ตอนที่ 25 ตาแก่และแจกัน
สองศิษย์อาหลานขับรถออกจากเขตเซิ่งซื่อฉางอันหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะมู่เถาเยายังมีธุระบางอย่างต้องทำในตอนบ่าย คนตระกูลตี้คงรั้งให้เธออยู่ถึงช่วงเย็นเพื่อรับประทานอาหารเย็นด้วยกันอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่าตี้กับคุณผู้หญิงอวิ๋นเหอและตี้อันเหยี่ยตัวน้อยที่ดูจะเอ็นดูและติดเธอเป็นพิเศษ
หลังจากฟังคำอธิบายของกู้เนี่ยนแม่ของเขา เจ้าตัวเล็กก็รู้ว่าพี่สาวไม่ได้ฝังเข็มเพื่อทำร้ายอาเล็กแต่กำลังรักษาโรคให้เขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงทำตัวติดกับมู่เถาเยาเอาแต่คอยอ้อนเธออยู่ข้างๆ
อาเล็กของเขาป่วยมาเป็นเวลานานมากแล้ว และเขาต้องการให้อาเล็กหายไวๆ จะได้มาเล่นกับเขา ดังนั้นเขาจึงล้อมหน้าล้อมหลังมู่เถาเยาและพูดจ้อไม่หยุด
เนื่องจากอายุที่ยังน้อยมากและขาดความสามารถในการจัดระเบียบภาษา เสียงเล็กๆ ที่ราวกับกระรอกนั้นจึงทำเอามู่เถาเยารู้สึกมึนหัว
เธอกลัวเด็กๆ ติดเธอเป็นที่สุด ไม่ใช่เพราะว่ามันน่ารำคาญ แต่เพราะมันทำให้เธอนึกถึงน้องชายของเธอ ดังนั้นหลังจากมื้ออาหารจบลง เธอจึงรีบแจ้นออกมาโดยไม่ลืมที่จะหยิบเค้กเล็กๆ สองชิ้นติดมือมาด้วย
แต่เธอก็มีธุระต้องทำจริงๆ เพื่อนและคู่แข่งบนแพลตฟอร์มช่วยแก้ปัญหาที่ชื่อว่า ‘พิษกับยาแยกบ้านกันไม่ได้’ คนที่อยู่ในทำเนียบอันดับที่สองด้านพิษกับเธอซึ่งเป็นอันดับที่หนึ่งมีนัดออกมาพบกัน
นับตั้งแต่ที่พวกเธอรู้จักกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต เจ้าอันดับที่สองตลอดกาลนั่นก็ยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลา ซึ่งปกติแล้วมู่เถาเยาก็มักจะเมินเฉยอีกฝ่ายไม่ค่อยสนใจเขามากนัก
อุปนิสัยเธอก็เป็นเช่นนี้ เฉยเมยและก็ไม่ใช่คนที่จะพูดคุยกับเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตอย่างกระตือรือร้น แต่หลังจากปิดจ๊อบงานเมื่อคืน จู่ๆ คุณอันดับสองตลอดกาลนั่นก็โพสบทบรรยายที่สะดุุดตามากเกี่ยวกับ ‘ดอกไม้สองชีวิต’ ในช่องแสดงความคิดเห็น
ดอกไม้สองชีวิต ก็เหมือนกับชื่อของมัน ผลิดอกสองครั้ง ให้มนุษย์ได้สองชีวิต
แม้ว่าดอกไม้สองชีวิตเองก็มีคุณสมบัติพอจะที่ขึ้นไปอยู่ในทำเนียบเดียวกับหญ้าพิษชีวิต นับเป็นสมุนไพรหายากในตำนานเหมือนกัน แต่ในชาติที่แล้วเธอเคยเห็นมันมาก่อน และมันก็เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของอาจารย์ของเธอ
หลังจากที่อาจารย์ส่งต่อมันให้เธอ เธอก็ใช้มันเพื่อช่วยรักษาน้องชายที่ถูกวางยาพิษ
ในเมื่อเคยเจอมันมาก่อน นั่นหมายความว่ามันอาจหาง่ายกว่าหญ้าพิษชีวิตหรือเปล่า
ดอกไม้สองชีวิตเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์สำหรับการล้างพิษและผู้ที่ใช้มันจะได้รับร่างกายที่ร้อยพิษมิอาจกล้ำกลาย!
แม้ว่าตี้อู๋เปียนจะไม่ได้ถูกพิษ แต่พิษกับยาก็แยกจากกันไม่ได้ หากทักษะทางการแพทย์ไม่อาจแก้ไขปัญหา งั้นลองใช้ทักษะด้านยาพิษผสมผสานเข้าไปด้วยอาจทำให้มีความหวังมากขึ้้น
น่าเสียดายที่แพทย์ส่วนใหญ่รู้จักแต่ยาแต่ไม่รู้จักพิษ
มีหมอเก่งๆ มากมายบนโลกใบนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีไม่กี่คนที่ช่วยชีวิตคนด้วยยาพิษได้ ยกตัวอย่างเช่นสำนักแพทย์โบราณที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก พวกเขาเองก็ไม่เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษ ยกเว้นอาจารย์ใหญ่ของเธอไว้คนหนึ่ง
หากพูดถึงเรื่องพิษ ตระกูลถังมีผู้ใช้พิษและผู้เชี่ยวชาญด้านยาพิษเยอะกว่า เพียงแค่พวกเขายังด้อยกว่าสำนักแพทย์โบราณในด้านการรักษาเท่านั้น
มู่เถาเยาเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งทางด้านยาและยาพิษ ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้คนอื่นแม้แต่คิดก็ยังไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ
สมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่จะนำมาเสริมดอกไม้สองชีวิต และให้ฤทธิ์ยาที่สนับสนุนกันก็คือหญ้าจื่อหยาง แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาอาการขาดพลังแต่กำเนิดของตี้อู๋เปียนได้ แต่ก็มีแนวโน้มสูงที่จะช่วยยืดอายุขัยของตี้อู๋เปียนออกไปได้อีกอย่างน้อยห้าปี!
ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเธอจะยังไม่พบหญ้าพิษชีวิตแต่เธอก็ยังมีเวลาค้นคว้าวิธีการอื่นๆ มากขึ้น
อาศัยเพียงทักษะหุยหยาง ริจะยื่นมือไปยื้อแย่งชีวิตมนุษย์จากพระเจ้าแน่นอนว่าไม่สามารถทำได้โดยง่าย ไม่ว่าเธอจะแข็งแกร่งเพียงใด เธอก็ยังเป็นเพียงมนุษย์ไม่ใช่เทพ
เมื่อคืนหลังจากที่คุณอันดับสองตลอดกาลทิ้งข้อความเกี่ยวกับดอกไม้สองชีวิตไว้ในกล่องแสดงความคิดเห็น ดวงตาของมู่เถาเยาก็สว่างวาบ วันนี้เมื่อเธอจับชีพจรของตี้อู๋เปียน ก็คิดแล้วว่าอยากจะใช้ดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าจื่อหยางมาควบคุมอัตราการไหลออกของพลังชีวิตของเขา
เนื่องจากเธอยังไม่เคยทดลองมามันก่อน วันนี้เธอจึงไม่ได้บอกกับคนตระกูลตี้
ข้อมูลเชิงลึกของคุณอันดับสองตลอดกาลเหนือกว่าที่เธอจินตนาการไว้ไกลมาก เธอต้องการที่จะสนทนาแบบตัวต่อตัวกับเขาในเรื่องนี้ ดังนั้นในการชักชวนครั้งที่เก้าสิบเก้าของเธอ ในที่สุดอีกฝ่ายก็ยอมตกลงรับคำขอนัดพบ
เวลาบ่ายสามโมง มู่เถาเยามาถึงห้องชงชาพิเศษที่นัดกันไว้อย่างตรงเวลา
‘แจกัน’
นี่คือชื่อบัญชีผู้ใช้ของคุณอันดับสองตลอดกาลบนแพลตฟอร์ม ‘พิษกับยาแยกบ้านกันไม่ได้’
คนข้างในตกตะลึงตาค้างเมื่อเห็นมู่เถาเยา
มู่เถาเยานั่งลงบนเบาะฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาวที่ห่อตัวเองไว้ด้วยเสื้อผ้า และพูดว่า “ฉันคือ ตาแก่”
‘ตาแก่’ คือชื่อบัญชีผู้ใช้ของของเธอ
แจกัน “…!”
แม้ว่าเธอจะไม่เห็นสีหน้าใดๆ ที่อีกฝ่ายแสดงเนื่องจากการห่อตัวเป็นบ๊ะจ่างของเธอ แต่มู่เถาเยาก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังตกใจอยู่
“เธอคือ ตาแก่ จริงๆ เหรอ!”
“อืม”
‘แจกัน’ รีบถอดแว่นกันแดดบนใบหน้าของเธอออกทันที ยืดคอไปอีกฝั่งของโต๊ะน้ำชาและพินิจมองใบหน้าของมู่เถาเยาใกล้ๆ “ที่จริงแล้วเธอเป็นแค่ภาพหลอนสินะ?”
