สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 570 รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 570 รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

บทที่ 570 รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

อวี้ซื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา นางอยากจะลุกขึ้นแต่ครั้นขยับตัวกลับเจ็บหน้าอกเป็นอย่างยิ่ง นางจึงล้มตัวนอนลงไปด้วยสีหน้าซีดเซียว

“นี่ข้าเป็นอะไรไป?”

อันอี้หางและอันอวี้เดินเข้ามาหามารดาอย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่ เป็นอย่างไรบ้าง” อันอี้หางเอ่ยถาม

“ข้าเจ็บเหลือเกิน” อวี้ซื่อแตะหน้าอกของตนเบา ๆ “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดข้าจึงเจ็บถึงเพียงนี้?”

“ท่านจำว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ได้หรือ?” อันอวี้เอ่ยถาม

“เกิดอะไรขึ้น…” อวี้ซื่อพยายามทวนความจำ “ข้าไปพบฮูหยินลู่ สาวใช้คนนั้นของนางโหดเหี้ยมยิ่งนัก นางถีบเข้าที่ตัวข้าหนึ่งครั้ง… จริงสิ สาวใช้คนนั้นถีบข้าจนข้าบาดเจ็บใช่หรือไม่?”

สีหน้าของอันอี้หางไม่น่าดูชมขึ้นมาทันที

มารดาไปหามู่ซืออวี่เพื่อเจรจาต่อรอง เท่ากับว่าเป็นการตบหน้าเขาอย่างจัง

ทว่าเมื่อเห็นนางได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก

“นางไม่ได้เตะ หากแต่เเป็นท่านเองที่บังเอิญชนแผงลอยเข้าจึงถูกเศษไม้ไผ่บนแผงลอยนั้นทิ่ม โชคยังดีที่ท่านหมอที่เชิญมามีทักษะการแพทย์เก่งกาจจึงช่วยท่านไว้ได้”

“ทิ่มเข้าที่หน้าอกหรือ?”

“ใช่”

“แล้วนังคนแซ่มู่ล่ะ? เหตุใดนางไม่อยู่ที่นี่?” อวี้ซื่อเอ่ยขึ้นมาด้วยความโกรธ “คนของนางทำร้ายข้าจนเป็นเช่นนี้ นางไม่รู้สึกผิดงั้นรึ!”

อู๋ซานเหนียงนั่งพิงหน้าต่าง ปรายตามองหญิงชราที่นอนอยู่บนเตียง สายตาของนางเต็มไปด้วยความดูถูก

นางอ้าปากหาวออกมาและเอ่ยด้วยท่าทีเกียจคร้าน “ข้าง่วงแล้ว ข้าจะกลับห้องก่อนล่ะ”

สิ้นคำ นางก็เดินบิดสะโพกจากไป

อวี้ซื่อฉุนจัด “นี่ลูกสะใภ้เช่นไรกัน? แม่สามีได้รับบาดเจ็บ นางกลับไม่รออยู่ข้างเตียง ทั้งยังวิ่งหนีไปแล้ว”

“ท่านแม่ ท่านอย่าได้โมโหมากไป ระวังแผลจะปริเอาได้” อันอวี้กล่าว

“เจ้าไม่โมโหแน่นอนละ ผู้อื่นบอกว่าลูกสาวที่แต่งงานไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดทิ้ง กล่าวได้ไม่ผิดแม้แต่น้อย” อวี้ซื่อยิ้มเยาะ “เจ้ารั้งอยู่ที่นี่ เกรงว่าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงข้า แต่เป็นเพราะคิดจะสืบข่าวแทนเจ้านายของเจ้ากระมัง?”

“ท่านพี่ ดูเหมือนว่าท่านแม่จะไม่เป็นไรแล้ว เช่นนั้นข้ากลับก่อนล่ะ ท่านก็รู้ เสี่ยวอันของบ้านเรายังเด็ก” อันอวี้หมุนตัวเดินจากไปด้วยสีหน้ามืดครึ้ม

“เจ้าดูนางสิ นางปีกกล้าขาแข็งเสียแล้ว แม่แท้ ๆ ของนางต่อว่าเพียงไม่กี่คำก็ไม่ยอมฟังแล้ว” อวี้ซื่อชี้ไปที่อันอวี้แล้วตะโกนด่าสาดเสียเทเสีย “ตอนนั้นข้าไม่ควรยอมให้นางแต่งงานกับเซี่ยคุน ติดตามเจ้าคนไร้กฎเกณฑ์เช่นนั้น นางชักจะไม่สนใจกฎเกณฑ์ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”

“พอได้แล้ว ท่านแม่ บาดแผลของท่านไม่เจ็บแล้วหรือ?” อันอี้หางกล่าว “ท่านหมอบอกว่าบาดแผลของท่านค่อนข้างสาหัส หากท่านไม่อยากให้ตนเองเป็นอะไรไป อย่าโมโหเกินไปจะดีกว่า”

“บาดแผลของข้าร้ายแรงเพียงนี้ สกุลลู่ไม่อาจนิ่งดูดาย”

“ฮูหยินลู่กล่าวแล้วว่าค่ายานางจะเป็นผู้จ่าย”

“เพียงแค่ค่ายาเองหรือ? เจ้าลูกโง่เง่าคนนี้ ทั้งหมดที่ข้าทำเพื่อใครกัน เหตุใดเจ้ายังโง่เขลาเช่นนี้อีก?” อวี้ซื่อกล่าว “ฉวยโอกาสนี้ซะ นางไม่อาจรับผิดชอบด้วยค่ารักษาเล็กน้อยได้!”

“หมายความว่า บาดแผลนี้ของท่านเป็นการจงใจใช่หรือไม่?”

“ข้าจะจงใจให้ตนเองบาดเจ็บได้อย่างไร?” อวี้ซื่อเบิกตากว้าง “ข้าเพียงแต่… ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ไม่คิดจะปล่อยให้หลุดลอยไปเท่านั้น ข้าไม่ได้โง่ถึงเพียงนั้น จะหาเรื่องให้เดือดร้อนไปไย”

“ท่านไม่ได้จงใจจริงๆ หรือ?” อันอี้หางยังคงสงสัย

อวี้ซื่อบ้าได้ถึงเพียงนั้น เรื่องครั้งนี้กล่าวไปแล้วก็มีความเป็นไปได้ว่านางจงใจ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในครั้งนี้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง นางห่างจากความตายเพียงแค่เส้นกั้นบาง ๆ เท่านั้น

อันอวี้ไม่ได้กลับบ้านทันที แต่ตรงไปที่บ้านสกุลลู่เพื่อไปหามู่ซืออวี่

“ข้าเห็นว่านางกระปรี้กระเปร่าดี ยามที่ด่าว่ายังมีแรงโกรธ” อันอวี้กล่าว “เพียงแต่ดูจากสีหน้าแล้วบอกได้ยากว่านางจงใจหรือไม่”

“ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ อย่างไรนางก็ต้องมีแผนตามมา” มู่ซืออวี่กล่าว “เดิมทีนางก็มาหาข้าเพราะมีจุดประสงค์แอบแฝง บัดนี้นางได้รับบาดเจ็บสาหัส นางจะไม่มีแผนสำรองได้อย่างไร?”

“ท่านหมายความว่านางยังจะข่มขู่ท่านอยู่อีกหรือ?”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”

อันอวี้เม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยว่า “ข้าสร้างปัญหาให้ท่านอีกแล้ว”

“เจ้าโทษตนเองไปไย” มู่ซืออวี่ดีดนิ้วลงบนหน้าผากนางหนึ่งที “ข้าคิดว่าเจ้าเปลี่ยนไปมากแล้ว เหตุใดเจ้ายังคิดมากอยู่อีกเล่า?”

“หากไม่ใช่เพราะข้า ท่านก็คงไม่ต้องไปพัวพันกับคนเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ยังคงเป็นเพราะข้า ท่านถึงต้องเผชิญกับปัญหา” อันอวี้กล่าว “ทว่าตอนนี้สายเกินไปที่จะ ‘คืนสินค้า’ ข้าผูกตัวติดกับท่านแล้ว”

มู่ซืออวี่หัวเราะออกมา

“กิจการร้านของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไม่เลวเลย ข้าเพียงแค่อยากทำกิจการเล็ก ๆ ไม่เคยคิดที่จะได้รับการยกย่องจากผู้สูงศักดิ์เช่นหอซือเป่า” อันอวี้กล่าว “เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์อยู่ที่นั่นคงไม่เลวกระมัง?”

พี่สาวน้องสาวสองคนคุยกันเรื่องชีวิตประจำวันทั่วไป จากนั้นก็คุยกันเรื่องทารกในท้อง

หากเป็นยุคปัจจุบัน มู่ซืออวี่มีลูกในวัยนี้นับว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทว่าในยุคโบราณ วัยของนางนับว่าล่วงเลยการตั้งครรภ์แล้ว เมื่อเอ่ยถึงการตั้งครรภ์ครั้งนี้ ทุกคนจึงกังวลเล็กน้อย

“ฮูหยิน จือเชียนกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” จื่อซูเข้ามารายงาน

“เชิญเขาเข้ามา”

จือเชียนเป็นคนคุ้นเคยของทุกคน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงข้อครหา

