ตอนที่ 1989 จอมบ้าคลั่งพ่ายแพ้
ว่าไงนะ… จอมบ้าคลั่งพ่ายแพ้งั้นรึ?
เหล่าฝูงชนตื่นตระหนกในทันที และใครหลายคนเผยสีหน้าไม่เชื่อออกมา และคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวลือที่ถูกแต่งขึ้นเท่านั้น
“ฮ่าๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จอมบ้าคลั่งพ่ายแพ้เสียหน่อย” ใครบางคนส่ายหัว “จอมบ้าคลั่งผู้นี้เคยแม้กระทั่งท้าประลองกับ ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะพ่ายแพ้”
“ฮ่าๆๆ!” ใครหลายคนหัวเราะ
จอมยุทธระดับโลกียนิพพานนั้น อย่าเพิ่งกล่าวไปถึงเรื่องท้าประลอง ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เลย แค่ตัวตนระดับตําหนักอมตะ ก็ไม่อาจเอาชนะได้แล้ว ต่อให้เป็นจักรพรรดิในระดับห้านิพพานอย่างหลิงฮัน อย่างมากเขาก็สามารถเอาชนะได้แค่ ตัวตนระดับตัดวิญญาณหยินและต่อสู้ทัดเทียมกับตัวตนระดับตัดวิญญาณปฐพีได้เท่านั้น ส่วนเรื่องเอาชนะตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์นั้นเลิกพูดถึงไปเลย
“ผิดแล้วๆ คนที่เอาชนะจอมบ้าคลั่ง ไม่ใช่ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้” ชายที่ เป็นคนเริ่มหัวข้อสนทนาส่ายหัว
“ถ้างั้นก็เป็นตัวตนระดับตําหนักอมตะ” ใครบางคนเอ่ยแทรก
“นั่นก็ไม่ใช่” ชายที่เป็นคนเริ่มหัวข้อสนทนายังคงส่ายหัว
“ตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์งั้นรึ?”
“ผิด!”
เสียงหัวเราะของทุกคนเริ่มแผ่วเบาลง หากข่าวนี้เป็นความจริงล่ะก็ จะถือว่าเป็นเรื่ องน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
“หรือจะเป็นจักรพรรดินีในระดับแบ่งแยกวิญญาณ?” ใครบางคนคาดเดา
คนอื่นๆ หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย ถึงแม้จอมบ้าคลั่งจะเป็น จอมยุทธระดับโลกียนิพพานอันดับหนึ่ง ของอาณาเขตสวรรค์ซานดู แต่ตราบใดที่เขาทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณขึ้นไปต่อให้เป็นราชาทั่วไปก็สามารถมีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับเขาได้ และจักรพรรดิก็จะกําราบเขาได้อย่างราบคาบด้วยความต่างของระดับพลัง
“พวกเจ้าเดาผิดแล้ว คนที่เอาชนะจอมบ้าคลั่งได้ไม่ใช่ตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณ แต่เป็นจอมยุทธระดับโลกียนิพพานเหมือนกัน!” ในสุดที่เขาก็พูดข่าวที่น่าตะลึงออกมา
“เป็นไปไม่ได้!”
“นั่นต้องเป็นเพียงข่าวลือแน่ๆ”
“ข้าก็เดามาตั้งนานว่าจอมบ้าคลั่งจะไปท้าทาย ปรมาจารย์คนใด สุดท้ายแล้วกลับเป็น เพียงเรื่องเล่าไร้สาระเสียได้
คนอย่างน้อยเก้าในสิบส่วนส่ายหัว และไม่ยินยอมที่จะเชื่อข่าวนี้
จอมบ้าคลั่งคือจอมยุทธระดับโลกียนิพพานอันดับหนึ่ง ของอาณาเขตสวรรค์ซานญ และอาณาเขตสวรรค์ทั้งเจ็ดรอบด้าน จะไม่ตลกไปหน่อยรีหากจะบอกว่า มีใครในระดับโลกียนิพพานสามารถเอาชนะเขาได้?
ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้แทบจะเท่ากับศูนย์
“มันคือเรื่องจริง!” ชายคนเดิมยืนกราน “ข้าขอรับประกันด้วยชีวิตของข้าเลย ว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง! คนที่เอาชนะจอมบ้าคลั่งได้ คือชายลึกลับที่ชื่อว่าจีอู่หมิง เห็นว่าการต่อสู้ระหว่างจีอู่หมิงกับจอมบ้าคลั่งนั้น รุนแรงสะเทือนสวรรค์เป็นอย่างมาก จอมบ้าคลั่งได้ใช้ทุกอย่างที่มีออกมาในการต่อสู้แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้จนชีวิตแทบดับสูญ และต้องเผ่นหนี้ในสภาพที่ร่างกายเหลือเพียงครั้งร่าง”
เมื่อฟังสิ่งที่ชายคนนี้เล่า ผู้คนมากมายก็ยิ่งหัวเราะดังขึ้นไปอีก ช่างน่าขันยิ่งนัก ต่อให้จะมีใครสักคนเอาชนะจอมบ้าคลั่งได้ แต่จอมบ้าคลั่งจะถูกต้อนจนตกอยู่ในสภาพน่าอนาถขึ้นได้อย่างไร?
จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน
จีอูหมิง!
คนผู้นี้ไม่ใช่จักรพรรดิห้านิพพานทั่วไป แต่เป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก้า
ความสามารถของเขา จึงไม่อาจตัดสินได้ด้วยตรรกะทั่วไป ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้นั้นน่าสะพรึงกลัว จนจักรพรรดิแทบทุกคนทําได้เพียงแหงนมอง
หากบอกว่าคนที่เอาชนะจอมบ้าคลั่งลงได้คือจีอูหมิงล่ะก็ หลิงฮันไม่รู้สึกแปลกใจอะไรเลยแม้แต่น้อย
หม่าถงกวางเค้นเสียงและกล่าว “จีอูหมิง หรือจอมบ้าคลั่งอะไรกัน คนพวกนี้ก็แค่กบก้นบ่อเท่านั้น หากไปยังดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกล่ะก็ จอมยุทธจากที่นี่ใครบ้างจะนับว่าเป็นอัจฉริยะได้?”
หลิงฮันชําเลืองมองอีกฝ่าย ก่อนจะสายหัวและไม่พูดอะไร
“น้องชายหลิง หรือเจ้าคิดว่าที่สิ่งที่ข้าพูดไปมันผิด?” หม่าถงกวางชี้นิ้วไปยังหลิงฮัน
“ก็ต้องผิดแน่อยู่แล้ว” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส โดยที่ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
“น้องชายหลิงฮันไม่พอใจงั้นรึ?” หม่าถงกวางกล่าว ถึงเวลาที่เขาจะทําให้พวกกบก้นบ่อรู้เสียที่ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ามันเป็นอย่างไร
ตูม!
เพียงแต่ทันใดนั้นเอง จักรพรรดินีกับฮูหนิวก็ลงมือพร้อมกัน ทั้งสองผลักฝามือที่รุนแรงราวกับสวรรค์และปฐพี่จะพังทลายออกไป
“โอหัง!” หม่าถงกวางสบถอย่างเย็นชา สตรีสองคนนี้กล้าลงมือกับเขางั้นรึ? เหอะ คิดว่าพวกเจ้างดงามแล้ว ข้าจะยอมปล่อยให้ทําอะไรก็ได้ตามใจชอบรึไง?
แต่พริบตาต่อมา หม่าถงกว่างก็ต้องตกตะลึง เนื่องจากเขาพบว่าการโจมตีของสตรีทั้งสองนั้นรุนแรงถึงขนาดทําให้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
เขารีบระเบิดพลังออกมาเพื่อรับมือ “ตูม ตูม” คลื่นปะทะอันรุนแรงปะทุออกมา และร่างของหม่าถงกวางถูกขัดลอยกระเด็น กลายเป็นจุดสีดําในทันที
จักรพรรดินีกับซูหนิวมองหน้ากัน นี่เป็นครั้งแรกที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกว่า อีกฝ่ายก็ทําอะไรให้รื่นหูอื่นตาได้เหมือนกัน
หลู่เซียนหมิงอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขางมงายเชื่อในความแข็งแกร่งของ ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกมาตลอด ซึ่งหม่าถงกวางนั้นไม่ได้เป็นเพียง อัจฉริยะในศาสตร์ปรุงยาเพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นจักรพรรดิในศาสตร์วรยุทธด้วย เพราะงั้นในระดับพลังเดียวกันเขาสมควรจะไร้คู่ต่อสู้แท้ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นเพียงแค่การร่วมมือกันของสตรีทั้งสอง กลับสามารถชัดหม่าถงกวาง ให้ลอยกระเด็นในหนึ่งกระบวนท่าได้
เรื่องเช่นนี้จะให้เขายอมรับได้อย่างไร?
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย หม่าถงกวางเป็นจักรพรรดินีก็จริง แต่อย่างมากพลังของอีกฝ่ายก็ทัดเทียมกับเอี้ยนเซียนสู่เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดินี หรือซูหนิว ก็ต่างมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขาทั้งนั้น
หม่าถงกวางร้องโอดครวญ ร่างของเขากระแทกเข้ากับภูเขาและหยุดลอยกระเด็น หลังจากพยุงตัวดึงตนเองกลับออกมาจากภูเขาได้ เขาก็ทั้งรู้สึกเกรี้ยวกราดและหวาดผวา
ถึงแม้เมื่อครู่เขาจะดูถูกคู่ต่อสู้ ถึงแม้สตรีทั้งสองจะร่วมมือกัน แต่หากสตรีทั้งสองไม่ได้แข็งแกร่งจนถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวล่ะก็ เขาจะถูกซัดจนกระเด็นด้วยกระบวนท่า เพียงแค่กระบวนท่าเดียวงั้นรึ?
ในดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกก็มีอัจฉริยะขนาดนี้อยู่ด้วย!
หลิงฮัน คนผู้นี้ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นศัตรูที่ต้องกําจัด เนื่องจากอีกฝ่ายไม่เพียงมีศักยภาพในศาสตร์ปรุงยาที่น่าอัศจรรย์ แต่ยังมีสตรีที่แข็งแกร่งถึงสองคนคอยช่วยเหลืออยู่ด้วย
“ส่วนพลังของตัวหลิงฮันเองนั้น ไม่น่าจะแข็งแกร่งมากนัก”
หม่าถงกวางคิดเช่นนี้ในใจ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คนที่ลงมือเมื่อครู่ย่อมไม่ใช่สตรีทั้งสองแต่เป็นตัวหลิงฮันเอง
เมื่อเข้าไปด้านในมหาสมุทรวิญญาณหยางแล้ว ตราบใดที่หลิงฮันแยกตัวออกห่างจากสตรีทั้งสอง เขาก็จะลอบลงมือในทันที
“ซูหย่าหรงมาที่นี่แล้ว!” ไม่รู้ว่าคนที่เอ่ยกล่าวคือใคร แต่คําพูดของเขาก็ดึงความสนใจของผู้คนมากมายไปได้ในทันที
ซูหย่าหรุง… สตรีที่งดงามที่สุดของอาณาเขตสวรรค์กว่างลง และเป็นจักรพรรดิที่ไร้เทียมทานไม่ว่านางจะไปที่ไหน ก็ย่อมกลายเป็นจุดศูนย์กลางของผู้คน
ชุดคลุมสีขาวโบกกระพือไปมา พร้อมกับร่างที่งดงามได้ก้าวเดินอยู่บนอากาศ
สายตาของนางกวาดผ่านฝูงชน ก่อนจะหยุดอยู่ที่หลิงฮัน และเผยจิตสังหารออกมา
เนื่องจากมีราชานิรันดร์จาก ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ออกหน้าให้หลิงฮัน ขุมอํานาจราชานิรันดร์ของอาณาเขตสวรรค์กว่างลง จึงไม่ได้เคลื่อนไหวตามล่าหลิงฮัน