อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 159 ใช้กำลังภายในระเบิดตัวเอง

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 159 ใช้กำลังภายในระเบิดตัวเอง

“รบกวนอาจารย์เล็กช่วยพาผู้อาวุโสกับพี่ถังถังไปซ่อนตัวห่างออกไปพันเมตรด้วยนะคะ ระวังแมลงมีพิษกับพืชมีพิษให้ดีด้วยค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยา…”

“อาจารย์เล็กไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หนูไม่เผชิญหน้ากับมัน แค่ดูห่างๆ” หลักๆ คือจะล่อมันออกไปที่อื่น

ถังถัง “มีอะไรน่าดู” น่าเกลียดจะตาย!

มู่เถาเยายิ้ม “ทุกคนรีบออกไปจากตรงนี้ดีกว่าค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยา งั้นเธอต้องระวังตัวให้ดีนะ”

“แน่นอนค่ะ”

“งั้นเอาหลิวอิ่งไป” อาจารย์เล็กพูดพลางปลดดาบ

มู่เถาเยากดมือของเขาพลางพูด “หนูไม่ฆ่ามัน ไม่จำเป็นต้องใช้หลิวอิ่งค่ะ งูเหลือมป่าใกล้มาถึงแล้ว อาจารย์เล็กรีบพาทุกคนออกไปเถอะค่ะ อีกยี่สิบนาทีค่อยกลับมาตรงนี้ใหม่”

เวลานี้ซย่าโหวโซ่วก็ได้ยินเสียงสัตว์เลื้อยคลานแล้ว

“เสี่ยวเยาเยา ระวังตัวด้วยนะ”

“รับรองค่ะ”

ขนาดสัตว์ที่เร็วที่สุดบนโลกยังตามเธอไม่ทัน แล้วนับประสาอะไรกับงูเหลือมป่าที่อืดอาดเทอะทะเล่า!

ซย่าโหวโซ่วพยักหน้า จับไว้ข้างละคนแล้วเหาะขึ้นไปอย่างง่ายดาย

พวกเขาจะเป็นภาระให้เสี่ยวเยาเยาไม่ได้

เสี่ยวเยาเยาเข้ามาโซนภายในตามลำพังหลายครั้งนับไม่ถ้วน เคยเจอมาสารพัด พวกเขาอยู่ด้วยมีแต่จะเป็นภาระให้เธอ

มู่เถาเยาปลดตะกร้าใบเล็กออกจากบ่าแล้วกระโดดเอาไปแขวนไว้บนต้นไม้ใหญ่ จากนั้นถึงลงมารีบเดินไปเผชิญหน้ากับงูเหลือมป่าข้างหน้า

ไม่นานก็มีงูเหลือมป่าตัวเขื่องที่ขนาดเท่าผู้ชายที่โตเต็มที่แล้วสองคน ตัวสีเขียวมะกอก ลำตัวมีแต้มวงรีสีดำ ปรากฏเข้ามาในสายตาของมู่เถาเยา

มู่เถาเยามองสัตว์ขนาดใหญ่ตัวนี้แล้วหัวเราะ ไม่มีท่าทีจะหลบ

งูเหลือมป่าที่ถูกขนานนามว่า ‘นักฆ่าพนาไพร’ รู้สึกได้ถึงการท้าทายจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ สองเท้านี้ มันเลื้อยเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยความโมโห อ้าปากอยากจะเขมือบเข้าไปทั้งตัว

มู่เถาเยาหนีไปทางขวา วิเคราะห์ระยะห่างจากเสียงของงูเหลือมป่าและความชัดของกลิ่นที่แผ่ออกมาจากตัวมัน

บนตัวของงูเหลือมป่ามีต่อมเหงื่อ ส่งกลิ่นเหม็นเป็นพิเศษ คล้ายกลิ่นเหม็นเน่าของซากสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้ห้าวัน

มู่เถาเยาผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เธอย่อมทนกลิ่นเหม็นระดับนี้ได้ เธอจึงรักษาระยะห่างที่เหมาะสมค่อยๆ ล่องูเหลือมป่าออกไปทางขวา

ปากของงูเหลือมป่าอ้าอยู่นานก็ยังเขมือบสิ่งมีชีวิตสองเท้านี้ไม่ได้ มันเริ่มหงุดหงิด เร่งความเร็วจนถึงขั้นสุด

มู่เถาเยาไม่ได้เพิ่มความเร็ว สร้างความรู้สึกลวงให้มันคิดว่าตัวเองใกล้เขมือบได้แล้ว

เมื่อได้กลิ่นรุนแรงมากขึ้น เธอยังหันกลับไปมอง พอเหลือระยะใกล้กันหนึ่งเมตรเธอถึงเพิ่มความเร็ว

งูเหลือมป่าที่เห็นตัวเองใกล้เขมือบได้เต็มทีความโมโหก็พุ่งทะยานขึ้น มันหุบปากใหญ่ๆ ของตัวเองก่อน ลองใช้หางเกี่ยวรัดเหยื่อ

มู่เถาเยาแค่ฟังเสียงก็รู้ได้ว่างูเหลือมป่าตัวนี้คิดจะทำอะไร

มีเหรอที่เธอจะปล่อยให้มันรัดได้!

ถ้าถูกรัดได้ก็อย่าหวังจะหนีรอดไปได้เลย!

งูเหลือมป่าเป็นราชาของห่วงโซ่อาหาร อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของมันคือกำลังที่ไร้ศัตรูทัดเทียมได้ บดขยี้เหยื่อให้แหลกละเอียดได้อย่างง่ายดาย

ต่อให้มู่เถาเยาเก่งแค่ไหนก็มีเลือดเนื้อ หากถูกรัดได้ก็ต้องตายสถานเดียว

อย่างไรเสียดิ้นไปก็ไม่หลุด ทำได้เพียงใช้กำลังภายในระเบิดตัวเอง แบบนี้ก็จะตายไปพร้อมกัน

มู่เถาเยาไม่มีความคิดพิสดาร เมื่อเธอล่อไปได้ไกลระยะหนึ่งแล้วก็เร่งความเร็วอีกครั้ง

คำนวณระยะเวลา ยิ่งเร่งก็ยิ่งเร็ว

เมื่อห่างไปพอประมาณแล้วเธอถึงเร่งความเร็วจนสุดกำลัง หายไปจากตรงหน้างูเหลือมป่าในชั่วพริบตาเหมือนเป็นเพียงริ้วเงา

งูเหลือมป่าตัวเขื่องหยุดเลื้อย ไม่เข้าใจอย่างหนักว่าสิ่งมีชีวิตสองเท้านี้ทำไมอยู่ๆ ก็หายไป

แต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้ เลื้อยมาเหนื่อยก็เหนื่อยแต่ก็ยังไม่ได้เขมือบเหยื่อ มันโมโหหนักกว่าเดิม ยังคงไล่ตามไปข้างหน้าต่อ!

เวลานี้มู่เถาเยาอยู่บนยอดต้นไม้สูงสุดเหนือตัวมัน

ต่อให้งูเหลือมป่าเห็นก็ทำอะไรไม่ได้

มู่เถาเยารอมันเลื้อยห่างออกไประยะหนึ่งถึงค่อยย้อนกลับทางเดิม

เหาะเหยียบยอดไม้ไปไม่กี่ทีก็กลับถึงจุดที่แยกกับพวกอาจารย์เล็กทั้งสามคน

ปลดตะกร้าใบน้อยบนต้นไม้มาสะพายไว้แล้วรอคนอื่นๆ

ไม่กี่นาทีต่อมาอาจารย์เล็กก็พาสองปู่หลานตระกูลถังกลับมา

ถังถังกระโจนเข้าไปถามด้วยความร้อนใจ “เสี่ยวเยาเยา ไม่เป็นไรใช่ไหม”

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่ล่องูเหลือมป่าออกไปเอง”

ผู้อาวุโสตระกูลถังถามด้วยความสงสัย “เสี่ยวเยาเยา ทำไมต้องล่อมันออกไปด้วยล่ะ พวกเราเปลี่ยนที่หาสมุนไพรไม่ได้เหรอ”

“หนูรู้ว่าทางนี้มีสมุนไพรอย่างสุดท้ายค่ะ หนูเคยเห็น ถ้าไปจุดอื่นยังต้องเสียเวลาหาอีก ไม่สู้ล่อมันออกไปดีกว่า”

อาจารย์เล็ก “เสี่ยวเยาเยา เมื่อกี้ใช่งูเหลือมป่าหรือเปล่า”

“งูเหลือมป่าค่ะ ตัวยาวอย่างน้อยยี่สิบเมตร น่าจะหนักเกือบพันกิโลได้ค่ะ ตัวเทอะทะมาก มันก็เลยเลื้อยช้ามาก”

มันเลื้อยเร็วมากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับเธอมันเลื้อยช้ามาก

ถังถังร้องด้วยความตกใจ “ยาวยี่สิบเมตร! เกือบพันกิโล!”

จินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ !

“ค่ะ”

นี่เป็นงูเหลือมที่ตัวใหญ่สุดยาวสุดตั้งแต่เธอเคยเจอมา

“เสี่ยวเยาเยา นี่ถ้าฉันฝึกวิชาตัวเบาจนเร็วได้เท่าเธอ ฉันจะเข้าไปโซนในเองได้หรือเปล่า”

“ได้ค่ะ สู้ไม่ไหวก็หนี แต่ประเด็นคือ ต้องรับประกันด้วยว่าพี่จะไม่เจอพิษที่ตัวเองแก้ไม่ได้ พิษบางชนิดเป็นพิษแม้กระทั่งสภาพอากาศโดยรอบ ถ้าแก้ไม่ได้ วิชาตัวเบาก็ใช้ไม่ได้ แบบนั้นก็จบกัน”

ถังถัง “…”

เธอต้องพยายามให้มากขึ้น! พยายามมากอีกหน่อย!

“ไปเถอะค่ะ พวกเราไปต่อ พยายามรีบออกไปให้เร็วที่สุด”

ทั้งสามคนพยักหน้า ยังคงทำตามเดิม ผู้หญิงสองคนอยู่ข้างหน้า อาจารย์เล็กดูแลผู้อาวุโส

มู่เถาเยาเคยมาแถบนี้ รู้ดีว่าตรงไหนมีสมุนไพรชนิดสุดท้าย

ตอนนั้นไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องปรุงยากำลังภายใน จึงไม่เคยเก็บสมุนไพรชนิดนี้กลับมาเก็บไว้

สมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้เป็นต้นๆ แต่เป็นผลที่ภายนอกสีขาว ใจกลางสีเขียวอ่อน หวานหอมเล็กน้อย ขนาดเล็กเท่าผลองุ่น

ตอนนี้อยู่ในช่วงผลกำลังสุก

ผู้อาวุโสตระกูลถังมีชีวิตอยู่มาหนึ่งร้อยยี่สิบสามปีแล้วก็เพิ่งเคยเห็นผลไม้ชนิดนี้ครั้งแรก

“เสี่ยวเยาเยา นี่ก็คือผลใจเขียวเหรอ กินสดได้หรือเปล่า”

หน้าตาของมันน่ากินมาก เห็นแล้วหิวขึ้นมาทันที!

มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ กินสดได้ รสหวานเล็กน้อย แต่ออกจะจืดๆ เสียมากกว่า ไม่ค่อยอร่อยหรอกค่ะ” เธอไม่ชอบกิน

แต่ภายใต้สถานการณ์ไม่มีน้ำดื่ม เธอชอบกินสิ่งนี้เพื่อเติมน้ำให้ร่างกาย

ยากำลังภายในขาดมันไม่ได้ เพราะต้องใช้น้ำจากมันผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ก็เหมือนกับการทำขนมเค้กที่ต้องผสมน้ำขณะนวดแป้งไปด้วย

พอได้ยินว่ากินสดได้ ถังถังก็หยิบผลใจเขียวที่ขนาดเท่านิ้วโป้งมาใส่ปากเคี้ยวดู

“รสชาติจืดๆ มีน้ำเยอะ ไม่อร่อย ไม่เข้ากับลักษณะน่ารักภายนอกเลย”

อาจารย์เล็กกับผู้อาวุโสก็เด็ดมากินบ้าง

“เสี่ยวเยาเยา ผลใจเขียวนี่ช่วยดับกระหายได้นะ”

อาจารย์เล็กไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า รู้สึกว่ากินสิ่งนี้แทนน้ำได้ เขาชักชอบขึ้นมาแล้ว

“ค่ะ มันมีน้ำเยอะ”

“เสี่ยวเยาเยา พวกเราเด็ดกลับไปเยอะหน่อยแล้วกัน”

“อาจารย์เล็กชอบกินเหรอคะ”

“อาจารย์ว่ามันก็อร่อยดีนะ”

“งั้นก็เด็ดกลับไปเยอะหน่อยค่ะ” ยังไงซะทุกคนก็มีถุงผ้ามากันคนละใบ ยังว่างอยู่

พวกเขาเริ่มเด็ดผลใจเขียวใส่กระเป๋าของตัวเอง

พอทุกคนเด็ดใส่ได้ครึ่งกระเป๋า อาจารย์เล็กก็พูดว่า “พอแล้วๆ พวกเราออกไปกันเถอะ นี่ก็เย็นแล้วนะ” ป่าเริ่มมืดแล้ว

“อาจารย์เล็กคะ เดี๋ยวพวกเราเด็ดลูกท้อกลับไปด้วยค่ะ”

“ได้”

ต้นท้ออยู่ระหว่างเส้นแบ่งโซนภายในกับภายนอก ต่อให้ฟ้ามืดก็ไม่กลัว

ไม่ต่างจากขามา มู่เถาเยายังคงเป็นคนพาสองปู่หลานตระกูลถังเหาะกลับ

ตะกร้าใบน้อยของเธอที่ใส่สมุนไพรอยู่เต็มถูกอาจารย์เล็กสะพายไว้ด้านหน้า

พวกเขากลับถึงบ้านในขณะที่ตะวันลับขอบฟ้าพอดี

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท