ตอนที่ 2062 ยั่วยุแทนผู้เป็นนาย
พวกหลิงฮันทั้งสี่คนมาถึงตําแหน่งที่คนของเมืองมังกรฟ้าครามบอก ตําแหน่งที่พวกเขายืนอยู่นี้เป็นหุบเขาลึกที่ถูกปิดด้วยกําแพงภูเขาสูงทั้งสองด้าน
หินในบริเวณนี้บางก้อนจะกักเก็บผงกระดูกมังกรสวรรค์เอาไว้ ซึ่งต้องเป็นคนมีโชคเท่านั้นถึงจะหาเจอ
จักรพรรดินีกวักมือลวกๆ เพื่อดูดหินมากมายให้ลอยมาที่มือและออกแรงเบาๆ “ปัง” หินมากมายแหลกสลายเป็นเศษฝุ่น
ไม่มีผงกระดูกมังกรสวรรค์อยู่ในหินเหล่านี้
ถ้าหากมีผงกระดูกมังกรสวรรค์ถูกกักเก็บอยู่ด้วย หินเหล่านี้ก็จะไม่แหลกสลาย ด้วยการที่มันมีเศษซากของราชานิรันดร์ผสานรวมอยู่ ความทนทานของมันย่อมไม่ด้อยไปกว่าแร่โลหะกิ่งนิรันดร์เจ็ดหรือแปดดาว
แต่ในขณะที่พวกหลิงฮันกําลังจะเดินเข้าไปในหุบเขาลึก กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้จากด้านหลัง โดยที่ชายร่างผอมที่เดินนําอยู่มีกลิ่นอายที่น่ายําเกรงเป็นอย่างมาก
เทียนชิงเย่… หนึ่งในที่สี่สุดยอดจักรพรรดิของอาณาเขตสวรรค์ผ่อน
เมื่อเห็นว่าที่นี่มีพวกหลิงฮันทั้งสี่คนอยู่ด้วย ดวงตาของเทียนชิงเย่ก็ส่องประกายเหยียดหยาม เขาที่คิดว่าตัวเองนั้นสูงส่งที่สุดย่อมเป็นธรรมดาที่จะไม่เห็นใครอยู่ในสายตา แน่นอนว่านี่เป็นเพราะเขาเลือกที่จะก้าวเข้าสู่สะพานมังกรเร็วไป จึงไม่รู้ว่าจักรพรรดินีและฮูหนิวเองก็กระตุ้นสะพานมังกรสีทองได้เช่นกัน แถมยังมีหลิงฮันที่สามารถก้าวเดินไปยังสะพานมังกรสีดํา อันเป็นตัวแทนของเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดได้อีก!
หากเขารู้เรื่องนี้ ทัศนคติของเขาในตอนนี้ย่อมไม่ใช่แบบนี้แน่
เพียงแต่เมื่อเห็นความงดงามของจักรพรรดินี ฮูหนิว และธิดาโร๋ว จู่ๆ ดวงตาของเทียนชิงเย่ก็ส่องประกายและกวาดมองไปที่หลิงฮันสองครั้ง
เจ้าหนูนี่ช่างโชคดีจนน่าริษยาอะไรอย่างนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะสามารถครอบครองสาวงามล่มเมือง ที่มีเสน่ห์แตกต่างกันได้ถึงสามคน
ในกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่แค่เทียนชิงเย่ที่หยิ่งทะนง แต่ผู้ติดตามทั้งเก้าคนด้านหลังของเขาเองก็หยิ่งยโสไม่แพ้กัน พวกเขาคิดว่าตนเองจะสามารถเหยียบย่ําใครให้อยู่ใต้เท้าก็ได้ หากพวกเขากอดขาของเทียนชิงเย่เอาไว้
ผู้ติดตามคนหนึ่งมองเห็นแววตาของเทียนชิงเย่ และรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือโอกาสประจบเจ้านายของตนแล้ว
ผู้ติดตามคนนั้นก้าวเดินอ้อมมาที่ด้านหน้าหลิงฮันและขวางทางเอาไว้ เพียงแต่แทนที่เขาจะแสดงท่าที่โอหัง เขากลับกล่าวออกมาอย่างสุภาพ “ซือค่งฮ่าวยินดีที่ได้พบเทพธิดาทั้งสาม!”
เทพธิดาทั้งสามงั้นรึ? แล้วหลิงฮันล่ะ?
เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจทําเพื่อที่จะยั่วยุหลิงฮัน
หากหลิงฮันไม่พอใจและคิดจะสู้ เขาก็จะใช้โอกาสนั้นในการทุบตีหลิงฮันให้ภาพลักษณ์ปนี้
เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม เทียนชิงเย่ก็จะลงมือห้ามปรามและตําหนิเขา เพื่อสร้างภาพให้ดูเป็นคนดีและสูงส่ง
หลิงฮันสะบัดมือและกล่าว “สุนัขที่ดีย่อมไม่ยืนขวางทาง จงไสหัวไป!”
“เหอๆ ข้าพูดกับเจ้างั้นรึ?” ซือค่งฮ่าวกล่าวด้วยน้ําเสียงเหยียดหยามและใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกดูหมิน
ในระยะที่ห่างออกไป จู่ๆ ฝีเท้าของเทียนชิงเย่เคลื่อนที่ช้าลง ด้วยสติปัญญาของเขา แน่นอนว่าเขาย่อมคาดเดาจุดประสงค์ของซือค่งฮ่าวได้ เขาจึงแสยะยิ้มและไม่ได้ห้ามปราม
หากซือค่งฮ่าวต้องการมัดใจสตรีให้แก่เขา มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้าสวะ บางครั้งการประจบประแจงเจ้านายก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทํา เพราะ เจ้าไม่รู้ว่าศัตรูที่เจ้าไปยั่วยุนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน”
“เจ้าจะบอกว่าตนเองแข็งแกร่งมาก จนข้าคิดผิดที่ล่วงเกินเจ้างั้นรึ?” ซือค่งฮ่าวลิกคิ้วและดูถูกหลิงฮันต่อไป
หลิงฮันพยักหน้า “แน่นอนว่าเจ้าคิดผิด”
“เพียงแค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยาง ข้าสามารถกําราบได้ด้วยหนึ่งมือ!”ซือค่งฮ่าวแสยะยิ้ม ก่อนหน้านี้ทุกคนได้ลงทะเบียนรายชื่อเพื่อรวมกลุ่มกัน ซึ่งในการลงทะเบียนจําเป็นต้องบอกระดับพลังของตนเองไว้ด้วย เพื่อที่เมื่อได้รับผงกระดูกมังกรสวรรค์มาจะได้จัดสรรค์แบ่งปันให้ เหมาะสมตามระดับพลัง
คิดว่าทุกคนจะได้รับผงกระดูกมังกรสวรรค์ในจํานวนที่เท่ากันทุกคนนั้นรึ?
ไม่มีทาง!
ด้วยเหตุนี้ซือค่งฮ่าวจึงรู้ว่าพวกหลิงฮันทั้งสี่คนมีพลังอยู่ในระดับตัดวิญญาณหยาง ซึ่งตัวเขาเองมีพลังอยู่ในระดับตัดวิญญาณสวรรค์และมีศักยภาพเป็นราชา ต่อให้หลิงฮันเป็นราชาในหมู่ราชา อีกฝ่ายก็ทําได้เพียงคุกเข่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
“เป็นคนที่น่ารังเกียจนัก ฮูหนิวจะทุบตีให้เละเลย!” ฮูหนิวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ และอ้าปากแยกเขี้ยวเล็กๆ ทั้งสอง
หลิงฮันรั้งเด็กสาวเอาไว้และกล่าว “ให้ข้าจัดการเอง”
“เจ้าน่ะ ? เกรงว่าแค่สามกระบวนท่าของข้าเจ้าก็ไม่อาจรับไม่ไหว” ซือค่งฮ่าว เข้าไป
หลิงฮันไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย เพราะคําพูดของเช่นนี้ไม่คู่ควรให้เขาเก็บเอามาใส่หัว เขายิ้มอย่างแผ่วเบาและปล่อยหมัดใส่ซือค่งฮ่าว “พรึบ พรึบ พรึบ” ตราประทับมากมายพรั่งพรูออกมาจากกําปั้นของเขาที่ละอัน ทําให้อํานาจของหมัดรุนแรงราวกับสามารถบดขยี้ได้แม้แต่ท้องฟ้า
“ช่างอวดดี!” ซือค่งฮ่าวเองก็ตอบโต้ด้วยหมัด
ปัง
หมัดสองหมัดเขาปะทะกัน และแสงจากอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ได้สั่นสะเทือนยุ่งเหยิงไปทั่ว
หลิงฮันล่าถอยไปที่ด้านหลังเจ็ดเก้า ก่อนจะพยุงตัวให้ยืนนิ่งและยิ้ม “ก็ไม่เท่าไหร่!”
ซือค่งฮ่าวไม่ล่าถอยสักก้าวและเป็นฝ่ายเหนือกว่าในการโจมตีเมื่อครู่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็ไม่แสดงออกถึงความปิติยินดีแม้แต่น้อย เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
เพียงแค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยาง เหตุใดพลังต่อสู้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
แม้แต่เทียนชิงเย่ก็ยังเผยสีหน้าระมัดระวัง ตัวเขานั้นสามารถกําราบซือค่งฮ่าวได้ด้วยหนึ่งมือ เพราะงั้นหลิงฮันที่อ่อนแอกว่าซือค่งฮ่าวก็ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นการที่การโจมตีของหลิงฮันด้อยกว่าซือค่งฮ่าวเพียงเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นพลังต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์มากอยู่ดี
รุ่นเยาว์ตรงหน้านี้เป็นสุดยอดจักรพรรดิระดับแนวหน้า ที่มีพรสวรรค์ในศาสตร์วรยุทธไม่ด้อยไปกว่าเขา!
ใบหน้าของซือค่งฮ่าวแข็งข้างไปชั่วขณะ ก่อนจะกลายเป็นเกรี้ยวกราด
เจ้ากล้าดูถูกข้ารี?
งั้นก็จงลงนรกไป!
ซือค่งฮ่าวคํารามเสียงเบาพร้อมกับกระหน่ําปล่อยหมัดทั้งสองออกไป “ตูม ตูม ตูม” คลื่นพลังนับร้อยถาโถมเข้าใส่หลิงฮัน และปิดกั้นทางหนีทุกเส้นทาง
ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะเขาจะไม่ได้ปรานีอ่อนข้อให้ แต่เขาก็ไม่ได้ใช้ทักษะนิรันดร์โจมตีออกไป ตอนนี้เมื่อเขาหันมาจู่โจมด้วยทักษะหมัดดาวตก พลังต่อสู้ของเขาจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า และมีความเป็นไปได้ที่จะบดขยี้หลิงฮันได้ในสองกระบวนท่า
ดวงตาของหลิงฮันส่องประกายเหี้ยมโหด อีกฝ่ายคิดจะสังหารเขาให้ตาย!
ถ้าเจ้าไร้ความปรานีต่อข้า ข้าก็จะไม่เมตตาต่อเจ้าเช่นกัน เพราะอย่างไรก็เป็นเจ้าที่ยั่วยุข้าก่อน
แก่นพลังมหาพินาศ!
“ครืนนน” ทั่วร่างของหลิงฮันส่องประกายแสงเจิดจ้า โดยที่หลังจากนั้นคลื่นแสงเหล่านั้นก็ได้ระเบิดออกมาจากร่างกาย พร้อมกับแผ่ขยายเป็นเรียวคลื่นไปยังพื้นที่ด้านหน้า
“ไม่ดีแล้ว ถอยกลับมา!” เทียนชิงเย่ตกตะลึงมาก คลื่นระเบิดนี้เทียบกับการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของเขาได้เลย ถ้าหากซือค่งฮ่าวถูกคลื่นระเบิดพลังนี้ซัดเข้าใส่ล่ะก็ อีกฝ่ายจะต้องตายทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ถึงเทียนชิงเย่จะตะโกนเสียงดังแค่ไหน ปัญหาก็คือซือค่งฮ่าวจะมีเวลาและที่ว่างให้หลบหลีกงั้นรึ?