะจับได้ปลา กุ้ง ปลาไหล หอย พวกเราเอาหมด”

“เช่นนั้นเห็ดที่เก็บมาเล่า?” เถี่ยโถวได้ยินมู่ซืออวี่พูดเช่นนั้นก็ถามขึ้นอย่างตื่นเต้น

“ขอแค่เพียงกินได้ ไม่ว่าจะบินอยู่บนฟ้าหรือว่ายอยู่ในน้ำ ข้าต้องการหมด แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ พวกเจ้าจะบาดเจ็บไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่รับของจากพวกเจ้า”

ที่ผ่านมาก็เป็นเด็กพวกนี้ที่ไปหาสัตว์น้ำมาให้นาง

นางทำไปก็เพื่อให้ลู่ฉาวอวี่ได้สนิทกับพวกเขามากขึ้น

ครั้งนี้อาจจะได้เยอะมากกว่าที่เคยสักหน่อย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมาถามลู่ฉาวอวี่

“ได้เลย!” เถี่ยโถวตบไหล่ของลู่ฉาวอวี่ดังแปะ ๆ “ลู่ฉาวอวี่ พรุ่งนี้พวกเราไปหาที่แม่น้ำด้วยกัน! ทั้งสนุกแล้วยังได้เงินอีก น่าสนใจมากใช่ไหมล่ะ?”

“ข้าเป็นคนจ่ายเงิน” ลู่ฉาวอวี่มองด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายดูโง่งม

ลู่เถี่ยโถวลูบหัวตัวเอง “ไปเล่นก็ได้นะ!”

“ข้ามีเรื่องอื่นต้องทำ” ลู่ฉาวอวี่พูดเบา ๆ “มีเวลาค่อยว่ากัน”

แววตาของเถี่ยโถวเจิดจ้าขึ้นมาทันที “ได้สิ ได้สิ เจ้าตกลงแล้วนะ!”

เด็กชายราว ๆ สิบกว่าคนรุมล้อมลานบ้านส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังระงม

“ว้าว เอ้อร์จู้ เจ้าได้ 10 อีแปะแหนะ”

“เฉิงจือ เจ้าได้ 7 อีแปะ”

“เจ้าล่ะ?”

“ข้าได้มากที่สุด 12 อีแปะ ฮ่าฮ่า”

ลู่ฉาวอวี่ชั่งน้ำหนักของทั้งหมด จากนั้นแจกจ่ายเหรียญทองแดงตามที่พวกเขาควรได้ให้ทีละคน

ใบหน้าของเหล่าเด็ก ๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา ชวนให้ยิ้มตามยิ่งนัก แม้แต่ลู่ฉาวอวี่ที่ไม่ค่อยยุ่งกับคนอื่น ๆ ในตอนนี้ สายตาก็พลันอ่อนโยนขึ้น

“อา ครอบครัวของข้ามีถั่วเหลือ ท่านแม่ให้ข้าถามท่านว่าจะรับหรือไม่?” เด็กน้ำมูกไหลย้อยคนหนึ่งพูดกับมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่กำลังเก็บเสื้อผ้า ครั้นได้ยินคำพูดของเขาจึงหันหน้ากลับมา พอเห็นเขากำลังสูดจมูก นางก็นำผ้าเช็ดหน้าสะอาดออกมาเช็ดจมูกให้

“รับ เจ้าไปบอกแม่เจ้า ตามราคาของร้านค้า หนึ่งชั่ง 3 อีแปะ”

เด็กน้อยรับคำอย่างเขินอาย

“พวกเจ้าอย่าเพิ่งไป” มู่ซืออวี่พูดขึ้น “รออยู่นี่ก่อน”

พวกเด็ก ๆ ได้รับเงินแล้วกำลังจะกลับบ้านไปรับคำชมเชยจากพ่อแม่ พอได้ยินคำพูดของมู่ซืออวี่ก็รออยู่ที่นั่นอย่างดีใจ

มู่ซืออวี่ออกมาพร้อมกับขนมเปี๊ยะที่เพิ่งทำเสร็จ “คนละสองชิ้น มาเอาเองสิ”

“ขอบคุณขอรับ”

หลังจากเด็ก ๆ จากไปแล้ว ลู่ฉาวอวี่ก็พูดขึ้นว่า “แป้งมีราคาแพง”

“เด็กขี้งก” มู่ซืออวี่หยอกล้อเขาเล่น “แป้งแพง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเราสะดวกสบายแค่ไหน? ปลากับกุ้งที่พวกเขาขายสร้างรายรับให้เราไม่น้อยเลย ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ให้ไม่ได้เชียวหรือ?”

ลู่ฉาวอวี่ราวกับกำลังคิด

มู่ซืออวี่คิดว่าที่ตัวร้ายตัวน้อยในต้นฉบับเป็นคนเห็นแก่เงิน จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับความจนในวัยเด็กเป็นแน่

ลู่อี้ยกถังน้ำถังสุดท้ายขึ้นมา ก่อนจะวางถังลง

มู่ซืออวี่ส่งผ้าให้เขา “เช็ดเหงื่อเสีย”

ลู่อี้รับมันมา เดิมทีคิดจะเช็ดเหงื่อตนเองออก แต่เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางมีเหงื่ออยู่ไม่น้อย เขาจึงเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของนางให้ด้วยผ้าผืนนั้น

มู่ซืออวี่มองชายตัวสูงใหญ่ข้างหน้านางอย่างว่างเปล่า

ลู่อี้ราวกับไม่ทันสังเกตว่าการกระทำนี้มีอะไรผิดแปลก หลังจากเช็ดเสร็จแล้วจึงพบว่าสีหน้านางดูโง่งมเป็นอย่างมาก

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าจำเป็นต้องเช็ดมากกว่าข้าอีก”

เมื่อครู่ตอนที่เก็บรวบรวมวัตถุดิบ ปลากับกุ้งมากมายกระโดดดิ้นไปรอบ ๆ ใบหน้าของนางจึงไม่ได้มีแค่เหงื่อ แต่มีน้ำโคลนไม่น้อย เรียกว่าทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลอะ

“ขอบคุณ…” หญิงสาวโสดสนิทตั้งแต่ออกจากท้องแม่ร้อนรนคว้าผ้าที่เขาถือไว้มาเช็ดเหงื่อจนแห้ง

แต่ว่ายิ่งเช็ดก็ยิ่งแห้งผาก ยิ่งเช็ดหน้ายิ่งเปื้อนกว่าเดิม

ลู่อี้ฉวยผ้าจากมือนางกลับคืนมา บรรจงเช็ดทีละเล็กทีละน้อยให้นางจนสะอาด

นิ้วมือของเขาหยาบกร้านแต่ก็เรียวยาวน่ามอง นางจินตนาการได้เลยว่ามือนั้นจะสวยแค่ไหนในตอนที่ใช้เขียนอย่างเดียว แน่นอนว่าตอนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียด แต่หลังจากผ่านไปหลายปีคงทิ้งรอยด้านหนาเอาไว้

ลู่เซวียนเหนื่อยกับการเขียนจึงออกมาเดินเล่น แต่กลับเห็นลู่จื่ออวิ๋นและลู่ฉาวอวี่มองชายหญิงที่อยู่ตรงข้ามด้วยสายตาประหลาดใจ

ไม่ผิด! เด็กชายเด็กหญิงทั้งสองกำลังจ้องมองพวกเขา ฉากนี้พิลึกพิลั่นอยู่เล็กน้อย แต่ก็มีความอบอุ่นคลออยู่เช่นกัน

ชายหญิงคู่นั้นกลับอุกอาจยิ่งกว่า ราวกับไม่มีใครอยู่ในลานบ้าน คนหนึ่งบรรจงเช็ดอย่างพิถีพิถัน อีกคนยืนแก้มแดงก่ำ ขาดแต่หน้าผากที่ไม่ได้เขียนคำว่า ‘กระสันอยาก’ ลงไป

“พวกเจ้ากลับไปห้องได้หรือไม่?” ลู่เซวียนพูดขึ้น “คืนนี้ย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก็สิ้นเรื่องแล้ว”

มู่ซืออวี่สั่นไปทั้งตัว มองดูลู่อี้ข้างหน้าด้วยความหวาดผวา

ลู่อี้ “…”

นี่มันสายตาอะไรกัน?

เขามีอะไรน่ากลัว?

“ข้า… ข้าไปล้างน้ำดีกว่า ล้างแล้วสะอาดกว่า” กล่าวจบนางก็ถลาไปในครัว

“ฮึ” ลู่เซวียนเกิดความคิดแปลกประหลาดขึ้นมา “ดูเหมือนหญิงผู้นี้จะรังเกียจเจ้า”

ลู่อี้สัมผัสแผลเป็นบนใบหน้า

ตอนนี้เขาน่ากลัวมากเลยหรือ?

มู่ซืออวี่เข้าไปในครัว เทน้ำล้างหน้าหนึ่งกระบวย จิตใจถึงได้รู้สึกสงบลง

“น่ากลัวเกินไปแล้ว”

นางพึมพำกับตัวเอง

“เหตุใดข้าถึงได้ถูกความงามหลอกล่อเอาได้เล่า?”

ในสายตาของคนอื่น ใบหน้าของลู่อี้อาจจะเสียโฉม แต่สำหรับนางแล้วไม่ได้น่าเกลียด

รูปโฉมดั้งเดิมของลู่อี้สูงส่งเกินไป ความบกพร่องเล็กน้อยนั้นไม่อาจส่งผลกระทบใด ๆ ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังน่ามองยิ่งกว่าชายส่วนใหญ่

นางอยากดูแลเด็กสองคนนั้นให้ดี แต่… ไม่เคยคิดจะเป็นภรรยาที่แท้จริงของลู่อี้เลย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท