สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 584 บ่าวรับใช้ผู้นี้มีบางอย่างผิดปกติ

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 584 บ่าวรับใช้ผู้นี้มีบางอย่างผิดปกติ

บทที่ 584 บ่าวรับใช้ผู้นี้มีบางอย่างผิดปกติ

“คุณหนู…” บ่าวรับใช้เดินเข้ามากล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “สะพานข้างหน้าพังกำลังซ่อมแซม จำต้องใช้เส้นทางอื่นแล้วขอรับ”

ลู่จื่ออวิ๋นเหลือบมองฝั่งตรงข้าม มีคนหลายคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่รอบสะพานดังคาด

“เช่นนั้นพวกเราก็ใช้เส้นทางอื่นเถอะ!”

“บ่าวจะนำทางไปเจ้าค่ะ”

ร่างกายส่วนใหญ่ของเจี่ยหลิงหลงเทน้ำหนักมาที่ลู่จื่ออวิ๋น

ลู่จื่ออวิ๋นทำงานมาเป็นเวลานาน ย่อมไม่บอบบางเหมือนแม่นางธรรมดาทั่วไป ไม่เช่นนั้นนางคงไม่สามารถรับน้ำหนักได้

สาวใช้ของเจี่ยหลิงหลงที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ย “คุณหนู ท่านอย่าพิงคุณหนูลู่อย่างนั้นสิเจ้าคะ”

ลู่จื่ออวิ๋นดูงดงามหยาดเยิ้ม นั่นมักจะทำให้คนรู้สึกว่านางเป็นฟองสบู่สีรุ้งที่สวยงามและบอบบาง หากแตะแรง ๆ ก็จะแตกสลายไป

ติงเซียงถูกลู่จื่ออวิ๋นส่งไปจัดการเรื่องอื่น หากนางอยู่ที่นี่ เพียงแค่พาเจี่ยหลิงหลงไปย่อมไม่เป็นปัญหา แต่ตอนนี้ลู่จื่ออวิ๋นคงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมให้คนเมายอมก้าวขาไปข้างหน้าแล้ว

ลู่จื่ออวิ๋นมองหาสาวใช้คนอื่น ๆ เช่นกัน ทว่าบ่าวรับใช้ส่วนใหญ่กำลังรับรองแขกเหรื่ออยู่ใกล้ ๆ งานเลี้ยง จึงไม่มีผู้ใดเหลืออยู่ที่อื่น

ช้าก่อน…

คนผู้นี้มีบางอย่างแปลก ๆ

แม้ว่าเขาจะแทนตนเองว่าบ่าว แต่กลับไม่มีที่ใดดูเหมือนบ่าวรับใช้เลยแม้แต่น้อย

สายตาของลู่จื่ออวิ๋นเลื่อนไปจับจ้องอยู่ที่เท้าของอีกฝ่าย

ไม่ใช่รองเท้าผ้าธรรมดา แต่เป็นรองเท้าหุ้มข้อ

คนผู้นี้ไม่ใช่บ่าวรับใช้ในจวนนางตั้งแต่แรก

เขาสวมชุดบ่าวรับใช้แต่ลืมเปลี่ยนรองเท้า ถึงแม้ว่าสีจะคล้ายกันแต่รูปแบบนั้นแตกต่าง หากสังเกตดี ๆ ก็จะมองออกได้โดยง่าย

ลู่จื่ออวิ๋นลอบสังเกตสถานการณ์โดยรอบอยู่เงียบ ๆ

นอกจากบ่าวรับใช้ที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ยังมีคนอีกหลายคนอยู่ใกล้ ๆ คนเหล่านั้นกำลังทำงานของตน ทว่าการกระทำของพวกเขาดูเสแสร้งเกินไป เผยให้เห็นช่องโหว่มากมาย

ทำอย่างไรดี?

รอบ ๆ นี้ไม่มีบ่าวรับใช้คนอื่นอยู่แล้ว หากไม่ถูกฆ่าตายไปแล้วก็คงถูกพวกเขาขับไล่ไปจนหมด

“ข้าไม่ไปแล้ว” เจี่ยหลิงหลงเอ่ยขึ้นมาอย่างอาลัยอาวรณ์ “ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป…”

สิ้นคำ นางก็หาที่นั่งลงตรงนั้น

ลู่จื่ออวิ๋นพยุงเจี่ยหลิงหลงขึ้นมา แล้วเอ่ยเบา ๆ “ในห้องข้ามีของอร่อยมากมาย เจ้าไม่อยากลองชิมหรือ? เป็นของที่ผู้อื่นไม่มีเชียวนะ ท่านแม่ทำให้ข้าคนเดียว”

“จริงหรือ?” เจี่ยหลิงหลงเอียงศีรษะแล้วเอ่ยถามอย่างว่าง่าย “อย่าโกหกข้าเชียว!”

“ไม่โกหกเจ้า ข้าไม่โกหกเจ้าอย่างแน่นอน” ลู่จื่ออวิ๋นหันไปมอง ‘บ่าวรับใช้’ ตรงหน้านางแล้วสั่งว่า “เจ้าไปเอาน้ำมาให้พวกเราสักถ้วย นางเมาจึงรู้สึกกระหายน้ำเป็นอย่างมาก พวกเราจะรอเจ้าอยู่ที่นี่”

‘บ่าวรับใช้’ มองลู่จื่ออวิ๋น ดวงตาฉายแววโหดเหี้ยมขึ้นมาแวบหนึ่ง

ที่นี่ไม่มีผู้ใดอีกแล้ว อีกทั้งนางยังเป็นลูกสาวของลู่อี้ หากไม่ลงมือตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าต้องรอไปอีกนานเพียงใด

ลู่จื่ออวิ๋นลอบกรีดร้องในใจเมื่อเห็นว่าท่าไม่ดีแล้ว

นางคิดว่าตนสามารถถ่วงเวลาออกไปได้อีกพักหนึ่ง ตอนนี้ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สามารถระงับอารมณ์ได้จึงไม่ตอบรับคำสั่งของนางแม้แต่น้อย

“ไยเจ้ายังยืนโง่อยู่ตรงนี้อีก? ต้องการรางวัลตอบแทนกระมัง? ข้าไม่ได้พกเงินมาด้วย แต่ในห้องของข้าพอมีเงินอยู่บ้าง ถึงตอนนั้นข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”

หากเป็นผู้ที่รู้จักลู่จื่ออวิ๋นก็จะรู้ว่าแต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยเอ่ยกับบ่าวรับใช้ด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ ยามนี้นางจงใจกล่าวเช่นนั้น ทั้งยังเน้นย้ำคำว่า ‘รางวัลตอบแทน’

คนที่ปลอมตัวมาเหล่านี้ล้วนมีเจตนาไม่ดี ขอเพียงเป็นมนุษย์ แปดในสิบคนล้วนแต่โลภมาก อีกสองคนที่เหลือหากไม่ได้ขาดเงินก็คงไร้ซึ่งความทะเยอทะยานในการไขว่คว้าโอกาส

เมื่อมองคนผู้นี้อีกครั้ง ท่าทีเขาดูเหมือนคนที่เข้าตาจนผู้หนึ่ง ดูน่าจะต้องการเงินอยู่พอสมควร

“คุณหนู ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเรือนของท่านแล้ว ไม่สู้พวกเรากลับไปดื่มน้ำที่ห้องของท่านจะดีกว่า” บ่าวรับใช้ ผู้นั้นหรี่ตาลง

ลู่จื่ออวิ๋นรู้ว่าตนเดิมพันได้ถูกต้อง

คนผู้นี้โลภจริง ๆ

เช่นนั้นนางก็สามารถถ่วงเวลาออกไปได้อีกหน่อย

ส่วนเจี่ยหลิงหลง คนเมาผู้นี้ยังไม่รู้สถานการณ์ของตนเอง

สาวใช้ยิ่งไม่รับรู้ถึงวิกฤต

สมองของลู่จื่ออวิ๋นคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว ไตร่ตรองว่าจะหลบหนีจากสถานการณ์อันตรายไปพร้อมกับช่วยชีวิตนายบ่าวคู่นี้ได้อย่างไร

“เจ้าสุนัขรับใช้คนนี้ชักจะเกียจคร้านมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยด้วยน้ำเสียงย็นชา “ในเมื่อเจ้าไม่ไปรินน้ำมา เช่นนั้นข้าจะไปเอง หากงานเลี้ยงจบลงแล้ว ข้าจะต้องหาทางขายเจ้าออกไปแน่!”

จากนั้นนางจึงกล่าวกับสาวใช้ “เจ้ากับคุณหนูของเจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปเอาน้ำมาให้นางดื่มสักถ้วย”

สาวใช้เริ่มงุนงงเสียแล้ว

คุณหนูของพวกนางไม่ได้อยากดื่มน้ำสักหน่อย

อย่างไรก็ตาม คุณหนูลู่คงเป็นห่วงคุณหนูของพวกนางจึงอยากให้ดื่มน้ำ

สาวใช้รู้ว่าคุณหนูลู่ฉลาดกว่านางมากนัก อีกฝ่ายกล่าวเช่นนี้จะต้องมีเหตุผลเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงพยักหน้าตกลงง่าย ๆ

ลู่จื่ออวิ๋นลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

นางก้าวไปข้างหน้า

ทว่าบ่าวรับใช้ผู้นั้นกลับติดตามนางไป

สาวใช้ “…”

บ่าวรับใช้ไม่อยากเทน้ำ คุณหนูจึงต้องไปเทเอง เช่นนั้นเหตุใดบ่าวรับใช้ผู้นั้นต้องตามไป?

มีบางอย่างผิดปกติ!

ในที่สุดสาวใช้ก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

นางตื่นตระหนกขึ้นมาจึงเขย่าร่างเจี่ยหลิงหลง “คุณหนู… คุณหนูตื่นเถิดเจ้าค่ะ… เรานอนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ พวกเราไปนอนที่อื่นเถิดเจ้าค่ะ”

สาวใช้พยุงเจี่ยหลิงหลงไปทางอื่นแล้ว

คุณหนูลู่ล่อคนผู้นั้นออกไป นางต้องรีบเรียกคนมาช่วยโดยด่วน

ลู่จื่ออวิ๋นเดินไปได้สักพัก ‘บ่าวรับใช้’ ที่ตามมาด้านหลังก็ขยับมาขวางทางไว้

“คุณหนู ทางนี้ไม่ถูกกระมัง เพียงแค่รินน้ำเท่านั้น เหตุใดจึงเดินไปไกลนักเล่า?”

“ปกติข้าไม่ค่อยเดินมาทางนี้” ลู่จื่ออวิ๋นชี้ไปรอบ ๆ “บ้านหลังนี้ใหญ่โตเกินไป ข้ามักจะยุ่งอยู่เสมอ ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ตอนนี้ข้าหลงทางแล้วละ”

“อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นต้องให้ ‘บ่าว’ ช่วยเตือนความจำท่านหรือไม่?”

ลู่จื่ออวิ๋นเห็นลำแสงสีเงินฉายขึ้นมาแวบหนึ่ง

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งร้องเรียกนางไว้

“แม่นางลู่”

ลู่จื่ออวิ๋นหันกลับไปโดยพลัน

เห็นเพียงเงาร่างสีน้ำเงินเข้มเดินตรงมาจากฝั่งตรงข้าม

เขาเป็นชายหนุ่มที่มีดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า ใบหน้าหล่อเหลา

สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาดูคุ้นตาเล็กน้อย ทว่านางจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เคยพบเขาที่ใด

“เหตุใดคุณหนูลู่จึงมาอยู่ตรงนี้ ฮูหยินลู่กำลังตามหาท่านไปทุกหนแห่ง” ชายหนุ่มผู้นั้นมองนางด้วยรอยยิ้ม “ท่านคงไม่ได้หลงทางอยู่ในบ้านตนเองแล้วกระมัง”

“หากข้าบอกว่าใช่… คุณชายจะเห็นว่าข้าโง่เกินไปหน่อยหรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นเหลือบมองไปทางบ่าวรับใช้คนนั้น

คนผู้นั้นเก็บกริชของเขากลับไปเมื่อเห็นชายหนุ่ม

“แม่นางลู่จำข้าไม่ได้แล้วหรือ?” ชายหนุ่มยกมือขึ้นแล้วกล่าวว่า “คราวก่อนแม่นางและท่านแม่ของท่านช่วยข้าขึ้นมาจากน้ำ อีกทั้งยังให้ข้าร่วมเรือของพวกท่านกลับมายังเมืองหลวง”

“ท่านคือคนผู้นั้น…”

“ข้าน้อยเจียงหว่านเฉิน…”

ชิ้ง! เขาดึงกระบี่อ่อนออกมาจากเอวแล้วแทงไปที่ ‘บ่าวรับใช้’ ผู้นั้น

เจ้าโจรคนนั้นกำลังลังเลว่าจะลงมือตอนนี้เลยหรือไม่ ทว่าก่อนที่เขาจะขบคิดได้กระจ่าง เจียงหว่านเฉินก็ชิงลงมือก่อนแล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เดิมทีเจียงหว่านเฉินดูเหมือนบัณฑิตอ่อนแอปวกเปียก นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นยอดฝีมือ

“แม่นางลู่ ท่านหาที่ซ่อนเถอะ” เจียงหว่านเฉินตัดสินใจอย่างเฉียบขาด “ที่นี่ปล่อยให้ข้าจัดการ”

ในที่สุดลู่จื่ออวิ๋นก็เข้าใจแล้ว

เจียงหว่านเฉินคงสังเกตเห็นสถานการณ์วิกฤตของนางจึงมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือ

“คุณชายเจียงโปรดระวังตัว” ลู่จื่ออวิ๋นหาที่ไปซ่อนตัวในที่แห่งหนึ่ง

รอให้เรื่องนี้จบลง นางคงต้องบอกท่านแม่สักหน่อย ทางที่ดีควรสร้างกลไกบางอย่างไว้ในบ้านบ้าง หากมีอันตราย อย่างน้อยก็ยังพอสามารถถ่วงเวลาได้

วันนี้อันตรายมากเกินไปแล้วจริง ๆ

โชคดีที่นางเจอโจรที่กระหายเงินจึงมีโอกาสถ่วงเวลาไว้ได้

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท