ตอนที่ 2071 ไม่เลือกวิธีการ
ว่าไงนะ!
เซียโหวถงแทบจะสําลักออกมา จ่อหมิงเป็นคนสังหารบรรพบุรุษของเขางั้นรี?
ที่จริงสายเลือดของโกวเฉินนั้นไหลเวียนอยู่ในร่างจอมยุทธตระกูลเซียโหวไม่กี่ยุคกี่สมัยแล้ว แต่มีเพียงเซียโหวถงคนเดียวเท่านั้นที่จู่ๆสายเลือดก็หวนคืนสู่บรรพบุรุษ เมื่อรวมกันกับพรสวรรค์ในศาสตร์วรยุทธของตัวเขาเองแล้ว ศักยภาพจึงยกระดับขึ้นเป็นสุดยอดจักรพรรดิ
แน่นอนว่าเซียโหวถงเองก็ไม่เคยเห็นโกวเฉินมา ก่อนที่เขารู้ก็คือบรรพบุรุษของตนเป็นหนึ่งในตัวตนทรงพลังที่สุดในยุทธภพ ราชานิรันดร์ระดับเก๋!
ถึงอย่างนั้นจอมยุทธตัวจ้อยที่มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับแบ่งแยกวิญญาณ กลับกลาโอ้อวดว่าตนเองสังหารบรรพบุรุษของเขาอย่างนั้นรี?
แต่ด้วยการที่ประโยคนี้ถูกกล่าวออกมาจากปากของจ่อหมิง จึงไม่มีใครกล้าคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” เซียโหวถงถามด้วยน้ําเสียงหนักอึ้ง หลังจากใช้ความรู้สึกอย่างถี่ถ้วน เขาก็พบว่าพลังของโกวเฉินภายในร่างกําลังได้ยอมจํานนของจีอู่หมิงจริงๆ
สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะการชี้นําโชคชะตาของสวรรค์และปฐพี
ตัวอย่างเช่นถ้าหากสัตว์อสูรต้นกําเนิดที่ทรงพลังสองตนต่อสู้กันและมีฝ่ายหนึ่งที่ฝ่ายแพ้ ลูกหลานของฝ่ายที่พ่ายแพ้เมื่อพบเจอฝ่ายที่ชนะ ก็จะมีโชคชะตาถูกกําราบตามไปด้วยติดตัวมาแต่กําเนิด
เซี่ยโหวถงพบว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจอหมิง พลังของโกวเฉินภายในร่างของเขาได้ถูกกําราบอย่างสมบูรณ์ราวกับเป็นหนูที่พบเห็นแมว
แต่แค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณจะสังหารราชานิรันดร์ระดับเก้าได้อย่างไร?
เพราะงั้นเซี่ยโหวถงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเอ่ยถามออกมา
จ่อหมิงยิ้มอย่างไม่แยแส “เมื่อตอนที่พายุมืดคืบคลานเข้ามา โกวเฉินได้ปฏิเสธที่จะช่วยสู้รบ ข้าที่ไม่สบอารมณ์และจําเป็นต้องทําให้ขวัญกําลังใจของกองทัพมั่นคงจึงได้สังหารเขาทิ้งซะ ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้กองทัพ จิตใจจะไม่เป็นหนึ่งเดียว ในตอนนั้นดินแดนแห่งเซียนคงถูกพายุมืดลุกลานไปอย่างสมบูรณ์แล้ว”
“ไม่คาดคิดว่าเมื่อข้ากลับมาเกิดใหม่ ข้าจะต้องมาสังหารลูกหลานของโกวเฉินอีกครั้ง”
ข้อมูลที่จธุ์หมิงเปิดเผยออกมานับว่าน่าอัศจรรย์มาก
ในตอนที่ถูกพายุมืดลุกลาน ดินแดนแห่งเซียนจําเป็นต้องใช้ราชานิรันดร์ระดับเก๋ในการตอบโต้เลยงั้นรึ? ยิ่งกว่านั้นยังไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เป็นราชานิรันดร์จํานวนมาก! แถมภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นอันตรายจนแม้แต่ราชานิรันดร์ระดับเก๋อย่างโกวเฉินยังเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา
เพราะงั้นจธุ์หมิงจึงต้องสังหารโกวเฉินต่อหน้ากองกําลัง เพื่อทําให้ขวัญกําลังใจของกองทัพมั่นคง
โกวเฉินคือสัตว์อสูรต้นกําเนิดที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง แต่ก็ยังถูกจีอู่หมิงกําจัดทิ้งได้… ในช่วงเวลานั้นจ่อหมิงต้องเป็นตัวตนที่ทรงพลังขนาดไหนกัน?
“ระ… ร่างกาเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก๋!” เซียโหวถงหวาดผวา
ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าตนเองจะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับห้าได้อย่างแน่นอน แต่การจะบรรลุระดับพลังที่สูงขึ้นไปอีกนั้น เขาจําเป็นต้องพึ่งพาดวงกับวาสนาเท่านั้น เพราะเพียงแค่พรสวรรค์และความพยายามของเขาคงไม่เพียงพอ
ส่วนราชานิรันดร์ระดับเก้าน่ะรี? นั้นเป็นระดับพลังที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะนึกถึง
แต่ทว่าต่อให้จะเป็นในขั้นพลังราชานิรันดร์ระดับเก้า บรรพบุรุษของเขาก็ยังถูกใครอื่นสังหารเอาได้
เมื่อราชานิรันดร์ที่ทรงพลังขนาดนั้นกลับมาเกิดใหม่ ใครกันจะเป็นคู่ต่อสู้ได้?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทําไมอีกฝ่ายถึงกระตุ้นเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดได้สําเร็จ
เดี๋ยวก่อน… ถ้างั้นแล้วหลิงฮันล่ะ?
เซียโหวถงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังหลิงฮัน บุรุษผู้นี้เองก็กระตุ้นเส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุดได้เช่นกัน
“ข้าไม่ใช่ร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์หรอกนะ” หลิงฮันยิ้ม ในเมื่ออู่หมิงไม่รีบที่จะลงมือ เขาเองก็ไม่คิดจะรีบร้อนเช่นกัน
ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น… เซียโหวถงถอนหายใจโล่งอกถึงแม้สถานการณ์ในตอนนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตามที
จ่อหมิงยิ้มและกล่าว “หมอนั่นไม่ใช่ร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ แต่เป็นผู้สืบทอดของมหาปราชญ์สวรรค์ มหาปราชญ์สวรรค์ตัวตนที่ราชานิรันดร์ระดับเก้าบากบั่นจะก้าวไปให้ถึง ซึ่งเป็นปรมาจารย์ที่ปกครองสรรพสิ่งที่แท้จริง”
พรวด!
ดวงตาของเซียโหวถงถลนออกมาด้วยความตะลึง
อะไรกัน ยังมีตัวตนที่ยืนอยู่เหนือราชานิรันดร์ระดับเก้าอยู่อีกงั้นรี?
เส้นทางแห่งเต๋สวรรค์สูงสุด!
เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีเพียงคนที่จะบรรลุเป็นมหาปราชญ์สวรรค์เท่านั้น ถึงจะกระตุ้นสะพานมังกรสีดําได้?
ฉวะ!
ในขณะที่เซี่ยโหวถงกําลังอยู่ในสภาวะตกตะลึง จ่อหมิงก็สะบั้นดาบอย่างรวดเร็ว ศีรษะของเซียโหวถงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยที่สายตายังคงจดจ้องไปที่อู่หมิง
เจ้าเป็นถึงร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก้าแท้ๆ เจ้าลอบโจมตีสังหารรุ่นเยาว์อย่างไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร?
แต่เมื่อศีรษะถูกอุปกรณ์นิรันดร์ตัดขาด มีรีที่เชี่ยโหวถงจะมีชีวิตรอด?
อย่าว่าแต่เซียโหวถงเลย ต่อให้เป็นปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท์ที่ทรงพลังก็ไม่มีทางรอด
หลิงฮันชําเลืองมองไปยังจีอู่หมิง ปรมาจารย์ที่แท้จริงย่อมไม่สนใจเลือกวิธีการที่จะทําให้ตนเองบรรลุเป้าหมาย
อีกฝ่ายจงใจกล่าวถึงโกวเฉินขึ้นมาและเล่าเรื่องราวที่น่าตกตะลึงเพื่อให้เซี่ยโหวถงสติหลุดลอย พร้อมกับใช้โอกาสนั้นสังหารเซียโหวถงทิ้ง
ศัตรูแบบนี้ไม่ว่าใครได้สู้ด้วยก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลําบาก
จ่อหมิงเหลือบมองกลับมาที่หลิงฮันและกล่าว “ไม่ต้องกังวล หากข้าจะสังหารเจ้า ข้าจะใช้วิธีที่ยุติธรรม”
อย่างนั้นรี? หลิงฮันส่ายหัวและไม่เชื่อคําพูดของอู่หมิง
“ไปกันต่อ!” จ่อหมิงหันหลังเดินด้าน ตอนนี้พวกเขากําจัดสุดยอดจักรพรรดิไปได้แค่คนเดียว และเป้าหมายยังอยู่อีกสามคน
ต่อให้พวกเทียนชิงเยู่ทั้งสามคนจะหนีไปอย่างไร แต่เมื่อการประลองเริ่มขึ้นแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหนีออกไปจากหุบเขาแห่งนี้ได้ภายในเวลาสิบวัน
หลิงฮันกับจอหมิงเริ่มออกตามหาเป้าหมายของพวกเขาคือสามสุดยอดจักรพรรดิเท่านั้น เพราะอย่างไรคนอื่นๆที่เหลือก็จะถูกจัดการโดยร่างมนุษย์ทมิฬอยู่แล้ว
ทั้งสองคนสํารวจหุบเขาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีร่างมนุษย์ทมิฬไล่ตามมา แต่สําหรับพวกเขาสองคนแล้วการโจมตีระดับนี้ย่อมเป็นเพียงเรื่องจิ๊บจ๊อย
หลังจากผ่านไปราวๆ สองชั่วโมงในที่สุดพวกเขาก็พบจ์ขี่ยหยิน นางยืนอยู่บนโขดหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งสายลมที่พัดผ่านส่งกระโปรงของนางให้พลิ้วไหวทําให้ดูราวกับเป็นเทพธิดา
การที่นางปรากฏตัวต่อหน้าจอู่หมิงกับหมิงเช่นนี้ ราวกับว่านางพร้อมใจจะสู้เป็นตายกับพวกเขาที่นี่
หลิงฮันกวาดสายตามอง ที่ทางด้านซ้ายและขวาของโขดหินเป็นพื้นที่ว่างจึงไม่มีทางที่ใครจะซ่อนตัวอยู่ได้ แต่ด้านหลังหินที่ขี่ยหยินเหยียบอยู่นั้นมีขนาดใหญ่พอสมควร ถ้าเกิดมีใครซ่อนอยู่ตรงนั้นล่ะก็…
หลิงฮันใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบแต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
แต่ถึงอย่างนั้นการที่ขี่ยหยินยืนรอพวกเขาอยู่ที่นี่ก็ดูไม่มีเหตุผลอยู่ดี
“แค่สังหารทิ้งซะก็พอ!” จ่อหมิงก้าวเดินขึ้นหน้า ราวกับต่อให้สิ่งที่บ่อมังกรหรือถ้ําเสือที่อันตรายเขาก็ไม่แยแส