สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 668 เกิดการปล้นขึ้นบนเกาะ

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 668 เกิดการปล้นขึ้นบนเกาะ

บทที่ 668 เกิดการปล้นขึ้นบนเกาะ

“ระมัดระวังเอาไว้ดีกว่ามาเสียใจภายหลัง” ลู่เยี่ยเอ่ย “ไม่ว่าติงเซียงจะคิดมากเกินไปหรือไม่ พวกเรารอบคอบมากหน่อย เช่นนี้จึงจะคุ้มครองความปลอดภัยของคุณหนูได้ดีที่สุด”

เมื่อเรือหยุดลง ลู่เยี่ยก็พาคนกลุ่มหนึ่งขึ้นไปบนเกาะก่อน

ผ่านไปสักพัก เสียงพลุส่งสัญญาณก็ดังขึ้นในอากาศ

ติงเซียงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเอ่ยว่า “คุณหนู ท่านดูนั่นสิเจ้าคะ ลู่เยี่ยจุดพลุสัญญาณสีแดง หมายความว่ามีอันตราย ทุกคน เร็วเข้า เร่งออกเรือโดยเร็ว พวกเราจะพาคุณหนูไปจากที่นี่ประเดี๋ยวนี้”

“หากพวกเราไปแล้ว ลู่เยี่ยกับคนอื่น ๆ จะทำอย่างไรเล่า?!” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย

“คุณหนู ความสำคัญของคุณหนูเหนือสิ่งอื่นใด หากเกิดเรื่องกับท่าน ลู่เยี่ยจะถูกลงโทษ ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจรอดพ้น หากท่านจากไปก่อน ลู่เยี่ยยังสามารถพาคนอื่นหาสถานที่หลบซ่อนได้ ท่านลืมแล้วหรือ? บนเกาะยังมีช่างฝีมือคนอื่น ๆ อีก พวกเขาคุ้นเคยกับพื้นที่บนเกาะดี จะต้องหาที่หลบซ่อนได้เป็นแน่เจ้าค่ะ”

ลู่จื่ออวิ๋นไม่รู้ว่าเบื้องหน้ามีอันตรายอย่างไร ทว่าพลุสัญญาณสีแดงก็เป็นสัญลักษ์ของอันตรายจริง ๆ หากลู่เยี่ยสามารถจัดการได้ เขาย่อมจัดการมันทันที ดังนั้นหมายความว่าอันตรายบนเกาะตอนนี้ เขาไม่อาจจัดการไหว

“พวกเราไป”

นางไม่ควรไป เพราะหากนางไปแล้ว ลู่เยี่ยและคนอื่น ๆ ก็ไปจากเกาะไม่ได้

อย่างไรก็ตาม จิตใต้สำนึกบอกนางว่า ชาวประมงและคนเรือตอนนี้ล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แม้พวกเขาจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วย พวกเขาก็คงไม่อาจจัดการกับอันตรายบนเกาะนั้นได้ การกลับไปนำกำลังเสริมกลับมาย่อมดีกว่า เช่นนี้อาจจะช่วยคนส่วนหนึ่งเอาไว้ได้

“ติงเซียง เจ้าจุดพลุส่งสัญญาณ บอกลู่เยี่ยว่าพวกเราจากไปแล้ว เช่นนี้เขาจะได้ไม่ต้องสู้จนตัวตาย”

“เจ้าค่ะ”

ติงเซียงจุดพลุสีเหลืองขึ้นไป

หัวเรือเบนกลับไปยังทางที่มันมา อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักคนเรือชราที่คุมเรือก็เดินมาแจ้งกว่า “คุณหนู ดูเหมือนจะมีเรือหลายลำอยู่ข้างหน้าขอรับ”

ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ท่านแม่ข้าติดตั้งสิ่งที่เรียกว่ากล้องส่องทางไกลอะไรสักอย่างเอาไว้ใช่หรือไม่?”

“ขอรับ ด้วยเหตุนี้เราจึงรู้ล่วงหน้าว่าท้องทะเลข้างหน้าเป็นอย่างไร”

ลู่จื่ออวิ๋นยืนอยู่หลังกล้องส่องทางไกล มองดูทะเลข้างหน้าผ่านเลนส์กล้อง เป็นดังคาด ทะเลเบื้องหน้ามีเรือนับสิบลำ เรือเหล่านั้นค่อนข้างลำใหญ่ อีกทั้งยังมีคนยืนอยู่บนนั้นมากมาย

“พวกเราเปลี่ยนทิศทางประเดี๋ยวนี้!” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “คนเหล่านั้นดูเหมือนไม่ใช่คนดีอะไร”

“เรือมากมายเพียงนี้ พวกเราจะสลัดพ้นได้อย่างไร?” คนเรือเฒ่าเอ่ย

“หากไม่ไป เช่นนั้นก็รออยู่ที่นี่ให้พวกเขามาฆ่า ท่านเลือกเองเถอะ!”

คนเรือเฒ่ากระวีกระวาดเรียกคนเรือคนอื่น ๆ มาเร่งความเร็วเรือทันที

เรือลำนี้เป็นเรือลำใหม่ มู่ซืออวี่และช่างต่อเรือเหล่านั้นทุ่มเงินและลงแรงไปมากมายเพื่อสร้างเรือลำนี้ขึ้นมา นอกจากมันจะแข็งแรงทนทานแล้ว ยังสามารถโจมตีจากระยะไกลได้ด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้มาก่อน บัดนี้ต้องเผชิญหน้ากับเรือนับสิบลำในคราวเดียวกัน อีกทั้งบนเรือยังบรรทุกคนมามากมาย พวกเขาจึงไม่อาจตัดสินใจได้ง่ายนัก

ลู่จื่ออวิ๋นตรวจดูกลไกบนเรือ

“พี่น้องทั้งหลาย พวกท่านเห็นเรือลำใหญ่เบื้องหน้าพวกท่านหรือไม่? นั่นเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของมู่ซืออวี่ สตรีผู้ทำการค้าอันดับหนึ่งของโลก และบนเรือลำนั้นมีบุตรสาวคนโตของของนางอยู่ พวกเจ้าว่า พวกเราฉุดบุตรสาวของนางไปเป็นฮูหยินของพี่ใหญ่ดีหรือไม่ หากลูกเขยอยากจะขอเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแม่ยาย นางรวยถึงเพียงนั้น คงไม่ปฏิเสธกระมัง?”

“พี่ใหญ่ มีเพียงท่านจริง ๆ แม้กระทั่งบุตรสาวขุนนางท่านก็ยังกล้าคิดเช่นนี้ได้”

“คิดเกินเลยกับบุตรสาวสกุลขุนนาง?” ชายที่เป็นหัวหน้าสวมใส่ชุดแปลกตา เขาดูชั่วร้าย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร “ขอเพียงข้ายินดี สตรีเหล่านั้นก็เป็นได้เพียงของเล่น!”

ติงเซียงยืนอยู่บนหัวเรือ มองดูเรือเหล่านั้นที่แล่นเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ

“คุณหนู พวกเขามาแล้วเจ้าค่ะ!”

ลู่จื่ออวิ๋นเหลือบมองแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยกับคนเรือเฒ่า “ใช้กลไกของแม่ข้าคอยโจมตีพลิกแพลงไปก่อน ทำให้พวกเขารู้สึกถึงพลังของเรา จะได้ไม่เย่อหยิ่งจองหองไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นฝ่ายเราจะเสียกำลังใจเอาได้”

“ขอรับ ข้าฟังคุณหนู!” คนเรือเฆ่าไม่เคยถูกดักปล้นกลางทะเล เมื่อเห็นเรือนับสิบลำก็นึกถึงโจรสลัดที่ร่ำลือกันขึ้นมาทันที

เขากดลงไปบนปุ่มหนึ่ง

ตู้ม!

เรือทั้งลำสั่นสะเทือน ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น ลูกตุ้มเหล็กขนาดใหญ่ลูกหนึ่งลอยไปยังเรือฝั่งตรงข้าม

เกิดเสียงดังตู้มขึ้นมา เรือลำนั้นแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ

เรือลำอื่นนับสิบลำหยุดอยู่เพียงตรงนั้น

เรือสิบลำนั้นเดิมทีอยู่ใกล้กันเป็นอย่างยิ่ง บัดนี้เรือลำหนึ่งแตกกระจายออกแล้ว เรือลำอื่น ๆ พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยระดับหนึ่ง

“นั่นมันอะไรกัน?” ติงเซียงเอ่ย “น่ากลัวเกินไปแล้ว หากนี่เกิดขึ้นระหว่างการรบ พวกเรายังต้องต่อสู้กันอยู่อีกหรือ? แค่ทำลายให้ราบเป็นหน้ากลองก็ใช้ได้แล้ว”

“หากใช้สิ่งนี้กลางสนามรบ นั่นไม่เท่ากับทำพื้นที่ดี ๆ ให้กลายเป็นที่รกร้างหรือ? แม้ยึดครองแผ่นดินผืนนั้นมาได้จะมีประโยชน์อะไร? การรบไม่เคยกำหนดผู้ชนะตายตัว บางครั้งยังต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัย” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ท่านตาคนเรือ หากพวกเขาเข้ามาใกล้อีก เพียงแค่ตีพวกเขาก็พอ หากพวกเขาไม่ตามมาแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา ล่าถอยก่อน”

“วางใจเถอะ คุณหนู”

ลู่จื่ออวิ๋นมองเรือเหล่านั้นตามมา

การโจมตีอย่างรุนแรงเมื่อครู่นี้ทำให้พวกเขาลังเลใจอยู่บ้าง ทว่าไม่นานนักพวกเขาก็ตามมาทันแล้ว ดูจากท่าทีของอีกฝ่าย พวกเขาคงจะไม่ยอมแพ้จนกระทั่งบรรลุเป้าหมาย และเป้าหมายของพวกเขาครั้งนี้ก็คือ ‘นาง’

“คนเหล่านี้เหตุใดจู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา?” หนึ่งในคนเรือเอ่ยขึ้น “ได้ยินมานานแล้วว่าทะเลนี้เชื่อมระหว่างสามอาณาจักร นอกจากอาณาจักรของเราแล้ว ยังเชื่อมอาณาจักรเหลียงและอาณาจักรเฟิ่งหลินด้วย คนบนเรือเหล่านั้นจะต้องเป็นอาณาจักรเหลียงส่งมาสอดแนมเป็นแน่ อาณาจักรเหลียงอยากจะรบกับพวกเรามานานแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเขาจะต้องลองดูท่าทีว่าสามารถโจมตีพวกเราทางน้ำได้หรือไม่ หากพวกเขาทำสำเร็จ เมืองซานหลินจะเป็นเมืองแรกที่ถูกถล่มราบเป็นหน้ากลอง”

“ตอนนี้อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป พวกเขามีคนไม่มาก เพียงแค่มาดูลาดเลา พวกเราเตรียมตัวมาล่วงหน้าแล้ว ถึงได้เป็นฝ่ายเหนือกว่า ขอแค่เพียงเราคว้าโอกาสเอาไว้ได้จะต้องกลับถึงบ้านได้อย่างแน่นอน”

ติงเซียงจุดพลุขึ้นฟ้าอีกสองสามนัด

“ตอนนี้พวกเรายังอยู่ไกลจากชายฝั่งเมืองซานหลิน ไม่รู้ว่าพลุเหล่านี้ที่จุดขึ้นไปจะส่งข่าวไปถึงหรือไม่ หากส่งไปถึง นายท่านเซี่ยจะต้องนำคนมาปราบโจรสลัดเหล่านี้ด้วยตนเองแน่นอน ถึงตอนนั้นเราก็จะปลอดภัยแล้ว ทว่าหากไปไม่ถึง ทันทีที่เรือของพวกเราถูกปิดล้อมโดยเรือมากกว่าสิบลำนั้น เราอาจมีเพียงหนทางรอดเดียวคือกระโดดลงไปในทะเล แต่คุณหนูวางใจ ข้าว่ายน้ำเป็น ข้าจะดูแลท่านเป็นอย่างดีแน่นอน”

“อย่าได้เอ่ยถ้อยคำที่น่าหดหู่เช่นนั้น” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “พวกเราต้องการกำลังรบทางทะเลมาโดยตลอด วันนี้มีโอกาสได้ฝึกฝนพอดี เรือของพวกเราแข็งแรงทนทานกว่าของพวกเขา อีกทั้งบนเรือเรายังมีกลไกมากมาย จะได้ใช้คนเหล่านี้ทดสอบดูว่าเรือที่ผลิตจากโรงต่อเรือเราใช้การได้ดีหรือไม่”

เรือเหล่านั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

คนเรือเฒ่าไม่ได้เกรงใจอีกต่อไปแล้ว เขากดลงบนปุ่มหนึ่งทันที

เกิดเสียงดังตู้มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทว่าครั้งนี้ลูกตุ้มเหล็กพลาดเป้าไป ไม่ได้ตกใส่เรือ เพียงแค่กระทบลงบนน้ำข้าง ๆ เรือเท่านั้น

ถึงแม้ไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง ทว่าน้ำก็สาดกระเซ็นใส่เรือทำให้คนในเรือเหล่านั้นยังคงได้รับผลกระทบ

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท