หลิงฮันคำรามและกวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์ เข้าปะทะกับจ้าวชิงเฟิงอย่างไม่หวั่นเกรง
ผู้สืบทอดราชานิรันดร์บางคนที่ยังไม่จากไป เมื่อได้เห็นการปะทะกันของทั้งสองคน ก็ทดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่
ถึงแม้พวกเขาจะมีศักยภาพระดับราชาในหมู่ราชาเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับหลิงฮันและจ้าวชิงเฟิงแล้ว พวกเขารู้สึกว่าตนเองอยู่ในระดับที่ต่างชั้นออกไปอย่างสิ้นเชิง
ที่พวกเขารู้สึกยอมรับไม่ได้ยิ่งกว่าก็คือ พลังของทั้งสองคนนี้ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของระดับโลกียนิพพาน
ประการแรกเลยคือ หลิงฮันนั้นยังเป็นเพียงนิรันดร์สามนิพพานสูงสุดเท่านั้น เมื่อใดที่เขาบรรลุสู่ระดับสี่นิพพาน พลังต่อสู้ของเขาจะยกระดับขึ้นกว่านี้หลายเท่าตัวแน่นอน
ประการที่สองคือ เหนือกว่าสองคนนี้ยังมีขุนเขาคงกระพันที่ไม่อาจถูกทำให้สั่นคลอนอยู่อีก
Anchor
เอี๋ยนเซียนลู่!
คะ… คนผู้นี้จะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
หลิงฮันลงมือบุก เขาโคจรทักษะกายาแสงตะวันทองคำไร้เทียมทาน และทำการโจมตีด้วยทักษะระดับนิรันดร์มากมาย ด้วยแขนทั้งหมดข้าง
“ก็แค่ทักษะอ่อนหัด!” จ้างชิงเฟิงเค้นเสียงดูถูก ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้สืบทอดราชานิรันดร์ แต่จากจำนวนผู้สืบทอดราชานิรันดร์ทั้งหมด พลังของเขาก็แข็งแกร่งกว่าผู้สืบทอดเหล่านั้นเกินกว่าเก้าในสิบส่วน แถมเขายังเชี่ยวชาญทักษะระดับนิรันดร์มากมายอีกด้วย เขาโคจรทักษะนิรันดร์ทักษะหนึ่ง เพื่อทำการขยายร่างของตนเองให้ใหญ่กว่าเดิมสิบเท่า และใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบย่ำหลิงฮัน
“ทักษะของข้าอ่อนหัดงั้นรึ?” หลิงฮันแสยะยิ้ม ก่อนจะผลักฝ่ามือออกไปข้างหนึ่ง “มิติเอกเทศ”
ร่างขนาดใหญ่ของจ้าวชิงเฟิงถูกทำให้หายไปในพริบตา แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ ร่างของอีกฝ่ายก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง
‘ฟุบ’ หลิงฮันที่รอโอกาสอยู่ ปล่อยหมัดอันทรงพลังเข้าใส่ใบหน้าของจ้าวชิงเฟิง
“ฮึ่ม!” จ้าวชิงเฟิงไม่ตื่นตระหนก เส้นผมสีดำของเขาสยายออก และแปรสภาพกลายเป็นดาบแหลมคมทิ่มเข้าใส่ดวงตาซ้ายของหลิงฮัน
หลิงฮันไม่หลบหลีกการโจมตีที่สวนกลับมา เขาหลับตาซ้ายและเบี่ยงหน้าเล็กน้อย โดยยังคงปล่อยหมัดออกไป
ตูม!
ทั้งหมัดและดาบเส้นผม ต่างปะทะโดนเป้าหมายทั้งคู่
จ้าวชิงเฟิงโดนการโจมตีของหลิงฮันเป็นครั้งแรก ภายใต้คลื่นพลังอันรุนแรงของหมัด ร่างของเขาเดินกระโพลกกระเพลกถอยหลังไปหลายสิบเก้า
ที่บริเวณใบหน้าของเขาปรากฏหลุมรูปทรงหมัด ที่น่าแปลกประหลาดก็คือผิวหนังของเขานั้นไม่เกิดการฉีกขาด หรือมีโลหิตไหลออกมา แต่ปรากฏเป็นหลุมราวกับโลหะที่ถูกทุบจนเกิดรอยบุ๋มแทน
สมกับเป็นแก่นกำเนิดนิรันดร์ทองสัมฤทธิ์ พลังป้องกันไม่ใช่ธรรมดาเลยจริงๆ
ในขณะเดียวกัน ทางด้านของหลิงฮันที่โดนดาบเส้นผมเฉือนเข้าที่ใบหน้านั้น ปลายดาบไม่สามารถทิ่มผ่านผิวหนังของเขาได้อย่างสมบูรณ์ และปรากฏเพียงแค่รอยขีดข่วนจากบริเวณขอบตาจนถึงมุมปาก ซึ่งมีโลหิตซึมออกมาเล็กน้อย
หลิงฮันยกมือขึ้นปาดโลหิตพร้อมกับโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เพียงชั่วพริบตารอยขีดข่วนบนใบหน้าของเขาก็จางหายไป
การแลกเปลี่ยนกระบวนท่าในครั้งนี้… ไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า
“ข้ายิ่งอยากจะสังหารเจ้ามากขึ้นไปอีก!” จ้าวชิงเฟิงกล่าวในขณะที่รอยยุบบนใบหน้าของเขา ค่อยๆนูนกลับมาสู่สภาพเดิม แต่ก็ยังคงมีรอยหมัดเหลือทิ้งเอาไว้
เห็นได้ชัดว่าพลังป้องกันของเขา ไม่สามารถเทียบกับหลิงฮันได้
ซึ่งนั่นก็ไม่แปลก อย่างแรกเลยคือพลังป้องกันของแก่นกำเนิดนิรันดร์ จะนำมาเทียบกับคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ได้อย่างไร? อย่างที่สองคือแก่นกำเนิดนิรันดร์ทองสัมฤทธิ์ มีความสามารถโดดเด่นในด้านโจมตีมากกว่าป้องกัน และอย่างที่สามคือพลังบ่มเพาะของเขานั้นเหนือกว่าหลิงฮัน ถ้าหากเป็นระดับพลังที่เท่ากันล่ะก็ รอยยุบเมื่อครู่จะไม่มีทางฟื้นคืนสภาพกลับมาได้ง่ายๆแน่นอน
หลิงฮันสูดหายใจลึกและยอมรับว่า ตั้งแต่ที่เข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนมา จ้าวชิงเฟิงผู้นี้คือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยบพบเจอ
“เข้ามา!” จิตวิญญาณสู้รบของหลิงฮันเดือดพล่าน เขามั่นใจว่าหลังจากสิ้นสุดการประลองในครั้งนี้ ระดับพลังของเขาจะยกระดับขึ้นสู่ขั้นใหม่อย่างแน่นอน
“ข้าจะส่งเจ้าลงประตูยมโลกให้เอง!” จ้าวชิงเฟิงยิ้มอย่างโหดเหี้ยมและผลักมือซ้ายออกมาด้านหน้า
‘พรึบ’ ที่ฝ่ามือของเขาถูกปกคลุมไปด้วยปราณพิฆาตนับไม่ถ้วน โดยที่ปราณพิฆาตเหล่านั้นค่อยๆถูกควบแน่นรวมกันจนกลายเป็นรูปร่างมนุษย์ โดยที่มนุษย์ที่ว่ามีรูปลักษณ์เหมือนกับจ้าวชิงเฟิงไม่มีผิดเพี้ยน แม้แต่ออร่าที่พรั่งพรูออกมาก็ไม่ต่างกัน
คราวนี้ผู้ชมที่มองดูอยู่รู้สึกหวาดผวาขึ้นมาอย่างแท้จริง เพียงแต่จ้าวชิงเฟิงคนเดียวก็ยากจะต่อกรแล้ว ถ้าหากจำนวนของจ้าวชิงเฟิงเพิ่มขึ้นมาเป็นสอง สาม สี่.. หรือหลายสิบคนล่ะก็ ในระดับโลกียนิพพานใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้?
