บทที่ 413 การแต่งงานของฉู่หนิงจู
บทที่ 413 การแต่งงานของฉู่หนิงจู
บางทีอาจเป็นเพราะฉู่หนิงจูฟื้นขึ้นมาแล้ว เปาซื่อจึงอารมณ์ดีขึ้น นางใช้โอกาสนี้ถามประสบการณ์ของฉู่หนิงจูในเมืองฮู่เป่ย
มู่ซืออวี่ไม่รู้ว่าเปาซื่อรู้มากเพียงใด จึงทำได้เพียงตอบไปง่าย ๆ ส่วนคำถามอื่นนั้นนางตอบไปเพียงแค่ว่าไม่ทราบ
หลังจากดื่มชาไปสองถ้วย ในที่สุดคนรับใช้ก็มารายงานว่าใต้เท้าลู่กำลังจะพาฮูหยินลู่กลับ เปาซื่อจึงสั่งให้คนรับใช้พามู่ซืออวี่ไปหาลู่อี้
ลู่อี้ขี่ม้ามาที่นี่ ตอนนี้เขาก็พามู่ซืออวี่ขี่ม้ากลับเช่นเดิม
เขาปฏิเสธน้ำใจของจวนฉู่กั๋วกงที่จะให้รถม้าไปส่ง
มีผู้คนมากมายไปเยี่ยมชมตลาดกลางคืนบนถนน พ่อค้าแม่ค้ามากมายมาขายของ แสงไฟสว่างไสวไปทั่วทุกที่ เป็นภาพคึกคักอีกแบบหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“หิวหรือไม่ ต้องการซื้อของอะไรหรือไม่?” ลู่อี้โอบกอดนางขณะกระซิบข้างหู
มู่ซืออวี่พยักหน้า “พอดีว่าข้าเองก็อยากพักผ่อนเช่นกัน”
ลู่อี้ลงจากหลังม้าก่อน จากนั้นจึงอุ้มมู่ซืออวี่ลงไป
เขาจับสายบังเหียนม้าด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างจับมือของมู่ซืออวี่ แล้วทั้งสองก็เดินไปรอบ ๆ ถนน
“นั่นคืออะไร?” มู่ซืออวี่สูดกลิ่นหอมหวานที่โชยมาตามลม แล้วเดินตามหาที่มาของกลิ่นนั้น จากนั้นก็เห็นคนเข้าแถวยาวเหยียด “คนเยอะมาก”
“รอข้าอยู่ตรงนี้” ลู่อี้บอกมู่ซืออวี่แล้วจูงม้าเดินไป
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมา แต่ไร้วี่แววของม้า
“แล้วม้าเล่า?” มู่ซืออวี่ถาม
“ข้าฝากมันไว้กับคนยกของ ข้าบอกให้เขาส่งคืนให้ข้าทีหลัง”
“คนยกของทำงานประเภทนี้ได้ด้วยหรือ?”
“คนยกของทุกคนในเมืองหลวงมีการลงทะเบียน เขียนที่อยู่ชัดเจน ข้าขอแผ่นป้ายทะเบียนของเขาไว้แล้ว หากม้าไม่ถูกส่งคืนมา เขาก็จะมีความผิดฐานขโมย และจะถูกตามจับ”
มู่ซืออวี่คิดอย่างรอบคอบ
“คิดอะไรอยู่อีกแล้วรึ?”
“ข้าคิดว่าเมื่อท่านมาเป็นข้าหลวงในเมืองหลวง ในอนาคตธุรกิจของข้าก็ต้องย้ายมาที่เมืองหลวงแน่นอน ข้อมูลเหล่านี้ย่อมสำคัญ”
“อย่าเพิ่งไปที่ใด ประเดี๋ยวข้าจะกลับมา”
“ท่านจะทำอะไรอีกแล้ว?”
มู่ซืออวี่มองลู่อี้ก้าวไปข้างหน้า
ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับชามสองใบ
“ท่านแซงแถวหรือ?” มู่ซืออวี่ถามเสียงเบา “ทำเช่นนี้ไม่ดีเลยไม่ใช่หรือ คนอื่นยืนต่อแถวกันตั้งนาน ท่านก็ควรต่อแถวด้วย”
“ข้าบอกเถ้าแก่ว่าพวกเรารีบ แต่ชอบกินอาหารของพวกเขามาก จึงอยากขอซื้อก่อนสองชาม แต่การแซงแถวเป็นสิ่งที่ผิด เพื่อแสดงความขอโทษ ข้าจึงเต็มใจจ่ายให้ลูกค้าที่ต่อหลังข้า”
สิ่งที่อยู่ในชามมีสีแดงและสีเขียวฉูดฉาด ดูสวยดี แต่ไม่อาจบอกได้ว่ามันคืออาหารชนิดใด
นางใช้ไม้จิ้มขึ้นมาชิมหนึ่งชิ้นแล้วพูดว่า “นี่คือลูกท้อหรือ? ลูกท้อเคลือบด้วยน้ำผึ้ง ไม่สิ แค่คล้ายกันนิดหน่อย ใช่แล้ว ซานจา*[1] เอามาผสมกันเช่นนี้แปลกนัก!”
ลู่อี้ยังชิมไปหนึ่งชิ้นแล้วขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนว่าร้านเลื่องชื่อจะไม่จำเป็นต้องทำอร่อยเสมอไป”
“มีร้านเลื่องชื่อมากมายในเมืองหลวง” มู่ซืออวี่กล่าว “สิ่งนี้เหมาะสำหรับเด็กหญิงตัวน้อย ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครชอบเลย ท่านก็เห็นว่ามีคนมากมายมาต่อแถวซื้อ แสดงว่ายังมีตลาดอยู่”
แม้ว่าจะไม่ชอบ แต่มู่ซืออวี่ก็กินจนหมด สำหรับส่วนของลู่อี้ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ชอบมันจริง ๆ นางจึงมอบให้กับขอทานที่อยู่ข้างถนน
แน่นอนว่าขอทานก็คงไม่อยากกินของหวานสีฉูดฉาดเช่นนี้ นอกจากขนมแปลก ๆ แล้ว นางยังให้เหรียญทองแดงอีกสิบเหรียญด้วย
ทั้งสองเดินเที่ยวกันเป็นเวลานาน จนกระทั่งตลาดกลางคืนปิด จากนั้นพวกเขาก็ค่อย ๆ เดินทางกลับ
“แล้วคุณหนูฉู่เล่า สืบได้หรือยังว่าผู้ใดเป็นคนวางยา?”
“ยัง แต่มีเงื่อนงำ” ลู่อี้ถามต่อ “วันนี้เจ้ากลัวหรือไม่?”
“คนตระกูลฉู่สุภาพมาก ทางนั้นเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนกมากนัก ทว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ข้าก็ยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย” มู่ซืออวี่กล่าว “แต่ข้าเข้าใจ เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า”
“ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้า”
“ข้าเชื่อใจท่าน”
มู่ซืออวี่หันไปเผยรอยยิ้มสดใสให้ลู่อี้
ลู่อี้จับมือนางไว้แน่น
วันต่อมา ลู่อี้และลู่เซวียนยังคงทำภารกิจของพวกเขาต่อไป
มู่ซืออวี่วางแผนจะพาสองสาวออกไปซื้อสินค้าพิเศษบางอย่าง เพื่อนำไปฝากครอบครัวเมื่อถึงเวลา ก่อนออกไป คนจากจวนฉู่กั๋วกงก็มาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นสาวใช้ข้างกายฉู่หนิงจูที่สุภาพกับนางมาก
อีกฝ่ายอธิบายว่าคุณหนูของตนต้องการเชิญนางไปเป็นแขก ไม่ได้มีอะไรอื่นใดแอบแฝงแน่นอน
“พี่สาว” ฉู่หนิงจูลุกขึ้นจากเตียง
“เจ้าไม่ต้องขยับ” มู่ซืออวี่ทักทายแล้วจับไหล่อีกฝ่ายให้นอนราบ
“หมอว่าอย่างไรบ้าง?”
“ยังมีพิษหลงเหลืออยู่บ้างเจ้าค่ะ กินยาเป็นเวลาสามวันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ครั้งนี้ข้าโชคดี ยาพิษนี้ไม่ได้มีพิษร้ายแรง จึงยังรอดชีวิตมาได้”
“ปลอดภัยก็ดีแล้ว”
“ใช่แล้ว! ”ฉู่หนิงจูพูด “พี่สาว ลู่เซวียนเขา…”
“ข้าไม่ได้บอกเขา” มู่ซืออวี่กล่าว “นี่คือธุระของเจ้าเอง หากเจ้าอยากจะบอกเขา ก็เลือกเวลาที่จะบอกเขาด้วยตัวเอง”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
ฉู่หนิงจูประสานมือ
“คุณหนู” แม่นมเฉียนเดินเข้ามาพูดเสียงเบาว่า “จวินอ๋องมาเจ้าค่ะ ต้องการมาเยี่ยมคุณหนู”
ฉู่หนิงจูขมวดคิ้ว “เขามาทำอะไรที่นี่?”
“จวินอ๋องเป็นคู่หมั้นของคุณหนู การมาเยี่ยมคุณหนูก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือเจ้าคะ?” แม่นมเฉียนกล่าว
ฉู่หนิงจูหน้าซีด แล้วมองมู่ซืออวี่ด้วยสีหน้าลำบากใจ “พี่สาว”
“ข้าจะนั่งรอในห้องชั้นใน ดีหรือไม่?”
“ดีเจ้าค่ะ” ฉู่หนิงจูมองไปยังสาวใช้ข้างกาย สาวใช้จึงเดินนำมู่ซื่ออวี่เข้าไปข้างใน
มู่ซืออวี่เลือกที่นั่งแล้วนั่งลง จากนั้นสาวใช้ก็นำชาและของว่างมาให้
ด้านนอกนั้น ชายคนหนึ่งกำลังคุยกับฉู่หนิงจู
“ได้ยินมาว่าน้องหนิงจูป่วย เป็นอะไรร้ายแรงหรือไม่ หมอว่าอย่างไรบ้าง?”
“ขอบพระทัยท่านอ๋องสำหรับความห่วงใย ข้าสบายดี เพียงแค่เป็นหวัดเท่านั้นเพคะ”
“เป็นหวัดหรือ เพียงแค่เป็นหวัดถึงกับต้องติดต่อศาลต้าหลี่เลยหรือ ได้ยินมาว่าเกิดเรื่องค่อนข้างใหญ่ เรามีสัญญาหมั้นหมายกัน ทว่าน้องหนิงจูไม่บอกอะไรข้าเลย ต้องการจะปกปิดข้าหรือ?”
“ท่านใต้เท้าจากศาลต้าหลี่มาที่จวนของข้า แน่นอนว่าเป็นเพราะเขามีเรื่องทางการเมืองจะปรึกษาพ่อของข้า เกี่ยวอะไรกับข้าด้วยเล่า” ฉู่หนิงจูไม่พอใจ “จวินอ๋องถามเช่นนี้ ต้องการให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับข้าหรือเพคะ?”
“หาได้เป็นเช่นนั้นไม่… เจ้าเข้าใจผิดแล้ว โปรดอย่าได้โกรธเคืองเลย”
ครั้นฟังบทสนทนาข้างนอกแล้ว มู่ซืออวี่ก็มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับฉู่หนิงจู
จวินอ๋องไม่ได้อยู่นาน เขาจากไปหลังจากพูดอีกไม่กี่คำ
เมื่อมู่ซืออวี่ออกมา นางก็เห็นฉู่หนิงจูโยนของกำนัลจากคู่หมั้นของนางให้กับคนรับใช้ จากนั้นสั่งให้คนรับใช้เอาไปเก็บไว้ในโกดัง
“พี่สาว ข้าปล่อยให้ท่านรอตั้งนาน” ฉู่หนิงจูยิ้มให้มู่ซืออวี่ “ข้าเอาแต่นอนตั้งแต่เมื่อวาน จนเกือบจะมีผื่นขึ้นตามตัวแล้ว หากพี่สาวไม่รังเกียจ ไปเดินเล่นข้างนอกกับข้าเถิด”
“ได้เลย!” มู่ซืออวี่ตอบตกลง “อย่างไรเสียข้าก็ไม่มีอะไรทำในเมืองหลวงอยู่แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ ข้าจะได้กลับไปที่เมืองฮู่เป่ยหลังจากธุระของใต้เท้าลู่เสร็จสิ้นโน่นแหนะ ข้าดีใจมากที่มีคนไปข้างนอกเป็นเพื่อน”
[1] ซานจา คือ ผลไม้ผิวสีแดง ลูกกลม มีรสเปรี้ยวและหวาน