สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 710 ตรวจหาสาเหตุพบแล้ว

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 710 ตรวจหาสาเหตุพบแล้ว

บทที่ 710 ตรวจหาสาเหตุพบแล้ว

“ท่านพูดจาให้มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไร?” ลู่จื่ออวิ๋นพึมพำ

“หากข้าเอ่ยดี ๆ คุณหนูลู่จะยอมฟังหรือ?” เซี่ยเฉิงจิ่นเดินยกอาหารเข้ามา “มาเถอะ ข้าจะปรนนิบัติเจ้า นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าปรนนิบัติคนเชียวนะ”

“ไม่จำเป็น เพียงแค่ให้สาวใช้ปรนนิบัติข้าก็ได้แล้ว” ลู่จื่ออวิ๋นไม่คิดจะให้เขาปรนนิบัติ นี่มันรู้สึกแปลกเกินไปแล้ว

โดยเฉพาะเขาที่หน้าตาหล่อเหลาเพียงนั้น แต่นางกลับกลายมาเป็นคนอัปลักษณ์ ทว่าเขาก็ยังเข้ามาใกล้เพียงนี้ คุณหนูลู่พลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ทำตัวไม่ถูกยิ่ง

“คุณหนูลู่คงไม่ได้อายกระมัง?” เซี่ยเฉิงจิ่นเดินเข้ามา “ไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าไม่มีร่องรอยใด ๆ บนใบหน้า ถึงแม้จะมี ข้าก็ไม่รู้สึกว่าเจ้าอัปลักษณ์”

“ผู้ใดอาย?!” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “หญิงชายไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน ท่านหาสาวใช้มาให้ข้าสักคนเถิด”

“เพื่อป้องกันไม่ให้โรคระบาดลุกลามไปมากกกว่านี้ การไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาในห้องจะดีกว่า ทานเถอะจะได้มีเรี่ยวแรงต่อสู้กับโรค”

จู่ ๆ ลู่จื่ออวิ๋นก็รู้สึกว่าไม่รู้สึกตัวก็ดีเช่นกัน จะได้ไม่ต้องจ้องตากับเซี่ยเฉิงจิ่นเช่นนี้ นับประสาอะไรกับการอยู่ตามลำพังกับเขาตั้งแต่เช้าจรดเย็นเล่า

นางค่อย ๆ เคลื่อนตัวลุกจากเตียง

เซี่ยเฉิงจิ่นกำลังตัดแต่งดอกไม้อยู่ตรงนั้น เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเขาจึงหันมามอง เห็นเพียงนางกำลังลุกออกจากเตียง ท่านอ๋องจิ่นจึงวางของในมือลง เดินเข้ามาจับไหล่นาง “ต้องการอะไร? เจ้าอยากดื่มน้ำหรือ?”

“ไม่ใช่” ใบหน้าของลู่จื่ออวิ๋นค่อย ๆ แดงเรื่อขึ้นมา “ท่านออกไปก่อน”

เซี่ยเฉิงจิ่นเข้าใจทันที “เข้าห้องส้วมหรือ?”

“เซี่ยเฉิงจิ่น!” ลู่จื่ออวิ๋นทั้งกระดากอายทั้งขายหน้า “ท่านเพียงไม่เอ่ยออกมาไม่ได้หรือไร?”

“คนมีเรื่องเร่งด่วนสามประการ นี่คือเรื่องธรรมดา เหตุใดจะเอ่ยออกมาไม่ได้?” เซี่ยเฉิงจิ่นพยุงนางลุกขึ้นจากนั้นก็พาไปหยุดอยู่ตรงหน้าถังอุจจาระก่อนจะออกไป “ค่อย ๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองล้มเล่า”

หลังออกมาจากห้องแล้ว เซี่ยเฉิงจิ่นกระแอมเบา ๆ เพื่อปกปิดสีแดงเรื่อบนใบหน้าหล่อเหลาของตน

การอยู่กับลู่จื่ออวิ๋นเพียงลำพังไม่ได้มีเพียงนางเท่านั้นที่ทำตัวไม่ถูก ภายในใจเขาก็ไม่ได้สงบไร้คลื่นลมอย่างที่แสดงออกมาเช่นกัน

“ท่านอ๋อง หาสาเหตุพบแล้วขอรับ! สามารถช่วยคุณหนูได้แล้ว!” ลู่เยี่ยวิ่งมาด้วยความตื่นเต้นยินดี “ท่านหมอให้ยาคนไข้คนอื่น ๆ แล้ว อาการของพวกเขาล้วนดีขึ้น”

“พบสาเหตุแล้วหรือ?!”

“ตรวจสอบออกมาได้แล้วขอรับ” ลู่เยี่ยเอ่ย “ต้องขอบคุณท่านอ๋อง หากไม่ใช่เพราะท่านสังเกตเห็นว่าน้ำชานั้นรสชาติผิดปกติ ถึงแม้พวกเขาจะพยายามเพียงใด ท่านหมอคงหาไม่พบว่าต้นตอของโรคมีที่มาจากน้ำ”

“น้ำมีปัญหาหรือ?” เซี่ยเฉิงจิ่นเอ่ยถาม “ในน้ำมีอะไร?”

“ที่นี่มีเขาหวงหลาง บนเขาแห่งนั้นมีน้ำพุที่หวานชุ่มคอ ผู้คนที่นี่ล้วนชอบนำน้ำจากน้ำพุนั้นมาชงชา ท่านอ๋องพบว่าในน้ำนั้นมีบางอย่างผิดปกติจึงนำไปให้ท่านหมอดู ท่านหมอพบว่าน้ำนั้นเป็นพิษสูงจึงตามเบาะแสจนพบน้ำพุแห่งนั้น ข้างบ่อน้ำพุมีหญ้าพิษขึ้นอยู่รอบ ๆ ดอกของหญ้าพิษนั้นบาน กลีบของมันจึงหล่นลงไปในน้ำ หลังจากตักน้ำนั้นมาใช้ก็มีคนล้มป่วย เถ้าแก่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็ชอบใช้น้ำจากน้ำพุนั้นมาชงชาเช่นกัน บางทีคืนนั้นคุณหนูอาจดื่มมัน นางจึงถูกพิษเข้า”

“หลายวันมานี้เหตุใดไม่มีคนถูกพิษ?”

“ข้าถามเถ้าแก่ เขาบอกว่าหลายวันมานี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ใจเขาห่อเหี่ยวจึงเกียจคร้านแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ไม่มีหญ้าพิษนั้นหรือ?”

“ไม่มีขอรับ” ลู่เยี่ยเอ่ย “คนที่ไปตักน้ำกล่าวว่าหญ้าพิษนั้นราวกับเพิ่งงอกขึ้นมา ก่อนหน้านี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตามหากมันเพิ่งงอกขึ้นมาจะบานเร็วเพียงนี้ได้อย่างไร? มันควรจะอยู่ที่นั่นนานแล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็น”

“เจ้าไปที่เขาหวงหลางเก็บต้นหญ้าพิษนั้นกลับมาให้ข้า เรายังต้องตรวจสอบว่าหญ้าพิษนี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่ ที่แท้เป็นธรรมชาติสร้างขึ้นมา หรือมีคนคิดจะสร้างความวุ่นวายกันแน่”

“ท่านอ๋อง ท่านสงสัยว่ามีคนจงใจทำร้ายคุณหนูหรือขอรับ?”

“ความเป็นไปได้ที่จะลอบสังหารข้านั้นมีมากกว่า การเดินทางครั้งนี้ของข้ากำหนดไว้แล้วว่าต้องไม่ราบรื่น ดังนั้นยามพบอันตราย สิ่งที่ข้าสงสัยเป็นอย่างแรกก็คือมีคนจงใจทำร้ายข้า เมืองเหอผิงเป็นเมืองที่ข้าต้องเดินทางผ่าน อีกทั้งโรงเตี๊ยมแห่งนี้ยังใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในเมือง มีความเป็นได้สูงว่าข้าจะพักที่นี่ อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะดื่มชานั้น”

“นอกจากนี้ แม้ข้าจะไม่ดื่มน้ำชา อีกฝ่ายก็ยังคงหาทางให้ข้าดื่มได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าโรคจะแพร่กระจายไปเร็วเพียงนี้ ข้าจะไม่ให้คุณหนูของพวกเจ้าออกไปข้างนอก เพื่อความปลอดภัย พวกเราต้องทำอาหารสามมื้อต่อวันกินเอง อาหารและน้ำที่เราดื่มกันล้วนต้องผ่านการตรวจสอบจากท่านหมอ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้า แท้จริงแล้วจะคาดเดาถูกหรือไม่ หญ้าพิษจะให้คำตอบเอง”

“ข้าน้อยจะไปตรวจสอบประเดี๋ยวนี้!”

เซี่ยเฉิงจิ่นหันกลับไป พบว่าลู่จื่ออวิ๋นยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่านานเพียงใดแล้ว

“ได้ยินแล้วหรือ?”

“อืม”

“ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลแล้ว เพียงแค่เราหาที่มาของโรคพบ อีกไม่นานก็สามารถปรุงยาถอนพิษออกมาได้”

“หากพวกเขามาเพราะท่านจริง ๆ ครั้งนี้อีกฝ่ายทำไม่สำเร็จ จะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งถัดไปรอท่านอยู่เป็นแน่ จากที่นี่ไปถึงอาณาจักรเฟิ่งหลินยังอีกยาวไกล เช่นนั้นท่านต้องผ่านอันตรายมากเพียงใดจึงจะกลับถึงบ้าน?”

“ท่านพ่อเจ้าสามารถกลับมาตุภูมิได้อย่างปลอดภัย ข้าก็เช่นกัน ตอนนั้นที่อยู่อาณาจักรเหลียง สถานการณ์ของข้าไม่ได้ง่ายดายไปกว่าวันนี้ ข้ายังกลับไปได้แบบมีชีวิต เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ หากข้าฆ่าคน เจ้าจะกลัวข้าหรือไม่?”

“ท่านคิดว่าท่านพ่อข้าเป็นคนอย่างไร?” ลู่จื่ออวิ๋นนั่งลงตรงหน้าต่าง

หลายวันมานี้ร่างกายนางมีตุ่มพุพองมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งบนใบหน้าก็มีขึ้นมาตุ่มหนึ่งแล้ว

เดิมทีนางคิดจะใช้ผมปิดมัน หลังจากลองคิดดูจึงตระหนักได้ว่า ถึงแม้นางจะปิดบังเอาไว้ก็เป็นเพียงการหลอกตนเอง อย่างไรเสียสภาพไม่น่าดูของนางเขาก็เคยเห็นแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก

“อัครมหาเสนาบดีลู่เจ้าแผนการและรอบคอบ เป็นผู้ที่ชาญฉลาดอย่างร้ายกาจผู้หนึ่ง”

“ในอดีตตำแหน่งของท่านพ่อข้าไม่สูงนัก หญิงสกุลสูงศักดิ์เหล่านั้นล้วนดูถูกเหยียดหยามข้าและมารดาทว่าพวกนางไม่กล้ารังแกข้าเพราะความสามารถและวิธีการลงมือของท่านพ่อ การฆ่าฟันคืออะไร? ฆ่าคนอย่างไร้เหตุผลเรียกว่ากระหายเลือด กำจัดอุปสรรคขวางทางเรียกว่าอีกฝ่ายฝีมือด้อยกว่า หากอีกฝ่ายยังล่วงเกินท่าน ท่านจะจัดการอีกฝ่ายหรือไม่? ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายล่วงเกินก็ควรรับผลของการกระทำให้ได้ เหตุใดข้าต้องกลัวท่านด้วยเล่า? ท่านพ่อและท่านพี่ข้าล้วนไม่ใช่คนใจอ่อน ท่านแม่ข้าก็ไม่ใช่ ข้าเองก็ไม่ใช่”

เซี่ยเฉิงจิ่นเอื้อมมือออกไปหมายจะสัมผัสใบหน้าของลู่จื่ออวิ๋น ทว่าสุดท้ายแล้วก็ยกมือเบี่ยงขึ้นไปลูบหัวนางแทน

“ได้ ข้ารู้แล้ว”

หากต้องปกครองผู้อื่น มือผู้ใดไม่เคยเปื้อนเลือดบ้าง?

ในเมื่อต้องการแย่งชิงตำแหน่งนั้นก็อย่าคิดหวังว่าจะได้ป้ายประกาศของคนดี

แน่นอนว่าเซี่ยเฉิงจิ่นเองก็ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นแม้แต่น้อย

ผู้อื่นจะกล่าวอย่างไร เขาไม่ได้สนใจ ผู้อื่นจะมองอย่างไร เขาก็ไม่ได้สนใจ

เขาเพียงแค่ไม่อยากเห็นแววตาหวาดกลัวและรังเกียจในสายตาของแม่นางน้อยผู้นี้ ไม่เช่นนั้นทุกสิ่งที่เขาได้มาจะกลับกลายเป็นของน่าเบื่อหน่าย

ท่านหมอรีบนำยามาส่งทันที

ในคืนวันนั้นลู่จื่ออวิ๋นดื่มชาลงไปไม่น้อย ส่วนติงเซียงเพียงแค่จิบหนึ่งคำ

ครานี้เมื่อดื่มยาแล้ว อาการของติงเซียงจึงดีขึ้นก่อน ทว่าตุ่มบนร่างกายยังคงต้องใช้เวลา นางจึงไม่ได้มาหาลู่จื่ออวิ๋น

ลู่เยี่ยส่งหญ้าพิษที่ห่ออยู่ในผ้าเช็ดหน้าให้เซี่ยเฉิงจิ่นแล้วกระซิบเสียงเบา “ท่านหมอบอกว่าสมุนไพรพิษชนิดนี้ไม่อาจโตที่นี่ได้ ดูเหมือนจะมีคนย้ายมันมาที่นี่เสียมากกว่า ดินบริเวณนั้นยังดูเหมือนใหม่ อีกทั้งยังดูเหมือนเพิ่งผ่านมาเพียงครึ่งเดือนขอรับ”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน