อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 335 พัฒนาขึ้น

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 335 พัฒนาขึ้น

สองสัปดาห์ก่อนหมดปิดเทอมหน้าร้อน เวลาว่างจากการทำยามู่เถาเยาก็จะอยู่เป็นเพื่อนพวกอาจารย์ ไปเดินดูโรงงานของทั้งสามหมู่บ้าน ประชุมกับคนดูแลของแต่ละบริษัท เล่นกับพวกเด็กๆ…

งานแข่งขันกีฬานานาชาติปิดฉากลงไปแล้ว เธอได้ดูอยู่แค่ไม่กี่ครั้ง

แต่ก่อนเข้าเขตป่าชั้นในเธอเห็นเซียวถงพี่ชายของเซียวเซียวได้เหรียญทองเหรียญแรกจากการแข่งขันว่ายน้ำพอดี

จินตนาการได้เลยว่าเซียวเซียวจะดีใจขนาดไหน

สุดสัปดาห์นี้อ้ายโยวพาเสี่ยวเหยียนเหยียนที่อายุสิบเดือนมาหามู่เถาเยา

พอเด็กน้อยเห็นมู่เถาเยาก็กางแขนจะให้อุ้ม

ในหมู่บ้านไม่ค่อยมีเด็กเล็กขนาดนี้ การมาของเสี่ยวเหยียนเหยียนจึงสร้างบรรยากาศรื่นเริงอยู่ไม่น้อย

มู่เถาเยาอุ้มเสี่ยวเหยียนเหยียนที่หัวเราะคิกคักพลางพูด “พี่อ้ายโยว อากาศร้อนขนาดนี้ทำไมถึงพาเสี่ยวเหยียนเหยียนนั่งรถมาตั้งนานล่ะคะ”

“ใกล้เปิดเทอมแล้ว พี่เลยอยากพาเสี่ยวเหยียนมาหาเธอก่อน เขาเอาแต่เรียกพี่ตลอดเลยนะ”

เสี่ยวเหยียนเหยียนเลียนแบบคำพูด “พี่…คิกๆๆ…”

เรียกเองสนุกเองอยู่คนเดียว

“เด็กคนนี้หัวเราะเก่งจริงๆ” ย่าเย่ว์รู้สึกเหมือนหัวใจจะละลายแล้ว

อ้ายโยวก็ยิ้ม “บางครั้งนอนๆ อยู่ก็หัวเราะจนตื่นเองก็มีค่ะ”

ทุกคนต่างเอ็นดูไม่ไหว

เสี่ยวเหยียนเหยียนก็ไม่กลัวคนแปลกหน้า เห็นใครก็ยิ้มให้หมด

เจ้าถุงลมน้อยกับพวกเด็กๆ ต่างเข้าไปล้อมเสี่ยวเยาเยาเล่นกับเสี่ยวเหยียนเหยียน

“น้องน่ารักจังเลย”

มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “ใช่จ้ะ น่ารักเหมือนพวกอันเหยี่ย”

พวกเด็กๆ พยักหน้าอือๆ

“พี่อ้ายโยวคะ เห็นก่อนหน้านี้พี่บอกว่าจะกลับไปทำงานที่เมืองเย่ว์ตู”

“จ้ะ เสี่ยวเหยียนหย่านมแล้ว พี่เลยสมัครงานคณะหมินเล่อ ผ่านแล้ว เริ่มทำงานวันที่หนึ่งกันยาจ้ะ”

“งั้นเสี่ยวเหยียนให้พ่อเขาเลี้ยงเหรอคะ”

“พ่อกับแม่พี่จะมาช่วยเลี้ยงสองสามปี พอเสี่ยวเหยียนเข้าอนุบาลก็โล่งแล้วจ้ะ”

แม่ของเธอยอมเกษียณก่อนห้าปีเพื่อหลาน เพราะไม่วางใจที่จะจ้างพี่เลี้ยง

ครอบครัวอ้ายมีลูกคนเดียวมาตลอด ก็เลยค่อนข้างเป็นกังวลเรื่องการเลี้ยงดู

“…พี่ไม่วางใจที่จะให้เหยียนจื่อเย่าเลี้ยง” พอพูดถึงสามีที่แยกกันอยู่ รอยยิ้มของอ้ายโยวก็ลดลง

เธอไม่วางใจจริงๆ ที่จะให้เขาเลี้ยงลูก แต่ก็ไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะมาหาลูก

เธอไม่ปฏิเสธว่าเขารักลูก ก็แค่ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงเด็ก

มู่เถาเยาลอบถอนหายใจแทนเหยียนจื่อเย่า เธอเปลี่ยนเรื่องคุย “ฉันคิดว่าพี่จะกลับไปขึ้นเวทีอีกครั้งเสียอีก”

“พี่เรียนกู่เจิงตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยได้รับรางวัล กู่เจิงเป็นงานอดิเรกอันดับหนึ่งของพี่นอกจากเต้น”

“ที่แท้พี่ก็มาแทนอาจารย์หลี่”

“แทนเหรอ” อ้ายโยวถามด้วยความไม่เข้าใจ

“อาจารย์หลี่ใกล้เกษียณแล้วค่ะ”

“แต่…ถึงพี่จะเล่นเป็น ก็ยังเทียบชั้นกับศิลปินกู่เจิงไม่ได้ จะแทนที่อาจารย์หลี่ได้ยังไง พี่คิดว่าคณะหมินเล่อแค่อยากหานักดนตรีกู่เจิงทั่วไปมาเล่นเสียอีก”

มู่เถาเยาส่งเสี่ยวเหยียนเหยียนให้แม่อุ้ม จากนั้นก็พาอ้ายโยวไปห้องหนังสือ

ห้องหนังสือในบ้านเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดจากบรรดาห้องทั้งหมด ไม่ได้มีแค่หนังสือ ยังมีเครื่องดนตรีประเภทสาย กระดานเดินหมาก ภาพวาด ห้องมีขนาดสามเท่าของห้องนอนพวกเขา

“พี่อ้ายโยวเล่นให้ฉันฟังสักเพลงสิคะ”

อ้ายโยวรู้สึกงงเล็กน้อย แต่กลับไม่ถามว่าทำไม นั่งลงแล้วเล่นเพลงโบราณที่ถนัดที่สุด

มู่เถาเยาฟังจบก็พยักหน้า “เสียงเพลงของพี่อ้ายโยวมีชีวิตชีวา อาสะใภ้ของฉันกับอาจารย์หลี่มองคนไม่ผิดจริงๆ ค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยาก็เข้าใจพวกดนตรีโบราณด้วยเหรอ เอ่อ…ดูพี่ถามเข้า ในบ้านมีเครื่องดนตรีขนาดนี้ จะไม่เข้าใจได้ยังไง”

“มาค่ะ เดี๋ยวฉันจะเล่นเพลงที่พี่เล่นเมื่อครู่ ลองดูว่าพี่จะมองความแตกต่างออกไหม”

“จ้ะ”

อ้ายโยวลุกเพื่อหลีกที่ให้

สิบนิ้วเรียวยาวของมู่เถาเยาวางบนสาย เสียงเพลงที่มีชีวิตชีวาดังไปทั่วบ้าน

ไพเราะจับใจอ้ายโยว จากนั้นเธอก็อินกับบทเพลง

หนึ่งเพลงจบไป มู่เถาเยายิ้มถาม “พี่อ้ายโยวฟังความแตกต่างออกไหมคะ”

“…เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็เหมือนไม่เข้าใจ…” อ้ายโยวขมวดคิ้ว ลองคิดวิเคราะห์ดู

หากคนนอกวงการได้ฟัง เสียงเพลงของพวกเธอแตกต่างกันไม่มาก แต่คนที่ช่ำชองจะรู้ว่ามันไม่เหมือนกัน

ทั้งๆ ที่รู้ว่าแตกต่าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะบอกได้ว่าแตกต่างตรงไหน

“พี่อ้ายโยวมีความตระหนักรู้ แต่ยังขาดความมีชีวิตชีวาไปหน่อย…ความรู้สึกยังไม่หลอมรวมเต็มที่ ยังดูขัดๆ อยู่บ้าง…ด้านอื่นๆ ของพี่ดีหมด เล่นได้คล่อง แสดงได้สมบูรณ์แบบ…”

มู่เถาเยาวิเคราะห์จุดที่ยังขาดของอ้ายโยวออกมาให้ฟัง

อ้ายโยวฟังจบก็รู้สึกกระจ่างขึ้นบราวนี่ออนไลน์

มู่เถาเยารู้ว่าเธอเข้าใจ จึงเจตนาแนะนำอีกนิดหน่อย

“อันที่จริงนักดนตรีแต่ละคนพยายามที่จะสอดรับและอยากเข้าถึงเจตนาเดิมของบทเพลง ก็เลยยากที่จะไม่ใส่อารมณ์ของตัวเองร่วมไปด้วย…”

อ้ายโยวตั้งใจฟัง

“…เมื่อความรู้สึกและประสบการณ์มีมากขึ้น แม้แต่นักดนตรีประเภทเดียวกันก็ยังตีความบทเพลงได้ไม่เหมือนกัน…นักดนตรีแต่ละคนควรมีสไตล์เป็นของตัวเอง เพราะศิลปะก็ต้องถ่ายทอดผ่านความเป็นตัวของตัวเอง…”

อ้ายโยวพยักหน้าเรื่อยๆ ดวงตาเปล่งประกาย “เสี่ยวเยาเยา พี่เข้าใจแล้ว!” ยังรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นด้วย

“ด้วยวัยของพี่อ้ายโยว มาได้ระดับนี้ก็เก่งมากแล้วค่ะ…ก็ไม่แปลกที่อาสะใภ้ของฉันกับอาจารย์หลี่จะรับพี่เข้ามาทั้งที่ไม่ได้เรียนจบกู่เจิงมาโดยตรง…พี่อ้ายโยวลองวางอารมณ์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง อีกไม่กี่ปีต้องมีชื่อเสียงมากแน่นอนค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยา เธอเป็นดาวนำโชคของพวกเราจริงๆ !” อ้ายโยวยิ้มจากใจจริง

มู่เถาเยายิ้มพูด “ฉันกับเสี่ยวเหยียนเหยียนมีวาสนาต่อกันค่ะ” ก็เลยมีวาสนากับพ่อแม่ของเขาด้วย

“นั่นสิ เด็กคนนั้นขนาดแม่ยังเรียกไม่เป็นเลย แต่กลับเรียกพี่ได้ก่อน แถมยังพูดชัดด้วย” แต่เธอก็ไม่ได้น้อยใจอะไร

“นั่นเป็นเพราะพี่อ้ายโยวเรียกให้เขาได้ยินบ่อยๆ เด็กเล็กเลียนแบบเก่งที่สุดค่ะ”

“เสี่ยวเยาเยา พี่กับพ่อแม่ย้ายไปอยู่เซิ่งซื่อฉางอันแล้วนะ ต่อไปถ้าเธอว่างก็แวะมากินข้าวได้ พ่อแม่กับพี่ทำอาหารเก่งพอควรเลยล่ะ”

“ค่ะ เหยียนจื่อเย่ายังอยู่ที่ตอนใต้ของเมืองเหมือนเดิมเหรอคะ”

“อืม พวกเราแยกกันอยู่ชั่วคราว”

“พวกเราลงไปกันค่ะพี่อ้ายโยว” เรื่องของความรัก คนอื่นเข้าไปยุ่งไม่ได้ คงต้องปล่อยให้ตกผลึกกันเอาเอง

“จ้ะ”

ตอนที่มู่เถาเยากับอ้ายโยวลงไปชั้นล่าง เสี่ยวเหยียนเหยียนก็หลับไปแล้ว

พวกเด็กๆ ไปเล่นกับเทาน้อยทั้งสองที่ตรงมุมห้อง ไม่ส่งเสียงเอะอะ เอาใจใส่เป็นพิเศษ

ย่าตี้ยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้พ่อแม่ของพวกเด็กๆ จะมารับพวกเขากลับแล้วเหรอ”

“ค่ะ คุยกันเมื่อคืน วันเสาร์จะมารับ”

“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ แค่ชั่วพริบตาก็ใกล้เปิดเทอมกันแล้ว” ย่าเย่ว์พูดอย่างปลงๆ

อาจารย์แม่รองพยักหน้า “นั่นสิ เวลาสองเดือนผ่านไปในชั่วพริบตา เสี่ยวเยาเยาเพิ่งจะได้อยู่บ้านกี่วันเอง”

มู่เถาเยาเสนอความคิดเห็น “ไม่งั้นอาจารย์แม่รองไปอยู่เมืองเย่ว์ตูด้วยกันสักระยะไหมคะ”

“ไม่ล่ะจ้ะ แก่แล้ว ไปอยู่ที่นู่นคนเดียวเดี๋ยวเสี่ยวเยาเยาไม่เป็นอันเรียนกันพอดี”

“อาจารย์สามก็อยู่ด้วยนะคะ”

ลู่จือฉินยิ้มพูด “ใช่ค่ะ อีกอย่างเวลาว่างฉันก็ไม่ค่อยออกไปไหน พี่หยวนไปอยู่เย่ว์ตูด้วยกันสิคะ”

อาจารย์แม่รองส่ายหน้า “ปีหน้าแล้วกัน พอถึงตอนนั้นอาจารย์ใหญ่กับอาจารย์รองก็ไม่มีสอนแล้ว ทุกคนจะได้ไปด้วยกัน”

“ก็ได้ค่ะ”

พอถึงตอนนั้นศิษย์พี่หญิงห้าก็คลอดเยี่ยจั๋วแล้ว คนแก่จะได้เล่นกับเด็ก เธอก็ไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจากหมู่บ้านเถาหยวนซานที่แสนครึกครื้นไปอยู่เย่ว์ตูแล้วจะเบื่อ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท