เมื่อปรมาจารย์จื่อเฉิงรับปากเช่นนั้น หลิงฮันก็สบายใจ
เพราะไม่งั้นหากเขากับจักรพรรดินีบรรลุระดับสี่นิพพานสูงสุด โดยไม่มียันต์ไม้ท้อผูกชะตาล่ะก็ พวกเขาคงทำได้เพียงระงับพลังบ่มเพาะของตนเองเอาไว้ และไม่อาจขัดเกลาพลังต่อได้แม้แต่นิดเดียว
ภายในระยะเวลาหนึ่งปีนี้ ไม่เพียงแค่เขาจะต้องฝึกฝนทักษะห้วงจิตปรับแต่งให้สำเร็จ แต่ยังต้องขัดเกลาพลังบ่มเพาะให้บรรลุระดับสี่นิพพานสูงสุดด้วย…
ถึงแม้มันจะดูยากลำบากไปบ้าง แต่ก็รู้สึกท้าทายดีเหมือนกัน
จิตวิญญาณของหลิงฮันถูกปลุกจนหึกเหิม และทำการไถ่ถามปรมาจารย์จื่อเฉื่อง เกี่ยวกับวิธีการใช้ทักษะห้วงจิตปรับแต่งอยากละเอียด
สำหรับนิรันดร์ การพักผ่อนแทบเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะงั้นหนึ่งอาจารย์และหนึ่งศิษย์จึงพูดคุยกันจนลืมเวลา
โชคดีที่พวกเขายังอยู่ในห้องหลอมเม็ดยา หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งปีด้านในและสองวันด้านนอก หลิงฮันก็เริ่มจะจับเคล็ดการควบคุมทักษะห้วงจิตปรับแต่งได้เล็กน้อย
“ข้าเบิกทางให้แก่เจ้าแล้ว หลังจากนี้จงไปฝึกฝนด้วยตัวเอง” ปรมาจารย์จื่อเฉิงกล่าว “หากเจ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็มาถามข้าได้ เพียงแต่ถ้าหากเจ้าต้องการก้าวข้ามข้าไปให้ได้ เจ้าก็ควรพึ่งพาความสามารถของตนเองก่อน ปัญหาใดที่แก้ได้ตัวเอง ก็จงแก้ด้วยตัวเองซะ”
จากประสบการณ์ที่ปรมาจารย์จื่อเฉิงพบเจอมา ศิษย์คนแรกของเขานั้นเป็นอัจฉริยะแห่งศาสตร์ปรุงยา เพราะงั้นเขาจึงรักและเอ็นดูศิษย์คนนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าอะไรที่ศิษย์ของเขาไม่เข้าใจ เขาก็จะช่วยแก้ปัญหาในทันที ซึ่งทำให้สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จของศิษย์ผู้นี้ถูกจัดอยู่ในอันดับต่ำสุด
เมื่อมีโอกาสให้ฝึกสอนศิษย์อีกสองคน ปรมาจารย์จื่อเฉิงจึงเปลี่ยนวิธีการเล็กน้อย โดยการเปลี่ยนมาช่วยชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหาให้แทน แต่สุดท้ายเข้าก็ยังล้ำเส้นเกินไป ทำให้ถึงแม้ศิษย์อีกสองคนจะก้าวข้ามศิษย์คนแรกไปได้ แต่ก็ยังถลำลึกอยู่ภายใต้เงาของเขา
เพราะงั้นในกรณีของหลิงฮัน แทนที่เขาจะคอยช่วยชี้แนะปัญหาทุกอย่าง เขาต้องการให้อีกฝ่ายฝึกฝนและใช้ความสามารถของตนเองในการแก้ปัญหาแทน
หลิงฮันกล่าวลากับปรมาจารย์จื่อเฉิง และออกจากที่พักเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังอาณาเขตที่สี่
ที่อาณาเขตที่ห้าแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่สำหรับคนนอก นี่คือกฎเหล็กที่ไม่ฝ่าฝืน นอกเสียจากว่าหลิงฮันจะเป็นผู้ช่วยนักปรุงยา เขาถึงจะได้รับอนุญาติให้อยู่ที่นี่ได้
ไม่รู้ว่ากฎที่ว่านี้ใครเป็นคนคิด แต่ไม่ว่าอย่างไรกฎเหล็กข้อนี้ก็มีมานานหลายแสนล้านปีแล้ว ซึ่งแม้จะเป็นปรมาจารย์จื่อเฉิงก็ไม่อาจเพิกเฉย
หลิงฮันไม่คิดอะไรมาก เพราะอย่างไรห้องหลอมเม็ดยาของอาณาเขตที่สี่ ก็มีประสิทธิภาพเร่งเวลาร้อยเท่าเหมือนกันอยู่แล้ว
เขาก้าวเดินมายังทางออก และเปิดประตูออกจากที่พัก
“อะไรกัน!” ที่ด้านหน้าประตู มีผู้ช่วยนักปรุงยาโม่ยืนเฝ้าอยู่ ซึ่งหากไม่ได้รับอนุญาติจากปรมาจารย์จื่อเฉิง เขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปด้านใน
…ผู้ช่วยนักปรุงยาโม่ที่ผู้คนนอกอาณาเขตที่ห้าล้วนแต่คิดว่ามีอำนาจล้นมือ ในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นเพียงสุนัขเฝ้าประตูเท่านั้น แต่เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่ใครจะเข้ามาสอดส่องได้ การที่ผู้คนภายนอกจะหวาดกลัวเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ผู้ช่วยนักปรุงยาโม่ตกตะลึงราวกับเห็นผี เขาจ้องมองมายังหลิงฮันด้วยดวงตาที่เกือบถลนออกมาจากเบ้า
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมหลิงฮันถึงกลับออกมาด้วยสภาพสมบูรณ์ครบสามสิบสองเช่นนี้ได้?
เจ้าหมอนี่ถูกปรมาจารย์จื่อเฉิงเรียกเข้าพบถึงสองครั้ง ซึ่งครั้งแรกนอกจากจะไม่มาแล้ว ครั้งนี้สองยังปล่อยให้ปรมาจารย์จื่อเฉิงรอนานอีก ตามที่เขาคิดไว้ หลิงฮันจะสมควรจะต้องถูกลงโทษอย่างสาหัส จนร่างกายแหลกออกเป็นชิ้นๆแท้ๆ
หรือสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าจะเป็นภาพลวงตากัน?