บทที่ 508 วางขายแผ่นแปะทำความร้อน
บทที่ 508 วางขายแผ่นแปะทำความร้อน
มู่ซืออวี่เหยียดแขน ขณะที่นางกำลังจะลุกออกจากเตียง จู่ ๆ ลมเย็น ๆ ระลอกหนึ่งก็พัดมาปะทะ นางจึงหดมือทันที
หญิงสาวดึงผ้าห่มขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือถูกผ้าห่มคลุมไว้อย่างแน่นหนาราวกับไม่อยากแยกจากผ้าห่ม
นางมองดูแผ่นหลังของบุรุษที่กำลังแต่งกายอย่างเศร้าสร้อย พลางเอ่ยพึมพำ “ท่านมีร่างกายเป็นเหล็กหรืออย่างไร? ในวันที่อากาศหนาวเหน็บเพียงนี้ ตัวท่านไม่สั่นเลยด้วยซ้ำ”
ลู่อี้สวมเข็มขัด หมุนตัวเดินมานั่งลงบนขอบเตียงแล้วบีบแก้มนาง “เมื่อก่อนลำบากมาก แต่ตอนนี้ข้ากำลังสวมเสื้อคลุมที่เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ทำให้ แล้วจะหนาวได้อย่างไรกัน?”
“แต่ข้าหนาว” มู่ซืออวี่ยื่นมือออกมาและดึงผ้าปิดศีรษะไว้ เหลือเพียงจมูกเท่านั้นที่โผล่ออกมา
ลู่อี้รู้สึกขบขันกับการกระทำของภรรยา
เขาเปิดผ้าที่คลุมแน่นออก ก้มศีรษะจูบลงไปบนริมฝีปากนาง “ให้บ่าวรับใช้เพิ่มอ่างถ่านอีกสักสองสามอ่าง แล้วเปิดหน้าต่างไว้ อย่าปิดแน่นเกินไปนัก”
“ท่านไปเถอะ ข้ารู้วิธีดูแลตนเอง” มู่ซืออวี่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่นานมานี้ สหายร่วมงานบอกข้าว่ามีเรือนพักร้อนที่มีบ่อน้ำพุร้อนนอกเมืองแห่งหนึ่งอยากจะขาย เราซื้อเอาไว้ดีหรือไม่ หากเจ้ากลัวหนาวก็ไปพักอยู่ที่เรือนพักร้อนหลังนั้นได้ อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนเรือนนั่นให้เหมือนบ้านที่ฮู่เป่ยได้ด้วย จะได้ต้านความหนาวเย็นได้มากกว่านี้”
“ดีเลย!” มู่ซืออวี่เริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น “ซื้อสิ ราคามากน้อยเพียงใดเล่า?”
“เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะส่งคนไปจัดการ หากการซื้อเสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะมอบโฉนดที่ดินให้เจ้า เจ้าจะเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ” ลู่อี้กล่าว “ข้าไปก่อนแล้ว”
“อือ รีบกลับมาเร็ว ๆ เล่า” มู่ซืออวี่พยักหน้าน้อย ๆ
เมื่อเห็นท่าทางสะลึมสะลือของนาง ลู่อี้ก็รู้ว่าภรรยายังนอนไม่พอ ทั้งยังไม่รู้ว่าต้องนอนอีกนานเพียงใดหลังจากที่เขาออกไปแล้ว
เขาก้มศีรษะลงจูบหน้าผากนาง “ลำบากเจ้าแล้วฮูหยิน”
ลู่อี้ออกไปอย่างระมัดระวัง เขาแง้มประตูออกกว้างแค่พอให้แทรกตัวออกไปข้างนอก ทว่าสายลมเย็น ๆ ก็ยังคงพัดเข้ามาและปลุกมู่ซืออวี่ผู้ที่กำลังหลับใหลโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีเครื่องทำความร้อนใต้พื้น เช่นนั้นขอแผ่นแปะทำความร้อนให้ข้าหน่อยก็ยังดี…” คำพูดของมู่ซืออวี่พลันชะงัก
แผ่นแปะทำความร้อน?
ใช่แล้ว!
แม้นางจะทำเครื่องปรับอากาศไม่ได้ แต่จะทำแผ่นแปะทำความร้อนไม่ได้เชียวหรือ?
นางลุกขึ้นนั่งทันที ตะโกนออกไปข้างนอก “จื่อซู จื่อเยวี่ยน ข้ามีงานให้ทำแล้ว!”
จื่อซูและจื่อเยวี่ยนรู้ว่าฮูหยินของพวกนางจะเกียจคร้านเมื่ออากาศหนาวเย็น ดั้งนั้นพวกนางจึงพลอยเอื่อยเฉื่อยตามไปด้วย
เมื่อได้ยินว่าฮูหยินเรียก พวกนางจึงรีบลุกขึ้นไปหา
มู่ซืออวี่จัดทำรายการหนึ่งและสั่งให้พวกนางจัดเตรียมคนสักสองสามคนไปซื้อของที่ต้องการมาให้
บางอย่างไม่มีในยุคสมัยโบราณ ทว่าทดแทนด้วยสิ่งอื่นได้ ผู้คนมักมีวิธีแก้ปัญหาเสมอ ขอแค่เพียงตรากตรำมากพอ ย่อมไม่มีปัญหาที่คิดไม่ตก
หลายวันถัดมา มู่ซืออวี่และสาวใช้สองสามคนก็ง่วนอยู่กับการปรับแต่งของบางอย่างอยู่ในห้อง หลังจากทดลองมาสามวัน ท้ายที่สุดแผ่นแปะทำความร้อนรุ่นแรกก็สร้างขึ้นได้สำเร็จจริง ๆ
“ลองดู…” มู่ซืออวี่วางแผ่นแปะทำความร้อนลงบนเสื้อผ้าของจื่อซู “เจ้าก็ใส่ให้ข้าด้วยสิ เอาละ ไหนลองดูซิ แล้วบอกข้าว่ารู้สึกอย่างไร”
ผ่านไปไม่นาน จื่อซูก็เอ่ยขึ้น “ฮูหยิน ข้ารู้สึกอุ่นขึ้นเล็กน้อยเจ้าค่ะ”
“รอดูว่าจะอยู่ได้นานเพียงใด” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าก็รู้สึกตัวอุ่นขึ้นเหมือนกัน แต่ไม่อุ่นมาก”
“ของข้าค่อนข้างอบอุ่นเจ้าค่ะ” จื่อเยวี่ยนพูดอยู่ข้าง ๆ
หลังจากเปรียบเทียบกันอยู่ครู่หนึ่ง ในบรรดาแผ่นแปะทำความร้อนของทั้งสามคน แผ่นแปะของจื่อเยวี่ยนประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งยังสามารถอยู่ได้นานถึงหนึ่งชั่วยาม
อย่างไรก็ตาม มู่ซืออวี่ยังคงไม่พอใจ
แผ่นแปะทำความร้อนสมัยใหม่อยู่ได้นานหลายชั่วโมง แน่นอนว่านางไม่ได้คาดหวังว่าผลลัพธ์จะดีถึงเพียงนั้น แต่ก็ควรรักษาอุณหภูมิได้สองชั่วยามขึ้นไปจึงจะดีที่สุด
นอกจากนี้ วัสดุที่นางเลือกใช้ก็ค่อนข้างแพง คนมั่งมีสามารถซื้อหาได้ ทว่าชาวบ้านธรรมดา ๆ นั้นคงไม่ ฮูหยินลู่ต้องการสร้างแผ่นแปะทำความร้อนที่แม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ทั่วไปก็มีกำลังซื้อได้
มู่ซืออวี่ลองปรับปรุงมันอยู่อีกสองสามวัน
นางเปลี่ยนวัสดุต่าง ๆ ลองใช้วิธีการที่หลากหลาย จึงสามารถสร้างแผ่นแปะทำความร้อนที่ต่างกันออกมาได้สิบแบบ
แผ่นแปะทำความร้อนนี้ บางแบบทำจากวัสดุที่ดี บางแบบทำจากวัสดุธรรมดา บางแบบใช้งานได้นาน และบางแบบใช้งานได้ทั่ว ๆ ไป…
อีกทั้งนางยังสร้างแผ่นแปะทำความร้อนจำนวนหนึ่งด้วยวัสดุธรรมดา ๆ และมอบให้กับบ่าวรับใช้ในบ้านอีกด้วย หลังจากพวกเขาทดลองใช้ นางก็รับฟังข้อคิดเห็นของพวกเขา
“ได้ยินมาว่าฮูหยินลู่ทำสิ่งที่เรียกว่า ‘แผ่นแปะทำความร้อน’ ขึ้นมา เพียงติดไว้กับเสื้อผ้าด้านในก็สามารถสร้างความอบอุ่นได้ ทุกคนในสกุลลู่ล้วนใช้มัน”
“แผ่นแปะทำความร้อนคืออะไร? ไม่ว่าจะเป็นของอันใดก็ตาม แต่หากช่วยให้อบอุ่นได้คงดีมากกระมัง! จวนลู่ยังรับคนงานอยู่หรือไม่? ข้าก็อยากไปสมัครเช่นกัน”
“ข้าก็อยากไป แต่จะเป็นไปได้หรือ? ค่าแรงรายเดือนของบ่าวรับใช้จวนลู่นั้นสูงมาก มีคนมากมายคอยจับจ้องจวนลู่ เพียงแค่พวกเขาต้องการ ไม่นานก็มีคนไปที่นั่นแล้ว”
มู่ซืออวี่ได้เปรียบเทียบและตัดสินใจขายแผ่นแปะทำความร้อนสามแบบใน ‘เรือนกรุ่นฝัน’ จึงมีข่าวลือแพร่ออกไปข้างนอกมากมาย
โชคดีที่การทดลองก่อนหน้านี้ใช้เวลาไม่น้อย เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงไม่ยุ่งยากนัก
“หิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว อากาศก็เย็นลงเรื่อย ๆ เช่นกัน” จื่อเยวี่ยนยื่นมือออกไปคว้าเกล็ดหิมะ “ฮูหยิน ถึงเวลาที่ท่านจะหาเงินได้มากมายอีกคราแล้วเจ้าค่ะ”
“เมื่อเช้านี้ข้าเอาแผ่นแปะทำความร้อนให้ใต้เท้าลู่สองแผ่น และเอาให้เขาอีกนับสิบสำหรับให้เขามอบให้ผู้อื่นเป็นของกำนัล ทั้งยังบอกวิธีใช้ให้เขาทราบโดยเฉพาะ อีกสองวันพวกเราจะวางขายแผ่นแปะทำความร้อน!” มู่ซืออวี่กล่าว “เจ้าไปแจ้งเฟิงเจิงให้เขาตรวจตราคนงานที ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าของเรามีคุณภาพมากพอ ครั้งนี้จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดเป็นอันขาด”
วันนี้ลู่อี้ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าขนสัตว์ เขาแยกส่วนหนังสือทางราชการบนโต๊ะ ก่อนจะใช้พู่กันขีดเขียนลงไป
เจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่คนอื่น ๆ ล้วนสวมเสื้อผ้าหนา ๆ เสียจนดูเหมือนถูกห่อเป็นลูกกลม ๆ
เจี่ยเฉิงผิงเดินเข้ามาจากข้างนอก เอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียว “อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ แล้ว”
ที่นั่งของเขาอยู่ตรงข้ามกับลู่อี้
เมื่อเขาเห็นสีหน้าแดงเลือดฝาดของลู่อี้และเสื้อผ้าบาง ๆ ก็อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “สหายลู่ ท่านก็ไม่ใช่ผู้บัญชาการทหารมิใช่หรือ? ร่างกายข้างในอบอุ่นเพียงนั้นเชียว?”
ลู่อี้เอ่ยโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ฮูหยินทำของเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ข้า หากข้าติดมันไว้บนตัวก็จะไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป”
“ของอะไรนี่? ยังมีอีกหรือไม่?” เจี่ยเฉิงผิงโน้มตัวลงมาบนโต๊ะแล้วคว้าพู่กันของลู่อี้ไป “บอกข้าสิ มีอีกหรือไม่?”
ลู่อี้เปิดลิ้นชัก หยิบออกมาหนึ่งชิ้นและส่งให้ “ท่านลองดูสิ”
เจี่ยเฉิงผิงรับมันมาอย่างอดใจไม่ไหว “ใช้อย่างไรหรือ?”
เมื่อเห็นว่าลู่อี้คุยด้วยง่าย คนอื่น ๆ ก็เข้ามาเช่นกัน
“ใต้เท้าลู่ ยังมีอีกหรือไม่?”
“ขอพวกเราลองด้วยได้หรือไม่?”
“ใต้เท้าลู่ มิต้องปิดบังแล้ว”
ลู่อี้มอบให้พวกเขาคนละหนึ่งชิ้น แล้วสอนวิธีใช้
ผ่านไปสักพัก ทั้งห้องบันทึกคดีของศาลต้าหลี่ก็ไม่ได้มีความหดหู่ดังก่อนหน้า แต่กลับกลายเป็นยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความยินดี
“ของสิ่งนี้เยี่ยมยอดยิ่ง มันอุ่นจริง ๆ หากใส่สองชิ้นในคราวเดียวกันจะไม่ยิ่งอุ่นกว่านี้อีกหรือ? ใต้เท้าลู่…”
“ภรรยาของข้าให้ของเหล่านี้มา หากท่านคิดว่ามันมีประโยชน์ มิสู้เอากลับไปให้ฮูหยินที่บ้านพวกท่านดีหรือไม่ อีกไม่กี่วันจะมีขายที่เรือนกรุ่นฝัน ทุกท่านโปรดอุดหนุนด้วย”
“ได้ ๆ พวกเราจะอุดหนุนแน่นอน”
ทุกคนยินดียิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินว่าของสิ่งนี้มีขาย อย่างไรเสียก็เป็นไปไม่ได้ที่จะ ‘กินโดยไม่จ่ายตัง’ ต่อให้อีกฝ่ายเต็มใจที่จะให้ ทว่าพวกเขาย่อมไม่กล้าขอทุกวัน หากมีไว้เพื่อขายโดยเฉพาะ นั่นก็ถือเป็นการค้า ไม่จำเป็นต้องมีคำถามว่าติดค้างบุญคุณหรือไม่