สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 472 เป็นดั่งปากว่า

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 472 เป็นดั่งปากว่า

บทที่ 472 เป็นดั่งปากว่า

“เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ” จื่อซูวิ่งเข้ามาจากข้างนอก “บ่าวเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ได้ยินว่าที่ลานหรรษาเกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”

มู่ซืออวี่และเจิ้งซูอวี้มองหน้ากัน

“ดูเหมือนจะเป็นดั่งปากท่านว่าแล้ว” เจิ้งซูอวี้เอ่ย “ไปเถอะ ไปดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น”

ลานหรรษาเป็นสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ เพื่อรับรองความปลอดภัยของลูกค้าจึงจัดให้มีการตรวจสอบสถานที่ทุกวัน ดังนั้นยามบ่ายหลังเวลาปิด เจ้าหน้าที่จะให้ลูกค้าทุกคนออกไป ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามา

สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ มู่ซืออวี่และหร่วนฉีเป็นผู้ออกแบบ ช่างที่สร้างล้วนเป็นช่างที่มีประสบการณ์ ต่อมานางให้ช่างเหล่านั้นรับหน้าที่คอยตรวจสภาพอุปกรณ์

“เกิดอะไรขึ้น?” เจิ้งซูอวี้เห็นกลุ่มคนรายล้อมอยู่ที่นั่นจึงเอ่ยถาม

ทุกคนรู้จักนางและมู่ซืออวี่ จึงพร้อมใจกันแหวกทางให้เข้าไป

แน่นอนว่าย่อมมีคนนอกที่ไม่รู้จักมู่ซืออวี่เช่นกัน อย่างไรเสีย บางครั้งนางก็ไม่ได้อยู่เมืองฮู่เป่ยตลอดเวลา

เมื่อเห็นมู่ซืออวี่ที่แต่งกายสะดุดตา บางคนกระซิบถามกันว่านางมาจากที่ใด เมื่อได้ยินคำอธิบายจากคนที่อยู่ข้าง ๆ แล้ว ดวงตาคู่นั้นพลันนิ่งค้าง ราวกับประหลาดใจที่สถานที่ใหญ่โตเช่นนี้มีสตรีออกแบบ

มีคนหลายสิบคนนอนอยู่บนพื้น บางคนบาดเจ็บเล็กน้อย บางคนบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางคนเหล่านั้น คนที่บาดเจ็บสาหัสบางรายถึงขั้นกระดูกหัก

“ลูกค้าเหล่านี้เป็นลูกค้าที่เล่นม้าหมุน เมื่อครู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ ความเร็วของม้าหมุนก็เพิ่มขึ้นดื้อ ๆ พวกเขาจึงถูกเหวี่ยงออกมา จากนั้นก็กลายเป็นเช่นนี้”

มู่ซืออวี่เหลือบมองม้าหมุนที่ทำให้คนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงหันมามองผู้พูด

คนที่เอ่ยขึ้นเมื่อครู่อธิบายว่า “เพราะมันหมุนเร็วไม่หยุด อีกทั้งบนนั้นยังมีลูกค้า นายท่านจั่วจึงบังคับให้มันหยุด”

นายท่านจั่วก็คือจั่วอวิ๋นหู่

มู่ซืออวี่มองเห็นจั่วอวิ๋นหู่อยู่ในกลุ่มคน

จั่วอวิ๋นหู่รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย

“ขอบคุณนายท่านจั่ว” มู่ซืออวี่กล่าวจบก็หันไปมองคนงานที่อยู่ข้าง ๆ “เตรียมพาทุกคนไปรักษาที่โรงหมอค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาเบิกกับข้า ส่วนเรื่องหลังจากนั้น รอข้าตรวจสอบแล้วพวกเราค่อยมาพูดคุยกัน”

เหล่าคนดูแลลานหรรษารีบพาคนที่ได้รับบาดเจ็บไปทันที

มู่ซืออวี่กระโดดขึ้นไปบนม้าหมุน

“ฮูหยินระวังนะเจ้าคะ” จื่อซูรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

เจิ้งซูอวี้ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ นางจึงไม่ได้ตามไป แต่อยู่สอบถามผู้พบเห็นเหตุการณ์ถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

หลังจากสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์แล้ว จึงเรียกตัวช่างซ่อมบำรุงที่รับผิดชอบเขตนี้มาสอบถาม

“ผู้ดูแลเจิ้ง ผู้น้อยยืนยันได้ว่าเครื่องนี้ได้รับการตรวจสอบและซ่อมแซมตามกฎทุกวัน เมื่อวานนี้ยังดี ๆ อยู่เลย ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย”

“วันนี้มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นหรือไม่?” เจิ้งซูอวี้สอบถามคนอื่น ๆ

ข้าง ๆ มีคนไม่น้อยมุงดูอยู่ที่นี่ พวกเขาล้วนเป็นลูกค้าของลานหรรษา

เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทุกคนล้วนโกรธมาก บางคนถึงขั้นร้องขอให้คืนเงิน

เมื่อมีเสียงขอให้คืนเงินค่าตั๋วดังขึ้นมาเป็นครั้งแรก ย่อมมีเสียงที่สองเสียงที่สามตามมา

เจิ้งซูอวี้เอ่ยกับชิวซวงที่อยู่ข้าง ๆ “เจ้าสายตาดี จำคนที่ส่งเสียงขอที่ดังที่สุดเอาไว้ จะได้ไปตรวจสอบภายหลังว่ามีปัญหาหรือไม่”

“เจ้าค่ะ” ชิวซวงรับคำ “แต่คุณหนูเจ้าคะ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”

เจิ้งซูอวี้เอ่ยว่า “ทุกท่านล้วนเห็นแล้วว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในลานหรรษา พวกเราไม่สามารถเปิดทำการได้ชั่วคราว ในเมื่อเรื่องนี้กระทบต่ออารมณ์ของทุกคน เช่นนั้นเอาอย่างนี้ ตั๋วของวันนี้นำกลับไปครั้งหน้าค่อยมาเล่นอีกครั้ง ไม่สิ เล่นได้สองครั้ง ข้าจะถือว่าเป็นคำขอโทษแก่ทุกท่าน ส่วนเรื่องการทำงานผิดพลาดของเครื่องเล่น พวกเราจะตรวจสอบให้กระจ่าง หากรู้ผลแล้วจะต้องให้คำอธิบายกับทุกท่านอย่างแน่นอน”

“เช่นนั้นก็ได้”

“ได้”

“แต่ว่า พวกเรายังจะกล้าเล่นอีกหรือ? เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นกับของเล่นของพวกเขา หากครั้งต่อไปถึงคราพวกเราเล่า?”

ชิวซวงจดจำบุคคลที่มี ‘ปัญหา’ เหล่านั้นเอาไว้ทันที

เจิ้งซูอวี้เอ่ยโดยไม่แม้แต่จะเปลี่ยนสีหน้า “นับตั้งแต่ลานหรรษาเปิดมาเนิ่นนานไม่เคยเกิดปัญหา วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมา พวกเราย่อมต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หากเป็นปัญหาที่พวกเราจริง ๆ พวกเรารับรองว่าจะไม่มีครั้งต่อไปเกิดขึ้น แต่หากปัญหาอยู่ที่อื่น พวกเราย่อมต้องแก้ไขอย่างแน่นอน”

หลังจากได้ฟังคำปลอบขวัญจากเจิ้งซูอวี้ ในที่สุดเหล่าลูกค้าก็สงบลง

ลูกค้าที่เดิมทีออกันอยู่ตรงนี้ทยอยออกไปคนแล้วคนเล่า

ชิวซวงนำคนงานสองสามคนตามออกไป

คนสองสามคนที่กระพือไฟอยู่เมื่อครู่ดูมีพิรุธเป็นอย่างมาก นางจึงพาคนจำนวนหนึ่งตามไปจับพวกเขามาไต่สวน

มู่ซืออวี่ตรวจดูม้าหมุนตรงนั้น

ท้ายที่สุด นางก็พบปัญหาแล้ว

ถึงแม้ม้าหมุนจะหยิบยืมหลักการทำงานมาจากยุคปัจจุบัน แต่เนื่องจากในยุคโบราณไม่มีชิ้นส่วนเหมือนยุคปัจจุบันมากนัก เครื่องเล่นในลานหรรษาแห่งนี้จึงใช้กลไกเป็นหลัก

หนึ่งในนั้นทำหน้าที่ควบคุมความเร็ว เดิมทีนางออกแบบส่วนควบคุมความเร็วไว้ตรงนี้ แต่ตอนนี้ส่วนควบคุมความเร็วนั้นเสียหาย เหลือเพียงร่องรอยที่บ่งบอกว่าเกิดจากการกระทำของมนุษย์

“มีคนจงใจทำลายชิ้นส่วนภายในม้าหมุน” มู่ซืออวี่เดินออกมาจากห้องควบคุม นางหยิบเศษผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “อีกทั้งคนผู้นี้… เป็นคนภายในของเรา”

คนงานทุกคนสวมใส่เครื่องแต่งกายแบบเดียวกัน เพื่อให้ทุกคนที่มาใช้บริการสามารถแยกออก

เนื้อผ้าและสีของเศษผ้าชิ้นนั้นเหมือนกับเสื้อผ้าของคนงานที่นี่ไม่มีผิด หากไม่ใช่เพราะมีเสื้อผ้าคนงานเป็นหลักฐาน แม้แต่นางเองคงไม่อยากเชื่อ

“ต้องเรียกพวกเขามาสอบถามหรือไม่?” เจิ้งซูอวี้เอ่ยถาม

“อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น” มู่ซืออวี่เอ่ย “พวกเราตรวจสอบอย่างเงียบ ๆ ก่อน หากมีคนงานคนใดเผยพิรุธ อย่างเช่นว่า จู่ ๆ ก็มีเงินมากกว่าเดิม หรือมีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ในระยะเวลาสั้น ๆ ตราบใดที่มีพิรุธแม้เพียงน้อยนิด พวกเราก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้”

“ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร? ปัญหาตรวจสอบออกมาได้แล้ว แต่เกรงว่าผลลัพธ์นี้จะไม่สามารถทำให้ลูกค้าสงบได้ กิจการลานหรรษาเราต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน”

“ปิดประกาศแจ้งว่าเครื่องเล่นมีอายุการใช้งานนานแล้ว จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเต็มรูปแบบ หรือกล่าวอีกอย่างคือ ข้าจะออกแบบเครื่องเล่นที่ดีกว่านี้ให้ ดังนั้นระยะนี้จำต้องปิดชั่วคราว”

“ปิดกิจการชั่วคราว? เจ้ารู้หรือไม่ปิดกิจการหนึ่งวันเสียรายได้ไปมากน้อยเพียงใด?” เจิ้งซูอวี้รู้สึกปวดใจขึ้นมา

“ประการแรก เรายังต้องเข้าร่วมงานแต่งของคุณชายฉิน เจ้าก็ควรผ่อนคลายเสียหน่อย จริงสิ พวกเราควรมองหาคนดี ๆ สักคน ไม่อาจน้อยหน้าคุณชายฉินเป็นอันขาด ประการที่สอง เงินนั้นอีกไม่นานก็หาใหม่ได้ พวกเราต้องแก้ปัญหาก่อน ในเมื่อนี่เป็นฝีมือคน ย่อมต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังที่อิจฉากิจการของเรา ไม่อยากให้เราเติบโตแน่นอน ข้าจะได้ถือโอกาสนี้ปรับปรุงและติดตั้งกลไกในห้องควบคุมของแต่ละเครื่องเล่นใหม่ หากมีผู้ใดมีจุดประสงค์ไม่ดีจริง ๆ พวกเขาย่อมไม่มีทางให้หลบหนี นี่ไม่เพียงฆ่านกด้วยหินก้อนเดียว แต่ยังสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างภายในครั้งเดียวด้วย”

“ทำอย่างที่เจ้าว่าเถอะ อย่างไรข้าก็ฟังเจ้า” เจิ้งซูอวี้เอ่ย “แต่หากแจ้งว่าเครื่องเล่นของพวกเราเก่าแล้ว… จะไม่กระทบกับชื่อเสียงของพวกเราหรือ?”

“เหตุผลที่ว่าเครื่องเล่นของพวกเรามีอายุการใช้งานมากอาจเป็นเพียงความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ หากรู้ว่าคนของเราลอบทำลายเครื่องเล่น เจ้าคิดว่าคนจะรู้สึกปลอดภัยกว่าหรือ? นอกจากนั้น ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังตายใจ จากนั้นเขาจะได้เผยช่องโหว่ออกมาเอง”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท