อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 257 แผลเป็นเต็มตัว

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 257 แผลเป็นเต็มตัว

หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จพวกมู่เถาเยาก็ต้องกลับโรงแรมของน้าเล็กอวิ๋นแล้ว

แม่ลู่ร้องห่มร้องไห้ ใครปลอบก็ไม่ยอมปล่อยมือ

ลู่หันซูก็เกือบร้องตามแม่

ย่าลู่จนปัญญา เมื่อก่อนลูกสะใภ้ไม่เป็นแบบนี้

ทำไมถึงได้มั่นใจว่าเสี่ยวมู่คือเจ้าหญิงน้อยที่ตัวเองบ่นคิดถึงอยู่ตลอดล่ะ

แต่ทำไมเธอถึงได้มีความคิดน่ากลัวที่ว่าเสี่ยวมู่ก็คือเจ้าหญิงน้อยล่ะ นี่เธอถูกลูกสะใภ้ล้างสมองแล้วเหรอ

เสี่ยวมู่อายุสิบแปด อายุตรงกันพอดี แต่ไม่น่ามีเรื่องบังเอิญขนาดนี้หรือเปล่า

โลกนี้มีคนตั้งมากมาย เด็กอายุสิบแปดมีเป็นล้าน เป็นไปได้ที่ไหนกัน

ลู่หันซูกับย่าไม่รู้ว่ามู่เถาเยาเพิ่งถูกพบตัวในภายหลัง ไม่อย่างนั้นต้องคิดมากแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นจะคิดเชื่อมโยงได้ว่ามู่เถาเยาคือ ‘เจ้าหญิงน้อย’ ที่แม่ลู่พูดถึงหรือเปล่า

“เหมียวเหมียว ไม่เอาแต่ใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้เสี่ยวมู่ก็มาอีก” ย่าลู่อยากแกะมือของลูกสะใภ้ที่จับชายเสื้อของมู่เถาเยาแน่น

แม้ย่าลู่จะทำงานสวน แต่เธอก็สู้แรงของลูกสะใภ้ไม่ได้ พูดอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย

“เจ้าหญิงน้อย” แม่ลู่มองมู่เถาเยาด้วยสีหน้าน้อยใจ

ลู่หันซูเห็นแม่ตัวเองเป็นแบบนี้ก็สงสารและปวดใจ

‘เจ้าหญิงน้อย’ กินพื้นที่เต็มหัวใจของแม่ตัวเอง เธอเป็นลูกสาว จะบอกว่าไม่อิจฉาก็คงเป็นไปไม่ได้

แต่แม่ของเธอก็ไม่ปกติ เธออิจฉาก็พูดไม่ได้ ทำได้เพียงอดกลั้นไว้

มู่เถาเยามองแม่ลู่ที่มีสีหน้าน้อยใจ จากนั้นก็พูดกับย่าลู่และลู่หันซู “ย่าลู่คะ หันซู ไม่งั้นให้คุณน้ากลับโรงแรมกับพวกเราก็ได้ ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องมาขึ้นเขาจากด้านนี้”

ย่าลู่ส่ายหน้า “จะรบกวนหนูขนาดนั้นได้ยังไง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดิมทีหนูจองห้องสองเตียงไว้พักกับอาจารย์สาม แต่ถ้าคุณน้าไปด้วย เดี๋ยวจองห้องให้อาจารย์ใหม่ได้ค่ะ”

ลู่หันซูกับย่าไม่มีทางเลือก ขณะเดียวกันก็กลุ้มใจ พรุ่งนี้พวกมู่เถาเยาขึ้นเขาจะทำยังไง ให้ตามเข้าไปด้วยไม่ได้ กลัวจะเหมือนเมื่อก่อนที่วิ่งเข้าไปในป่าอย่างบ้าคลั่ง รบกวนการหาสมุนไพรไปอีก…

แล้วก็อีกไม่กี่วันเด็กๆ เหล่านี้ต้องกลับไปแล้ว แม่ลู่จะทำยังไง

ลู่หันซู “อาจารย์ลู่คะ เสี่ยวมู่ ไม่งั้นฉันตามไปด้วยแล้วกัน ฉันกับแม่พักห้องเดียวกัน” แบบนี้อาจารย์กับศิษย์ก็ไม่ต้องแยกกันแล้ว

มู่เถาเยาพยักหน้า “ได้ เธอไปเก็บเสื้อผ้านะ ช่วงหลายวันนี้ไปพักกับพวกเราก่อน ย่าลู่จะไปด้วยกันไหมคะ ไม่อย่างนั้นต้องอยู่บ้านคนเดียว…”

ย่าลู่ยิ้มพลางส่ายหน้า “อยู่บ้านคนเดียวไม่เป็นไร หมู่บ้านเราปลอดภัยมาก ก็แค่ต้องรบกวนพวกหนูแล้ว”

“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”

“จ้ะ”

ย่าลู่มองหลานสาวตัวเอง บอกให้รีบขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า

พอลู่หันซูลงมาย่าลู่ก็พูด “พรุ่งนี้เช้ามากินข้าวเช้าที่นี่นะ”

มู่เถาเยายิ้มพลางพยักหน้า “ได้ค่ะ” หางานให้คนแก่ทำจะได้ไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

ใบหน้าของย่าลู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พูดเร่ง “รีบขึ้นรถเถอะ จะได้กลับไปพักผ่อน”

“ค่ะ”

ยังคงเป็นรถตู้เก้าที่นั่งของเพื่อนบ้าน มีสองแม่ลูกครอบครัวลู่เพิ่มเข้าไปก็ยังนั่งพอ

ระยะนี้เอารถไปใช้ก่อน ตอนก่อนกลับค่อยให้ค่าเช่า

พอไปถึงโรงแรมก็เปิดอีกห้องหนึ่ง จากนั้นเฉิงอันนั่วกับพ่อบ้านจงก็เดินไปส่งพวกผู้หญิงที่ห้องก่อน

แม่ลู่ยังคงตัวติดกับมู่เถาเยา

ลู่หันซูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดอกไม้ แบ่งบานได้ครึ่งเดียวก็อยากปิดกั้นตัวเอง

“หันซู เธอพักกับอาจารย์สามเถอะ”

“เสี่ยวมู่ ฉันรบกวนเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

“ไม่เป็นไร แม่เธอไม่เอะอะหนวกหูเลยสักนิด ไม่ถือว่ารบกวน”

“…ได้ แม่ฉันอาบน้ำเองทำอะไรเองได้ เสื้อผ้าที่เปลี่ยนออกฉันค่อยเอากลับไปซักพรุ่งนี้ เสี่ยวมู่ มีอะไรโทรหาฉันได้นะ ฉันเปิดเครื่องตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

แม่ของเธอแค่ถูกพิษ ไร้ความทรงจำ แต่ไม่ใช่สติฟั่นเฟือน ทักษะการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานยังทำได้อยู่ ไม่อย่างนั้นเธอรบกวนเสี่ยวมู่ไม่ได้จริงๆ

“ไม่เป็นไร พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ”

“อืม”

ลู่หันซูเอาถุงกระดาษใบใหญ่วางบนโซฟาแล้วออกจากห้องพร้อมลู่จือฉิน

พอเห็นในห้องไม่มีใครแล้วแม่ลู่ก็ยิ้มมองมู่เถาเยา ท่าทางมีความสุข

“คุณน้ายิ้มอะไรคะ”

“เจ้าหญิงน้อย”

“คุณน้ารู้ได้ยังไงว่าฉันคือ เจ้าหญิงน้อย”

แม่ลู่ยิ้ม “เจ้าหญิงน้อย เจ้าหญิงน้อยของพวกเรา”

“คุณน้า พวกเราคือใครกันคะ” มู่เถาเยาถามด้วยความตื่นเต้น

การฝังเข็มเมื่อตอนบ่ายมีผลอะไรแล้วหรือเปล่า

“พวกเรา…เจ้าหญิงน้อย…พวกเรา…คือใคร…” แม่ลู่ขมวดคิ้วพูดพึมพำ

“…งั้นน้าเหมียวจำเหมียวฉีได้ไหมคะ พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ชื่อเหมียวฉี”

