ตอนที่ 2003 ทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ
หอคอยน้อยปากเสียตนนี้มักจะบอกเรื่องสําคัญกับเขา ในวินาทีสุดท้ายตลอด
หลิงฮันไม่เล่าเรื่องนี้ให้พวกจักรพรรดินีทั้งสามคนฟัง เพราะจากพวกนางไม่ได้ครอบครองแก่ นกําเนิดสวรรค์และปฐพี เกรงว่าบอกไปก็มีแต่จะทําให้พวกนางเสียใจเสียเปล่า
นอกจากนั้นการทะลวงผ่านระดับด้วย หินวิญญาณหยางสีม่วงก็ไม่ได้ห่างจากคําว่าสมบูรณ์ แบบเท่าไหร่นัก
“หากทําอย่างที่เจ้าว่า ข้าก็ต้องทิ้งแก่นกําเนิดวิญญาณทั้งสาม ออกไปเป็นดวงวิญญาณ แทนน่ะสิ?” หลิงฮันเอ่ยถาม “แล้วถ้าข้าต้องการทําความเข้าใจอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสามเหล่า นั้นล่ะจะทําอย่างไร?”
“ช่างโง่นัก!” หอคอยน้อยสบถ “ดวงวิญญาณคืออะไร? มันคือส่วนหนึ่งของร่างกายเจ้า ซึ่งเจ้าสามารถสัมผัสถึงมันได้ไม่ว่าจะแยกห่างกันหรือไม่ แล้วแบบนี้เหตุใดเจ้าจะทําความเข้าใจ อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ไม่ได้?”
“ยิ่งกว่านั้น หากใช้แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีแทนดวงวิญญาณของตัวเอง ขีดจํากัดของการแบ่งแยกวิญญาณย่อมไม่ใช่สี่ดวง… แต่เป็นเก้าดวง!”
มุมปากของหลิงฮันกระตุกทันที เขากล่าว “ตอนนี้ข้าครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเพียงสามเท่านั้น หากข้าหาแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเพิ่มไม่ได้ ข้าก็ต้องติดอยู่ในระดับตัดวิญญาณปฐพี่ไปตลอดกาลงั้นรึ?”
“งั้นเจ้าก็รีบหาแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเพิ่มซะ” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไร้ความรับผิดชอบ
หลิงฮันกลายเป็นไร้คําพูด แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ไม่ใช่กะหล่ําปเสียหน่อย มีรีที่จะหามาได้ง่ายๆ?
ดินแดนแห่งเซียนนั้นกว้างใหญ่ขนาดไหน และมีราชานิรันดร์มากมายเพียงใด ที่ต้องการครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี
ส่วนตัวเขาที่ได้ครอบครอง แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ถึงสามน่ะรึ? กล่าวได้ว่านี่เป็นเพราะโชคช่วยแท้ๆ ซึ่งเขาก็ไปหาโชคมากินเป็นอาหารไม่ได้ด้วย
“ถ้าหากข้ากินโชคเป็นอาหารได้ก็คงดี” หลิงฮันพึมพํา
ระดับโลกียนิพพานมีขั้นพลังที่สมบูรณ์คือห้านิพพาน ส่วนระดับแบ่งแยกวิญญาณคือเก้าดวงวิญญาณ!
“หากแบ่งวิญญาณได้เก้าดวงจริงๆ ความแข็งแกร่งจะน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนกัน?” หลิงฮันอดสงสัยไม่ได้
“หากเจ้าต้องการบรรลุเป็นมหาปราชญ์สวรรค์ เจ้าต้องขัดเกลาทุกระดับพลังให้สมบูรณ์ที่สุด” หอคอยน้อยเลี่ยงตอบ และเปลี่ยนไปกระตุ้นหลิงฮันแทน
มหาปราชญ์สวรรค์!
หลิงฮันกําหมัดแน่น คําพูดของหอคอยน้อยจี้จุดเขาอย่างจัง ตราบใดที่มีเส้นทางให้ก้าวขึ้นสู่จุดสมบูรณ์ที่สูงที่สุด เขาก็ไม่ลังเลที่จะเลือกเส้นทางนั้น แม้ว่าจะต้องพบเจอความยากลําบากเพียงใด
เขาเริ่มกระตุ้นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสามภายในพริบตา เพลิงเก้าสวรรค์ วารีพลังหยินเร้นลับ และพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธก็สันสะท้านตอบรับ
พวกมันเลือกหลิงฮันเป็นเจ้านายก็จริง แต่พวกมันก็ไม่ได้ความนึกคิดของตัวเองไปอย่างสมบูรณ์ เพราะงั้นพวกมันจึงมีความปรารถนาอยากจะเป็นอิสระ
หลิงฮันครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจเลือก ตัดวิญญาณด้วยเพลิงเก้าสวรรค์เป็นอันดับแรก
เนื่องจากมันคือแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ตนแรกที่เขาได้ครอบครอง เพราะงั้นหากยึดตามหลักแล้ว มันย่อมต้องได้รับอิสระให้เป็นดวงวิญญาณของเขาเป็นตนแรก
เขาชี้นําเพลิงเก้าสวรรค์ออกมาจากตันเถียน เพียงแต่เพราะว่าแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่เชี่อมต่อกับร่างกายของเขาไปแล้ว การจะแยกส่วนมันออกมาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
เวลาผ่านไปหนึ่งวัน กว่าเพลิงเก้าสวรรค์จะถูกนําออกมาจากตันเถียนของเขาอย่างสมบูรณ์ และกระเพื่อมไปมาอยู่บนมือขวาของเขา
หลิงฮันยิ้มและผลักฝ่ามือลงบนหินวิญญาณหยางตรงหน้า พริบตาเดียวเพลิงเก้าสวรรค์ก็ทะลุผ่านเข้าไปด้านใน หินวิญญาณหยางสันไหวอย่างรุนแรง ก่อนจะกลับมานิ่งสงบในเวลาไม่นาน
ด้วยการที่หินวิญญาณหยางเป็นสีม่วงที่โปร่งใส จึงสามารถมองเห็นเพลิงเก้าสวรรค์ ที่ตอนนี้กลายสภาพเป็นตัวอ่อนของมนุษย์ที่ขดตัวเข้าหากันได้อย่างชัดเจน
หลิงฮันนั่งลงและสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของดวงวิญญาณ
วันเวลาค่อยๆ ผ่านพ้นไป ตัวอ่อนของเพลิงเก้าสวรรค์ค่อยเติบโตขึ้น จนในที่สุดก็มีรูปลักษณ์อยู่ในช่วงอายุของทารก และดวงวิญญาณของหลิงฮันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน
ทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ!
ครื้นนน!
เส้นผมสีดําของหลิงฮันสยายชี้ขึ้นฟ้า และร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยตราประทับแห่งเต๋า ในขณะเดียวกันหอคอยทมิฬเองก็สั่นไหวเบา ราวกับมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
หลังเวลาผ่านไปเก้าวันเต็ม เส้นผมของหลิงฮันก็ตกลงมา และตราประทับตามร่างของเขาค่อยๆหม่นแสงลง เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกหนึ่งวัน เส้นผมของเขาก็สยายออกชี้ขึ้นฟ้า และตราประทับแห่งเต๋ทั้งร่างก็ส่องประกายออกมาอีกครั้ง
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ําไปซ้ํามาเป็นเวลาหนึ่งเดือน
หินวิญญาณหยางเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก จากการมองผ่านสีที่โปร่งใสของมัน สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีร่างโตเต็มวัยของมนุษย์อยู่ด้านใน ซึ่งร่างนี้มีรูปลักษณ์เหมือนกับหลิงฮันไม่มีผิดเพี้ยน แต่แตกต่างตรงที่ทั่วร่างมีตราประทับเปลวเพลิงส่องประกายอยู่เป็นระยะ
“แกร่ก แกรก แกร่ก” พื้นผิวของวิญญาณหยางปรากฏรอยปริแตกเหมือนใยแมงมุม “ปัง” เสียงพังทลายที่รุนแรงดังขึ้น หินวิญญาณหยางแตกกระจาย พร้อมกับร่างของมนุษย์ด้านในได้ก้าวออกมา
ร่างนี้เป็นทั้งดวงวิญญาณของหลิงฮัน และดวงวิญญาณของเพลิงเก้าสวรรค์
ในขณะเดียวกัน จักรพรรดินี ฮูหนิว และธิดาโรวเองก็แบ่งแยกดวงวิญญาณเสร็จพร้อมๆกัน ขั้นตอนการทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณ ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น จะทะลวงผ่านสําเร็จหรือไม่สําเร็จ ระยะเวลาก็จะสิ้นสุดอยู่ที่หนึ่งเดือนไม่เกินกว่านี้
ครืนนน” เมฆสายฟ้าปรากฏขึ้นเหนือศีรษะพวกเขา
ต่อให้เป็นในเขตแดนลี้ลับ หรือใต้มหาสมุทรลึก ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก็ยังเข้าถึงได้อย่างไม่มีการละเว้น
หลิงฮันคํารามตอบรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
“ครืนนน” ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์กระหน่ําผ่าลงมาอย่างเกรี้ยวกราด
หลิงฮันที่สามารถกําราบตัวตนระดับตัดวิญญาณหยิน และรับมือกับตัวตนระดับตัดวิญญาณปฐพีได้นั้น คิดว่าเขามีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดไหน?
ด้วยพลังต่อสู้ที่ไร้เทียมทานเกินกว่าระดับพลังสองขั้น ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ในระดับนี้จะนับเป็นอันใดได้?
หลิงฮันขัดเกลากายหยาบด้วยทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ แต่ยิ่งระดับพลังของเขาสูงขึ้น การยกระดับกายหยาบก็ทําได้ยากขึ้นตามไปด้วย
“ดูเหมือนข้าคงต้องไปช่วงชิงทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของคนอื่นแล้วสิ” เขากล่าวในใจ การอาบทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เพียงครึ่งวัน ไม่เพียงพอให้กายหยาบของเขาถูกขัดเกลาอย่างสมบูรณ์
เมื่อทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของเขาสลายไป ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของพวกจักรพรรดินีทั้งสามคนเองก็สิ้นสุดลงเช่นกัน
“ฮ่าๆๆ ที่นี้ใครจะมาแย่งอาหารของหนิวไปได้!” ฮูหนิวหัวเราะ ตอนนี้นางไม่ได้มีร่างเดียวอีกต่อไป แต่มีถึงสองร่าง
หลิงฮันอดหัวเราะไม่ได้ จอมยุทธคนอื่นคิดที่จะมีร่างแยกเพื่อพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น แต่เด็กสาวผู้นี้กลับมีแต่เรื่องอาหารอยู่ในหัว
จักรพรรดินี้ไม่กล่าวอะไร ร่างของนางสั่นไหวเล็กน้อย และเรียกร่างแยกทั้งเก้าออกมา พร้อมกันนั้นเอง ดวงวิญญาณของนางก็เรียกร่างแยกทั้งเก้าออกมาเช่นกัน
ฮูหนิวชะงักกลายเป็นไร้คําพูดในทันที ก่อนหน้านี้ขนาดเป็นหนึ่งต่อสิบ นางก็ยังแข่งอาหารแพ้จักรพรรดินี ตอนนี้พอนางมีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน อีกฝ่ายก็มีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นอีกสิบ
หลิงฮันหัวเราะ “เอาล่ะ มาขุดหาหินวิญญาณหยางกันต่อ และนําไปขายกันดีกว่า!”