ตอนที่ 338 วัวแก่กินหญ้าอ่อน
วันศุกร์ที่ยี่สิบห้าสิงหาคม เป็นวันก่อนวันเปิดเรียนของมหาวิทยาลัยต่างๆ
มู่เถาเยา ลู่จือฉิน มู่หว่าน ถังถัง อ้ายโยวกับลูกชาย รวมถึงบรรดาคนตระกูลเย่ว์ต่างเก็บสัมภาระเรียบร้อย กำลังบอกลาชาวบ้าน
มู่หว่านก็เปิดเทอมวันที่หนึ่ง วันนี้ไปเย่ว์ตูพร้อมมู่เถาเยา วันพรุ่งนี้จะออกเดินทางจากเย่ว์ตูไปเมืองหลวงพร้อมเจียงเฟิงเหมียน
“เสี่ยวหว่าน ไม่ต้องให้พ่อกับแม่ไปด้วยจริงเหรอ” ผู้ใหญ่บ้านมู่อี้แอบไม่วางใจลูกสาว
ถึงแม้ลูกสาวจะดูแลตัวเองได้ แต่อย่างไรเสียก็เพิ่งอายุสิบแปด อีกทั้งยังไปอยู่ไกลหูไกลตาขนาดนั้น เขากังวลว่าลูกจะกลัว แค่ทำเป็นเข้มแข็งภายนอก
มู่หว่านพูดด้วยความจนปัญญา “พ่อคะ พ่อกับแม่ไม่ต้องไปส่งหนูที่มหา’ลัยจริงๆ ค่ะ พรุ่งนี้พี่เหลียงจีจะไปส่งหนูกับเสี่ยวเหมียนที่เมืองหลวง เสี่ยวเหยารออยู่ที่นั่นแล้ว พวกเราไปกันเองได้”
โตจนป่านนี้แล้วยังต้องให้ผู้ปกครองไปส่ง รู้สึกขายหน้าชอบกล
ใบหน้ามู่เถาเยามีรอยยิ้ม “ลุงผู้ใหญ่บ้าน ป้าเฟยคะ วางใจเถอะค่ะ หนูจะให้พี่เหลียงจีคอยช่วยพาไปจัดการเรื่องต่างๆ พอเสร็จสรรพแล้วค่อยกลับมา”
“จะให้รบกวนเหลียงจีได้ยังไง”
ตี้อู๋เปียนยิ้มทั้งดวงตา “ลุงผู้ใหญ่บ้านครับ เครื่องบินจะลงจอดที่วังตระกูลตี้ คืนพรุ่งนี้พวกน้องๆ จะค้างกันที่บ้านผมแล้ววันมะรืนพี่ชายผมจะให้คนพาไปจัดการเรื่องเข้าเรียนครับ คุณลุงคุณป้าไม่ต้องห่วงนะครับ”
จะให้คนตระกูลตี้ออกหน้าพาไปส่งเองที่มหาวิทยาลัยคงไม่เหมาะแน่นอน แต่ในบ้านมีบอดี้การ์ดเยอะแยะ
ย่าตี้พยักหน้ายิ้มพูด “รอสุดสัปดาห์หลังฝึกระเบียบทหารเสร็จก็ให้เสี่ยวเหยารับเสี่ยวหว่านกับเสี่ยวเหมียนไปเล่นที่บ้านตระกูลตี้”
มู่หว่านยิ้มตาโค้ง หน้าบานพูดขอบคุณ
จางเฟยภรรยาผู้ใหญ่บ้านเข้ามาจับมือลูกสาว “เสี่ยวหว่าน เราน่ะเป็นพี่ สุดสัปดาห์ออกไปเที่ยวข้างนอกต้องดูแลเสี่ยวเหมียนกับเสี่ยวเหยาด้วยนะ มีเรื่องอะไรก็โทรกลับมา”
“รู้แล้วค่ะ”
ทุกคนคุยกันอีกสักพัก กำชับเรื่องต่างๆ จากนั้นก็ไปส่งพวกเขาที่ลานจอดเครื่องบิน
เหลียงจีกับพ่อบ้านจงไปเมืองเย่ว์ตูก่อนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะต้องทำความสะอาดตำหนักพระจันทร์ก่อนถึงเข้าพักได้
ตี้อู๋เปียนอยู่หมู่บ้านเถาหยวนซาน จำต้องหาใครสักคนที่เปิดประตูบ้านให้ได้กลับไป คนของตระกูลตี้ถึงจะเข้าไปช่วยทำความสะอาดได้
ตอนนี้เครื่องบินที่พวกเขานั่งเป็นเครื่องบินที่เย่ว์จือกวงขับมาเอง
ไม่นานก็ลงจอดที่เซิ่งซื่อฉางอันในเมืองเย่ว์ตู
นอกจากเหลียงจี ปาอิน รวมถึงพ่อบ้านจงที่พาพวกบอดี้การ์ดขับรถมารอรับแล้ว อาจารย์อาเล็ก เจียงเฟิงเหมียน และพวกศิษย์พี่ก็มาด้วย ยังมีคู่สามีภรรยาที่บุคลิกสง่างามวัยประมาณห้าสิบ เหยียนจื่อเย่าอีกคน
คู่สามีภรรยาที่ว่าคือพ่อแม่ของอ้ายโยว
อาหารกลางวันกินกันที่ตำหนักพระจันทร์
ทุกคนเป็นคนสนิทของมู่เถาเยา ยกเว้นครอบครัวของอ้ายโยว ดังนั้นเวลาคุยกันจึงไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย คุยกันแบบคนสนิทสนมคุ้นเคย
หลังกินอาหารกลางวันเสร็จก็ยังไม่มีใครออกจากห้องรับแขกยกเว้นครอบครัวของอ้ายโยว
มู่เถาเยาพาศิษย์พี่หญิงห้าที่กำลังท้องไปพักในห้องรับรองแขกเสร็จก็ถึงเวลาแจกจ่ายของฝากให้ทุกคน
“นี่เป็นยาบำรุงช่วยขับพิษที่มีส่วนผสมของไท่ซุ่ยเป็นหลัก มีสรรพคุณช่วยชะลอความแก่ด้วยค่ะ…” บลาๆๆ
ยาอายุยืนที่ทำก่อนหน้านี้มีน้อยเกินไป คนของสำนักแพทย์โบราณกับสำนักซย่าโหวจึงไม่ได้รับส่วนแบ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ เลย
ครั้งนี้มีไท่ซุ่ยเป็นส่วนผสมหลัก ทำยาชะลอความแก่ที่ได้ผลอัศจรรย์ออกมาได้มากมาย แบ่งให้ได้หลายคน
ศิษย์พี่ใหญ่ดวงตาเป็นประกาย รีบพูดขึ้น “เสี่ยวเยาเยา น้ำไท่ซุ่ยช่วยเร่งสรรพคุณของยาต้มได้…”
“ค่ะ ฉันกับอาจารย์สามก็ใช้น้ำไท่ซุ่ยทำเป็นยาเม็ดสำหรับเร่งสรรพคุณยาอื่นๆ ถึงคราวจำเป็นต้องใช้ก็แค่เอาใส่ในยาต้มหนึ่งเม็ด เอาให้คนละขวดก่อนนะคะ ใช้หมดฉันค่อยทำใหม่ ขวดเขียวเป็นยาบำรุงความงาม ขวดขาวเป็นยารักษาค่ะ”
ทุกคนรับของฝากไปด้วยความดีใจ
มู่เถาเยายื่นขวดเขียวกับขวดขาวให้เยี่ยหนานเฉิน “พี่เขยห้าคะ ศิษย์พี่หญิงห้าท้องอยู่ อย่าเพิ่งให้กินยาเม็ดไท่ซุ่ยที่บำรุงความงามนะคะ พี่กินเองก็พอ ไว้ศิษย์พี่หญิงห้าคลอดเยี่ยจั๋วแล้วหย่านมเมื่อไรค่อยเอาให้กิน”
ไท่ซุ่ยเป็นสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยากมากในธรรมชาติ เป็นกึ่งสัตว์กึ่งพืช เติบโตได้เฉพาะในภูเขาลึกและป่าทึบที่มีร่องรอยมนุษย์น้อย
แม้สรรพคุณของมันจะมีมาก แต่องค์ประกอบของมันเป็นอย่างไรจวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ สตรีมีครรภ์อย่าเพิ่งกินจะดีกว่า
เยี่ยหนานเฉินพยักหน้า “ได้”
ศิษย์พี่หกดึงจุกฝาของขวดขาว ดมเสร็จก็ปิดขวด ยิ้มพูด “พี่ว่านับแต่เสี่ยวเยาเยาออกมาจากหมู่บ้านเถาหยวนซานก็ดวงดีแบบไม่ธรรมดา ตอนแรกก็เจอคนในครอบครัวก่อน…ต่อมาไม่ว่าไปที่ไหนก็เจอสมุนไพรหายาก…รวมๆ กันก็หลายเรื่องมากจริงๆ”
อาจารย์อาเล็กคิดแล้วพยักหน้า “พอได้ฟังแบบนี้ก็รู้สึกว่าจริงนะ”
กู่ย่ายิ้มกว้าง “งั้นก็พูดได้เพียงว่าสวรรค์ไม่อยากให้เสี่ยวเยาเยาอุดอู้อยู่แค่ในหมู่บ้านเล็กๆ อย่างหมู่บ้านเถาหยวนซาน ถึงแม้ด้วยความฉลาดของเสี่ยวเยาเยา ไม่ออกมาก็ได้แต่ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่โลกข้างนอกกว้างใหญ่มาก มีสีสัน ควรออกมาดูบ้าง”
มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “โชคดีที่หนูออกมาค่ะ” ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะได้เจออากับอาจารย์เมื่อไร
“นั่นสิ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่ได้เจอกัน…” พอนึกถึงอดีต เป่ยซีก็ยังคงเจ็บปวดหัวใจ
มู่เถาเยาโอบแม่แท้ๆ พลางพูด “แม่คะ อย่าไปนึกถึงอดีตเลย ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดี”
ยายหลานตบหลังมือลูกสาวเบาๆ “เสี่ยวเยาเยาพูดถูก อดีตไม่หวนคืน ตอนนี้กับอนาคตต่างหากที่สำคัญที่สุด พวกเรายังมีเวลาอีกหลายสิบปีหรือแม้กระทั่งร้อยปีที่จะอยู่ด้วยกันนะ”
พวกเขาจะพยายามอยู่ให้ได้ถึงอายุร้อยสองร้อยปี ถึงจะไม่เสียทีที่เสี่ยวเยาเยาทำยาอายุยืนให้พวกเขากิน
เป่ยซีลูบผมยาวสลวยของลูกสาว “จ้ะ ลืมอดีตไป ต่อไปแม่จะยิ่งรักหนูมากขึ้น”
อดีตไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือพยายามรักษาร่างกาย
ขอแค่สุขภาพดี ถึงจะอยู่กับลูกสาวไปได้นานๆ
ทุกคนต่างยิ้มอย่างเข้าใจ
คลายปมในใจได้เป็นเรื่องดีบราวนี่ออนไลน์
หลี่อวี้เสวี่ยพูดกับเด็กสาวที่อยู่ข้างกาย “เสี่ยวอินจ๊ะ ปิดเทอมที่ผ่านมาลำบากครอบครัวเธอแย่เลย”
“เสี่ยวเฉิงไม่ทำตัววุ่นวายเลยสักนิดค่ะพี่สะใภ้ คุณตาคุณยายของฉันชอบเสี่ยวเฉิงมาก”
“จริงเหรอ” เซอร์ไพรส์มาก!
“จริงค่ะ เสี่ยวเฉิงเอาใจคนแก่เก่งมาก…” บลาๆๆ
ทุกคนคิดในใจ พวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันจริงเหรอ
ทำไมบรรยากาศในตอนนี้มันดูหวานๆ ชอบกล
หลี่อวี้เสวี่ยกับสามียิ้มจนตาหยี
เกรงว่าเสี่ยวอินจะไม่ค่อยรู้จักใจตัวเองหรือเปล่า
แต่ก็ไม่รีบร้อน เธอยังเด็ก เพิ่งจะสิบแปด
พอนึกถึงตรงนี้ อยู่ๆ หลี่อวี้เสวี่ยก็ชักกระอักกระอ่วน
ลูกชายของเธออายุยี่สิบห้า ห่างกันเจ็ดปี วัวแก่กินหญ้าอ่อนชัดๆ
เธอรู้สึกว่าต้องดีกับเสี่ยวอินให้มากกว่าเดิมถึงจะชดเชยความรู้สึกผิดในใจได้
เจียงเฟิงเหมียนกะพริบตาปริบๆ “พี่เสี่ยวอิน ใกล้เปิดเทอมแล้ว อันนั่วอยู่มหา’ลัยหรืออยู่บ้านยายพี่ต่อเหรอคะ”
“เอ่อ…ตากับยายพี่รั้งเขาไว้ แต่เสี่ยวเฉิงบอกว่าจะไปพักที่มหา’ลัย”
ผู้อาวุโสตระกูลเย่ว์ต่างพยักหน้าอยู่ในใจ
ถังถังยิ้มพูด “ได้ยินว่าที่เผ่าสวยมาก ไว้มีโอกาสฉันจะไปเที่ยวหน่อย”
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “มีโอกาสแน่ค่ะ”
“อืมๆ”