ตอนที่ 37 ชีวิตเหมือนความฝัน
“ข้าแค่อยากล้อเล่นกับท่านยมทูตเท่านั้น เหตุใดท่านยมทูตถึงลงมือหนักเช่นนี้ ท่านยมทูตเป็นผู้ชายใจร้ายจริงๆ ลูบตัวข้า และทำมิดีกับข้าแล้ว ผลปรากฏว่ากลับเดินหนีไปไม่รับผิดชอบ และเป็นเพราะคู่ครองของท่านมา จึงพาลโกรธข้า”
ศพผีสาวน้ำตาร่วงพูดพึมพำกับตัวเอง น่าเวทนาสงสาร บวกกับกระโปรงสีขาวที่เหมือนจะกลายเป็นผ้าผืนเดียวที่อยู่บนตัวของนางตอนนี้ เห็นแล้วน่าสงสารจริงๆ
ผู้คนมักพูดว่าคนที่มีอายุจนแก่มักจะเจ้าเล่ห์ และศพผีสาวที่อยู่ตรงหน้านี้มีชีวิตถึงสองร้อยปี ผ่านเรื่องราวโชกโชนในชีวิตมามากมาย
โจวเจ๋อไม่สนใจ ‘การคร่ำครวญ’ ของศพผีสาว แต่หันไปมองสวี่ชิงหล่าง
“ฆ่านางได้ไหม” โจวเจ๋อถาม
“…” ศพผีสาว
สวี่ชิงหล่างส่ายหน้า และพยักหน้าอีก
“หมายความว่ายังไง” โจวเจ๋อถาม
“พลังชี่พิฆาตในกายของนางเป็นปัญหา ถ้าหากนางปล่อยพลังชี่พิฆาตให้รั่วไหลออมาในเวลาคับขัน จะต้องทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ละแวกนี้อย่างแน่นอน” สวี่ชิงหล่างอธิบาย “แบบนี้ก็จะเป็นปัญหายุ่งยากมาก”
“โอเค”
ศพผีสาวก็รู้ ถึงแม้นางจะดับความคิดอยากจะเล่นไพ่รักกับโจวเจ๋อไปแล้ว เพราะเขาคือผู้ชายที่ใจร้ายโหดเหี้ยมที่สุด เห็นได้ชัดว่าโจวเจ๋อถูกเขียนชื่อลงในบัญชีดำในหัวใจของนางเรียบร้อยแล้ว
“แต่นางคงไม่กล้าทำอะไรแผลงๆ แบบนี้ ไม่อย่างนั้นวิญญาณของนางที่ลงนรกไปแล้ว ถ้าหากนางก่อเรื่องที่เป็นภัยต่อโลกมนุษย์ นางที่อยู่ในนรกคงจะโดนลงโทษไปด้วย ดังนั้น ฆ่านางได้”
สวี่ชิงหล่างคาบบุหรี่อยู่ในปาก ก่อนหน้านั้นเขาลนลานเหมือนนกกระทาที่ถูกใช้กำลัง แต่ตอนนี้มีโจวเจ๋อที่สามารถระเบิดพลังได้อยู่ข้างกายเขา เขาจึงกล้าที่จะดูความคึกคักและพูดจาบั่นทอนจิตใจ
“อย่าฆ่าข้าๆ นางคือนาง ข้าคือข้า ข้ากับนางเป็นคนละคน”
ศพผีสาวรีบร้องเอะอะ เธอมองออกว่าผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้อยากจะจัดการเธอให้หมดปัญหาในคราวเดียว
สิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดใดๆ ล้วนมีความสามารถที่จะเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณ ศพผีสาวก็เช่นกัน
สิ่งมีชีวิตใหม่ มีกำลังเกรียงไกรยากจะต้านทาน
ศพผีสาวจริงๆ แล้วไม่ใช่แม่นางไป๋ หากจะพูดในระดับหนึ่ง นางเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอิสระ เป็น ‘จิตวิญญาณแห่งปัญญา’ ที่ก่อกำเนิดขึ้นจากเวลาสองร้อยปีผ่านกายเนื้อของแม่นางไป๋ แต่ทว่า ศพผีสาวกับแม่นางไป๋ยังมีสายสัมพันธ์นับหมื่นที่เชื่อมโยงกัน
สวี่ชิงหล่างพูดถูกต้อง ศพผีสาวไม่กล้าก่อเรื่องใดๆ ในโลกมนุษย์ ถึงแม้ว่าจะตายแล้ว นางก็ไม่กล้าที่จะทำตัวกำเริบเสิบสานเพื่อให้แม่นางไป๋ที่อยู่ในนรกภูมิต้องได้รับโทษ
โจวเจ๋อนั่งลงยองๆ ตรงหน้าศพผีสาว “เมื่อกี้คุณหมายความว่ายังไง อยากเล่นสนุกเฉยๆ ใช่ไหม”
ศพผีสาวพยักหน้า
“เหอะๆ” โจวเจ๋อหัวเราะสองที ตอนนี้ลองคิดดูแล้ว ตัวเองยัง ‘เด็ก’ เกินไป เป็นยมทูตที่ไม่มีประสบการณ์ ถึงยอมรับปากคำขอร้องนี้ของแม่นางไป๋
“ไม่มีวิธีอะไรที่ควบคุมเธอได้เหรอ” โจวเจ๋อถาม
“ดึงวิญญาณเลือดของนางออกมา ก็สามารถควบคุมนางได้ แต่สิ่งนี้นางต้องเป็นฝ่ายยินยอมที่จะให้คุณ”สวี่ชิงหล่างแนะนำอยู่ข้างๆ
ศพผีสาวเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเผยความเคียดแค้นออกมาอย่างรุนแรง จ้องมองสวี่ชิงหล่างตาเขม็ง ราวกับว่าเวลานี้ สวี่ชิงหล่างคือศัตรูเบอร์ใหญ่ของนาง
“ถ้าไม่อยากตาย งั้นก็ส่งวิญญาณเลือดมา เธอเลือกเอง” สวี่ชิงหล่างยิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะพูด
“เธอเลือกเอง…ก็แล้วกัน” โจวเจ๋อมองไปทางศพผีสาว เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับคำชี้แนะของสวี่ชิงหล่าง
โจวเจ๋อเป็นคนรักความสะอาด เขาไม่อยากให้จู่ๆ ศพผีสาวก็ปรากฏกายขึ้น แล้วใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดแก้วน้ำของตัวเอง
“ได้ ข้าจะให้ท่าน” ศพผีสาวสูดลมหายใจลึกๆ เหมือนกำลังจะฝังความไม่สมัครใจและความโกรธเคืองของนางในเวลานี้ จากนั้นนางจึงหลับตา ต่อจากนั้น สิ่งที่เป็นเส้นคล้ายไส้เดือนสีแดงได้โผล่ออกมาจากตำแหน่งกลางระหว่างคิ้วของศพผีสาว
โจวเจ๋อยื่นมือให้เล็บจิกเจ้าสิ่งนี้ไว้ หลังจากดึงออกมาแล้ว ก็วางไว้กลางฝ่ามือของตัวเอง มีความอุ่นร้อนเล็กน้อยอยู่บ้างมีความเปียกชื้นเล็กน้อย และลื่นมาก
หลังจากศพผีสาวมอบวิญญาณเลือดแล้ว จิตใจแลดูห่อเหี่ยวมาก และเหมือนจะเป็นลม จึงใช้ฝ่ามือยันพื้นไว้ถึงไม่ล้มลงไป
“เธอเข้าห้องน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้วก็ขึ้นไปข้างบน นับตั้งแต่วันนี้ ถ้าผมไม่อนุญาต ห้ามออกจากร้านหนังสือเด็ดขาด” โจวเจ๋อตักเตือน
“เจ้าค่ะ ท่านยมทูต” ศพผีสาวก้มหน้า วางตนอย่างถ่อมตัวมาก วิญญาณเลือดถูกอีกฝ่ายย่ำยี นางจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับ
……
“ปัง”
โจวเจ๋อโยนขวดยาไปบนโต๊ะ ทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังทายาให้สวี่ชิงหล่าง แต่เวลาที่ทากลับเหมือนกำลังทำเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียน
“นายทาเองเถอะ”
“อย่าถือสานะ คุณไม่ได้บาดเจ็บแต่ผมถูกโยนไปติดกำแพง เนื้อตัวฟกช้ำเยอะมาก คุณไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจกันบ้างเหรอ” สวี่ชิงหล่างยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น แล้วพูดต่อว่า “โจวเจ๋อ ตั้งแต่คุณมาที่นี่ คุณรู้ไหมว่าผมซวยตลอด”
“นี่คือโชคชะตา” โจวเจ๋อแสดงตัวว่าไม่อยากรับความผิดนี้ “อ้อใช่ คาถาที่นายท่องเมื่อกี้ ผมฟังแล้วคุ้นหูมาก”
สวรรค์และโลกไร้ขอบเขต ใจลึกล้ำคือธรรมมะ
“มาจากละครเรื่องหนึ่ง ผมฟังแล้วรู้สึกว่าไม่เลว จึงหยิบมาใช้ จริงๆ แล้วช่วยร่ายคาถาไม่ได้เลยสักนิด” สวี่ชิงหล่างพูดด้วยความจริงใจ
“เหมือนเพิ่มเพลงพื้นหลังให้กับตัวเอง”
“เหอะ…” สวี่ชิงหล่างกลอกตาใส่ จากนั้นตัวเองจึงหยิบขวดยาไปแล้วทารอยฟกช้ำ “ในห้องครัวยังมีน้ำบ๊วยอยู่บ้าง คุณเอากลับไปเถอะ วันพรุ่งนี้ตอนเช้าผมจะไม่เปิดร้าน ต้องการพักผ่อนเยอะๆ”
“ผมกลับไปพักผ่อนแล้ว” โจวเจ๋อลุกขึ้นหยิบน้ำบ๊วยแล้วบอกลา หลังจากกลับไปที่ร้านหนังสือก็เดินตรงไปที่ชั้นสอง
ศพผีสาวเชื่อฟังเป็นอย่างดีหลังจากอาบน้ำสะอาดแล้วก็ลงไปนอนในตู้แช่ โดยใส่เสื้อผ้าของโจวเจ๋อ
เสื้อเชิ้ตสีขาวมีความหลวมมากเมื่ออยู่บนตัวนาง นางสวมทับลงไป คลุมส่วนที่โค้งเว้าด้านหลังของนางไว้ นางไม่ได้ใส่กางเกงขายาว นอนสองขาไขว้กันอยู่ แลดูสวยหยาดเยิ้มดุจแพรไหม
โจวเจ๋อยื่นมือเคาะตู้แช่ เอ่ยว่า “ผมจำได้ แม่นางไป๋เคยพูดว่านางตายก่อนคืนวันแต่งงาน”
และเพราะเหตุนี้ ตามหลักการแล้วแม่นางไป๋ยังไม่เคยผ่านอะไรมา แต่ศพผีสาวที่อยู่ตรงหน้ากลับมีความเจ้าชู้แพรวพราวเล็กน้อย
“นั่นเป็นเพราะนางไม่ได้บอกท่านว่าก่อนที่จะแต่งงานได้แอบเป็น…ชู้กับบัณฑิตยากจนคนหนึ่ง พอถูกพ่อของนางจับได้จึงรู้สึกว่าเป็นความอัปยศของครอบครัว จึงถูกบังคับถ่วงน้ำจนจมน้ำตาย”
“อ้อ ดังนั้นก็ถือว่ามีประสบการณ์โชกโชน”
“ใช่แล้ว ท่านรู้ไหมเพื่อไม่ให้ข้าดูน่ากลัวเหมือนคนจมน้ำตาย นางต้องใช้ความคิดและทุ่มเทความพยายามมากแค่ไหน”
“ผู้หญิง สุดท้ายแล้วก็รักสวยรักงามอยู่ดี” โจวเจ๋อส่ายหน้า “นอนเถอะ”
พูดจบ โจวเจ๋อจึงวางหมอนอยู่ข้างตู้แช่ แล้วนอนลงไป
มีศพผีสาวอยู่ข้างกาย ความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากกายของนางทำให้เขารู้สึกสบายมาก รู้สึกพึงพอใจกว่าตอนที่นอนอยู่ในตู้แช่
…
วันนี้แดดดีมาก ศพผีสาวกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นกระเบื้องแล้วใช้ผ้าเช็ดพื้น โจวเจ๋อย้ายเก้าอี้พลาสติกตัวหนึ่งออกมานอกร้าน แล้วนั่งอาบแดด
จนกระทั่งเวลาเที่ยง สวี่ชิงหล่างจึงเปิดร้านเดินออกมา เขาหยิบบุหรี่หนึ่งมวนจากโจวเจ๋อ พลางเหลือบตามองสถานการณ์ในร้าน แล้วยิ้มเอ่ยว่า
“อบรมได้ดีเหมือนกัน”
โจวเจ๋อหรี่ตา แล้วดื่มด่ำกับแสงแดดต่อไป
สวี่ชิงหล่างพ่นควันบุหรี่ออกมา จากนั้นเหมือนจะคิดอะไรออก จึงเอ่ยว่า
“แผ่นป้ายของคุณทำได้ดีทีเดียวเชียว มีสไตล์มาก ทำให้ร้านของผมดูแย่ไปเลย ผมก็อยากทำป้ายเหมือนกัน”
“เลียนแบบคนอื่นไร้รสนิยม” โจวเจ๋อยิ้มพูด
“ไม่ได้เหรอ” สวี่ชิงหล่างเลิกคิ้ว “ผมจะเอาหลักฐานใบอนุญาตอสังหาริมทรัพย์ยี่สิบกว่าใบออกมากาง ดูสิว่าใครจะกล่าวหาว่าผมไม่มีรสนิยม”
โจวเจ๋อส่ายหน้าอย่างจนใจ
“มาสิ ช่วยผมคิดหน่อย คุณก็ ‘ลองฟังไปเรื่อย ๆ เผื่อจะเข้าท่า’ ผมรู้ว่าไม่เลวนะ ผมอยากจะเขียนป้ายแนวนอนของคำโคลงคู่ว่า ‘ชีวิตเหมือนความฝัน’ เป็นยังไง ฟังแล้วเท่ไหม แต่คำโคลงคู่ทางที่ดีที่สุดผมอยากให้เกี่ยวกับ ‘การกิน’ แบบนี้ถึงจะเข้ากับร้านอาหารของผมหน่อย แต่ผมยังคิดไม่ออก คุณมีข้อเสนอดีๆ บ้างไหม”
โจวเจ๋อครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “อยากฟังจริงๆ เหรอ”
“พูดมาสิ” สวี่ชิงหล่างพูดรบเร้า
โจวเจ๋อมองศพผีสาวที่อยู่ในร้าน แล้วกล่าวว่า “มนุษย์เกิดจากดิน กลับสู่กับดิน ป้ายแนวนอน ชีวิตเหมือนความฝัน”
…………………………………………………………………………