จือเชียนเห็นอันอวี้อยู่ที่นี่ก็หันไปมองมู่ซืออวี่ เมื่อนางพยักหน้า เขาจึงรายงานสิ่งที่ตรวจสอบออกมาได้ตามความเป็นจริง

“ข้าน้อยตามรอยพ่อค้าแผงลอยผู้นั้นไปก็ไปพบแผงขายของที่เขาทิ้ง ไม้ไผ่ซี่นั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ตรงกันกับแผงลอยนี้ ฉะนั้นที่มาที่ไปของเรื่องนี้จึงแปลกเป็นอย่างยิ่ง”

“หมายความว่า… ท่านแม่ของข้าจงใจทำร้ายตนเองงั้นหรือ?” อันอวี้ตกตะลึง “ในโลกนี้จะมีคนบ้าถึงเพียงนั้นได้อย่างไร? หากพลาดพลั้งไปเพียงนิด นางคงตายไปจริง ๆ แล้ว”

“เจ้าก็รู้จักนิสัยของแม่เจ้าดี ตอนนั้นเห็นได้ชัดว่าที่บ้านมีอาหาร ทว่าเพื่อที่จะสนับสนุนการเล่าเรียนของพี่ชายเจ้า นางถึงขั้นบังคับตนเองและเจ้าให้อดอยากหิวโหย ด้วยนิสัยดึงดันเช่นนี้ของนาง จะทำเรื่องวุ่นวายอื่นได้ก็ไม่แปลก” มู่ซืออวี่กล่าวต่อ “เพียงแต่นางคงคิดไม่ถึงว่าการทำเรื่องเหล่านี้ อย่างไรเสียก็ต้องมีร่องรอย”

“ข้าจะไปหานาง”

“นางไม่ยอมรับแน่นอน”

“เช่นนั้น ตอนนี้จะทำอย่างไร? ถึงแม้จะตรวจสอบออกมาได้แล้ว นางก็ยังอ้างได้ว่าไม้ไผ่ซี่นั้นมาจากแผงลอย เพราะถึงอย่างไรแผงไม้ไผ่นั่นก็ถูกทำลายแล้ว หาหลักฐานย่อมไม่พบ”

“หากแทงตนเอง บาดแผลย่อมแตกต่างออกไป” มู่ซืออวี่กล่าว “ขอแค่เพียงนางทำจริง ๆ อย่างไรก็สามารถตรวจสอบออกมาได้”

“ดังนั้น? ท่านคิดจะทำอย่างไร?”

“เจ้าเชิญท่านหมอไปตรวจดูนางอีกครั้งเถิด” มู่ซืออวี่กล่าวขึ้นมา “เจ้าเป็นลูกสาวของนาง หากเจ้าต้องการแสดงความกตัญญู นางไม่มีทางนึกสงสัย”

“ข้าเข้าใจแล้ว” อันอวี้พูด “เช่นนั้นข้าจะกลับไปอีกสักเที่ยว”

หลังจากที่อันอวี้ไป จือเชียนจึงกล่าวว่า “ฮูหยิน เรื่องนี้บอกใต้เถ้าเถอะขอรับ! ใต้เท้าย่อมมีวิธีมากมายจัดการกับอวี้ซื่อ”

“เจ้าบอกว่าคดีในมือของเขายากเป็นพิเศษไม่ใช่หรือ? หากอวี้ซื่อหยุดแต่เพียงเท่านี้ พวกเราก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เขาเป็นกังวล คอยดูก่อนเถอะ!”

อันอวี้พาท่านหมอกลับไปที่จวนสกุลอัน

อันอี้หางกำลังปอกสาลี่ เมื่อเขาเห็นนางกลับมาจึงเอ่ยขึ้น “มีอะไรหรือ?”

“ข้าเป็นห่วงบาดแผลของท่านแม่” สีหน้าของอันอวี้ดูกังวล “แผลอยู่ที่หน้าอกนาง หากไม่รักษาให้ดีจะแย่ลงได้ ข้าจึงไปจ้างวานท่านหมออีกคนมา นี่คือหมอหลวงที่ออกมาจากวังหลวง ทักษะการแพทย์ของเขาล้ำเลิศยิ่ง ข้าจึงให้เขามาตรวจดูบาดแผลอีกครั้ง จะได้ทายาที่ดีที่สุดบนบาดแผลของท่านแม่ หากบาดแผลหายเร็วขึ้น ท่านแม่จะได้ทรมานน้อยลงหน่อย”

อวี้ซื่อวางท่าหยิ่งยโสอยู่บนเตียง “ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่สนใจแม่คนนี้แล้วเสียอีก ดูเหมือนเจ้าจะยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท