งานพิธีที่สำคัญเช่นนี้ มีคนกล้ามาสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร?
สีหน้าของปรมาจารย์จื่อเฉิงกลายเป็นมืดมนทันที เพื่องานพิธีในวันนี้เขาได้ดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เอาไว้มากมาย โดยที่มุ่งเน้นไปที่ความราบรื่นของงานพิธีเป็นสำคัญ
กล่าวคือในวันนี้ เรื่องที่จะมีผู้บุกรุกเข้ามาป่วนได้นั้น ย่อมไม่สมควรเกิดขึ้น
อย่างในกรณีของจ้าวชิงเฟิงนั้น บาดแผลที่เขาได้รับจากการประลองได้ถูกรักษาเสร็จตั้งแต่เดือนแรกแล้ว ถึงแม้ในช่วงเวลาหลายเดือนมานี้อีกฝ่ายจะไม่ก่อปัญหาใดๆ ขึ้น แต่ปรมาจารย์จื่อเฉิงก็คาดการณ์เอาไว้แล้วว่า อีกฝ่ายอาจจะปรากฏตัวและสร้างปัญหาให้วันนี้ก็เป็นได้ เพราะงั้นเขาจึงสั่งการทหารยามให้คอยเฝ้าระวังเอาไว้อย่างดีแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น จ้าวชิงเฟิงก็ยังปรากฏตัวได้!
“โอหัง ผู้สืบทอดคนใหม่กำลังจะเข้าพิธีรับแต่งแหน่ง เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาสร้างความวุ่นวาย? ไสหัวไปซะ! ” ปรมาจารย์ระดับแบ่งแยกวิญญาณผู้หนึ่งตะโกน
แม้จ้าวชิงเฟิงจะมีพรสวรรค์ท้าทายสวรรค์ แต่ก็ยังเป็นแค่นิรันดร์สี่นิพพานเท่านั้น เขาจึงไม่จำเป็นต้องแยแส
จ้าวชิงเฟิงไม่แม้แต่ชำเลืองมองปรมาจารย์ผู้นั้น สายตาของเขาจดจ้องไปยังหลิงฮันอย่างเด็ดเดี่ยวและกล่าว “หลิงฮัน เจ้ากล้ามาสู้กับข้ารึไม่! ”
ดูความจิตวิญญาณสู้รบที่จ้าวชิงเฟิงปลดปล่อยออกมา พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายคงพัฒนาขึ้นมาก หลังจากอาการบาดเจ็บเป็นแน่
“สมกับเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ ความพ่ายแพ้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาแม้แต่น้อย แถมยังพัฒนาพลังของตนเองขึ้นไปได้อีก”
“แต่ข้านึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ เขาเป็นนิรันดร์สี่นิพพานสูงสุดแล้วแท้ๆ แต่พลังกลับยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก”
“ช่างเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง”
“เรื่องนี้เริ่มจะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านี้หลิงฮันคว้าชัยชนะไปได้อย่างเฉียดฉิวเท่านั้น แต่ตอนนี้พลังต่อสู้ของจ้าวชิงเฟิงยกระดับสูงขึ้นจากเดิมแล้ว หากประลองกันอีกครั้ง เกรงว่าคงยากที่จะตัดสินได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะหรือแพ้”
“เหอๆ ถึงแม้การประลองจะเป็นการวัดศักยภาพ ในศาสตร์วรยุทธไม่ใช่ศาสตร์ปรุงยา แต่ถ้าหากผู้สืบทอดคนใหม่เกิดพ่ายแพ้ในวันแรกที่ถูกแต่งตั้งล่ะก็ คงจะอัปยศมากเป็นแน่”
“ที่ข้าสงสัยคือเรื่องที่จ้าวชิงเฟิงมาที่นี่ได้อย่างไร ข้าไม่เชื่อหรอกนะว่าเขาจะสามารถปรากฏตัวขึ้นได้อย่างราบรื่นขนาดนี้”
“โอ้ เจ้าจะบอกว่า… มีใครบางคนแอบช่วยเหลือจ้าวชิงเฟิงอยู่งั้นรึ? ”
ผู้คนมากมายพูดคุยกันอย่างออกรส และไม่ว่าใครต่อใครต่างก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างปิดไม่มิด
หลิงฮันมองไปยังจ้าวชิงเฟิงและกล่าวอย่างไม่แยแส “ทั้งๆ ที่พ่ายแพ้ไปแล้ว ยังกล้าพูดจาห้าวหาญอยู่อีกรึ? ”
“อดีตก็คืออดีต… ครั้งนี้ทุกอย่างไม่มีทางซ้ำรอย! ” ดวงตาของจ้าวชิงเฟิงส่องประกายอันหนักแน่น จิตสังหารของเขาควบแน่นรวมกันอย่างแน่นหนา จนกลายเป็นสสารที่สามารถจับต้องได้ หลังจากความพ่ายแพ้ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารของเขาก็ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น
เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่า ด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารของเขาในตอนนี้ จะสามารถบดขยี้กายหยาบอันไร้เทียมทานของหลิงฮันได้อย่างง่ายดาย
จักรพรรดินีก้าวเดินออกมาด้านหน้า และมองไปยังจ้าวชิงเฟิงด้วยแววตาอันเย็นยะเยือก สายลมหนาวเย็นที่กระทบกับกระโปรง ส่งผลให้ความโค้งเว้าของเรือนร่างของนางมองเห็นได้อย่างเด่นชัด
ความงดงามที่เกินจะพรรณนาได้นี้ แม้แต่สีหน้าของจ้าวชิงเฟิงที่เป็นศัตรูกับหลิงฮัน ก็ยังชะงักแข็งค้าง
งดงาม… ช่างงดงามยิ่งนัก ถึงแม้จะไม่เห็นใบหน้า แต่เพียงแค่เรือนร่างอันสมบูรณ์แบบ กับกลิ่นอายที่สูงส่งของนาง ก็เพียงที่จะทำให้ผู้คนคุกเข่าแนบเท้า