“ฉันคือ ‘ตาแก’ จริงๆ”
‘แจกัน’ ถอดหน้ากากที่ปิดหน้าและหมวกออก ชี้ไปที่ใบหน้าเล็กๆ ที่สวยงามของมู่เถาเยาแล้วพูดว่า “ฉันคือแจกัน แต่ทำไมเธอถึงไม่ใช่ตาแก่ล่ะ!”
“ใครบัญญัติว่าถ้าไม่ได้แก่จริงๆ แล้วจะใช้ชื่อตาแก่ไม่ได้”
“เธอหลอกลวงความรู้สึกอันบริสุทธิ์ของฉัน” หญิงสาวใบหน้างดงามเริ่มแสดงบทเศร้าเคล้าน้ำตา
“ถังถัง นักแสดงหญิงมากความสามารถที่เก่งทั้งการร้อง การแสดงและถ่ายแบบ นิยามว่าเป็นแจกันไม่ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือไง” ด้วยทักษะและพรสวรรค์อันโดดเด่นของเธอ ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับฉายาว่าเป็นจักรพรรดินีจอเงิน แบบนี้เรียกแจกันประดับได้เหรอ
“เธอรู้จักฉันด้วย? คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้จักฉัน! เด็กหญิงตัวเล็กๆ แบบเธอ ใจเย็นอยู่ได้ไงเมื่อเห็นดารามายืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้!”
“แจกัน!” ถังถังหัวเราะ ใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือที่สดใสของเธอดูมีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์มาก
ถ้าหากว่าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอเป็นผู้ชาย เขาคงไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของเธอได้
มู่เถาเยาไม่สนใจความงามของเธอ
“คุณคือคนตระกูลถังเหรอ” ตระกูลถังในประเทศเหยียนหวงเก่งเรื่องยาพิษที่สุด
ตระกูลถังเหรอ อืม…เคยเป็น และยังเป็นผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในตระกูลถังด้วย
แต่เพราะความไม่เอาถ่านของเธอทำให้คุณปู่ทวดในวัยหนึ่งร้อยยี่สิบปีที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่แบเบาะเกือบหัวใจวายตายด้วยความโกรธ พ่อที่หัวเสียอย่างมากจึงตะโกนไล่เธอออกจากบ้านและห้ามไม่ให้เธอเรียกตัวเองว่าคนตระกูลถังนอกบ้านอีก
ดังนั้นนอกเหนือจากบอสและผู้จัดการส่วนตัวของเธอแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอมาจากตระกูลถัง ตระกูลผู้ใช้พิษที่น่ากลัวนั่นอีก
ถังถังเหม่อลอยไปประมาณสองสามวินาที เธอวางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะน้ำชาแล้วถามว่า “เด็กน้อย เธออายุถึงสิบหกปีหรือยัง ชื่อจริงของเธอคืออะไร ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่หรือว่าทำงานแล้ว อืม แต่ดูจากรูปร่างหน้าตาของเธอ…คงไม่มีใครกล้าใช้แรงงานเด็กหรอกจริงไหม”
“มู่เถาเยา อายุสิบแปดปี เรียนมหา’ลัยปีหนึ่ง”
“ปีหนึ่ง? จากความรู้ความสามารถของเธอพอที่จะทำวิทยานิพนธ์จบปริญญาเอกได้เลยนะ ทำไมถึงเลือกเข้าเรียนปีหนึ่งล่ะ”
ถังถังไม่ได้ปิดบังความประหลาดใจของเธอเลย
เธอไม่ใช่คนธรรมดา และเธอก็จะไม่ปฏิเสธมู่เถาเยาที่มีพรสวรรค์ที่ทำให้คนทั้งโลกประหลาดใจได้เพียงเพราะเธออายุยังน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอเคยประมือและร่วมมือกันมาก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้ความสามารถของอีกฝ่ายดี
ถังถังเสียใจมากที่เด็กสาวตัวเล็กๆ ซึ่งฟ้าประทานมาให้คนนี้ไม่ได้เกิดในตระกูลถัง
“ผู้ใหญ่ในครอบครัวลงความเห็นกันแบบนั้นน่ะ”
“แล้วตัวเธอเองล่ะ”
ถังถังกลัวว่าเด็กสาวตัวเล็กที่เธอชอบจะถูกบังคับเหมือนตัวเอง เหมือนกับที่ครอบครัวของเธอต้องการให้เธอรับช่วงต่อตระกูลถัง
เมื่อนึกถึงกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นปี ดวงตาของมู่เถาเยาก็เปล่งประกายด้วยแสงเล็กๆ
“ชีวิตในมหา’ลัยแปลกใหม่ดี!”
“เธอชอบก็ดีแล้ว”
ถังถังถอนหายใจด้วยความโล่งอก มือเรียวยาวน่ามองยกขึ้นรินชาให้มู่เถาเยา
มู่เถาเยายกถ้วยชาใบเล็กขึ้น สูดดมกลิ่นหอม จากนั้นก็ก้มลงจิบอีกครั้ง
“ตาแก่… อุ๊บ…” ถังถังอดไม่ไหวหัวเราะออกมา
ไม่เห็นหน้าและไม่รู้ว่าเป็นเด็กสาวยังพอจะเรียกได้ไม่เคอะเขิน แต่พอรู้ตัวตนของอีกฝ่ายแล้วให้เรียกว่าตาแก่มันน่าตลกจริงๆ
มู่เถาเยาไม่ได้รับผลกระทบใดๆ หลังจากลิ้มรสชาในถ้วยเสร็จ เธอก็วางถ้วยชาลง หยิบขวดเซรามิกสีขาวที่มีโลโก้ของ ‘อวิ๋นอู้เถาหยวน’ ออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้ววางมันลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เคลื่อนถาดชามาไว้ด้านหน้า
“น้ำนี้เป็นน้ำดี แต่ใบชาไม่มีคุณภาพพอ ขอฉันลองชาเขียวอวิ๋นอู้ที่ผลิตในหมู่บ้านของเราหน่อยนะ”
ไม่ว่าเมื่อไรมู่เถาเยาก็ไม่เคยลืมที่จะโฆษณาหมู่บ้านของเธอ
คนตรงหน้าเธอนี้เป็นดาราตัวท็อปเชียวนะ จะปล่อยไปได้ยังไง!
ถังถังหลุดหัวเราะอีกครั้งเมื่อเธอเห็นฉลากบนขวดเซรามิกขนาดเล็ก
“ตาแก่…อุ๊บ…เสี่ยวเยาเยา เธอรู้มาก่อนแล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นดาราถึงได้เตรียมผลิตภัณฑ์พวกนี้มาที่นี่ด้วย”
“ฉันไม่เคยตรวจสอบคุณมาก่อนและไม่เคยสนใจคุณเลยจนกระทั่งเมื่อวานนี้”
ถังถังโน้มตัวไปข้างหน้า ยื่นมือออกไปบีบแก้มซาลาเปาเนื้อของมู่เถาเยาแล้วพูดว่า “หมายความว่าตอนนี้เธอสนใจฉันแล้วใช่ไหม เธอกล้าหาญมาก! เอาล่ะขอเวลาฉันพิจารณาสักสองสามวินาที”
“แฟนคลับคุณรู้ไหมว่าคุณเป็นแบบนี้”
ถังถังสะบัดผมยาวราวกับคลื่นลูกใหญ่ของเธอแล้วขยิบตาพูดว่า “ฮ่า เธอเท่านั้นที่รู้”
“ฉันควรพูดว่าเป็นเกียรติมากดีไหม”
“ฮ่าฮ่า…เป็นเกียรติมากที่ได้พบเธอ! เสี่ยวเยาเยา ทำไมเธอไม่มาติดตามฉันล่ะ ฉันมีเงินมาก เพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้องเหนื่อยมาโฆษณาเองแบบนี้”
“ฉันหาเงินเองได้”
“ฮะๆๆ …ก็จริง ด้วยทักษะทางการแพทย์ระดับเธอที่ติดโผอันดับที่หนึ่งตลอดกาล ใครยังจะกล้าพูดว่าหาเงินได้เก่งกว่าเธออีก”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่”
“ฮ่าๆ เธอนี่ตลกจริงๆ นะ พี่สาวขำจนปวดท้องไปหมดแล้ว ฮ่าๆๆ”
“ดื่มชา”
“ได้ๆ ดื่มชาๆ ไหนขอลองดูหน่อยสิว่าอวิ๋นอู้จากหมู่บ้านของเธอพอจะมีค่าให้ฉันช่วยโฆษณาให้ไหม ขอเตือนไว้ก่อนล่ะ ฉันไม่คิดทุบป้ายชื่อของตัวเองหรอกนะ!”
มู่เถาเยายกมือขึ้นและทำท่าผายมือ “เชิญ”