ตอนที่ 2046 สะพานมังกรยังส่องสว่างได้อีก
จักรพรรดินีก้าวเดินขึ้นหน้า ชุดกระโปรงยาวสีม่วงที่นางสวมใส่ถูกสายลมพัดจนแนบชิดเรือนร่าง ทําให้ทรวดทรงที่สมบูรณ์แบบของนางถูกเผยออกมา
ผู้คนที่อยู่รอบด้านอดไม่ไหวที่จะหัวใจสั่นสะท้านจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง และไม่อาจละสายตาได้
‘พรึบ’ สะพานมังกรส่องสว่างขึ้นทีละอัน จนจํานวนเพิ่มขึ้นถึงห้าในพริบตา
“เป็นราชาในหมู่ราชาเป็นอย่างน้อย!”
“เหอๆ ข้าจะเลือกสะพานมังกรในภายหลังนี้ และหากข้าสามารถไปยังสะพานมังกรเดียวกัน กับนางได้ ข้าก็จะขอไล่ตามสตรีงดงามผู้นี้ไป!”
“เสียเวลาเปล่า เจ้าไม่ใช่แม้กระทั่งราชา แต่ยังคิดจะไล่ตามนางงั้นรึ?”
“จําเป็นที่ราชาในหมู่ราชาจะต้องแข็งแกร่งที่สุด? ข้ามีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์สูงสุด ซึ่งราชาในหมู่ราชาแทบจะทั้งหมดล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
ความงดงามของจักรพรรดิก่อให้เกิดความเอะอะครั้งใหญ่ ถึงแม้ฮูหนิวเองก็มีใบหน้าที่งดงามไม่ด้อยไปกว่านาง แต่เสน่ห์อันสูงส่งของจักรพรรดินีนั้นไม่อาจมีใครเทียบเคียงได้
‘พรึบ พรึบ’ สะพานมังกรอันที่หกและเจ็ดส่องสว่างขึ้นตามๆกัน
เสียงเอะอะของฝูงชนเงียบสงัดลงทันใด การที่สะพานมังกรส่องสว่างขึ้นถึงเจ็ดกัน นั่นหมายถึงสตรีที่งามล่มเมืองผู้นี้มีศักยภาพเป็นถึงจักรพรรดิ
และขุมอํานาจที่จะฝึกฝนสร้างจักรพรรดิขึ้นมาได้ ก็ต้องเป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์หรือขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับสูง
ผู้สืบทอดจากขุมอํานาจระดับนั้น ไม่ใช่ตัวตนที่จะไปยั่วยุได้ง่ายๆ
หลังจากนั้นไม่นานสะพานมังกรอันที่แปดก็ส่องสว่าง
ฝูงชนกลายเป็นเอะอะกันอีกครั้งในทันที
สะพานมังกรอันที่แปดส่องสว่างมันหมายความว่าอย่างไร?
สตรีผู้นี้มีโอกาสที่จะกระตุ้นสะพานมังกรอันที่เก้า และทําให้สะพานมังกรสีทองตอบรับ!
พระเจ้า….จะมีจักรพรรดิไร้เทียมทานคนที่หกปรากฏตัวงั้นรึ?
เมื่อสุดยอดจักรพรรดิสี่คนปรากฏตัวพร้อมกัน นั่นหมายถึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่ราชานิรันดร์ระดับแปดจะถือกําเนิดขึ้นในอนาคต แล้วตอนนี้ล่ะ? หรือนี่จะเป็นสัญญาณบอก ว่ากําลังจะมีราชานิรันดร์ระดับเก้าถือกําเนิดขึ้น?
ราชานิรันดร์ระดับเก้า…ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้สวรรค์และปฐพี!
ทุกคนตกตะลึงจนไร้คําพูด การประลองร้อยมหามังกรในครั้งนี้คือการเปิดยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริง
‘พรึบ’ ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาด สะพานมังกรอันที่เก้าส่องสว่างขึ้นมาในที่สุด!
ทันใดนั้นเอง แสงสว่างของสะพานมังกรทั้งเก้าก็หม่นแสง และสะพานมังกรสีทองก็ส่องสว่างขึ้นมาแทนที่
“พระเจ้า… นี่ข้าเห็นอะไรอยู่กันแน่?”
“มีอัจฉริยะที่กระตุ้นสะพานมังกรสีทองได้อีกคนแล้ว!”
“เดี๋ยวก่อน จะว่าไปแล้วสตรีทั้งสองนั้นเป็นจอมยุทธที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พวกนางจะต้องไม่ใช่คนของอาณาเขตสวรรค์ผ่อันเป็นแน่ เพราะงั้นก็ไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีสุดยอดจักรพรรดิปรากฏตัวพร้อมกันถึงหกคนจากหลายอาณาเขตสวรรค์”
“แต่ไม่ว่าอย่างไรในหมู่จักรพรรดิทั้งหกคนนี้ ก็ต้องมีคนหนึ่งที่บรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าในอนาคตแน่นอน”
“ราชานิรันดร์ระดับเก้า!”
ประโยคนี้วนเวียนอยู่ในหมู่ฝูงชน เพราะในสายตาของจอมยุทธระดับนิรันดร์ทั่วไป ราชานิรันดร์ระดับเก้าคือตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งศาสตร์วรยุทธ ซึ่งมีอํานาจทัดเทียมกับสวรรค์อันสูงสุด
การที่จะได้เป็นสักขีพยานมองดูการผงาดของตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในอนาคต ทําให้ความรู้สึกตื่นเต้นของเหล่าฝูงชนพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด
“จะเป็นใครกันนะ?”
“เทียนชิงเย่?”
“เซี่ยโหวถง?”
“จู่ฮุยหยิน?”
“ หรือจะเป็นสตรีที่แทะขาไก่กินก่อนหน้านี้?”
เมื่อนึกถึงฮูหนิวทุกคนก็ส่ายหัว ในความคิดของพวกเขาราชานิรันดร์ระดับเก้านั้นเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ไม่มีทางที่จะเดินถือขาไก่กินอย่างสบายใจเช่นนั้น
จักรพรรดินียิ้มให้หลิงฮันและก้าวเดินไปยังสะพานมังกร
ธิดาโร่วเองก็ลุกขึ้นยืนต่อ นางบิดเอวเล็กของนางก่อนจะเดินไปหยุดยืนตรงหน้าผา การเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของนางส่งผลให้ผู้คนโดยรอบดวงตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า
ในโลกนี้มีสตรีที่ทรงเสน่ห์ขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร?
ธิดาโร่วขยับมือโคจรทักษะบ่มเพาะ ‘พรึบ’ ทันใดนั้นสะพานมังกรก็ส่องแสงตอบรับอํานาจ แห่งกฎเกณฑ์จากทักษะของนาง
หนึ่ง…สอง…สาม…สี่….ห้า…หก!
สะพานมังกรที่ส่องสว่างมีทั้งหมดหกสะพาน
นั่นหมายความว่าธิดาโร่วไม่ใช่แค่ราชาในหมู่ราชาทั่วไป แต่ยังถูกจัดอยู่ในราชาในหมู่ราชาระดับแนวหน้า ซึ่งห่างจากจักรพรรดิเพียงเล็กน้อย
ธิดาโร่วยิ้มอย่างงดงาม ก่อนจะก้าวเดินไปยังสะพาน
“ข้าไปด้วย!”
“ข้าด้วย!”
“ข้าก็ด้วย!”
หลังจากธิดาโร่วเดินจากไป ผู้คนมากมายก็แย่งกันกระตุ้นสะพานมังกร เพราะฝันหวานว่าตนเองจะได้เลือกสะพานมังกรเดียวกันกับธิดาโร่ว
หลิงฮันอดประหลาดใจไม่ได้ ความนิยมของธิดาโร่วมีมากกว่าจักรพรรดินีหรือฮูหนิว อีกงั้นรึ?
แต่พอคิดอีกทีแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ถึงแม้จักรพรรดิกับฮูหนิวจะมีรูปลักษณ์ที่งดงามยิ่งกว่า แต่เมื่อพูดถึงเสน่ห์ที่เย้ายวนใจแล้วธิดาโรวนั้นเหนือกว่าจริงๆ
หลิงฮันไม่รอช้าอีกต่อไป หลังจากธิดาโร่วจากไปเขาก็เริ่มกระตุ้นสะพานมังกร
ว่าแต่ว่าเขาจะเลือกใช้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์อะไรดี?
หลิงฮันลังเลเล็กน้อย ในร่างกายของเขามีแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่อยู่สี่ธาตุ เมื่อรวมกับอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสามจากหอคอยทมิฬแล้ว อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เขาใช้ได้ก็จะมีมากถึงเจ็ด และยิ่งถ้ารวมกับอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร ห้วงมิติและห้วงเวลาที่เขาฝึกฝนด้วยตัวเองแล้ว อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เขาใช้ได้ก็จะมีถึงสิบ
ถ้างั้นก็ลองทีละอย่างแล้วกัน
อันดับแรกก็เริ่มที่อํานาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิง
แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีตนแรกที่หลิงฮันได้ครอบครองคือเพลิงเก้าสวรรค์ เพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะเริ่มจากเพลิงเก้าสวรรค์เป็นอันดับแรก
ร่างวิญญาณเพลิงเก้าสวรรค์ปรากฏออกมา ‘ฟุบ’ ร่างของมันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง และ ทําการกระตุ้นสะพานมังกร
‘พรึบ พรึบ พรึบ’ สะพานมังกรส่องแสงสว่างที่ละอันจนจํานวนเพิ่มขึ้นเป็นห้า…เจ็ด… แปด!
เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงและดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายทันที
อัจฉริยะที่สามารถกระตุ้นสะพานมังกรได้ถึงแปดปรากฏตัวอีกคนแล้ว!
จะกระตุ้นสะพานที่เก้าได้หรือไม่?
“เรื่องนั้นไม่น่าเป็นไปได้ จักรพรรดิไร้พ่ายปรากฏขึ้นถึงหกคนแล้ว จะเป็นไปได้ที่จะมีเพิ่มอีกคน?”
คนส่วนใหญ่ก็คิดเช่นนั้น จักรพรรดิไร้พ่ายถึงเจ็ดคนงั้นรึ? แค่คิดพวกเขาก็ขนลุกแล้ว
พรึบ!
เพียงแต่ทันใดนั้นเองสะพานมังกรอันที่เก้าก็ส่องสว่าง และก็เป็นเหมือนคราวก่อนๆที่สะพานทั้งหมดหม่นแสงลง ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสะพานมังกรสีทองที่สุกสกาว
“สะพานมังกรส่องสว่างอีกแล้ว!”
“คนที่เจ็ด!”
“การเปิดเขตแดนลี้ลับครั้งนี้ จะทําลายสถิติตลอดกาลเลยหรืออย่างไรกัน?”
ทุกคนอุทานออกมาด้วยความรู้สึกอึ้ง ตอนนี้ถ้าหากมีจักรพรรดิไร้พ่ายที่กระตุ้นสะพานมังกรสีทองได้อีกคน พวกเขาก็คงไม่แปลกใจอะไรแล้ว
ถ้าหากทุกคนรู้ว่าหลิงฮันใช้เพียงแค่ร่างวิญญาณกระตุ้นสะพานมังกรสีทองล่ะ พวกเขาทุกคนคงหวาดผวาจนเข่าอ่อนเป็นแน่
ถึงแม้สะพานมังกรสีทองจะส่องสว่างแล้ว แต่หลิงฮันก็ยังคงไม่ขยับเท้าก้าวเดิน