ตอนที่ 1920 อีกสามชั้นของหอคอยเปิดออก
หลิงฮันไม่คาดคิดแม้แต่น้อย ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่หอคอยน้อยว่า จะหมายถึงการที่หอคอยทมิฬสามชั้นที่เหลือเปิดออกพร้อมกัน!
“ครืนนน” หอคอยสามภพล่องลอยอยู่ภายในตันเถียนของเขา ชั้นทั้งเก้าของหอคอยส่องแสงสว่างเจิดจ้า ราวกับกําลังกําราบสวรรค์ด้วยออร่าที่ส่งผ่านมายังยุคบรรพกาล
“หืม?”
ราชานิรันดร์หย่งชางขมวดคิ้ว เมื่อครู่จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันทรงพลังที่อยู่เหนือระดับพลังของเขาไปไกลหลายขุม
ราชานิรันดร์ระดับเก้า!
หรือบางทีอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่านั้นอีก
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความตกตะลึง ราวกับเรื่องประหลาดเช่นนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น
มือและเท้าของหลี่ว์ไห่หรงสั่นสะท้าน กลิ่นอายนี้ นางเคยพบเจอมาก่อน!
หรือจะเป็นผู้อาวุโสท่านนั้น?
ภายในภูเขา หลิงฮันยกหมัดขึ้นสูงและโจมตีใส่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ซึ่งการกระทําของเขา ส่งผลให้อํานาจของอสนีบาต,อสุนีบาตที่ผ่าลงมารุนแรงกว่าเดิม อันที่จริงเขาไม่ต้องรีบทําการตัดขาดสวรรค์และปฐพีก็ได้ หากรอให้เวลาเกือบครบหนึ่งวันและตัดผ่านนิพพานละก็ แม้ในตอนนั้นสวรรค์และปฐพีจะเกรี้ยวกราด แต่อย่างมาก พลังทําลายของอสนีบาต, อสุนีบาตก็จะคงอยู่ เพียงชั่วครู่ และสามารถผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ไปได้อย่างไม่ยากเย็น
เพียงแต่หลิงฮันไม่ทําเช่นนั้น เขาต้องการทดสอบความน่าสะพรึงกลัวของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปยังจุดสูงสุดของศาสตร์วรยุทธ เขาจําเป็นต้องอยู่เหนืออัจฉริยะทั้งมวล เพ ราะงั้นเขาจึงอยากพิชิตศัตรูที่อัจฉริยะคนอื่นไม่อาจเอาชนะได้ให้ได้
“ตูม!”
เพียงแค่การตอบโต้กับสวรรค์เพียงครั้งเดียว หลิงฮันก็รู้สึกชาไปทั่วแขนและเผยสีหน้าตกตะ ลึงเล็กน้อย อย่างที่รู้กันว่ากายหยาบของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน แม้แต่ปรมาจารย์ระดับ ตัดวิญญาณหยิน ก็ยากที่จะทําให้เขาบาดเจ็บ แต่ตอนนี้แขนของเขากลับรู้สึกชาเพียงแค่รับการโจมตีหนึ่งครั้ง
เพียงแต่ ก็ยอดเยี่ยมนัก!
หลิงฮันรู้สึกว่าภายในร่างกายของเขาในตอนนี้ เอ่อล้นไปด้วยพลังที่น่าเกรงขาม หลังจากที่ตัดขาดกับสวรรค์และปฐพีแล้ว ตันเถียนของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาด เขาไม่จําเป็นต้องชี้นําพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีมาควบแน่นเป็นปราณก่อเกิดอีกต่อไป
หลิงฮันคํารามและกระหน่ำปล่อยหมัดตอบโต้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ อํานาจต้นกําเนิดอย่างเพลิงเก้าสวรรค์และวารีพลังหยินเร้นลับ ถูกปกคลุมไปด้วยหมัดของเขา และสร้างตราประทับแห่งเต๋าที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน ทางด้านของจักรพรรดินีนั้น เมื่อทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ใกล้จะถึงเวลาสิ้นสุด นางก็ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาเพื่อตัดขาดสวรรค์และปฐพี นางรอจนกระทั่งอสนีบาต อสุนีบาต ระลอกสุดท้ายผ่าลงมา ถึงค่อยตัดนิพพานสู่ห้านิพพาน
ในเมื่อทั้งสองรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์พร้อมกัน หากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของจักรพรรดินี้สิ้นสุด ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของหลิงฮันเองก็ต้องสิ้นสุดเช่นกัน
เมฆสายฟ้าสองก้อนกระจัดกระจายหายไปอย่างพร้อมเพรียง หลิงฮันกับจักรพรรดินี้หันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม
บรรลุห้านิพพานสําเร็จ!
จากนี้เป็นต้นไป ในที่สุดทั้งสองก็ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในระดับของอัจฉริยะแนวหน้าเสียที
“เจ้าหนู อย่าเพิ่งเหลิงจนเกินไป แม้แต่ในระดับห้านิพพาน ก็ยังมีความแตกต่างของพลังอยู่อีก” หอคอยน้อยกล่าวเตือน
หลิงฮันพยักหน้า ดูจากพวกเอี๋ยนเซียนลู่ ซานจี้ถง และเหลาซงเป็นตัวอย่างก็ได้ ในหมู่พวกเขาทั้งสามเห็นได้ชัดว่า เอี๋ยนเซียนลู่นั้นแข็งแกร่งที่สุด บางทีความแตกต่างของพลังต่อสู้อาจจะไม่ใช่แค่หนึ่งดาวด้วยซ้ํา
การที่เพิ่งบรรลุผ่านระดับห้านิพพาน ก็เหมือนกับเพิ่งก้าวผ่านธรณีประตู หลังจากนี้พวกเขา จะก้าวเดินต่อไปได้อีกไกลแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง
“หอคอยทมิฬอีกสามชั้นเปิดออกแล้ว มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างงั้นรึ?” หลิงฮันเอ่ยถาม
“เจ้าสามารถเร่งการไหลของกระแสเวลาได้” หอคอยน้อยกล่าว “อย่างสมุนไพรนิรันดร์ที่ถูกปลูกความเร็วในการเจริญเติบโตก็จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า และหากบีบระยะให้แคบลง การไหลลงของกระแสเวลาก็จะถูกเร่งได้ถึงพันเท่า”
หลิงฮันชะงักก่อนจะเผยท่าทีตื่นเต้น “นั่นหมายถึงหากข้าหลอมเม็ดยาในหอคอยทมิฬ ความเร็วในการหลอมก็จะเพิ่มขึ้นพันเท่านั้นรึ?”
“ไม่ผิด!” หอคอยน้อยพยักหน้า
หลิงฮันยิ้มไม่หุบ ในการวิเคราะห์หรือทําความเข้าใจ ต้นสังสารวัฏคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพียงแต่อํานาจของต้นสังสารวัฏนั้น ช่วยเร่งแค่ระยะเวลาภายในห้วงความคิดเท่านั้น แต่ถ้าหากต้องการเร่งหัวงเวลาของร่างกายจริงๆ จําเป็นที่จะต้องพึ่งพาอํานาจของหอคอยทมิฬ
“นอกจากนั้น เจ้าก็ยังสามารถขึ้นําพลังส่วนหนึ่ง อย่างอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลา อํานาจ แห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารจากหอคอยทมิฬใช้ได้”
หอคอยน้อยกล่าวต่อ “เอาล่ะ เลิกยุ่งกับข้าได้แล้ว ข้าต้องใช้เวลายกระดับตนเองเพื่อปรับตัวเข้ากับความสามารถใหม่อีก”
หอคอยอวดดีตนนี้ ยังคงพูดจาไม่เข้าหูเหมือนเคย
หลิงฮันเลือกที่จะเมินเฉย
เขายิ้มไปยังจักรพรรดินี “ไปกันต่อเถอะ”
ถึงแม้พวกเขาจะเสียเวลาไปสิบกว่าวัน แต่ก็ใช่ว่าจะไปถึงยอดเขาเป็นคนแรกไม่ได้ เนื่องจากขนาดพวกเขาใช้เวลามาหลายเดือนแล้ว ก็ยังไม่สามารถขึ้นไปยังยอดเขาได้แค่ระยะเวลาสิบวัน ถึงแม้จะมีผลบ้างแต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร
อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครไล่ตามพวกเขาทัน
แต่ก็แน่นอนอีกว่าใช่ว่าทุกคนจะเลือกเดินในเส้นทางเดียวกับพวกเขา เพราะยังไงเส้นทางที่เชี่อมต่อไปยอดเขาก็ยังมีเส้นทางอื่นอยู่อีก
หลิงฮันกับจักรพรรดินีจับมือเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กัน
เบื้องหน้าของพวกเขามีเมฆหมอกมารวมตัวกันอีกครั้ง และปรากฏเป็นร่างอัจฉริยะจากความ ทรงจําของราชานิรันดร์หย่งชางคนใหม่ เพียงแต่อัจฉริยะที่ปรากฏตัวในครั้งนี้คือตัวตนระดับตัด วิญญาณหยาง
ดูเหมือนว่าอํานาจของสวรรค์และปฐพี่ในที่แห่งนี้ จะถูกกําหนดเอาไว้ตามระดับพลังของจอมยุทธแต่ละคน เพื่อที่จะไม่ให้ใครใช้ข้อได้เปรียบจากระดับพลังที่สูงกว่าไต่เขาอย่างรวดเร็ว คู่ต่อสู้ ที่ปรากฏออกมาจึงต้องมีพลังต่อสู้ใกล้เคียงกัน
“เข้ามา!” หลิงฮันหัวเราะ เขาอยากจะทดสอบความสามารถใหม่ของหอคอยทมิฬเต็มที่แล้ว
หลิงฮันพุ่งเข้าปะทะกับร่างความทรงจํา เพียงแต่สิ่งที่เขาทําคือการรับกระบวนท่าเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ตอบโต้ ในระหว่างนี้เขาได้สื่อสารกับหอคอยน้อยเพื่อไต่ถามถึงวิธีการใช้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลา อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ และอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร
ด้วยศักยภาพในการทําความเข้าใจของเขา และหอคอยทมิฬคือส่วนหนึ่งในร่างกายของเขา หลิงฮันจึงเรียนรู้วิธีการใช้ได้อย่างรวดเร็ว เขาผลักฝ่ามือออกไปใส่ร่างความทรงจํา “จงหายไป!”
จู่ๆ ร่างความทรงจําก็ถูกแสงปกคลุมไปทั่วร่าง ตราประทับแห่งเต๋าค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาที่ละตัว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใช้ไม่ได้รึ?” หลิงฮันประหลาดใจ เขาตั้งใจว่าจะใช้อํานาจแห่งกฏเกณฑ์ห้วงมิติ รวบร่างของร่างความทรงจําเข้ามาในหอคอยทมิฬ แต่กลับล้มเหลวเสียได้
“งั้นก็เปลี่ยนรูปแบบการใช้” เขาหัวเราะและผลักฝ่ามือออกไปอีกครั้ง “สะบั้น!”
“พรึบ พรึบ พรึบ” คมดาบวายุมากมายถูกปลดปล่อยเข้าใส่ร่างความทรงจํา คมดาบแต่ละเล่ม มีความยาวเพียงหนึ่งฟุต แต่ตราประทับแห่งเต๋าที่ส่องประกายอยู่ตามคมดาบกลับพรั่งพรูไปด้วยอํานาจแห่งสวรรค์และปฐพี่ที่น่าสะพรึงกลัว
ทันทีที่ถูกคมดาบวายุตัดผ่าน ร่างความทรงจําก็ถูกเฉือนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา
ง่ายเพียงนี้เลย