ตอนที่ 2001 ช่องเขาลึกใต้มหาสมุทร
ในระดับความลึกขนาดนี้ หลิงฮันไม่จําเป็นต้องกังวล ว่าจีธุ์หมิงจะหาเขาพบ
จีอูหมิงมีพลังต่อสู้ที่ไร้ผู้ใดเปรียบก็จริง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของพลังป้องกันล่ะก็ หลิงฮันย่อมเป็นที่สุดในระดับเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย9%uid%
เพียงแต่แบบนี้มันก็น่าเบื่อมากเช่นกัน
ในสถานที่แห่งนี้นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครอื่นเลย แถมทิวทัศน์รอบด้านก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และก็ไม่มีเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย
โชคดีที่หลิงฮันสามารถเข้าไปในหอคอยทมิฬ ไปพูดคุยกับสตรีทั้งสี่ได้
เวลาผ่านพ้นไปสามร้อยปี หลิงฮันเก็บเกี่ยวหินผลึกวิญญาณหยางสีฟ้าครามได้มากเกือบสองร้อยก้อนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววของหินวิญญาณหยางสีม่วง
เขารู้สึกร้อนรนเล็กน้อย ระยะเวลาผ่านมานานเกินกว่าครึ่งแล้ว แต่หินวิญญาณหยางสีฟ้าครามที่ได้มา กลับเพียงพอให้หลอมกลายเป็นวิญญาณหยางสีม่วงได้เพียงก้อนเดียวเท่านั้น
ไม่มีวิธีอื่นแล้วงั้นรึ?
วันเวลาค่อยๆ ผ่านพ้นไป และสีของสายรุ้งก็เหลืออยู่เพียงสองสีเท่านั้นที่ยังส่องแสง ในขณะที่สีอื่นๆ หม่นแสงกลายเป็นสีขาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หืม?
จู่ๆ หลิงฮันก็รู้สึกถึงคลื่นน้ําที่พัดผ่านเข้าใส่
มหาสมุทรแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่สงบก็จริง แต่หลังจากที่เขาลงมายังความลึกระดับนี้แล้ว ทุกอย่างรอบด้านก็กลายเป็นเงียบสงัดอย่างสิ้นเชิง การที่ตอนนี้จู่ๆ ก็เกิดคลื่นน้ําพัดผ่านนั้นสามารถอธิบายได้สองอย่าง
คือไม่มีสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรขนาดใหญ่กําลังใกล้เข้ามา ก็มีวาสนาที่ยิ่งใหญ่อยู่ใต้มหาสมุทรแห่งนี้
แต่ดูจากสถานการณ์แล้วน่าจะเป็นอย่างหลัง
ที่ด้านหน้าหลิงฮัน มีช่องเขาปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิด ช่องเขานี้ไม่ได้มีใหญ่โตมาก ความยาวของช่วงช่องเขาอยู่ที่ราวๆ สิบไมล์เท่านั้น และมีปากทางเข้ารูปทรงสามเหลี่ยมขนาดเล็ก
ถ้าหากจะมีคลื่นน้ําเกิดขึ้น ก็คงเป็นเพราะน้ําทะเลไหลผ่านเข้าไปในช่องเขาแห่งนี้
หลิงฮันรู้สึกสงสัย และว่ายเข้าไปใกล้ช่องเขา
เมื่อร่างของเขามาถึงทางเข้า เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่า ที่ด้านมีกําแพงโปร่งใสที่มองไม่เห็นขวางเอาไว้อยู่ ทําให้ทั้งเขาและน้ําทะเลไม่อาจผ่านเข้าไปได้
หรือก็คือภายในช่องเขานี้จะต้องเป็นพื้นแห้งอย่างแน่นอน
แต่ก็น่าแปลก ในเมื่อน้ําทะเลไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ แล้วจะเกิดคลื่นน้ําขึ้นได้อย่างไร?
หลิงฮันลูบคางครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้
มีปรากฏการณ์มากมายที่เกิดจากสวรรค์และปฐพี ซึ่งไม่อาจหาเหตุผลมาอธิบายได้
หลิงฮันปล่อยหมัดออกไป “ตูม” กําแพงโปร่งใสด้านหน้าเกิดคลื่นกระเพื่อมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยุดนิ่งในเวลาไม่นาน
พังไม่ได้งั้นรึ?
หลิงฮันประหลาดใจและปล่อยหมัดอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้เขาผสานอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารเข้าไปด้วย ทําให้พลังทําลายของหมัดพุ่งทะยานสูงขึ้นหลายเท่าตัว
ตูม” เมื่อหมัดเข้าปะทะกับกําแพงโปร่งใส ก็เกิดคลื่นกระเพื่อมที่รุนแรงกว่าเดิม แต่กําแพงก็ยังไม่พังอยู่ดี
หลิงฮันไม่ยอมแพ้ เขาโคจรทักษะนิรันดร์มากมายและกระหน่ําโจมตี
ตูม! ตูม ตูม! ตูม!
แม้จะถูกทักษะนิรันดร์มากมายโจมตีใส่ กําแพงโปร่งใสก็ยังทนทานเกินพรรณนา และมีคลื่นกระเพื่อมที่รุนแรงขึ้นเท่านั้น
หลิงฮันนําดาบอสูรนิรันดร์ออกมา ในเมื่อใช้มือเปล่าไม่ได้ ก็ต้องใช้อุปกรณ์กึ่งนิรันดร์
ทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ถูกโคจร และสะบั้นเข้าใส่กําแพงโปร่งใส ครั้งนี้กําแพงถูกแทงทะลุเข้าไปตรงๆ โดยไม่ปรากฏคลื่นกระเพื่อมแม้แต่นิดเดียว
หลิงฮันเผยสีหน้าตื่นเต้น และออกแรงไปที่มือทั้งสองข้าง แกรก แกรก แกร่ก” รอยปริแตกที่กําแพงโปร่งใสค่อยๆ ขยายกว้างและแตกกระจายในที่สุด
“ครืนน น้ําทะเลถูกดูดเข้าไปยังรอยปริแตก โดยที่ร่างของหลิงฮันก็ถูกพัดไหลเข้าไปพร้อมกัน
เขารีบพยุงตัวและหันกลับไปมองด้านหลัง ก่อนจะพบว่ารอยปริแตกมีการหดตัวลงอย่างรวดเร็ว
….กําแพงนี้มีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองด้วย
เพียงแค่พริบตา กําแพงโปร่งใส่ก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์
“น่าสนใจดี” หลิงฮันพึมพํา ร่างกายของเขารู้สึกเบาหวิวเป็นอย่างมาก เนื่องจากในบริเวณนี้ไม่มีน้ําทะเล ทําให้ไม่มีแรงกดดันถาโถมเข้าใส่ร่างกาย
เขาสะบัดมือนําจักรพรรดินี ฮูหนิว ธิดาโรัว และสตรีนกอมตะออกมา
“คือ ที่นี่คือที่ไหนกัน?” ฮูหนิวจ้องมองมาที่เขา ด้วยแววตาสงสัย
“ยังอยู่ในมหาสมุทรวิญญาณหยางงั้นรึ?” จักรพรรดินีดีเองก็ประหลาดใจ และมองไปหาหลิง
หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “พวกเรายังอยู่ที่ใต้ก้นมหาสมุทรวิญญาณหยาง แต่สภาพแวดล้อมของบริวเณนี้ค่อนข้างพิเศษ เพราะมีกําแพงคอยขัดขวางน้ําทะเลเอาไว้”
“น่าสนุกจัง!” ฮูหนิวปรบมือหัวเราะ และทําท่าจะพุ่งไปวิ่งเล่น
หลิงฮันรีบดึงร่างของนางเอาไว้ เด็กสาวผู้นี้ช่างรู้คิดแต่จะเล่นสนุก โดยไม่นึกถึงอะไรเลยจริงๆ
“ที่นี่ มีไว้เพื่ออะไรกันแน่?” ธิดาโร่วกล่าว
“ลองเดินสํารวจกันดูก่อน”
ทั้งห้าคนเดินเว้นระยะกันเล็กน้อย และสํารวจช่องเขา
ช่องแคบแห่งนี้มีขนาดเล็กมาก แม้แต่คนทั่วไปก็ยังใช้เวลาไม่นานในการสํารวจ เพราะงั้นสําหรับนิรันดร์เช่นพวกเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง
“โอ้ ตรงนี้ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ด้วย” ฮูหนิวหยุดเดิน และเริ่มขุดพื้นดิน
หลิงฮันเดินเข้าไปดูและพบเห็นแท่งหนามแหลมคม ที่แทงทะลุขึ้นมาจากพื้นดิน ในแวบแรกมันดูเหมือนปลายของแท่งหินที่ปักอยู่บนพื้น แต่ยิ่งซูหนิวขุดดินรอบด้านออกไปก็พบว่าแท่งหิน แท่งมีขนาดใหญ่และยาวขึ้นเรื่อยๆ
ฮูหนิวยิ่งขุดลึกลงไปอีก จนในที่สุดก็มีหัวกะโหลกขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา!
ที่แท้สิ่งนี้คือก็ซากศพของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ที่ถูกฝังลงไปอยู่ใต้พื้นดินของช่องเขา และมีแค่ส่วนเขาที่อยู่บนหัวเท่านั้น ที่โผล่พ้นดินขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
เมื่อร่างทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตยักษ์ถูกขุดขึ้นมา พวกหลิงฮันทั้งห้าก็ทําได้เพียงแหงนมองร่างขนาดมหึมาของมัน
“หินวิญญาณหยางสีฟ้าคราม!” ฮูหนิวรีบนําหินวิญญาณหยางออกมาจากศีรษะของสิ่งมีชีวิตยักษ์
“ที่นี่แห่งนี้มีซากศพของสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรได้อย่างไรกัน?” หลิงฮันลูบคางครุ่นคิด และคาดเดา “เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลังจากที่สิ่งมีชีวิตมหาสมุทรเสียชีวิตแล้ว มันจะถูกลอยตามน้ําและถูกดูดเข้ามาที่นี่?”
“บางทีกําแพงโปร่งใสนั่น อาจจะไม่ขวางกั้นร่างของสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ในช่องเขาแห่งนี้จะมีหินวิญญาณหยางสะสมอยู่มากมายเพียงใดกัน?”