หลิงฮันหวาดสายตามอง แต่เพราะในปัจจุบันนี้เนตรแห่งสัจธรรมไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เขาจึงไม่สามารถแยกแยะได้ว่าในหมู่ร่างปราณพิฆาตเหล่านี้ ร่างไหนกันแน่ที่เป็นร่างจริง แต่ถึงอย่างเขาก็ไม่คิดมาก เพราะเขาเชื่อว่ากายหยาบของเขานั้นไร้เทียมทานที่สุดในระดับโลกีนิพพาน
ต่อให้คู่ต่อสู้ของเขาเป็นนิรันดร์ห้านิพพาน แต่ตราบใดที่เขาบรรลุเป็นนิรันดร์สี่นิพพานแล้ว กายหยาบของเขาก็แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการโจมตีได้ และถ้าหากเขาบรรลุเป็นระดับห้านิพพาน แม้แต่การโจมตีของระดับแบ่งแยกวิญญาณ เขาก็สามารถเมินเฉยได้อย่างสมบูรณ์
เพราะงั้นเชิญเจ้าบุกเข้ามาเลย!
จ้าวชิงเฟิงสร้างร่างแยกมาทั้งหมดเก้าสิบเก้าร่าง เมื่อรวมกับร่างหลักของเขาแล้ว จำนวนของจ้าวชิงเฟิงจึงมีถึงหนึ่งร้อยร่าง
จ้าวชิงเฟิงหัวเราะและชี้ดาบมายังหลิงฮัน ร่างแยกทั้งเก้าสิบเก้าร่างเองก็เคลื่อนไหวเหมือนกับและพร้อมเพรียงกัน
“คมดาบพิฆาต!” เขาพุ่งทะยานกวัดแกว่งดาบเข้าใส่หลิงฮัน ร่างแยกทั้งเก้าสิบเก้าเองก็เช่นกัน อำนาจแห่งเต๋าของธาตุทองคำเปล่งประกายแสงออกมาอย่างไร้สิ้นสุด
การโจมตีครั้งนี้คือการโจมตีที่ผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร และทองคำเอาไว้อย่างเต็มพลัง
หลิงฮันยิ้มและผลักฝ่ามือออกไป ‘ครืนน’ คลื่นพลังอันเย็นยะเยือกของวารีพลังหยินเร้นลับหลั่งไหลออกมา
รัศมีหลายพันลี้ถูกแช่แข็งในพริบตา!
‘แกร่ก แกร่ก แกร่ก’ คลื่นพลังเย็นยะเยือกแพร่กระจายไปถึงค่ายกลอาคมป้องกัน และค่อยๆแช่แข็งรูปแบบอาคมแต่ละส่วน
‘เพล๊ง’ รูปแบบอาคมที่ถูกแช่แข็งแตกออกเป็นเศษน้ำแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อย และลบล้างพลังของค่ายกลบางส่วนได้อย่างไม่คาดฝัน!
เหล่าปรมาจารย์ที่ทรงพลังเปลี่ยนสีหน้าพร้อมกันทันใด
เจ้ามันสัตว์ประหลาด!
รูปแบบอาคมที่ติดตั้งเอาไว้นี้คือรูปแบบอาคมระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ แต่รุ่นเยาว์ระดับโลกียนิพพาน กลับสามารถทำลายเศษเสี้ยวพลังของมันได้? นี่มันหมายความว่าอย่างไรน่ะรึ?
มันหมายความว่าหลิงฮันมีความสามารถที่จะสังหาร ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ได้!
แน่นอนว่านั่นหมายถึงในกรณีที่ ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ไม่ได้ทำการต่อต้านใดๆเลย และยอมให้หลิงฮันค่อยๆใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์หล่อหลอมอย่างช้าๆ
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความเป็นไปได้ทางทฤษฎีเท่านั้น เนื่องจากเพียงแค่ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้สะบัดมือลวกๆ หลิงฮันก็ถูกสังหารในพริบตาแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไร เพียงแค่มีความสามารถที่จะสังหารได้ในทางทฤษฎี ก็ถือว่าเหนือจินตนาการเป็นอย่างมากแล้ว
พระเจ้า… เจ้าหนูนี่เป็นสัตว์ประหลาดแบบใดกันแน่?