แม่ลู่เอียงคอตั้งใจครุ่นคิด สีหน้าเหมือนจำอะไรไม่ได้เลย

มู่เถาเยา “…”

ก็ได้ เธอคิดมากไปเอง

แม่ลู่ก็แค่พูดว่า ‘พวกเรา’ ไปตามจิตใต้สำนึก

มู่เถาเยาล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วแกว่งตรงหน้าแม่ลู่ “คุณน้าคะ ขอถ่ายรูปคุณน้าได้ไหมคะ”

ไม่รู้ว่าแม่ลู่เข้าใจหรือเปล่า เอาแต่ยิ้มอ่อนโยนให้มู่เถาเยา

มู่เถาเยาเอาโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปครึ่งตัวกับเต็มตัวของแม่ลู่ที่ยิ้มหน้าบานอย่างมีความสุข

หน้าตาไม่สวย แต่รอยยิ้มกลับงดงามมาก

ใบหน้า แขนขาของแม่ลู่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น แสดงให้เห็นว่าเมื่อก่อนได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน

ไม่รู้ว่าใต้ร่มผ้ามีอีกเท่าไร

เธอไม่กล้าจินตนาการเลยว่าแม่ลู่ทนทุกข์ทรมานมาได้อย่างไร

แต่มู่เถาเยาจินตนาการได้ว่า แม่ลู่อุ้มเด็กทารกเย่ว์จืออิ๋งผ่านประสบการณ์อันน่ากลัวในเขตป่าชั้นในอย่างไร และปกป้องทารกด้วยตัวเองไม่ให้รับบาดเจ็บได้อย่างไร…

ยังไม่ต้องสนว่าทำไมเธอถึงอุ้มทารกออกไป แต่เรื่องที่ทำหลังจากนั้นใช่ว่าพ่อแม่แท้ๆ หลายคนจะทำได้

สิ่งที่เห็นกับตาอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องที่คาดเดา ทำไมต้องอุ้มเด็กหนี คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัว

แต่เรื่องบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องเห็นกับตาก็มีเหตุการณ์แสดงให้เห็นเอง ทั้งดีและร้าย ทำให้เราต้องยอมรับมัน

มองเนื้อตัวที่มีแต่บาดแผลของแม่ลู่ มู่เถาเยารู้สึกนับถือพ่อลู่จริงๆ

ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบมองของสวยงาม แต่พ่อของลู่หันซูยอมใช้ชีวิตกับแม่ลู่ได้ ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่คนตื้นเขิน…

ในฐานะที่เป็นหมอมากฝีมือ มู่เถาเยามองออกจากบาดแผลพวกนี้ว่าแม่ลู่ค่อนข้างสวยทีเดียว แต่ตอนนี้เสียโฉมแล้ว หากเธอได้สติกลับมาไม่รู้ว่าจะทนรับไหวหรือไม่

มู่เถาเยาถอนหายใจเบาๆ วางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หัวเตียง หยิบถุงสัมภาระของแม่ลู่แล้วพาเธอไปตรงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ “คุณน้าล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะคะ”

แม่ลู่จับแขนเสื้อของมู่เถาเยาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

มู่เถาเยาเอาถุงกระดาษของแม่ลู่วางบนพื้นที่กว้างข้างอ่างล้างหน้า “วางใจได้ค่ะ หนูอยู่ในห้อง ไม่ไปไหน”

“เจ้าหญิงน้อยไม่ไป”

“ค่ะ ไม่ไป หนูจะอยู่ในห้อง คุณน้าล้างหน้าออกมาก็จะเห็นหนู”

ครั้นแล้วแม่ลู่จึงปล่อยแขนเสื้อของมู่เถาเยา

มู่เถาเยามองแม่ลู่ที่ใช้แขนข้างที่ด้วนกับแขนที่สมบูรณ์อีกข้างล้างหน้าแปรงฟันอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นถึงเดินออกจากห้องน้ำ

หยิบโทรศัพท์มือถือไปนั่งที่โซฟา ดูรูปถ่ายของแม่ลู่อยู่สักพักแล้วส่งให้เย่ว์หลั่ง

ไม่กี่วินาทีต่อมาโทรศัพท์มือถือของมู่เถาเยาก็ดัง

เธอกดรับวิดีโอคอล ใบหน้าหล่อเหลาที่เป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

“ลูกสาวสุดที่รัก ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้เป็นใครเหรอ”

“แม่เพื่อนค่ะ พ่อคะ พอจะคุ้นหน้าเธอบ้างไหม”

“ก็คุ้นนะ พ่อเคยเจอเหรอ พ่อจำได้ว่าเคยเจอเพื่อนๆ ของลูกอยู่บ้าง แต่ไม่เคยเจอผู้ปกครองของเพื่อนลูกเลยนะ” หรือเขาเคยความจำเสื่อมเหรอ

“พ่อคะ รอยแผลเป็นบนใบหน้าแม่เพื่อนเกิดจากถูกแมลงมีพิษ หญ้ามีพิษ และก็พืชสารพัดชนิดบาด แขนที่ด้วนก็เป็นไปได้ว่าถูกเสือกัด เธอถูกพิษฮ่วนเซี่ยง ถ้าไม่มียาถอนพิษก็อยู่ได้มากสุดแค่ครึ่งปีค่ะ…”

“แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ! งั้นลูกส่งให้พ่อดูเพราะอยากให้ตระกูลปาช่วยหายาถอนพิษเหรอ ลูกติดต่ออาเฝ่ยโดยตรงได้เลยนะ เขาจะทำตามที่ลูกสั่ง”

มู่เถาเยาส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ หญ้าร้อยรสหายากมาก ไว้หนูกลับไปที่เผ่าจะไปตามหา หนูส่งรูปให้ดูเพราะคิดว่าพ่ออาจรู้จักเธอ เธอชื่อเหมียวเหมียว…”

“เหมียวอวี้! ลูกพ่อ ใช่เหมียวอวี้ไหม มิน่าถึงคุ้นหน้า! ลูกพ่อ เฝ้าไว้ให้ดีนะ พ่อจะไปเดี๋ยวนี้!”

เนื่องจากใบหน้ามีรอยแผลเยอะมาก แทบจะเต็มทุกพื้นที่ เย่ว์หลั่งถึงจำไม่ได้

มู่เถาเยาเห็นเย่ว์หลั่งเดินไปค้นเสื้อผ้าแล้ว เธอรีบพูดขึ้น “ไม่ต้องรีบค่ะพ่อ น้าเหมียวจำได้แค่เจ้าหญิงน้อย ความทรงจำอย่างอื่นถูกพิษฮ่วนเซี่ยงกลืนกินหมดแล้ว จำเรื่องนี้ได้แค่เศษเสี้ยว”

“ลูกพ่อ รีบเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อฟังเร็ว”

“หนูมาถึงหมู่บ้านตงจี๋เมื่อวาน พอน้าเหมียวเห็นหนูก็ตะโกนเรียกเจ้าหญิงน้อย ตอนที่พิษยังไม่ออกฤทธิ์รุนแรง น้าเหมียวยังชอบวิ่งเข้าไปในหุบเขาบ่อยๆ บอกว่าจะไปตามหาเจ้าหญิงน้อย พูดถึงเสือกับหมาป่าอยู่เรื่อยๆ…พ่อเพื่อนหนูเก็บน้าเหมียวได้จากในป่า…ย่าเพื่อนบอกว่าทางใต้ หนูเลยเดาว่าอาจจะเป็นป่าเซียนโหยว…”

ฟังมู่เถาเยาเล่าจบเย่ว์หลั่งก็แน่ใจเลยว่าคนคนนี้คือเหมียวอวี้!

“ลูกพ่อ พ่อจะไปหาลูกตอนนี้ เครื่องบินใช้เวลาไม่นาน รอพ่อนะ”

“พ่อคะ น้าเหมียวอยู่ตงจี๋ ไม่หนีไปไหน รอหนูกับอาจารย์สามตามหาหญ้าร้อยรสทางนี้เสร็จก่อนก็จะไปที่เผ่า พอถึงตอนนั้นหนูค่อยเล่าอย่างละเอียดให้พ่อ คุณอา และก็พวกพี่ๆ ฟัง พ่อมาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ น้าเหมียวไม่มีความทรงจำ แม้แต่ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองก็จำไม่ได้ค่ะ”

เย่ว์หลั่ง “…”

พ่อที่ถูกลูกสาวพูดใส่ว่า ‘ไม่มีประโยชน์’ เกือบร้องไห้ออกมา

มู่เถาเยาเห็นสีหน้าพ่อก็รีบพูดปลอบทันที “เชื่อหนูนะคะ พ่อมาก็เสียเวลาเปล่า”

เย่ว์หลั่ง “…ก็ได้”

เขาต้องเชื่อฟังลูกสาวสุดที่รัก

“ลูกพ่อ ยังไม่ได้บอกแม่เรื่องนี้ใช่ไหม”

“ยังค่ะ เรื่องเหมียวฉีหนูก็ไม่ได้บอกแม่ค่ะ”

กล้าที่ไหนกัน!

อาการป่วยใกล้หายดีแล้ว กลัวจะสะเทือนใจจนกำเริบอีกรอบ!

รอให้หายสนิทก่อนหรือไม่ก็เรื่องนี้ปิดฉากลงแล้วค่อยเล่า

“ดีแล้ว อย่าเพิ่งบอกแม่เลย เดี๋ยวพ่อจะปรึกษากับพี่ชายสองคนของลูกและก็อาด้วย”

“ค่ะ”

“งั้นลูกรีบเข้านอนนะ พ่อจะรอลูกมาหา”

“ฝันดีค่ะพ่อ”

“ฝันดีลูกพ่อ”

พอมู่เถาเยาวางสาย แม่ลู่ก็ออกมาจากห้องน้ำ

“เจ้าหญิงน้อย”

“เสร็จแล้วเหรอคะ”

“อืมๆ”

แม่ลู่สวมเสื้อยืดแขนสั้นคอวีกับกางเกงนอนขาสั้นเดินมาหามู่เถาเยา

มู่เถาเยามองรอยแผลเป็นของแม่ลู่ที่โผล่ออกมานอกชุดนอน ชัดเจนมาก เธอพูดไม่ออกไปนาน

“เจ้าหญิงน้อย?”

มู่เถาเยายื่นมือออกไปลูบแผลเป็นที่ลึกและยาวบนแขนที่ด้วนของแม่ลู่

“เจ้าหญิงน้อย ไม่เจ็บ ไม่เจ็บ”

“ค่ะ ไว้หนูมีเวลาจะช่วยทำยาลบรอยแผลเป็นทำให้แผลเป็นบนตัวหายไปให้หมดนะคะ” โดยเฉพาะบนใบหน้า

แม่ลู่เอียงศีรษะพูดซ้ำไปซ้ำมา “ไม่เจ็บ”

“ค่ะ คุณน้าขึ้นเตียงไปนอนก่อนนะคะ หนูจะไปอาบน้ำ”

แม่ลู่ตอบอืมแล้ววิ่งไปขึ้นเตียงขนาดเมตรครึ่งพร้อมทั้งห่มผ้าเรียบร้อย กะพริบตาปริบๆ

มู่เถาเยาหลุดหัวเราะ รู้สึกว่าแม่ลู่เหมือนพวกเด็กๆ อย่างเจ้าถุงลมน้อย ว่านอนสอนง่าย

“รีบนอนนะคะ หนูจะไปอาบน้ำแล้ว”

แม่ลู่หลับตาอย่างว่าง่าย

มู่เถาเยายิ้มมุมปาก มองแม่ลู่อีกเล็กน้อยแล้วถึงไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน

เมื่อเธอออกมาแม่ลู่ก็หลับสนิทไปแล้ว

มู่เถาเยากดจุดปราณนิทราเพื่อให้แม่ลู่หลับสนิทยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เปิดผ้าห่มออก เปิดเสื้อของแม่ลู่ ตรวจดูร่างกายของเธอ

วันนี้บ่ายตอนจับชีพจรก็รู้สึกได้ว่าในตัวแม่ลู่ไม่ได้มีแค่พิษฮ่วนเซี่ยง ยังมีพิษประหลาดอีกชนิดที่กำลังตีกับพิษฮ่วนเซี่ยง

พิษชนิดนี้จะทำให้สติปัญญาของคนเสื่อมถอยลง แต่ก็เพราะมีพิษนี้อยู่ แม่ลู่ถึงไม่ตายเพราะพิษฮ่วนเซี่ยงกัดกร่อนตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน

พิษสองชนิดนี้ออกฤทธิ์ข่มกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ทำให้แม่ลู่มีชีวิตอยู่ต่อได้หลายปีภายใต้การต่อสู้ของพิษทั้งสอง

คล้ายกับเป็นผลพลอยได้จากการแก่งแย่งชิงดีของคนอื่น

วันนี้ตอนที่เพิ่งเจอแม่ลู่ ท่าทางของเธอเหมือนเด็ก มู่เถาเยาก็สงสัยแล้วว่าเธอไม่ได้แค่ถูกพิษฮ่วนเซี่ยง เพราะพิษฮ่วนเซี่ยงไม่ได้ทำให้สติปัญญาเสื่อมถอย

อาจารย์สามไม่เคยเจอแม่ลู่มาก่อน วินิจฉัยจากคำบอกเล่าของลู่หันซูว่าเป็นพิษฮ่วนเซี่ยง มิฉะนั้นไม่มีทางเอาแต่ตามหาหญ้าร้อยรสในเขตป่าชั้นใน

ตอนนี้เห็นบาดแผลบนตัวแม่ลู่ จุดแดงหลายแห่งที่เอวด้านหลังทำให้มู่เถาเยาขมวดคิ้ว

นี่เป็นพิษจากพืชที่พบเจอได้ยากชนิดหนึ่ง ออกฤทธิ์แค่กับสมองเหมือนพิษฮ่วนเซี่ยง

มู่เถาเยารู้สึกว่าเธอมาอยู่โลกนี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเจอในชาติที่แล้วนอกจากเรื่องเทคโนโลยี

ทั้งๆ ที่รอบรู้ตำรับยาโบราณ พิษโบราณ แต่ทำไมนอกจากดอกไม้สองชีวิตแล้ว เธอกับอาจารย์ก็ไม่เคยพบเจออย่างอื่นอีก

ถ้าจะบอกว่ายุคสมัยนี้ไม่ใช่โลกภายหลังของพวกเธอในชาตินั้น แล้วทำไมถึงได้มีของที่เกี่ยวข้องกับพวกเธอมากขนาดนี้ ไหนจะพวกคนรู้จักอีก

มู่เถาเยาห่มผ้าให้แม่ลู่ มองเธอด้วยแววตาสับสนอยู่สักพักแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือไปนั่งที่โซฟา

โทรหาเย่ว์เลี่ยง

เธอรู้ดีว่าหลังจากที่พ่อเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง อาจะต้องรอสายจากเธอแน่นอน พี่ชายทั้งสองก็คงอยากโทรหาเธอ แต่เห็นว่านี่ก็ดึกมากแล้ว น่าจะอดทนรอจนวันพรุ่งนี้

คุยกับอาแค่ใจความสำคัญมู่เถาเยาก็วางสาย จากนั้นก็ส่งข้อความหาอาจารย์สามบอกสิ่งที่เธอสังเกตเห็น

ลู่จือฉินพอใจมาก ความสามารถทางการแพทย์และด้านพิษของลูกศิษย์นับวันจะยิ่งเก่งมากขึ้น

เธอย่อมสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติแล้ว ก็แค่จงใจไม่พูดถึง

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท