สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 331 ใต้เท้าลู่ปกป้อง

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 331 ใต้เท้าลู่ปกป้อง

บทที่ 331 ใต้เท้าลู่ปกป้อง

ลู่อี้พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณหนูเฉิน วันนี้ข้ามีแขก เกรงว่าอาจจัดสถานที่ต้อนรับได้ไม่ดี เหตุใดจึงไม่กลับไปก่อนแล้วค่อยมาเยี่ยมเยือนวันอื่นเล่า?”

เฉินซือจวินชำเลืองมองเจี่ยงถิงจือด้วยสีหน้าเขินอาย “ข้ามาถึงแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปทันที มันเสียมารยาทเกินไปเจ้าค่ะ”

“ถูกต้อง ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็นั่งลงเสีย เราไม่ได้จะหารืออะไรกันจริงจัง เพียงแค่ร่ำสุราและสนทนากันเท่านั้น” เจี่ยงถิงจือมองเฉินซือจวินด้วยรอยยิ้ม

เฉินซือจวินเข้าหาลู่อี้ในวันนี้ เพราะต้องการจะมาบอกข้อมูลที่เพิ่งได้ยินจากเจียงเหล่า เพื่อให้เขารู้สึกว่านางเป็นคนที่สามารถช่วยเหลือเขาได้

ทว่าเมื่อได้ยินว่าเขามีแขก เฉินซือจวินก็คิดจะกลับไปก่อนเช่นกัน แต่ก่อนที่จะไป นางได้ยินว่าแขกคนนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลู่อี้ นางจึงจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ แน่นอนว่านางต้องอยู่

เฉินซือจวินนั่งตรงกลางระหว่างเจี่ยงถิงจือและลู่อี้

สายตาของเจี่ยงถิงจือจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างของเฉินซือจวิน

เฉินซือจวินรู้สึกขนลุกเมื่อเจอเขา นางรู้สึกเสมอว่าสายตาของคนผู้นี้แปลกมาก

มันเป็นเพราะเสื้อผ้านี้หรือเปล่า…

นางสวมชุดนี้เพื่อลู่อี้ต่างหาก

ลู่อี้เกิดในครอบครัวธรรมดา ถ้านางสวมใส่เครื่องประดับอัญมณี ก็มีแต่จะผลักลู่อี้ให้ออกห่างไปเรื่อย ๆ หากเขาชอบผู้หญิงแต่งตัวเรียบง่ายอย่างมู่ซืออวี่ นางก็ทำได้เช่นกัน

นางแค่ต้องการให้ลู่อี้เข้าใจว่า แม้ว่านางจะไม่ได้สวมเสื้อผ้าหรูหรา แต่นางก็งดงามกว่ามู่ซืออวี่ผู้หญิงหน้าเหลืองคนนั้นเป็นร้อยเท่า

เฉินซือจวินรินสุราให้ทั้งสอง

เนื่องจากมีสาวงามอยู่เคียงข้าง เจี่ยงถิงจือจึงให้ความสนใจกับลู่อี้น้อยลง

‘สินค้า’ ของเขาหายไป หลังจากตรวจสอบแล้ว คนที่น่าสงสัยที่สุดคือลู่อี้

นายอำเภอหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียงรู้มานานแล้วว่าเขากำลังทำสิ่งใด ทว่าไม่มีเรื่องผิดพลาดมาหลายปีแล้ว แต่กลับมีบางอย่างเกิดขึ้นทันทีที่ลู่อี้เข้ารับตำแหน่ง จะเรียกว่าเป็นความบังเอิญได้หรือ?

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ก็ตาม เจี่ยงถิงจือก็ไม่ได้มาหาลู่อี้เพื่อทุบตี ตักเตือน ขู่เข็ญ และติดสินบน

หากลู่อี้ฉลาด เขาย่อมรู้จักเชื่อฟัง

“คุณหนูเฉิน ดื่มอีกสิ” เจี่ยงถิงจือลูบไล้หลังมือของเฉินซือจวินพร้อมรอยยิ้ม

แม้ว่าเฉินซือจวินจะกรึ่มเมา แต่นางก็รู้สึกได้ถึงเจตนาร้ายของเจี่ยงถิงจือ นางดึงมือออกด้วยความตกใจแล้วล้มไปทางลู่อี้

ทว่าลู่อี้เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างอย่างใจเย็น เฉินซือจวินจึงล้มลงกับพื้น

“โอ๊ย!” นางร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“โอ้ เหตุใดคุณหนูเฉินถึงล้มลง ข้าจะช่วยเจ้าขึ้นมา” เจี่ยงถิงจือพยุงไหล่ของเฉินซือจวิน

เฉินซือจวินไม่มีแรงขัดขืน นางมองลู่อี้ราวกับขอความช่วยเหลือ

ลู่อี้พูดกับคนรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ “คุณหนูเฉินเมาแล้ว ส่งนางกลับไป”

“ขอรับ”

คนรับใช้พาเฉินซือจวินออกจากมือของเจี่ยงถิงจือ

ลู่อี้พูดอย่างใจเย็นว่า “ใต้เท้าเจี่ยง มาดื่มกันต่อเถิดขอรับ สุรานี้ไม่เลว ขออีกสองสามจอก”

“แน่นอน ดื่มกันต่อ” เจี่ยงถิงจือเฝ้ามองร่างของเฉินซือจวินที่กำลังจากไป ประกายจากแววตาชั่วร้ายพลันฉายวาบในสายตาของเขา

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ลู่อี้ก็โบกมือ “ดื่มไม่ไหวแล้ว ข้าเมาแล้วขอรับ”

เจี่ยงถิงจือมองชายตรงหน้าด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม

ดื่มไปเพียงเท่านี้ก็เมามายแล้วหรือ?

“ข้ามึนเมาเล็กน้อย ไม่ทราบว่าห้องพักอยู่ที่ใดหรือ?”

ลู่อี้ตะโกนออกไปข้างนอกแล้วบอกให้คนรับใช้พาเจี่ยงถิงจือไปพักผ่อน

ทันทีที่เจี่ยงถิงจือจากไป ลู่อี้ที่นั่งตัวเอียงก็นั่งหลังตรง ความมึนเมาในดวงตาของเขาหายไป

เมาที่ไหนกัน เขาปกติเป็นอย่างยิ่งต่างหาก

นักการเกาเข้ามาจากด้านนอกแล้วนั่งตรงข้ามเขา “น่าเสียดายสุราดี ๆ เช่นนี้”

“ร่ำสุราครั้งสุดท้ายในชีวิต ข้าใจกว้างเสมอ ย่อมสามารถจ่ายให้ได้” ลู่อี้เย้ยหยัน

“เจี่ยงถิงจือผู้นี้มีคนหนุนหลังอยู่ในเมืองหลวง” นักการเกากล่าว “ใต้เท้าแน่ใจหรือว่าต้องการทำเช่นนั้น?”

“บังเอิญว่าคนหนุนหลังเขาในเมืองหลวง เป็นศัตรูตัวฉกาจของเจียงเหล่า หากเขาไม่มีคนคอยหนุนหลังก็ไม่เป็นอะไร แต่การมีคนหนุนหลังจะนำเขาไปสู่ความตายเอง” ลู่อี้พูดเบา ๆ “ลงมือได้”

“จุ๊จุ๊ หากพี่น้องเห็นท่านเป็นเช่นนี้ เกรงว่าจะตกใจกลัว” นักการเกายืนขึ้น “ข้าต้องการสุราชั้นเลิศที่บ่มเป็นเวลาห้าสิบปี หลังจากทำภารกิจนี้เสร็จสิ้น”

“ย่อมได้”

“สิ่งที่เฝ้ารอคือประโยคนี้ของใต้เท้าขอรับ”

กลางดึก เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบงันยามราตรี

เรือนที่มืดมิดในตอนแรก กลับกลายเป็นสว่างไสวราวกับกลางวันทันที จากนั้นลู่อี้ก็รีบไปยังทิศทางที่เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมด้วยคนอีกหลายสิบคน

โครม!

ลู่อี้ถีบประตูแล้วพุ่งเข้าไป

“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ อย่า!” หญิงสาวกรีดร้องลั่นพลางเตะชายชั่วที่กำลังพยายามล่วงเกิน

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ชายคนนั้นไม่เพียงไม่หยุดเท่านั้น แต่ยังตื่นเต้นมากขึ้นอีกด้วย

นักการเกาชักดาบออกมา แทงดาบทะลุหน้าอกทันที

ฉึก!

เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นบนใบหน้าของเฉินซือจวินที่กำลังตื่นตระหนก

เฉินซือจวินมองร่างอันเปลือยเปล่าด้วยความสยดสยอง เจ้าของมือสกปรกบนร่างของนางล้มลงราวกับก้อนหิน

“กรี๊ด!!!” เฉินซือจวินกรีดร้องลั่นอีกครั้ง

มีผู้ชายมากกว่ายี่สิบคนอยู่ในห้อง ชายเหล่านี้ทุกคนเห็นนางถูกทำร้าย แม้กระทั่ง…

ลู่อี้ที่อยู่ตรงหน้านาง

เขาหันหลังให้ ราวกับว่าทุกอย่างที่นี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

เจี่ยงถิงจือตายตาไม่หลับ ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้าง

เขาไม่เคยคิดฝันว่าลู่อี้จะกล้าหาญถึงเพียงนี้ กล้าสังหารขุนนางของราชสำนัก

หารู้ไม่ว่าตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้าสู่ศาลาว่าการ ชีวิตของเขาก็เริ่มนับถอยหลังแล้ว

“ส่งคุณหนูเฉินกลับ” น้ำเสียงของลู่อี้สงบและเฉยเมย

เฉินซือจวินจ้องมองลู่อี้เขม็ง

“เหตุใดกัน?” นางถามเขา “เหตุใดไม่ส่งคนไปคอยจับตาดูเขา เหตุใดถึงปล่อยให้เขาบุกเข้ามาในห้องของข้าได้”

“เหตุใดเจ้าไม่กลับไป” ลู่อี้ถาม “ข้าไม่ได้บอกให้คนใช้พาเจ้ากลับหรือ?”

เฉินซือจวินกอดผ้าห่มแน่น พยายามควบคุมร่างกายที่สั่นเทา

ใช่แล้ว!

เขาส่งคนมารับนางกลับ แต่นางไม่อยากจากไปเช่นนี้ จึงอยู่ต่อด้วยความไร้ยางอาย นางแค่อยากอยู่ในเรือนหลังเดียวกับเขาเท่านั้น

นางคิดว่าเช้าวันพรุ่งนี้ นางจะทำอาหารเช้าให้เขา เพื่อให้เขารู้ว่านางไม่ได้ด้อยไปกว่ามู่ซืออวี่

เหตุใดเรื่องจึงกลายเป็นเช่นนี้?

เพราะเหตุใดกัน?

มุมปากของนักการเกากระตุก

คุณหนูเฉินช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร!

จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวที่นี่เอง ใครให้นางไปแสดงตัวต่อหน้าลู่อี้กัน?

แล้วเหตุใดจู่ ๆ นางถึงเปลี่ยนการแต่งกาย มีคนบอกนางหรือว่าลู่อี้ชอบผู้หญิงแต่งตัวเรียบง่าย

ที่นางอยู่ต่อทั้งที่รู้ว่าเขามีแขก ทั้งยังไปพบปะกับแขกอีกคนในฐานะแขกด้วย แน่นอนว่าเป็นเพราะ…

ลู่อี้จงใจให้เป็นเช่นนั้น!

ทุกย่างก้าวของนางล้วนอยู่ในการคำนวณของลู่อี้ เหตุผลก็คือนางเป็นเบี้ยที่มีประโยชน์มาก!

หลานสาวของเจียงเหล่า บางครั้งตัวตนนี้ก็ค่อนข้างมีประโยชน์ทีเดียว ใช่หรือไม่?

ลู่อี้น่ากลัวกว่าที่คิดไว้มาก แต่จะทำอย่างไรได้ มีเจ้านายน่ากลัวเช่นนี้ เขากลับรู้สึกปลอดภัยมาก!

เพราะเขาปกป้องคนของตัวเอง ใครก็ตามที่กล้ารังแกคนของเขา ย่อมจะไม่มีวันมีชีวิตที่ดี หากเฉินซือจวินซื่อสัตย์และเชื่อฟังมากกว่านี้ ไม่ทำตัวเหมือนปีศาจ แม้ว่าลู่อี้จะไม่ตอบสนองต่อความรักของนาง แต่เขาก็จะไม่ทำให้นางเดือดร้อน

ทว่าเฉินซือจวินเล่นกลเสียเอง นางพยายามกลั่นแกล้งภรรยาของเขาที่อยู่ห่างไกลจากเมืองซูโจว

นางควรจะขอบคุณมู่ซืออวี่ที่ฉลาดพอ ไม่ทำให้นางเดือดร้อน ไม่เช่นนั้นโทษทัณฑ์ที่นางได้รับคงไม่เบาแน่

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท