สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 343 คนผู้นี้ช่างแปลกนัก

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 343 คนผู้นี้ช่างแปลกนัก

บทที่ 343 คนผู้นี้ช่างแปลกนัก

หลังจากได้ยินคำพูดของนาง หร่วนฉีก็รื้อนกไม้ออกเป็นชิ้นโดยไม่ได้เอ่ยคำใด

มู่ซืออวี่ “…”

คิดจะหักหน้ากันหรือ? นี่ไม่ผยองเกินไปหน่อยหรือไง?

มู่ซืออวี่รู้ว่าตนไม่ได้คิดร้ายต่อสาวงามผู้นี้เลย ทั้งยังชื่นชมความสามารถของนางมากอีกด้วย ทว่าเหตุใดสตรีผู้นี้ถึงได้ตั้งตนเป็นศัตรูถึงเพียงนี้?

เป็นไปได้หรือไม่ว่าเสือสองตัวไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้ เว้นแต่ตัวหนึ่งจะเป็นตัวผู้และอีกตัวคือตัวเมีย?

“ฮูหยิน…” จื่อเยวี่ยนมองหร่วนฉีด้วยความหวาดระแวง “คนผู้นี้คิดจะทำอะไรหรือเจ้าคะ?”

มู่ซืออวี่แทะเนื้อกระต่ายแล้วส่ายหน้าเบา ๆ “ใครจะไปรู้ กินเสีย! หากไม่รีบกินจะเย็นหมด”

ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการกินเนื้อกระต่ายของนางก็พอแล้ว

“ฮูหยิน เนื้อกระต่ายที่นี่รสเลิศจริง ๆ เจ้าค่ะ” จื่อซูลุ่มหลงในรสชาติ

“หากเจ้าชอบกินมากถึงเพียงนั้น เหตุใดไม่แต่งงานกับพ่อครัวเสียเลยเล่า” มู่ซืออวี่กล่าว

“ฮูหยิน…” จื่อซูหน้าแดง “แม้ว่าข้าจะติดใจมากเพียงใด ข้าก็ไม่อาจเอาตัวเองไปแลกกับอาหารได้หรอกเจ้าค่ะ”

จื่อเยวี่ยนไม่พลาดโอกาส “มีความเป็นไปได้สูงมากต่างหาก”

“จื่อเยวี่ยน!” จื่อซูพาลโกรธ

“เหตุใดข้าจึงประกอบมันกลับไม่ได้?” หร่วนฉีถามมู่ซืออวี่ “ข้าจำทุกขั้นตอนได้ แต่ไม่อาจประกอบชิ้นส่วนเหล่านี้กลับคืนได้ เพราะเหตุใดกัน?”

“ตอนถอดแยกชิ้นส่วนเหมือนกับตอนประกอบหรือไร”

“ข้าวิเคราะห์ขั้นตอนการประกอบตามขั้นตอนการรื้อ มันไม่เป็นไปตามขั้นตอนเดิม”

“นั่นหมายความว่าเจ้าคิดผิด…”

มู่ซืออวี่และหร่วนฉีหารือกันเรื่องการประกอบนกไม้

เพื่อให้นกไม้มีความยืดหยุ่นพลิ้วไหว ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเหล่านั้นจึงประณีตมาก เพียงแค่ในปีกเล็ก ๆ ก็ยังประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลายสิบชิ้น นับประสาอะไรกับส่วนอื่น

หากชิ้นส่วนที่ทำขึ้นอย่างประณีตเหล่านั้นขาดหายไปหรือไม่ถูกต้องก็จะประกอบไม่ได้

ถ้าไม่ใช่เพราะเงื่อนไขในสมัยโบราณไม่เอื้ออำนวย ก็อาจมีการติดตั้งกลไกขนาดเล็กไว้ข้างใน เพื่อให้นกไม้ส่งเสียงร้องได้ด้วย

จื่อซูกับจื่อเยวี่ยนจ้องมองอย่างตกตะลึง

พี่สาวคนสวยมาที่นี่เพื่อปรึกษาเรื่องนกไม้โดยเฉพาะเช่นนั้นหรือ?

“เหตุใดเจ้าไม่กินก่อนที่เราจะคุยกันเล่า?” มู่ซืออวี่มองเนื้อกระต่ายที่เริ่มเย็นชืดแล้วรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

“ข้าไม่กินหรอก” หร่วนฉียังคงจดจ่อกับนกไม้ต่อไป

“เช่นนั้นข้ากินเอง”

มู่ซืออวี่ดื่มสุราอีกจอก “สุราหอมหวานเสียจริง! คงจะดีมากหากข้าซื้อสูตรของเถ้าแก่ได้”

หร่วนฉีหยุดจดจ่อกับนกไม้

“ข้ามีสูตรหมักสุราที่ดีกว่าสูตรนี้ เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนมันกับแผนผังโครงสร้างนกไม้ของเจ้าหรือไม่?”

มู่ซืออวี่ “…”

คนผู้นี้ช่างแปลกนัก ถูกวิญญาณช่างไม้ครอบงำหรือเปล่า?

“ไม่แลกหรือ?” หร่วนฉีขมวดคิ้ว “ช่างมันเถิด” จากนั้นเขาก็พยายามประกอบชิ้นส่วนนกไม้ต่อไป

มู่ซืออวี่และสาวใช้ทั้งสองกินจนหนำใจแล้ว ส่วนเขาก็ยังคงจดจ่อกับนกไม้

มู่ซืออวี่ทนดูไม่ได้อีกต่อไปจึงพูดว่า “หรือจะให้ข้าประกอบให้เจ้าดี?”

“ได้” หร่วนฉียื่นชิ้นส่วนให้นาง

นิ้วของมู่ซืออวี่คล่องแคล่วราวกับว่านางกำลังเต้นระบำ ชิ้นส่วนเหล่านั้นรวมกันอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าก็กลายเป็นนกไม้ที่เสร็จสมบูรณ์

“เอ้า เท่านั้นแหละ เจ้าเห็นชัดหรือไม่?” มู่ซืออวี่ถาม “หากเจ้าเห็นไม่ชัด…”

“ข้าไม่ได้โง่เขลา ข้าเห็นชัดเจนแล้ว” หลังจากพูดจบ หร่วนฉีก็หยิบนกไม้เดินจากไป

มู่ซืออวี่ “…”

แล้วนางมาที่นี่เพื่ออะไรกัน?

“คนผู้นี้ช่างแปลกนัก” จื่อซูพูด “แปลกกว่าทุกคนที่ข้าเคยเห็นมา แต่รูปโฉมงามสะพรั่งจริง ๆ เจ้าค่ะ”

“ร่างใหญ่เกินไปหน่อย” จื่อเยวี่ยนพูด “เจ้าไม่คิดหรือว่านางตัวสูงเกินไป กระดูกก็หนาเกินไปหน่อย”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น มีผู้หญิงหลายคนในหมู่บ้านเราที่ร่างกายบึกบึนกว่านาง ผู้หญิงที่คลอดลูกแล้วก็ตัวใหญ่ขึ้นนี่” จื่อซูกล่าว

“ไม่เหมือนกัน! ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ดูแปลกเกินไปหน่อย” จื่อเยวี่ยนพึมพำ

“เอาล่ะ ไม่ว่านางจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เรากลับกันเถิด!”

มู่ซืออวี่ซื้อเนื้อกระต่ายมาส่วนหนึ่ง นางจะนำกลับบ้านไปให้เจิ้งซูอวี้กิน

เมื่อมู่ซืออวี่กลับมาถึง เจิ้งซูอวี้ก็กลับมาแล้วเช่นกัน

ห้องของเจิ้งซูอวี้ยังเปิดไฟอยู่ นางจึงเข้าไปพร้อมกับเนื้อกระต่าย

“ดึกมากแล้ว ทำอะไรอยู่หรือ?”

เมื่อเจิ้งซูอวี้เห็นอีกฝ่ายจึงตอบกลับมาว่า “เขียนจดหมายถึงหงซู”

“หลี่หงซูหรือ?”

เมื่อเจิ้งซูอวี้นึกถึงความวุ่นวายระหว่างมู่ซืออวี่กับตระกูลหลี่ นางก็พูดอย่างประหม่าว่า “ใช่แล้ว ท่านก็รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของนางไม่ค่อยดีนัก และคงไม่มีผู้ใดคุยด้วยนอกจากข้า”

“ตระกูลหลี่ยังไม่ตกต่ำ นางไม่จำเป็นต้องฝืนใช้ชีวิตด้วยความคับข้องใจเช่นนี้ก็ได้” มู่ซืออวี่กล่าว

“พวกเราคล้ายกันมาก แต่เมื่อต้องเลือก ข้าเลือกเส้นทางที่แตกต่างจากนาง” เจิ้งซูอวี้ปิดผนึกซองจดหมาย “อันที่จริงข้าเข้าใจนาง หากข้ามีเรื่องให้ต้องกังวลเหมือนนาง ข้าคงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างอิสระและง่ายดายได้ เพราะอย่างไรเสีย ตระกูลเจิ้งก็ไม่มีอะไรที่ชวนให้ข้าต้องระลึกถึง”

“ข้าซื้อเนื้อกระต่ายมาฝาก มันยังร้อนอยู่ จะกินเลยหรือไม่?”

“โอ้โห เจ้านายของข้า ตั้งแต่ท่านมา น้ำหนักข้าก็เพิ่มขึ้นมาก กินไม่ได้หรอก” แม้ว่าเจิ้งซูอวี้จะบอกว่ากินไม่ได้ ทว่าสายตาของนางกำลังจับจ้องไปที่เนื้อกระต่าย

“มันยังร้อนอยู่ ไม่อยากกินจริงหรือ?” มู่ซืออวี่แกล้ง

เจิ้งซูอวี้หยิบขากระต่ายขึ้นมา “เหตุใดไม่กินมันคืนนี้ แล้วค่อยงดกินอาหารเย็นในอนาคตเล่า”

มู่ซืออวี่หัวเราะชอบใจ

จากนั้นทั้งสองก็รินน้ำชา

เจิ้งซูอวี้ได้กลิ่นเมรัยบนตัวของมู่ซืออวี่จึงรู้สึกไม่พอใจ “พวกท่านไปร่ำสุรากันมา เหตุใดเตรียมแค่ชาให้ข้า? ข้าเองก็อยากดื่มสุราด้วย”

พรุ่งนี้ลู่ฉาวอวี่จะมา มู่ซืออวี่จึงให้เจิ้งซูอวี้ดูแลกิจการที่ร้านให้ จากนั้นนางก็แวะไปดูเรื่อนย่อยของจงอ๋องสักพัก

ดูเสร็จก็ซื้อของเข้าบ้าน ก่อนจะจัดห้องไว้ให้ลู่ฉาวอวี่และมู่เจิ้งหาน

“ช้าก่อน” มู่ซืออวี่เรียกคนรีบใช้ให้หยุด “เอาเครื่องหอมในห้องนี้ออก ไม่ต้องการเครื่องหอมชนิดนี้ ไปซื้อไม้กฤษณากลับมา”

“ขอรับ”

เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว มู่ซืออวี่ก็พาสาวใช้ทั้งสองขึ้นรถม้าไปที่ประตูเมืองเพื่อรอลู่ฉาวอวี่

ขณะเดินทางผ่าน ‘ร้านเพียงหนึ่งเดียว’ ก็เห็นว่าที่นั่นมีลูกค้ามากมาย นางอดสงสัยไม่ได้ว่ามีสินค้าใหม่วางขายหรือไม่

“ว่ากันว่าสินค้าของ ‘ร้านเพียงหนึ่งเดียว’ เป็นที่นิยมมากในหมู่เศรษฐีเหล่านั้น”

“ข้ารู้ นางมีความสามารถจริง ๆ” มู่ซืออวี่กล่าว “เมื่อฉาวอวี่และน้องหานมาถึง ให้จัดการเรื่องของพวกเขาให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยจัดการเรื่องงานให้ดี”

ลู่ฉาวอวี่และมู่เจิ้งหานไม่ปล่อยให้พวกนางต้องรอนาน หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็มาถึงประตูเมืองด้วยรถม้าของอาจารย์เหวิน

“อาจารย์เหวิน ท่านเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาตลอดทาง พวกเราซึ้งใจมาก เราจัดห้องพักไว้แล้ว ขอให้พักผ่อนให้สบายเสียก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน”

“ข้าไม่รบกวนการพบปะกันของพวกเจ้าหรอก” เหวินอวี่เซวียนกล่าว

“รบกวนที่ไหนกัน”

“นอกจากฉาวอวี่และเสี่ยวหานแล้ว ยังมีลูกศิษย์อีกสองสามคนมาด้วย ไม่ต้องกังวล ข้าเตรียมที่พักไว้แล้ว อีกสองสามวันจะไปเยี่ยมเถ้าแก่เนี้ยมู่อีกครั้ง”

“งั้นข้าก็ไม่รบกวนท่านแล้วขอรับ”

มีลูกศิษย์คนอื่นอยู่ในรถม้าด้วยจริง ๆ ดูเหมือนว่าการศึกษาดูงานครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมกลุ่ม

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่ซืออวี่เห็นอาจารย์รับศิษย์ไปเรียนรู้ที่อื่น มีอาจารย์ที่ใส่ใจเช่นนี้ ศิษย์ที่เขาสอนย่อมต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่

เด็กเหล่านี้จะมีอนาคตที่สดใสแน่นอน

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท