สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 721 ไม่ใช่ไม่มีใครกล้าต่อต้าน

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 721 ไม่ใช่ไม่มีใครกล้าต่อต้าน

บทที่ 721 ไม่ใช่ไม่มีใครกล้าต่อต้าน

ตุ้บ! ตุ้บ!

กล่องใบแล้วใบเล่าถูกเปิดออก เครื่องประดับเงินทองข้างในเปล่งแสงระยิบระยับ แม้กระทั่งตายังถูกแสงเจิดจ้านั้นส่องจนไม่อาจลืมขึ้นได้

ท่านแม่ทัพเฉิงกำเพชรพลอยขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วเอ่ยกับคนงานที่อยู่ข้าง ๆ “บอกเถ้าแก่เฝิงของพวกเจ้า สินค้าครั้งนี้ของพวกเจ้าไม่เลวทีเดียว ข้าจะเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงครั้งนี้ เชิญเขามาดื่มสังสรรค์กันที่จวน”

“เจ้านายของพวกเราเตรียมของขวัญที่ยอดเยี่ยมไว้ให้ท่านแม่ทัพแล้ว” คนงานหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาแล้วกระซิบเสียงเบา “นี่เป็นต้าปู่หวาน*[1] ทานแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่มีผลร้ายข้างเคียง”

“โอ้?” แม่ทัพเฉิงรับเอามาตรวจดู จากนั้นจึงเอ่ยด้วยท่าทีเกียจคร้าน “ยังคงเป็นเถ้าแก่เฝิงที่ใส่ใจ”

หลังจากคนของสกุลเฝิงที่มาส่งสมบัติกลับไปแล้ว แม่ทัพเฉิงก็เรียกบ่าวรับใช้ผู้หนึ่ง แล้วสั่งให้เขาเรียกท่านหมอมา

ท่านหมอตรวจสอบยานั้น ก่อนจะยืนยันว่าเป็นเพียงยาบำรุงกำลัง ตัวยาที่ใช้มีสรรพคุณเพียงบำรุง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

“เฝิงฉี่เหนียนผู้นี้นับวันยิ่งรู้ความมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เสียแรงที่หลายปีมานี้ข้าคุ้มครองเขา พาเขามาแสวงหาความมั่งคั่งด้วยกัน”

ตกเย็น แม่ทัพเฉิงจัดงานเลี้ยง ไม่เพียงเชิญเฝิงฉี่เหนียน แต่ยังเชิญคนมีหน้ามีตาในเมืองซื่อไห่มาด้วย คนเหล่านี้ล้วนทำงานร่วมกัน ทั่วทั้งเมืองซื่อไห่ตกอยู่ในกำมือของพวกเขา

“เหตุใดเถ้าแก่เฝิงยังมาไม่ถึงอีก?” มีคนเอ่ยถามขึ้น

“ได้ยินว่าครานี้เถ้าแก่เฝิงสร้างคุณงามความดีใหญ่หลวง คิดว่าคงปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่เป็นแน่!”

“คุณงามความดีใหญ่หลวงหรือ? ไม่นานมานี้เขาปล่อยเหยื่อหลุดรอดไปทำให้ใต้เท้าเฉิงไม่อาจอธิบายกับคนทางนั้น และยังทำให้แม่ทัพเฉิงโมโหใหญ่โต ข้าคิดว่า…”

“ไม่ว่าอย่างไร เถ้าแก่เฝิงก็เป็นถุงเงินของแม่ทัพเฉิง อีกทั้งยังเป็นถุงเงินที่หนาและหนัก แม้เขาจะพลาดไปบ้างบางโอกาส แม่ทัพเฉิงก็ไม่มีทางไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเขา”

คนอื่น ๆ ล้วนโจษจันกัน

หนึ่งในพวกเขาเอ่ยอย่างดูถูก “ก็แค่กระต่ายขายก้นตัวหนึ่ง วิธีการของพวกเขาไม่ควรค่าให้ใช้”

“เถ้าแก่หวัง ระวัง…” ทุกคนเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา

“เอ๊ะ นั่นไม่ใช่มือขวาของเถ้าแก่เฝิงผู้นั้นหรอกหรือ ชื่ออะไรนะ? เจิ้งโหย่วหรง ใช่แล้ว เจิ้งโหย่วหรง!”

“เฝิงฉี่เหนียนไม่มาหรือ?”

ขณะที่แม่ทัพเฉิงกำลังดื่มสุราอยู่นั้นก็เห็นเจิ้งโหย่วหรงเดินเข้ามา ทั้งยังมองเขาด้วยสายตาคู่คม

เจิ้งโหย่วหรงประกบมือขึ้นกล่าว “ท่านแม่ทัพ เจ้านายพวกเราล้มป่วยกะทันหัน ไม่อาจเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ได้จึงให้ผู้น้อยมากล่าวขออภัย ท่านแม่ทัพโปรดอย่าถือโทษ”

“เขาไม่มีบุญปาก มีอะไรให้ต้องขออภัยกัน? เอาละ เจ้าสามารถดื่มแทนเจ้านายสักสองสามจอกได้” ท่านแม่ทัพเฉิงค่อนข้างอารมณ์ดี ย่อมไม่สนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

ข้างกายเจิ้งโหย่วหรงมีผู้ติดตามผู้หนึ่ง

แม่ทัพเฉิงมองมา “คนผู้นี้มาจากเฝิงจี้ของพวกเจ้าหรือ? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นมาก่อน?”

“นี่เป็นน้องชายคนใหม่ขอรับ” เจิ้งโหย่วหรงเอ่ย

แม่ทัพเฉิงย่อมไม่เก็บคนเล็ก ๆ ผู้หนึ่งมาสนใจ เขายังคงดื่ม กิน พูดคุยกับผู้อื่นต่อไป

หลังจากกินดื่มแล้ว อาหารชุดใหญ่ก็ออกมา

อาหารชุดใหญ่ที่ว่าเป็นหญิงสาวเยาว์วัยหน้าตางดงามสะสวยที่ถูกผลักออกมาให้ปรนนิบัติพวกเขา หญิงสาวเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนไม่ได้เต็มใจ ทว่าถูกบังคับฉกชิงมา

ภาพนั้นวุ่นวายไม่ใช่น้อย

เจิ้งโหย่วหรงมองหน้าน้องชายที่อยู่ข้างหลัง

“แม่ทัพ พวกข้ายังมีของขวัญชิ้นใหญ่มาส่งให้!” เจิ้งโหย่วหรงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

แม่ทัพเฉิงกอดสตรีสองคนที่กำลังตื่นตระหนก สายตาอึมครึมของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มสกปรกชั่วช้า

เขาหันไปมองเจิ้งโหย่วหรงแล้วเอ่ยออกมาดัง ๆ “โอ้! ของขวัญอะไรรึ? เฝิงฉี่เหนียนนับวันยิ่งรู้ความ ข้าตั้งตารอจริง ๆ ว่าเขายังจะมีอะไรมาทำให้ข้าประหลาดใจอีก”

เจิ้งโหย่วหรงปรบมือ

จากนั้นก็มีคนนำกล่องหนึ่งเข้ามา

แม่ทัพเฉิงมองกล่องที่วางอยู่หน้าโต๊ะ ผลักหญิงสาวในอ้อมแขนออก ก่อนจะเปิดมันด้วยความลำพองใจ

เห็นเพียงศีรษะมนุษย์โชกเลือดศีรษะหนึ่งข้างในกล่อง

ดวงตาของแม่ทัพเฉิงเบิกกว้าง หลังจากยืนยันอีกครั้งจึงมั่นใจว่าภายในนั้นเป็นศีรษะมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นศีรษะของเฝิงฉี่เหนียน!

เขาลุกขึ้นชักดาบทันที ตะโกนไปทางเจิ้งโหย่วหรง “เด็กน้อย! เจ้าหมายความว่าอย่างไร?!”

“แม่ทัพเฉิง ท่านไม่ได้ชอบเถ้าแก่เฝิงของพวกเรามากหรือ? ตอนนี้ข้านำศีรษะของเถ้าแก่เฝิงมาส่งให้ท่าน ท่านควรจะดีใจจึงจะถูก” เจิ้งโหย่วหรงเอ่ย

คนอื่น ๆ เริ่มสังเกตเห็นแล้วว่ามีสิ่งผิดปกติ

ศีรษะมนุษย์?

ศีรษะเถ้าแก่เฝิง?

พวกเขาลุกขึ้นด้วยความหวาดกลัว ไม่หลงเหลือความสนใจที่จะแตะหญิงสาวข้าง ๆ แม้แต่น้อย

เจิ้งโหย่วหรงมองหญิงสาวเหล่านั้น “ยังไม่ไปอีก!”

หญิงสาวเหล่านั้นกรีดร้องแล้ววิ่งหนีไปทันที

ทั่วทั้งห้องโถงพลันเงียบลง

เจิ้งโหย่วหรงมองท่านแม่ทัพเฉิง “ต้าปู่หวานอร่อยหรือไม่?”

“เฝิงฉี่เหนียนไม่ได้มอบต้าปู่หวานให้ข้า เป็นเจ้าที่มอบให้? เจ้าใส่อะไรลงไปในต้าปู่หวาน?!” แม่ทัพเฉิงจ้องมองด้วยสายตาดุร้าย

“แม่ทัพเฉิงฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร ข้าจะกล้าใช้อุบายกับท่านได้อย่างไร? ท่านจะต้องให้ท่านหมอตรวจสอบอย่างแน่นอน ต้าปู่หวานนั้นเป็นต้าปู่หวานจริง ๆ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทว่าวันนี้มีอาหารมากมายนัก ต้าปู่หวานมีตัวยาที่เป็นพิษกับอาหารบนโต๊ะ…”

“เด็ก ๆ! เด็ก ๆ!” แม่ทัพเฉิงตะโกนขึ้น

“ท่านแม่ทัพ” ชายร่างกำยำผู้หนึ่งสาวเท้าเข้ามา “ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”

“เกาอู่ เจ้าจับเจ้าโจรคนนั้นเร็วเข้า!” แม่ทัพเฉิงเห็นเกาอู่ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เกาอู่ประกบมือตอบ “ขอรับ”

ชิ้ง! เกาอู่พาดดาบลงไปบนคอแม่ทัพเฉิง

“เกาอู่ เจ้า…” แม่ทัพเฉิงเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา “ข้าให้ความสำคัญกับเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้ายังทรยศข้า”

ในตอนนี้เอง ทหารมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาจากข้างนอก

ทหารเหล่านั้นจับ ‘แขก’ เป็นตัวประกัน

“ให้ความสำคัญกับข้าอย่างนั้นหรือ?” เกาอู่เหยียดหยัน “น้องสาวของข้าบริสุทธิ์สดใสเพียงนั้น เดิมทีนางมีคู่หมั้นคู่หมายที่ดี ท่านต้องตานาง ฉวยโอกาสที่ข้าไม่อยู่ส่งคนไปฉุดนางเข้าเรือนหลัง ทำให้นางเป็นอนุของท่าน ตอนนั้นข้าต้องการพานางไป ถึงแม้ข้าจะไม่ได้ยศได้ศักดิ์ ขอเพียงแค่ได้อาศัยอยู่กับนางอย่างสงบก็พอ ทว่าน้องสาวผู้โง่เขลาของข้านั้น เพื่อที่จะไม่ทำร้ายข้า นางกลับฆ่าตัวตายไปเช่นนั้น”

“ที่แท้เจ้าก็โกรธแค้นข้ามาตลอด แต่กลับเสแสร้งได้เก่งนัก หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ข้ายังคิดจะตัดรากถอนโคน แต่เจ้ากลับแสดงความภักดีของเจ้าต่อข้า ส่งน้องสาวอีกคนมาให้ข้า”

“น้องสาว? นางเป็นเพียงหญิงจากหอโคมเขียวผู้หนึ่งเท่านั้น” เกาอู่เยาะเย้ย “นั่นเป็นเครื่องมือที่ข้าใช้หลอกเจ้า”

“เจ้าเกาอู่ตัวดี ข้าถูกเจ้าหลอกมาหลายปีเพียงนี้เชียวรึ!”

เกาอู่เอ่ยกับชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเจิ้งโหย่วหรง “ท่านอ๋อง คนผู้นี้ถูกควบคุมไว้แล้ว ต่อจากนี้ทำเช่นไร ขอท่านอ๋องโปรดสั่งการ”

“ท่านอ๋อง? ท่านอ๋องอะไร?” แม่ทัพเฉิงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา

คนผู้นั้นถอดหมวกคลุมออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา

“ท่านแม่ทัพเฉิงส่งคนไปเชิญข้าไม่นานมานี้ ส่งคนไปชุดแล้วชุดเล่า เหตุใดวันนี้จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักได้เล่า?” เซี่ยเฉิงจิ่นยิ้มออกมา “ของขวัญชิ้นใหญ่วันนี้ ท่านแม่ทัพเฉิงชอบหรือไม่?”

“ท่านอ๋องจิ่น นี่เป็นเรื่องที่ท่านเตรียมการมาอย่างนั้นหรือ ท่านทำได้อย่างไร?”

“เมืองซื่อไห่อยู่ในการควบคุมของเจ้า ทุกคนเพียงแค่ปกป้องตนเองจึงไม่กล้าเสี่ยงต่อต้าน อย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนเป็นมนุษย์ ย่อมมีความโกรธแค้นความชิงชัง ในฐานะรองผู้บัญชาการของเจ้า เกาอู่ดูเหมือนซื่อสัตย์ ทว่าอันที่จริงแล้วเขามีคนของตน ข้าพบว่าเขาได้ฝึกฝนคนของตน ทั้งยังรู้ว่าคนผู้นี้จะเป็นแนวร่วมที่ดี ส่วนเจิ้งโหย่วหรง… ความสามารถของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเฝิงฉี่เหนียนและมีความทะเยอทะยาน ดังนั้นการที่ข้าจะหาพรรคพวกได้ไม่ใช่เรื่องปกติหรอกหรือ?”

“ขอบคุณคำชื่นชมของท่านอ๋อง” เจิ้งโหย่วหรงประกบมือคารวะ

“ไม่ต้องเกรงใจ ภายหน้ายังมีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือจากท่านอีกมาก ทำให้ดีเถิด!” เซี่ยเฉิงจิ่นเอ่ย “ต่อจากนี้ท่านแม่ทัพเฉิงต้องเดินทางแล้ว”

“เจ้าคิดจะทำอะไร?!” แม่ทัพเฉิงขยับตัว ทว่าเขาสูญสิ้นพลังกายพลังใจไปแล้ว กล่าวอีกอย่างคือ เขากลายเป็นคนไร้ค่าผู้หนึ่ง

“ท่านแม่ทัพเฉิงในฐานะกองทหารรักษาการณ์เมืองซือไห่ แน่นอนว่าต้องทำหน้าที่ของท่าน อย่างเช่นปราบปรามโจร…” เซี่ยเฉิงจิ่นสะบัดมือ “ไปเถอะ! พวกเราส่งแม่ทัพเฉิงไปปราบโจร”

[1] ต้าปู่หวาน ตามตำรับยาแพทย์แผนจีนมีสรรพคุณลดไข้ ช่วยเรื่องขาอ่อนแรง เหงื่อออกขณะหลับ บำรุงสุขภาพร่างกาย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน