สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 681 อย่าปล่อยให้มีอะไรผิดพลาด

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 681 อย่าปล่อยให้มีอะไรผิดพลาด

บทที่ 681 อย่าปล่อยให้มีอะไรผิดพลาด

หนึ่งเดือนถัดมา จงอ๋องจัดการพิธีศพของฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงรับราชกิจในราชสำนัก จัดการฎีกาที่คั่งค้างอยู่ในพระราชวัง

ปัง!

เสียงต่อสู้กันดังขึ้นบนหลังคา

ลู่อี้เดินเข้ามาจากด้านนอก เห็นจงอ๋องกำลังตรวจทานฎีกาอยู่จึงเอ่ยว่า “นี่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว?”

“นับจากวันที่ฮ่องเต้องค์ก่อนถูกฝัง นี่เป็นนักฆ่ากลุ่มที่สิบห้าแล้ว”

“นักฆ่าสิบห้ากลุ่ม ลอบวางยาพิษสิบสองครั้ง อีกฝ่ายยังไม่ตัดใจยอมแพ้จริง ๆ” ลู่อี้นั่งลงตรงข้ามเขา “อีกสามวันท่านก็จะขึ้นครองราชย์แล้ว สามวันนี้สำคัญที่สุด ดังนั้นท่านต้องระวังให้มาก”

“มีท่านมาดูแลที่นี่ ข้าก็วางใจมากแล้ว”

“อย่าได้ประเมินข้าสูงเกินไปนัก” ลู่อี้เอ่ยนิ่ง ๆ “บางครั้งข้าก็เคยทำผิดพลาดเช่นกัน”

“หลังจากข้าขึ้นครองราชย์แล้ว ลูกชายท่านก็ควรกลับมาที่นี่ ในราชสำนักนี้ต้องกำจัดบางคนออกไป ย่อมต้องมีตำแหน่งว่างมากมาย เรียกลูกชายกับน้องชายฮูหยินของท่านกลับมาเถอะ!”

“รอท่านขึ้นครองราชย์แล้วค่อยว่ากัน”

“ฟังจากน้ำเสียงของท่านแล้ว ราวกับไม่แน่ใจว่าข้าจะได้ครองบัลลังก์นี้!”

“ยังไม่ถึงช่วงสุดท้าย ผู้ใดล้วนผ่อนคลายไม่ได้” ลู่อี้เอ่ย “ข้ารู้สึกว่าการแสดงดี ๆ ฉากนี้คงไม่สิ้นสุดเร็วนัก”

สามวันต่อมา พิธีขึ้นครองราชย์มีการจัดขึ้นตามกำหนด

กรมพิธีการรับผิดชอบการดำเนินงานทั้งหมด

ลู่อี้เห็นฉีเซียวเดินผ่านมาจึงร้องเรียกเขาเอาไว้ “ใต้เท้าฉี”

ฉีเซียวหยุดฝีเท้าลง

“ใต้เท้าลู่”

“วันนี้ข้าคงต้องรบกวนใต้เท้าฉีสังเกตคนรอบ ๆ หน่อยแล้ว โดยเฉพาะเซวียนอ๋อง จะต้องจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด”

“ใต้เท้าลู่วางใจ เรื่องฮ่องเต้องค์ใหม่ถือเป็นการตกลงที่สิ้นสุดแล้ว ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดทำลายพิธีการอย่างแน่นอน”

เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ เขาต้องนำขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหมดของราชวงศ์คำนับฟ้าดินและหอสักการะบรรพชน ลู่อี้และขุนนางคนอื่น ๆ คุกเข่าลงฟังเสนาบดีกรมพิธีการกล่าวคำสรรเสริญ

ภายในอากาศ กลิ่นหนึ่งคลุ้งขึ้นมาดึงความสนใจจากลู่อี้

เขาลอบเงยหน้าขึ้น มองคนสนิทของตนซึ่งอยู่ไม่ไกล

คนสนิทเห็นสัญญาณจากเขาจึงรีบนำคนไปตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ ทันที

ทันทีที่พิธีเริ่มขึ้นย่อมไม่อาจขัดจังหวะได้ ลู่อี้ไม่มีวิธีตระเตรียมกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตน ทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาตรวจสอบเอง โชคดีที่ลูกน้องของเขาไม่ได้โง่เขลา พวกเขารู้ว่ามีปัญหาบางอย่างผ่านการสบตาจึงค่อย ๆ ตรวจสอบไปทีละอย่าง

“นายท่านเซี่ย ดูจากสายตาสื่อความหมายของใต้เท้าลู่แล้วที่นี่มีปัญหา พวกเราจะตรวจสอบอย่างไร?”

“พวกเจ้าไม่ได้กลิ่นแปลก ๆ หรือ?”

“ไม่นะขอรับ”

“ไม่?” เซี่ยคุนสูดกลิ่นในอากาศดู “มีกลิ่นแปลก ๆ จริง กลิ่นนั้นมาจากแท่นพิธี”

“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี? พิธีเริ่มขึ้นแล้ว ไม่อาจล้มเลิกกลางคัน หากมีปัญหาจริง ๆ ฝ่าบาทอยู่ใกล้แท่นพิธีนั้นที่สุด เช่นนั้นก็อันตรายอย่างยิ่งแล้ว”

“กลิ่นนี้คงเป็นกลิ่นของกำมะถัน บนแท่นพิธีนี้ มีเพียงตำแหน่งเดียวที่ใหญ่พอจะซ่อนกำมะถันจำนวนมากเอาไว้ได้ นอกจากกำมะถันแล้ว ย่อมต้องมีสิ่งที่ใช้จุด ไม่เช่นนั้นจะระเบิดได้ไม่ทันเวลา พวกเจ้าแยกกันตรวจสอบ จะต้องควบคุมสถานการณ์เอาไว้ให้ได้!”

“ขอรับ!”

เซี่ยคุนมองไปทางเซวียนอ๋อง

เขาดูไม่แตกต่างจากขุนนางคนอื่น ๆ นัก ราวกับยอมรับในชะตากรรมนี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายต่อสู้เพื่อราชบัลลังก์มานานเพียงนี้ จะยอมแพ้ไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

“นายท่านเซี่ย มีบางอย่างผิดปกติ ที่นี่เงียบเกินไปแล้วขอรับ”

“ไม่ผิด เงียบเกินไปแล้วจริง ๆ ระวังถูกซุ่มโจมตี พวกเจ้ารีบแยกกันตรวจสอบประเดี๋ยวนี้ หาว่ายังมีอันตรายใดซ่อนเร้นอยู่อีก!”

“นายท่านเซี่ย ข้าพบช่องทางลับ ที่นี่เกรงว่า…”

ในตอนนี้เอง เสียงของลู่อี้ก็ขัดเสนาบดีกรมพิธีการที่กำลังอ่านคำกล่าวสรรเสริญขึ้นมา

“ระวัง!”

ลู่อี้พุ่งเข้าไปหาจงอ๋อง พาจงอ๋องกลิ้งออกไปไกล

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น

ผืนดินสั่นสะเทือนอย่างแรง

“กรี๊ด!!!!!”

หลังจากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้นมาหลายครั้งติดกัน ผู้คนที่อยู่ใกล้แท่นพิธีนั้นถูกแรงระเบิดกระแทกจนปลิวออกไปไกล

เซวียนอ๋องมองภาพจงอ๋องหลบระเบิดที่โดนเข้าอาจถึงตายลูกนั้นด้วยสีหน้าไม่น่าดูชม

เขาเหลือบมองขุนนางที่อยู่ในกลุ่มคน

“บัดซบ!” เซี่ยคุนกล่าว “รีบคุ้มครองฝ่าบาทออกจากที่นี่ประเดี๋ยวนี้”

เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ล้วนตื่นตกใจ หวาดกลัวระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ลู่อี้พยุงลู่เซวียนไว้แล้วเอ่ย “ไป!”

“คิดจะไปหรือ? ไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้นกระมัง” แม่ทัพเฉินคุนหัวเราะเย้ยหยัน “จงอ๋องโหดเหี้ยมทารุณ คนเช่นนี้ มีสิทธิ์อะไรมาปกครองบ้านเมือง? แทนที่จะปล่อยให้เขาขึ้นครองบัลลังก์และทำให้ราษฎรทุกข์ร้อน ไม่สู้ผดุงคุณธรรมแทนฟ้าเสียบัดนี้ดีกว่า!”

จงอ๋องก็ไม่ใช่พวกกินพืชเช่นกัน

วันนี้ขึ้นครองบัลลังก์ เดิมทีก็ตระเตรียมกายไว้พร้อมสรรพแล้ว ข้างกายล้วนเต็มไปด้วยยอดฝีมือ

จงอ๋องเอ่ยด้วยท่าทีสงบ “เฉินคุน ตอนที่เราอยู่ชายแดน มีคนใช้อุบายต่าง ๆ นานา เกรงว่าคนผู้นั้นจะเป็นเจ้ากระมัง?”

ในสนามรบ เฉินคุนเป็นหนึ่งในรองผู้บัญชาการ

“ไม่ผิด เป็นข้าที่เตรียมการ ผลสุดท้ายเจ้าก็ยังไม่ตาย!” เฉินคุนทำผิดแล้วไม่แก้ตัว

การระเบิดเมื่อครู่นี้ เดิมทีควรโดนจงอ๋อง ผลที่ได้คือจงอ๋องกลับหลบได้อย่างหวุดหวิด

ด้วยฝีมือของจงอ๋อง ของเพียงไม่ถูกผู้อื่นมัดเอาไว้ เพียงปกป้องตนเองในช่วงเวลาคับขันย่อมไม่มีปัญหา

ตู้ม! เกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้ง

ขุนนางบุ๋นบู๊ต่างร้องเสียงดังลั่น

ทุกคนหันกลับไปมอง เห็นเพียงคนของเฉินคุนควบคุมตัวขุนนางเหล่านั้นเอาไว้ ขณะที่ฉีเซียวและคนของเขาเผชิญหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

“เฉินคุน ระเบิดเมื่อครู่นี้หากทำสำเร็จในครั้งเดียว วันนี้พวกเราย่อมพ่ายแพ้แล้ว ทว่าเจ้าโชคไม่ดีนัก ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย” จงอ๋องยิ้มเยาะ “จับเขา ข้าต้องการให้จับเป็น!”

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เป็นไปอย่างที่คิด

เฉินคุนถูกควบคุมตัวเอาไว้แล้ว

คนของเฉินคุนก็ถูกควบคุมตัวไว้แล้วเช่นกัน

พวกเขาพบระเบิดมากมายอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังพบกองกำลังที่ซ่อนตัวอยู่เป็นจำนวนมาก

ลู่อี้และจงอ๋องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ พวกเขาตรวจสอบแท่นพิธีล่วงหน้า ก่อนหน้านี้ของเหล่านั้นเดิมทีควรถูกซ่อนไว้ในช่องทางลับ ทว่าหลังจากมีคนตรวจสอบแล้ว พวกเขาจึงลอบฝังไว้ใกล้ ๆ แท่นพิธี

ความวุ่นวายโกลาหลทำให้พวกเขาพลาดโอกาส

อย่างไรก็ตาม พิธีขึ้นครองราชย์ไม่อาจหยุดกลางคัน ยังคงต้องดำเนินต่อไป

พิธีต่อจากนี้ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นอีก

หลังจากจบพิธี จงอ๋องก็กลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่อย่างเป็นทางการ

“เฉินคุนยืนกรานว่าตนเองไม่พอใจฝ่าบาทจึงคิดทำลายพิธี” ฉีเซียวเอ่ย “เขาปากแข็งทีเดียว อย่างไรก็ไม่ยินยอมเปิดโปงเรื่องเซวียนอ๋องออกมา”

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเซวียนอ๋องหรือไม่ พวกเราทุกคนล้วนรู้ดีแก่ใจ เพียงแต่เฉินคุนไม่ยอมเปิดปาก พวกเราก็หาหลักฐานมาไม่ได้ ไร้หนทางที่จะจัดการเซวียนอ๋อง”

“ไม่รีบร้อน เซวียนอ๋องอยากเล่น พวกเราค่อย ๆ เล่นเป็นเพื่อนเขาก็พอแล้ว” ฟ่านหยวนซีเอ่ยอย่างสุขุม “วันนี้ไม่ต้องไปไหน ขุนนางที่รักทั้งสองท่านอยู่เป็นเพื่อนเจิ้น ดื่มสุราสักสองสามจอกเถิด”

ลู่อี้และฉีเซียวมองหน้ากัน

“เกรงว่าใต้เท้าฉีจะไม่ว่าง” ลู่อี้เอ่ย “หน่วยลับของเขารับรองคนของเฉินคุนต่อไปไม่ไหวแล้ว หน่วยลับจำเป็นต้องไต่สวนพวกเขาทั้งคืน ผู้ที่ควรได้รับบทลงโทษก็ลงโทษ ผู้ที่ควรตายก็ตัดสินประหารชีวิต”

“เช่นนั้นเจ้ารั้งอยู่กับเจิ้น”

“กระหม่อมก็ไม่ว่างเช่นกัน” ลู่อี้ลุกขึ้นยืน “ใต้เท้าหลายท่านได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งใต้เท้าเหล่านั้นไม่อาจจัดการงานราชการได้ กระหม่อมที่เป็นอัครมหาเสนาบดีที่แต่งตั้งใหม่ ย่อมต้องหาคนมาเติมเต็มตำแหน่งที่ว่างเว้นไว้”

“เจ้าที่เป็นอัครมหาเสนาบดีใหม่ยุ่งกว่าเราอีกหรือ?” ฟ่านหยวนซีไม่พอใจ “นอกจากนี้ ใต้เท้าฉี ข้าจะมอบหน้าที่ให้เจ้าดูแลองครักษ์แห่งวังหลวงด้วย!”

“ฝ่าบาท กระหม่อมมีเพียงหน่วยลับก็พอแล้ว” ฉีเซียวปฏิเสธ

“เช่นนั้นเราจะมอบบรรดาศักดิ์ให้เจ้า ในเมื่อครั้งนี้เจ้าทำความชอบใหญ่หลวง เราจะมอบบรรดาศักดิ์ป๋อ*[1] เจวี๋ยให้เจ้า” ฟ่านหยวนซีกล่าว

[1] ป๋อ คือ หนึ่งในบรรดาศักดิ์ 5 ขั้น อันได้แก่ อ๋อง กง โหว ป๋อ จื่อ หนาน บรรดาศักดิ์ป๋อน่าจะเทียบเคียงได้กับตำแหน่งพระยาของไทย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท