สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 238 แม่เฒ่าเจียงเชิญท่านหมอมาดูอาการ

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 238 แม่เฒ่าเจียงเชิญท่านหมอมาดูอาการ

เสียงสุนัขเห่าปลุกมู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมา

นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และพบว่าข้างนอกฟ้าสว่างแล้ว

ระยะนี้จิตใจของนางตึงเครียด ไม่ได้หลับสนิทมาหลายคืน ทว่าเมื่อวานนี้ความกังวลได้มลายหายไปเพราะสัตว์ร้ายตนนี้ก่อกวนทั้งคืน นางจึงนอนหลับเป็นตาย

นางค่อย ๆ ลุกขึ้น บิดกายหนึ่งที

สัตว์ร้ายตนนี้…

ขนาดว่ายังไม่ถึงขั้นสุดท้าย หากวันหนึ่งถึงขั้นนั้นแล้ว จะไม่ถูกเขากลืนกินลงไปทั้งตัวจนไม่เหลือแม้กระทั่งกระดูกหรือ?

“เสี่ยวเฮย อย่าส่งเสียง ท่านแม่เหนื่อยแล้ว ให้นางนอนนานขึ้นอีกหน่อย” เสียงหวานเจื้อยแจ้วของลู่จื่ออวิ๋นดังขึ้น

“โฮ่ง โฮ่ง”

“ชู่ว! อย่าส่งเสียงสิ”

มู่ซืออวี่ยิ้มน้อย ๆ “เจ้าเด็กซื่อบื้อคนนี้”

ยังเป็นเด็กที่น่ารักจริง ๆ

เมื่อเดินออกไปข้างนอกก็เห็นอันอี้หางและเซี่ยคุนกำลังพูดคุยกัน ลู่อี้กำลังตัดฟืนอยู่บริเวณลานบ้าน ลู่จื่ออวิ๋นและลู่ฉาวอวี่กำลังเล่นกับเสี่ยวเฮย ส่วนจือเชียนนั้นไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว

ทันทีที่ออกมา สายตาหลายคู่ต่างจับจ้องมาที่นาง

มู่ซืออวี่รู้สึกทำตัวไม่ถูก ได้แต่ลูบผมแล้วกระชับเสื้อผ้าของตน

อันอี้หางรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ไม่เหมาะสมนัก จึงกล่าวกับเซี่ยคุนไม่กี่คำแล้วกลับไป

“อาหารเช้าอยู่ในเตา ทุกคนทานแล้ว เห็นเจ้ากำลังหลับสบาย ข้าจึงไม่ได้ปลุกเจ้า” ลู่อี้เดินเข้ามาหานาง “มาสิ ข้าจะเติมน้ำให้เจ้าอาบ”

มู่ซืออวี่เดินตามหลังลู่อี้ไป

“คุณชายอันมาที่นี่ด้วยเหตุใดหรือ?”

“เขาบอกพี่เซี่ยว่าอยากจะเร่งวันแต่งงานเข้ามา” ลู่อี้เติมน้ำ “พี่เซี่ยบอกว่าจะปรึกษากับเจ้าก่อนจึงจะตัดสินใจ”

“เลื่อนเข้ามาเป็นเมื่อไหร่หรือ?”

“วันที่ห้าเดือนหน้า”

“เช่นนั้นก็เหลือเพียงครึ่งเดือนน่ะสิ พวกเราเตรียมการตอนนี้จะทันหรือ?”

“ทันน่ะทันอยู่แล้ว เพียงแต่พี่เซี่ยกับจือเชียนอยู่ห้องเดียวกันไม่ได้แล้ว ต้องแยกห้องให้เขาห้องหนึ่ง”

“เรื่องนี้จัดการง่าย! ห้องนั้นที่เดิมทีเตรียมไว้ให้ท่านแม่ของข้า เราก็ให้เขาใช้ก่อน แม่ข้าไม่คิดจะมาอยู่กับเราอยู่แล้ว ถือว่ายังว่างอยู่”

“แม่นางอันอวี้เคลื่อนไหวไม่สะดวก ต่อไปพวกเราจะต้องดูแลนาง”

ลู่อี้ไม่ได้รังเกียจอันอวี้ เพียงแต่กำลังอธิบายความเป็นจริง

“ข้าคิดว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลายปีมานี้อันอวี้มีชีวิตมาได้ด้วยตนเอง แม่ของนางเดิมทีก็ไม่สนใจไยดีนางแม้แต่น้อย นางแต่งเข้ามาแล้ว ระยะแรกพวกเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันนัก หากพวกเราอยู่กับนางไปเรื่อย ๆ ให้นางค่อย ๆ ปรับตัวให้คุ้นเคยก็จะดีขึ้นเอง อีกอย่างดวงตาของนางก็รักษาได้ไม่ใช่หรือ? ไม่แน่ว่าอีกไม่นานก็หายดีแล้ว”

ลู่อี้ลูบแก้มนางเบา ๆ “เหตุใดเจ้าจึงจิตใจดีเช่นนี้?”

“หากเป็นคนอื่นก็ต้องทำเช่นนี้” มู่ซืออวี่รู้สึกเขินอายกับคำพูดของเขา

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย”

หลาย ๆ คนไม่ได้คิดเช่นนั้น

ท่านหมอลี่กล่าวว่า ถ้าอยากจะรักษาดวงตาของอันอวี้ให้หายดี หากไม่มีเงิน 500 ตำลึงย่อมเป็นไปไม่ได้

500 ตำลึงไม่ใช่เงินน้อย ๆ

เงินสินสอดก็ 100 ตำลึงไปแล้ว อีกอย่าง การจัดงานแต่งต้องใช้เงินมากกว่า 10 ถึง 12 ตำลึง ใช้เงินจำนวนมากเช่นนี้เพื่อช่วยผู้ติดตามคนหนึ่งแต่งภรรยาไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

ครอบครัวของพวกเขาไม่ได้มีเงินเป็นภูเขาทองคำ ในมือของมู่ซืออวี่มีเงินเพียงไม่กี่ร้อยตำลึงเงินเท่านั้น หลังจากรักษาอันอวี้แล้ว นางอาจไม่มีอะไรเหลือเลย

“เงินหาใหม่ได้ แต่ความสุขใช่ว่าจะพบเมื่อไหร่ก็ได้” มู่ซืออวี่โอบเอวลู่อี้แล้วซบลงกับอกเขา “ถึงแม้พวกเราจะรู้จักพี่เซี่ยไม่นาน แต่ข้ารู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนดีมาก ในเมื่อโชคชะตานำพาเรามาให้เป็นสหาย ย่อมต้องหวังว่าเขาจะคว้าความสุขเอาไว้ได้”

ตอนที่พบกับเซี่ยคุน เขานั่งอยู่ในตรอกแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตในโลกของตนให้ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ไม่สนใจโลกภายนอก ความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างเช่นนี้ย่อมทำให้รู้สึกว่าโลกทั้งโลกละทิ้งเขา เซี่ยคุนไม่มีสิ่งใดให้คำนึงถึง ทว่าตอนนี้เขามีคนที่ต้องคำนึงถึงแล้ว

ลู่อี้โอบเอวนางกลับไปแล้วเอ่ยกระซิบข้างหู “น้ำใกล้จะเย็นแล้ว เจ้าค่อยกอดข้าทีหลังได้หรือไม่?”

มู่ซืออวี่ “…”

นางปล่อยมือจากเขา จากนั้นจึงมองค้อนใส่ “ใครอยากกอดท่านกัน?”

“ได้ ข้าอยากกอดเจ้าเองต่างหาก” ลู่อี้ยิ้มน้อย ๆ

เซี่ยคุนเดินกลับไปยังห้องของตน จากนั้นจึงนำกล่องใบหนึ่งออกมา

เขาไปเคาะประตูบ้านข้าง ๆ

“ใครน่ะ?” อวี้ซื่อเดินออกมาอย่างรำคาญใจ

อันอี้หางและอันอวี้ล้วนอยู่ที่บ้าน อวี้ซื่อไม่คบหากับผู้ใด จึงไม่รู้ว่าใครมาเคาะประตู

เมื่อเปิดประตูออกมาเห็นเซี่ยคุน สีหน้าของนางพลันเฉยชา “มีเรื่องอะไร?”

“ข้ามาหาอันอวี้” เซี่ยคุนเอ่ยเสียงเรียบ

อวี้ซื่อเห็นหน้าเขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจ

เอาแต่ทำหน้าราวกับโลงศพทั้งวัน ทำเหมือนนางติดหนี้เขา หากไม่ใช่เพราะความใจกว้างของเจ้านายที่เต็มใจให้สินสอดมากมายเช่นนั้น ผู้ใดจะอยากให้ลูกสาวของตนแต่งงานกับคนหน้าตาราวกับเจ้าหนี้เช่นนี้?

“อันอวี้ ออกมานี่!” อวี้ซื่อตะโกนขึ้นอย่างหมดความอดทน

สีหน้าของเซี่ยคุนมืดครึ้มลง “นางเป็นลูกสาวของท่าน หาใช่สุนัขของท่าน ไม่ใช่ว่าท่านควรจะสุภาพกับนางกว่านี้หน่อยหรือ?”

“ลูกสาวของข้า ข้าอยากเรียกอย่างไรก็เรียกอย่างนั้น ไม่ต้องให้เจ้ามาสอนข้า” อวี้ซื่อเย้ยหยัน “หากเจ้าไม่ชินหู เช่นนั้นก็ไม่ต้องฟัง”

เสียงของอันอี้หางดังออกมาจากในห้อง “ท่านแม่ ข้าอยากดื่มชา”

“มาแล้ว ๆ” อวี้ซื่อรับคำ

อันอวี้จึงค่อย ๆ เดินออกมา เซี่ยคุนเดินเข้าไปในลานบ้านแล้วช่วยพยุงนางไว้ “พี่ชายของเจ้าบอกเจ้าแล้วหรือยังว่าวันแต่งงานของเราเร็วขึ้นกว่าเดิม?”

ใบหน้าของอันอวี้แดงเรื่อขึ้นมา นางพยักหน้าเบา ๆ

ตอนที่พี่ชายบอกนางนั้น นางมีความสุขมาก เพียงแต่หลังจากมีความสุขแล้ว นางก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย นางเป็นเช่นนี้ จะสามารถทำหน้าที่ภรรยาที่ดีได้จริง ๆ หรือ?

“นี่เป็นเสื้อผ้าสองชุด ชุดหนึ่งเป็นชุดแต่งงาน อีกชุดเป็นชุดใส่ทั่วไป ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะชอบหรือไม่ หากเจ้าไม่ชอบข้าจะไปเปลี่ยนมาให้”

เซี่ยคุนไม่เคยกล่าวยืดยาวเช่นนี้ ทว่าตอนนี้เขาค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งยังจริงจังกับอันอวี้มากขึ้นเช่นกัน

ทิศตะวันออกของหมู่บ้าน รถม้าคันหนึ่งหยุดลงหน้าบ้านของแม่เฒ่าเจียง

แม่เฒ่าเจียงลงมาจากรถม้าก่อน จากนั้นจึงเปิดม่านเชิญท่านหมอลี่ลงมา

“ท่านหมอ ถึงบ้านข้าแล้ว”

ท่านหมอลี่พยักหน้าเบา ๆ “อืม นำทางไปเถอะ”

“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”

ข้างหลังท่านหมอลี่มีคนจัดยาคนหนึ่ง คนจัดยาผู้นี้มาจากร้านขายยาของสหายที่เขายืมมาเป็นการชั่วคราว รถม้าก็เป็นของสหายผู้นั้นเช่นกัน ทั้งนี้จะได้เดินทางไปมาสะดวก

ทันทีที่แม่เฒ่าเจียงเปิดประตูบ้านก็ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเสียงหนึ่งดังออกมาจากข้างใน “ท่านยังรู้จักกลับมาหรือ? คิดจะปล่อยให้ข้าหิวตายใช่หรือไม่?”

สีหน้าของแม่เฒ่าเจียงแปรเปลี่ยนฉับพลัน นางรุดเข้าไปในบ้าน

ทว่ากลิ่นเหม็นคละคลุ้งลอยออกมา แม่เฒ่าเจียงแทบจะอาเจียนออกมาแล้ว

มู่ตงหยวนไม่สามารถลงจากเตียงได้ ถ่ายหนักถ่ายเบาล้วนทำบนเตียง ตอนนี้ในห้องจึงเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นตลบอบอวล

ดวงตาของมู่ตงหยวนแดงก่ำราวกับสัตว์เดรัจฉานขณะจ้องมองแม่เฒ่าเจียงอย่างเหี้ยมโหด

“อี้เอ๋อร์เล่า? ข้าให้เขาดูแลเจ้าไม่ใช่หรือ?”

“เขาน่ะหรือ? ตั้งแต่ท่านไปเขาก็ออกไปแล้ว เขาเป็นถึงบัณฑิตสูงส่ง จะมาดูแลคนพิการเช่นข้าได้อย่างไร?” มู่ตงหยวนแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม

“ข้าไปเชิญท่านหมอมาให้เจ้า อีกไม่นานเจ้าก็จะดีขึ้นแล้ว ข้าจะทำความสะอาดเสียก่อน เราให้ท่านหมอรอนานไม่ได้เป็นอันขาด นั่นเป็นท่านหมอลี่จากเมืองซูโจวเชียวนะ”

รอยยิ้มหยันบนใบหน้าของมู่ตงหยวนหายไปทันที สายตาของเขาเป็นประกาย “ท่านหมอลี่จริงหรือ?”

“ใช่” แม่เฒ่าเจียงปาดน้ำตา “ข้าตามหาเขาทั่วทั้งเมืองอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะหาเขาเจอไม่ง่ายเลย เจ้าเชื่อฟังหน่อยนะ อย่าได้พูดจาไร้สาระเป็นอันขาด”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท